พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

แสงสว่างแห่งรอยยิ้มของพระเจ้าแห่งพระพรอยู่กับคุณ
หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่น่าสะพรึงกลัวและร้ายแรงในคอนเสิร์ตของเธอในปี 2017 อาเรียนา กรานเด้ กลับมาที่แมนเชสเตอร์อารีน่าเพื่อคอนเสิร์ต ‘One love for Manchester’ มาร์คัส มัมฟอร์ด นักร้องนำวง Mumford and son ได้เปิดคอนเสิร์ตโดยประกาศว่า ‘ความรักขจัดความกลัวออกไป’ ในช่วงกลางของคอนเสิร์ต จัสติน บีเบอร์ ประกาศว่า ‘ผมจะไม่ปล่อยมือจากความรัก จะไม่ปล่อยมือจากพระเจ้า พระเจ้าทรงแสนดีท่ามกลางความมืดมิด พระเจ้าอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ และพระองค์รักคุณ และทรงอยู่ที่นี่เพื่อคุณ’ นี่เป็นเหมือนแสงสว่างในท่ามกลางความมืดมิด นักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนกล่าวถึง ‘คืนที่มืดมิดของจิตวิญญาณ’ ผมได้ผ่านช่วงเวลาที่มืดมนในชีวิตของผม มีช่วงเวลาที่มืดมนสำหรับผู้คนของพระเจ้าทั้งในสมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมและพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ มีช่วงเวลาที่มืดมนในประวัติศาสตร์ของคริสตจักร แต่แสงแห่งพระกิตติคุณไม่เคยดับ ความสว่างของพระเยซูจะส่องแสงสว่างออกมาเสมอ (ยอห์น 1:5) คุณมีความสว่างในตัวคุณด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และในทุกที่ที่คุณไป คุณก็จะนำความสว่างที่ยิ่งใหญ่กว่าความมืดรอบตัวคุณสดุดี 80:8-19
แสงแห่งรอยยิ้มของพระเจ้า
คุณพ่อรานิเอโร กันตาลาเมสซา เป็นที่รู้จักดีในเรื่องรอยยิ้มของเขา ใบหน้าของเขาเปล่งประกายราวกับแสงสว่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขายิ้ม ดังที่แม่ชีเทเรซากล่าวไว้ว่า ‘รอยยิ้มคือจุดเริ่มต้นของความรัก’
ช่างวิเศษเหลือเกิน เมื่อเรานึกถึงว่าแสงแห่งรอยยิ้มของพระเจ้าส่องสว่างมาที่คุณ! พระเจ้าไม่เพียงแต่อยู่กับคุณเท่านั้น แต่คุณยังสามารถได้รับความโปรดปรานจากพระองค์ได้อีกด้วย ผู้เขียนสดุดีได้อธิษฐานว่า:
‘ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสง
นั่นจะเป็นความรอดของข้าพระองค์’
(ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ประชาชนชาวอิสราเอลกำลังเผชิญกับยุคมืดอย่างเห็นได้ชัด ‘เถาองุ่น’ (ข้อ 8,14) เป็นภาพของชนชาติอิสราเอล พระเจ้านำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์ พระองค์ดูแลพวกเขาเหมือนเถาองุ่น
แต่บัดนี้กำแพงของสวนองุ่นกลับพังทลายลง (ข้อ 12) ดูเหมือนว่าเถาองุ่นถูกตัดและเผาเสียด้วยไฟ (ข้อ 16ก) ‘ผู้บุกรุกเข้ามาเก็บองุ่นตามใจชอบ... แล้วพวกหนูก็แทะส่วนที่เหลืออยู่’ (ข้อ 12–13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ผู้คนกำลังพินาศ
ผู้เขียนสดุดีร้องทูลพระเจ้าว่า ‘ขอประทานชีวิตแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย แล้วข้าพระองค์ทั้งหลายจะทูลออกพระนามพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้กลับสู่สภาพดี ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสง เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะรอด’ (ข้อ 18–19)
เมื่อเรามองดูสภาพของคริสตจักรในประเทศนี้ กำแพงของมันได้พังทลายลง ซึ่งดูเหมือนว่าจะอยู่ในสภาวะอันน่าสิ้นหวัง กระนั้น พระเจ้าได้ทรงฟื้นฟูและรื้อฟื้นคนของพระองค์ในอดีต พระองค์จึงสามารถทำได้อีกครั้งในวันนี้ ให้เราร้องเรียกหาการฟื้นฟู
ข้าแต่พระเจ้า เราอธิษฐานขอพระองค์ทรงรื้อฟื้นเราอีกครั้ง โปรดเติมประชากรของพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ขอให้คริสตจักรเต็มไปด้วยผู้คนที่รับใช้พระเยซูด้วยสุดใจอีกครั้ง ขอพระพักตร์ของพระองค์ทอแสงเหนือข้าพระองค์ทั้งหลาย
กิจการอัครทูต 24:1-27
แสงสว่างแห่งพระกิตติคุณ
ในทุกที่ที่อาจารย์เปาโลไป เขาได้ส่อง ‘แสงแห่งข่าวประเสริฐ’ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมองเห็นได้ เขาเขียนว่า ‘คือในกรณีของพวกเขา พระของยุคนี้ได้ทำให้ความคิดของคนที่ไม่เชื่อมืดมนไป เพื่อไม่ให้เห็นความสว่างของข่าวประเสริฐ คือเรื่องพระสิริของพระคริสต์ผู้ทรงเป็นพระฉายาของพระเจ้า’ (2 โครินธ์ 4:4)
นี่เป็นช่วงเวลาที่มืดมนในชีวิตของอาจารย์เปาโล เขาถูกคุมขังและอยู่ในการพิจารณาคดี เทอร์ทูลลัส ผู้เป็นทนาย เขาเป็นตัวอย่างของคนที่ช่างประจบสอพลอ เขายกย่องผู้ว่าราชการเมือง: ‘เรามีความสงบสุขอย่างยิ่งก็เพราะท่าน และชนชาตินี้มีการพัฒนาก็เพราะท่านเห็นการณ์ไกล’ (กิจการ 24:2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
คำเยินยอของเขาตามมาด้วยการกล่าวหาเท็จเกี่ยวกับเปาโล โดยกล่าวหา ‘รบกวนความสงบสุขครั้งแล้วครั้งเล่า ปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลต่อชาวยิวทั่วโลก เขาเป็นผู้นำของลัทธินาซาเร็ธที่คอยปลุกระดมผู้คน’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ความเชื่อของคริสเตียนถูกอธิบายว่าเป็น ‘ลัทธิ’ (ข้อ 5) นี่อาจเป็นลักษณะที่บางคนในปัจจุบันนี้อาจปฏิเสธคริสตจักร เพราะคิดว่าเป็น ‘ลัทธิ’
เปาโลจึงแก้คดี (ข้อ 10 เป็นต้นไป) เขาจัดการกับข้อกล่าวหาเฉพาะเจาะจงก่อน โดยปฏิเสธสิ่งที่ไม่เป็นความจริงและยอมรับสิ่งที่เป็นความจริง โดยยอมรับว่าตนเองเป็นสาวกของพระเยซู (‘ทางนั้น’ ข้อ 14) เขาชี้แจงในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าสภาแซนเฮดรินซึ่งเป็นสิ่งที่เขาได้ยิน (ข้อ 21) (บางครั้งการทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยเข้าใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร)
เปาโลแสดงให้เห็นถึงหลักของความเชื่อของตน เขานมัสการพระเจ้าแห่งประวัติศาสตร์ (ข้อ 14ก) และเชื่อทุกอย่างในพระคัมภีร์ (ข้อ 14ข) แบ่งปันถึงความหวังในการฟื้นคืนพระชนม์แก่ชาวยิว (ข้อ 15) ชี้ให้เห็นว่าเขาได้เชื่อทุกอย่างที่สอดคล้องกับธรรมบัญญัติและในสิ่งที่เขียนไว้โดยบรรดาผู้เผยพระวจนะ และมีความหวังในพระเจ้าเช่นเดียวกับพวกฟาริสีว่า ‘ทั้งคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรมจะเป็นขึ้นจากตาย’ (ข้อ 15) เขาชี้ไปที่มโนธรรมที่ดีของตนเอง (ข้อ 16) และ ‘นำเงินช่วยเหลือมายังชนชาติของข้าพเจ้า’ (ข้อ 17) และความบริสุทธิ์ไร้ผิดของตน (ข้อ 18)
เฟลิกส์ผู้พิพากษาของเปาโล เขาไม่ได้เป็นคนชั่วร้าย แต่เขาเป็นคนอ่อนแอ ลังเล ไม่เด็ดขาด และมีแรงจูงใจทางการเมืองเป็นที่ตั้ง เขาไม่ต้องการลงโทษผู้บริสุทธิ์คนนี้ แต่เขาไม่มีความกล้าที่จะปล่อยตัวไป ในฐานะผู้พิพากษาที่อ่อนแอ เขาหวาดกลัวกับคำพูดของเปาโลเมื่อเขาไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรดี เขาจึงเพียงแค่เลื่อนการพิจารณาคดีออกไป (ข้อ 25)
เขาขังเปาโลไว้ในคุกเป็นเวลาสองปีโดยหวังว่าจะได้รับสินบน จากนั้นถึงแม้จะมีการแต่งตั้งผู้ว่าการคนใหม่และเขาไม่ได้รับเงินทองจากเปาโล เฟลิกส์ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวท่านด้วยเหตุผลทางการเมือง (ข้อ 27) เขาใช้วิธีเลื่อนการพิจารณาออกไปอันเป็นเครื่องมือเพื่อหลีกเลี่ยงการตัดสินใจ
แต่การหลีกเลี่ยงการตัดสินใจก็คือการตัดสินใจแล้ว เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบโดยการไม่ยอมตัดสินใจ การไม่ตัดสินใจคือการตัดสินใจที่จะไม่ลงมือทำ เป็นการตัดสินใจที่จะรักษาสถานะที่เป็นอยู่ นี่คือการกระทำที่มีผลตามมา
เปาโลใช้ทุกโอกาสส่องแสงสว่างแห่งพระกิตติคุณ เมื่อใดก็ตามที่สามารถทำได้ ‘เปาโลกล่าวเรื่องความเชื่อในพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 24)
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดช่วยเราในการทำให้ทุกโอกาสที่มีเกิดประโยชน์สูงสุด เมื่อเราถูกต่อต้าน ถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ และรู้สึกหวาดกลัว ขอทรงโปรดช่วยพวกเราเหมือนอย่างอัครทูตเปาโล เพื่อให้พวกเราใช้ทุกโอกาสในการส่องสว่างของข่าวประเสริฐในความมืดมน
2 พงศ์กษัตริย์ 10:1-11:21
แสงสว่างของคนวัยเยาว์
ก่อนจะมีการระบาดของโควิด-19 ในทุก ๆ ปีที่สหราชอาณาจักร เราจะมีการจัดงานเทศกาลฤดูร้อนของคริสเตียนสำหรับคนหนุ่มสาว มีหลายหมื่นคนเข้าร่วมกิจกรรมเยาวชนเหล่านี้ ผมกับพิพพามีสิทธิพิเศษที่ได้ไปเยี่ยมที่นั่นหนึ่งครั้ง เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากที่ได้เห็นความเชื่อ ความตั้งใจ และความกระตือรือร้นของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ นี่เป็นสัญญาณที่ดีของความหวังในอนาคต เป็นแสงสว่างที่อยู่ตรงขอบฟ้า ไม่ว่าสิ่งต่าง ๆอาจดูเลวร้ายเพียงใด แต่เราก็มีความหวังว่าคนรุ่นต่อไปจะทำให้ดีขึ้น
ถ้าคุณคิดว่าคุณกำลังอยู่ในโลกที่มืดมิด ให้ศึกษาข้อพระคัมภีร์นี้แล้วคุณจะเห็นว่ามีหลายครั้งในประวัติศาสตร์ที่สถานการณ์นั้นเลวร้ายพอ ๆ กันกับเรา หรืออาจแย่กว่าด้วยซ้ำ
นี่เป็นอีกช่วงเวลาที่มืดมนในประวัติศาสตร์ของชาวอิสราเอล เป็นเวลาที่เกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง เช่น การสังหารเจ้าชายเจ็ดสิบพระองค์ซึ่งศีรษะของพวกเขาถูกกองไว้แยกเป็นสองกองที่ประตูเมือง (10:7–8) และยังมีการสังหารหมู่อื่น ๆ อีกด้วย (ข้อ 17 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เยฮูได้รับคำชมว่าไม่ได้ประพฤติตนเหมือนกษัตริย์อาหับผู้ซึ่งเลวร้ายที่สุดแห่งอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เยฮูทำลายการนมัสการพระบาอัลในอิสราเอล
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้หันออกจากแบบอย่างของกษัตริย์เยโรโบอัมที่ทำไว้ นั่นคือการบูชาลูกวัวทองคำ (ข้อ 29) เขา ‘ไม่ระมัดระวังที่จะดำเนินในทางของพระเจ้าและถวายเกียรติแด่พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสุดจิตใจ’ (ข้อ 31ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ส่วนในยูดาห์สิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะไม่ได้ดีกว่ากันนัก อาธาลิยาห์พยายามสังหารหมู่บรรดาราชวงศ์ทั้งหมด (11:1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) แต่พระเจ้าทรงปกป้องโยอาชเช่นเดียวกับที่ทรงปกป้องโมเสสและพระเยซู เยโฮเชบา ‘ซ่อนท่านและดูแลท่านในห้องส่วนตัวให้ห่างจากอาธาลิยาห์ ท่านไม่ได้ถูกฆ่า ท่านอยู่ที่นั่นกับนาง โดยซ่อนตัวอยู่ในพระวิหารของพระเจ้าเป็นเวลาหกปี อาธาลิยาห์ ปกครองประเทศโดยไม่ได้ตระหนักว่าท่านมีชีวิตอยู่’ (ข้อ 2–3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ต่อมา ‘เยโฮยาดา ท่านก็นำโอรสของพระราชาออกมาและสวมมงกุฎให้ แล้วมอบพระโอวาทให้ และเขาทั้งหลายตั้งพระโอรสให้เป็นกษัตริย์ และได้เจิมพระองค์ แล้วเขาทั้งหลายก็ตบมือร้องว่า “ขอพระราชาทรงพระเจริญ”’ (ข้อ 12) หลังจากนั้นกษัตริย์ ‘ก็ประทับบนบัลลังก์ของพระราชา ประชาชนทั้งสิ้นแห่งแผ่นดินก็เปรมปรีดิ์และบ้านเมืองก็สงบ หลังจากประหารอาธาลิยาห์ด้วยดาบแล้วที่พระราชวัง’ (ข้อ 19–20)
โยอาชอายุได้เพียงเจ็ดขวบเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์ (ข้อ 21) แต่เด็กหนุ่มคนนี้นำความหวังมาสู่อนาคต (2 พงศ์กษัตริย์ 12, 2 พงศาวดาร 24) บ่อยครั้ง เราเห็นความหวังในคนหนุ่มสาว เป็นอีกครั้งที่พระเจ้าประทานแสงสว่างส่องมาแม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขอขอบพระคุณสำหรับเด็ก ๆ และเยาวชนในคริสตจักรของเราและความหวังที่พวกเขานำมาให้ ขอขอบคุณสำหรับการเคลื่อนไหวของเยาวชนทั่วโลกและแสงสว่างที่ส่องผ่านพวกเขา ขอบคุณพระองค์ แม้ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด พระองค์ยังคงส่องสว่างอยู่เสมอ และแสงแห่งรอยยิ้มแห่งพระพรของพระองค์ก็อยู่ที่เรา
Pippa Adds
2 พงศ์กษัตริย์ 10:31
‘แต่เยฮูไม่ทรงระมัดระวังที่จะดำเนินตามธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลด้วยสุดพระทัยของพระองค์’
เป็นเรื่องยากที่จะอุทิศตัวด้วยสุดจิตใจตลอดเวลา ให้เราลองนึกถึงสิ่งที่เยฮูจะสามารถกระทำได้เพื่อพระเจ้า เราจำเป็นต้องแสวงหาพระเจ้าและแผ่นดินของพระองค์ก่อน
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Faith in Action: A Journey Through James

Reimagine Transformation Through the Life of Paul

My Problem With Prayer

How to Love Your Work and God

How to Love Like Jesus

The Letter to the Philippians

Lighting Up Our City Video 2: Avoiding Insider Language

The Discipline of Study and Meditation

How Is It With Your Soul?
