พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

การเผชิญหน้าอันทรงพลัง
หลายปีก่อน เดวิด (ไม่ใช่ชื่อจริงของเขา) ทนายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ใน[อัลฟ่า](https://thailand.alpha.org/)กลุ่มย่อยของเรา เขาบอกเราว่า เขาเป็นผู้ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าจริง และมาด้วยวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคือเพื่อป่วนกลุ่มย่อยของเรา ซึ่งเขาพยายามทำอย่างนั้นทุกครั้งที่มา ไม่เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่มาด้วยท่าทีแบบนี้ เขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยตลอดหลักสูตร หลังจากการบรรยายหัวข้อ ‘ฉันจะต่อต้านสิ่งชั่วร้ายได้อย่างไร?' หญิงสาวคนหนึ่ง ซาราห์ (ไม่ใช่ชื่อจริงของเธอ) ซึ่งไม่ได้เป็นคริสเตียน พูดว่า เธอไม่เชื่ออย่างแน่นอนว่ามีพลังแห่งวิญญาณชั่ว นี่เป็นหินสะดุดก้อนใหญ่สำหรับเธอในการมาเป็นคริสเตียน แต่ภายหลังในเย็นวันนั้น เดวิดโกรธจัดโดยไม่ทราบสาเหตุ และราวกับว่าเขาถูกผีสิง เขาได้ข่มขู่ผู้ช่วยคนหนึ่งในกลุ่มของเราอย่างน่ากลัว ซาราห์บังเอิญได้เห็นเหตุการณ์นั้น เธอได้เห็นฤทธิ์เดชของพระเจ้าทำงานอย่างอ่อนสุภาพ โดยยับยั้งการตอบโต้ของผู้ช่วยในกลุ่ม ตาของเธอเปิดออกต่อโลกฝ่ายวิญญาณ คืนนั้นเธอวางความเชื่อของเธอไว้ในพระเยซู จอห์น วิมเบอร์ จำกัดความคำว่า ‘การเผชิญหน้าอันทรงพลัง’ ว่าเป็น การปะทะกันของแผ่นดินของพระเจ้า และแผ่นดินของมาร อัครสาวกเปาโลเขียนไว้ว่า ‘เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ’ (เอเฟซัส 6:12) ฤทธิ์เดชของพระเจ้าซึ่งอยู่ในคุณยิ่งใหญ่กว่าอำนาจของมารสดุดี 78:32-39
เข้าใจธรรมชาติของความชั่วร้าย
พระเจ้าทรงต้องการให้เราเรียนรู้จากความผิดพลาดของเรา และไม่ได้ทำบาปเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ประวัติศาสตร์ประชากรของพระเจ้าคือ ‘ถึงจะมี’ ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเพื่อพวกเขา ‘พวกเขาก็ยังทำบาป’ (ข้อ 32ก)
พระเจ้าเคารพเสรีภาพของเราในความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา แม้ว่าพระองค์ทรงมีอำนาจที่จะลบล้างเสรีภาพของเรา พระองค์ก็ไม่ได้ทรงกระทำเช่นนั้น พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่เหนือธรรมชาติในนามประชากรของพระองค์ กระนั้น ‘ได้เชื่อถือการอัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระองค์’ (ข้อ 32ข)
พระองค์ทรงลงวินัยพวกเขา และพวกเขาก็หันกลับมาหาพระองค์ (ข้อ 34) ‘แต่พวกเขาไม่ได้หมายความตามนั้น พวกเขาโกหกด้วยลมปากตลอดเวลา พวกเขาไม่ควรใส่ใจพระองค์น้อยลง’ (ข้อ 36–37, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) 'ถึงกระนั้น ด้วยพระกรุณา
|พระองค์ทรงอภัยความชั่วของเขา และมิได้ทรงทำลายเขา’ (ข้อ 38)
เหตุใดความชั่วจึงปรากฏอยู่บ่อยครั้งทั้ง ๆ ที่มีอำนาจของพระเจ้าอยู่? บางทีพระธรรมตอนนี้จะให้คำตอบบางส่วนแก่เรา ไม่ใช่แค่เป็นการเผชิญหน้าระหว่างฤทธิ์อำนาจอันเหนือธรรมชาติของพระเจ้ากับอำนาจเหนือธรรมชาติของมาร มนุษย์และเสรีภาพของมนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของสมการ ดังที่อัครสาวกยากอบเขียนไว้ว่า ‘แต่ทุกคนถูกล่อลวงด้วยตัณหาของตัวเอง คือถูกตัณหานั้นล่อลวงและชักนำ’ (ยากอบ 1:14)
เมื่อเราอ่านถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้าในสดุดีตอนนี้ จำไว้ว่า ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ บัดนี้ฤทธิ์เดชนั้นอยู่ในคุณแล้ว
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับพระกรุณาและการทรงอภัยของพระองค์ และสำหรับฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ดำรงอยู่ในข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ภักดีต่อพระองค์เสมอ (สดุดี 78:37)
กิจการอัครทูต 18:9-19:13
รับเอาสิทธิอำนาจเหนืออำนาจของมาร
อัครสาวกเปาโลเต็มล้นด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาต่อกรกับอำนาจของมาร เผชิญกับการ 'รวมตัวกันขึ้นต่อสู้’ (18:12) ‘และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับเปาโลทางนิมิตในคืนหนึ่งว่า “อย่ากลัวเลย แต่จงกล่าวต่อไป อย่านิ่งเสีย เพราะว่าเราอยู่กับเจ้าและจะไม่มีใครต่อสู้ทำร้ายเจ้า’ (ข้อ 9–10) ‘นั่นเป็นสิ่งที่ท่านต้องยึดเอาไว้’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
สันนิษฐานว่า พระเจ้าตรัสกับเปาโลในแบบนี้เพราะเขาถูกทดลองในการเผชิญหน้ากับความชั่วร้าย (ถูกลากขึ้นศาลอีกครั้งในข้อกล่าวหาเท็จ) ในความกลัว ในการล้มเลิกที่จะพูดต่อไป และถูกทำให้เงียบ อย่ายอมแพ้ในการเผชิญกับการต่อต้าน
เปาโลเห็นการเผชิญหน้าอันทรงพลังระหว่างความดีและความชั่ว ‘พระเจ้าทรงทำอิทธิฤทธิ์ใหญ่หลวงด้วยมือของเปาโล จนเขานำผ้าเช็ดหน้ากับผ้ากันเปื้อนที่ถูกต้องตัวเปาโลไปวางบนตัวของบรรดาคนเจ็บป่วย แล้วโรคก็หายและผีร้ายก็ออกจากเขา’ (19:11–12)
ฤทธิ์เดชของพระเจ้าในพันธกิจของเปาโลนั้นน่าประทับใจมาก จนกระทั่งคนที่ไม่ได้เป็นคริสเตียนพยายามจะใช้ ‘พระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้ากับพวกที่มีผีเข้าว่า “ข้าสั่งเจ้าโดยพระเยซูผู้ที่เปาโลประกาศนั้น’ (ข้อ 13) พรุ่งนี้เราจะได้เห็นอันตรายของแนวทางนี้ (ข้อ 14–16) ความพยายามที่จะ ‘เปิดก๊อกฤทธิ์เดช’ ของพระนามพระเยซูโดยพวกหมอผีชาวยิวเหล่านี้มีผลร้ายติดตามมา
เปาโลชนะอำนาจแห่งความชั่วร้ายผ่านทางฤทธิ์เดชของพระเยซูในการทำการอัศจรรย์ นี่เป็นส่วนหนึ่งของวิธีการอันหลากหลายซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำงานในพันธกิจของพระองค์ เราได้เห็นตรงนี้ถึงบางด้านที่แตกต่างกันในพันธกิจซึ่งเราจำเป็นต้องรับการอบรม และโรงเรียนพระคริสต์ธรรม โรงเรียนฝึกอบรม และการสร้างสาวกในสมาชิกคริสตจักรทุกคนจำเป็นต้องครอบคลุม
1. การสั่งสอน
‘เปาโลจึงอยู่ต่อไป และสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าตลอดปีหนึ่งกับหกเดือนอย่างสัตย์ซื่อต่อชาวเมืองโครินธ์’ (18:11 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
2. การเป็นพี่เลี้ยง
เปาโลใช้เวลามากมาย ‘ชูกำลังพวกสาวก’ (ข้อ 23) ปริสสิลาและอาควิลลาอาจเป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เขาให้คำปรึกษา บ่อยครั้งที่ผู้ที่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีกลายเป็นพี่เลี้ยงที่ดีที่สุด
ตัวอย่าง จากนั้นปริสสิลาและอาควิลลาเลี้ยงดูอปอลโล อปอลโลนั้นเป็น ‘คนมีโวหารดี มีวาทศิลป์และทรงพลังในการเทศนาของพระคัมภีร์ เขาได้รับการอบรมในทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า และมีใจกระตือรือร้นกล่าวสั่งสอนอย่างถูกต้องในเรื่องเกี่ยวกับพระเยซู’ (ข้อ 24–25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ปริสสิลาและอาควิลลารับเขามาอยู่ด้วย 'เมื่อปริสสิลลากับอาควิลลาฟังท่านแล้ว ก็รับท่านมาสั่งสอนให้รู้ทางของพระเจ้าให้ถูกต้องยิ่งขึ้น’ (ข้อ 26) จากนั้นท่านก็มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม ‘ท่านก็ได้ช่วยเหลือคนทั้งหลายที่เชื่อโดยพระคุณของพระเจ้าอย่างมากมาย’ (ข้อ 27)
3. ‘พันธกิจ’
เราเห็นตัวอย่างของ ‘พันธกิจ’ ในฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ‘เมื่อเปาโลวางมือบนตัวพวกเขา (ชาวเอเฟซัส) แล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาสถิตกับพวกเขา พวกเขาจึงพูดภาษาแปลก ๆ และเผยพระวจนะ’ (19:6) ทุกอัลฟ่าสุดสัปดาห์ เราได้มีสิทธิพิเศษอย่างยิ่งในการวางมือบนผู้คน และอธิษฐานเผื่อพวกเขาให้เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์
4. การอภิปราย
เปาโล ‘ไปอภิปราย*ในห้องประชุมของท่านผู้หนึ่งชื่อทีรันนัสทุกวัน ’ (ข้อ 9) บางทีกลุ่มย่อยในการอภิปรายในอัลฟ่าอาจเป็นส่วนสำคัญที่สุดของหลักสูตร ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนได้สำรวจ พูดคุยในประเด็นต่าง ๆ และเริ่มต้นค้นพบบางคำตอบในคำถามของพวกเขา
5. การปกป้องหลักข้อเชื่อ
บางส่วนของการอภิปรายเกี่ยวข้องกับ (‘apologetics’) ‘ศาสตร์ของการปกป้องหลักข้อเชื่อคริสเตียน' คำนี้มาจากคำว่า (‘apologia’) ‘แก้ข้อกล่าวหา” ซึ่งอาจารย์เปาโลใช้คำนี้ในการไต่สวนของตน เมื่อเขากล่าวว่า ‘เพื่อแก้ข้อกล่าวหา (apologia) ทั้งหมดของพวกยิว’ (26:2) นี่หมายถึงการนำเสนอพื้นฐานที่มีเหตุผลสำหรับความเชื่อของคริสเตียนในการต่อต้านการคัดค้านและการบิดเบือนความจริง
เปาโล ‘ถกปัญหา‘ กับพวกยิว (18:19) ท่านถกปัญหา ‘เป็นเวลาสามเดือน (และ) กล่าวด้วยใจกล้าหาญ ชักชวน และถกเถียง และโต้แย้งเกี่ยวกับแผ่นดินของพระเจ้า’ (19:8, Amplified Bible โดยผู้แปล) เขาสอนอปอลโลผู้ซึ่งเข้าไปในการโต้วาทีสาธารณะ ‘อ้างพระคัมภีร์ ชี้ให้เห็นว่าพระเยซูคือพระคริสต์’ (18:28)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ทำพันธกิจเหมือนอย่างเปาโลในฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ โดยประกาศพระวจนะของพระเจ้า และมีชัยเหนืออำนาจของความชั่วร้ายผ่านทางพระนามของพระเยซู
1 พงศ์กษัตริย์ 20:1-21:29
จงเตรียมพร้อมในการเผชิญกับความชั่วร้าย
เราส่วนมากไม่ชอบการเผชิญหน้า แต่บางครั้งพระเจ้าทรงเรียกเราให้เผชิญหน้ากับความชั่วร้าย
ในพระธรรมตอนนี้เราได้อ่านเกี่ยวกับอาหับผู้ซึ่ง ‘ถูกยุยงโดยเยเซเบลมเหสีของท่าน และในการต่อต้านพระเจ้าอย่างเปิดเผย และทำสถิติใหม่ในการทำสิ่งชั่วร้ายอย่างยิ่ง’ (21:25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
อันดับแรก เราได้อ่านถึงการเผชิญหน้ากันระหว่างความชั่วร้ายและความชั่วร้าย เบนฮาดัดกษัตริย์แห่งอารัมโจมตีอาหับ ถ้อยคำที่ชาญฉลาดออกจากปากคนที่ชั่วร้าย: ‘ขอท่านผู้ที่สวมเกราะ อย่าอวดอ้างอย่างผู้ที่ถอดเกราะแล้วเลย’ (20:11) ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะโอ้อวดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการดีกว่าถ้าจะรายงานหลังจากที่เกิดขึ้นแล้ว!
จากนั้น เราได้เห็นถึงฤทธิ์เดชของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าอำนาจของชาวอารัม (บทที่ 20)
จากนั้น เราได้เห็นว่าอาหับและเยเซเบลชั่วร้ายเพียงใดในวิธีที่พวกเขาปฏิบัติต่อนาโบท (บทที่ 21) เพื่อขโมยที่ดินของเขา พวกเขาวางแผนที่จะล่อนาโบทให้ออกมาและขว้างหินเขาให้ตาย จากนั้นพวกเขาก็เอาไร่องุ่นของนาโบทไป
เอลียาห์เป็นชายที่มีความกล้าหาญเป็นพิเศษ เขาไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความชั่วร้าย พระเจ้าทรงสั่งให้เขาไป และ ‘เผชิญหน้ากับอาหับ’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เอลียาห์กล่าวหาอาหับเรื่องการขโมยและฆาตกรรมและบอกว่าพระองค์ได้ ‘ทำสิ่งที่ชั่วร้าย ท้าทายพระเจ้า’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ท่านเตือนอาหับว่า การพิพากษาของพระเจ้าจะตกลงบนพระองค์
ถ้อยคำของเอลียาห์นั้นช่างทรงพลัง และเมื่ออาหับได้ยิน เขาก็กลับใจ ‘พระองค์ก็ฉีกฉลองพระองค์ ทรงสวมผ้ากระสอบ ถืออดอาหาร...และทรงดำเนินไปมาด้วยความสำนึกผิด’ (ข้อ 27) ช่างน่าทึ่ง พระเจ้าทรงสำแดงพระกรุณาต่อเขา (ข้อ 29) ไม่สำคัญว่าเราเคยทำอะไร ไม่เคยสายเกินไปที่จะกลับใจและแสวงหาพระกรุณาของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ เหมือนกับเอลียาห์และอัครทูตเปาโล ที่จะไม่หวาดกลัวในการต่อกรกับอำนาจแห่งความชั่วร้าย ขอทรงประทานความกล้าหาญให้แก่เราที่จะเผชิญหน้ากับความชั่วร้าย ขอทรงเติมเราด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์
Pippa Adds
1 พงศ์กษัตริย์ 21
จงเลือกคู่ครองที่ดี เยเซเบลเป็นสตรีที่ชั่วร้ายที่สุดที่เราได้ยินในพระคัมภีร์ อาหับอาจไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายนัก หากพระองค์ทรงเลือกภรรยาที่ดี
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Faith in Action: A Journey Through James

Reimagine Transformation Through the Life of Paul

My Problem With Prayer

How to Love Your Work and God

How to Love Like Jesus

The Letter to the Philippians

Lighting Up Our City Video 2: Avoiding Insider Language

The Discipline of Study and Meditation

How Is It With Your Soul?
