พระเจ้าของเราผู้ติดตามตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 2 : วันที่ 2 "การรั่วไหลของบาป"
ลงลึกในพระคำ
ในวิชาวิทยาศาสตร์ เราเคยเรียนรู้กฎการเคลื่อนที่ของนิวตันข้อที่สาม ซึ่งกล่าวไว้ว่า “ทุกแรงกิริยาย่อมมีแรงปฏิกิริยาซึ่งมีขนาดเท่ากันแต่มีทิศตรงข้ามกันเสมอ” แม้ทฤษฎีนี้จะอธิบายถึงโลกแห่งวัตถุว่า สิ่งของจะเคลื่อนที่อย่างไรเมื่อถูกกระแทกด้วยสิ่งของอื่น แต่ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับโลกที่มองไม่เห็น หรือบาปของเรา และผลที่ตามมาได้เช่นกัน
บาป คือ สิ่งใดก็ตามที่เราคิด พูด หรือกระทำ ที่ไม่เป็นที่พอใจหรือให้เกียรติพระเจ้า บาปของเราแยกเราออกจากพระเจ้า และบาปทำให้เราสมควรได้รับความตายเมื่อเทียบกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้า แม้ว่าเราอาจทำบาปต่อผู้อื่นหรือต่อตัวเราเอง แต่ในท้ายที่สุดบาปของเราล้วนเป็นการต่อต้านพระเจ้า
อย่างไรก็ตาม บาปนั้นรั่วไหล ผลกระทบของบาปมักจะค่อยๆ ไหลซึมออกมาและส่งผลกระทบต่อผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา แม้ในตอนแรกอาจจะไม่ปรากฎชัด แต่ก็เกิดขึ้นจริง หากคุณมีพฤติกรรมชอบพูดบิดเบือนความจริง ในที่สุดคนอื่นก็จะไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพูด บาปส่งผลกระทบต่อผู้อื่นเสมอ
การทำบาปย่อมมีผลตามมา บางครั้งผลของบาปนั้นปรากฏชัดในทันทีเหมือนกับโยนาห์ แต่บางครั้งผลของบาปได้เกิดขึ้นมาในภายหลังในชีวิต หรือจนกว่าพระเยซูจะกลับมาและเปิดเผยทุกสิ่งที่ถูกปิดบังไว้
เพราะโยนาห์จงใจไม่เชื่อฟังพระเจ้าที่เรียกให้ไปเมืองนีนะเวห์ พระเจ้าจึงส่งพายุมา แต่พายุนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโยนาห์เพียงคนเดียว แต่ยังทำให้ลูกเรือคนอื่นๆ บนเรือตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง แม้ว่าพายุนี้จะถูกส่งมาเพราะผลจากบาปของโยนาห์เพื่อนำเขากลับมาหาพระเจ้า แต่พระองค์ใช้พายุนี้เพื่อแสดงให้ลูกเรือเห็นว่า พระเจ้าที่เที่ยงแท้เพียงองค์เดียวคือใคร
บาปนั้นหลอกลวง เราอาจคิดง่ายๆ ว่ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น หรือคิดว่าคนอื่นจะไม่รู้ อย่าหลงกลมัน บาปนั้นแพร่กระจาย แต่การให้อภัยสามารถพบได้ในความรักและการเสียสละของพระเยซูคริสต์ สิ่งที่เราจำเป็นต้องมีคือความเชื่อ
อธิษฐาน พระเยซู ขอบคุณพระองค์สำหรับการอภัยบาปของข้าพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์สำรวจชีวิตของข้าพระองค์ และค้นดูว่าบาปใดกำลังทำให้ข้าพระองค์ตาบอด และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของข้าพระองค์กับพระองค์ รวมถึงกับผู้อื่น ขอช่วยข้าพระองค์ให้กลับใจและแสวงหาการคืนดีในเวลาที่จำเป็น อาเมน
*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน
1. S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน
2. O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?ๆ
3. A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?
4. P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ

เมื่อมองไปรอบ ๆ ในโลกปัจจุบัน เป็นเรื่องง่ายที่เราจะสงสัยว่าเมื่อไหร่ความยุติธรรมจะชนะและความชั่วร้ายจะสิ้นสุดลง พระวจนะของพระเจ้ามอบข่าวสารแห่งความหวัง เราเห็นว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกสิ่งและสามารถไว้วางใจได้ แม้ท่ามกลางบาปและความยากลำบาก พระเจ้าก็ไม่เคยหยุดตามหาเราและนำทางเราให้กลับไปหาพระองค์ เมื่อประชาชนในอิสราเอลและยูดาห์หันหลังให้กับพระเจ้าผู้แสนดีและเต็มไปด้วยความรักของพวกเขา พระเจ้าจึงส่งผู้เผยพระวจนะหรือผู้ส่งสารเพื่อไปเรียกพวกเขาให้กลับมาสู่ความสัมพันธ์กับพระองค์ ข้อความเหล่านี้เราพบได้ในพระธรรมของผู้เผยพระวจนะน้อย ในบทเฝ้าเดี่ยวทั้ง 4 สัปดาห์นี้ เราจะเจาะลึกลงไปในพระธรรมของผู้เผยพระวจนะน้อย เพื่อเห็นการติดตามของพระเจ้าของเราผู้สัตย์ซื่อและยุติธรรม บทเฝ้าเดี่ยวเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้ว่าชีวิตแห่งการเชื่อฟังนั้นเป็นอย่างไร พระเจ้าผู้ติดตามเรา นำทางเรากลับไปหาพระองค์ จะช่วยให้คุณเดินในความหวังที่ว่า พระเจ้าจะไม่ยอมแพ้และพระองค์มุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกสิ่งเป็นสิ่งใหม่
More
เราขอขอบคุณ รักพระเจ้ามหาศาล ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ thai.lovegodgreatly.com




