พระเจ้าของเราผู้ติดตามตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 2 : วันที่ 1 "ตอบสนองด้วยความสัตย์ซื่อ"
ลงลึกในพระคำ
เล่นซ่อนหากับเด็กเล็กๆ นั้นสนุกเสมอ เด็กๆ มักคิดว่าพวกเขาเจอที่ซ่อนที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังซ่อนอยู่ในที่ๆ มองเห็นได้ชัด ในทำนองเดียวกัน โยนาห์คิดว่าเขาจะหนีจากพระเจ้าได้ และพระเจ้าจะไม่สังเกตเห็นเขา แต่ไม่ว่าเราจะไปไกลแค่ไหน เราก็ไม่สามารถวิ่งหนีหรือซ่อนจากพระเจ้าผู้แสนดีและเปี่ยมด้วยความรักของเราได้
สังเกตคำสำคัญคำว่า "ลุกขึ้น" ในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ พระเจ้าบอกกับโยนาห์ให้ไปที่เมืองนีนะเวห์ และโยนาห์ก็รีบหนีไปทันที นีนะเวห์เป็นเมืองหลวงของอัสซีเรีย และชาวอัสซีเรียเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคนชั่วร้าย พวกเขาเป็นศัตรูของอิสราเอล ซึ่งก็อธิบายได้ว่าทำไมโยนาห์จึงไม่ชอบพวกเขาและกลัวพวกเขา หลายปีต่อมา อัสซีเรียเป็นผู้ยึดครองประเทศอิสราเอลและนำคนอิสราเอลไปเป็นเชลย
ไม่ใช่แค่โยนาห์ปฏิเสธพระเจ้าว่า “ไม่” แต่เขายังพยายามหนีพระองค์ด้วย ทารชิชเป็นหนึ่งในเมืองที่ไกลที่สุดที่โยนาห์สามารถเดินทางไปได้ เขากำลังพยายามหนีไปให้ไกลที่สุดจากการทรงเรียกของพระเจ้า
พระเจ้าเคยเรียกคุณให้ทำ สิ่งที่คุณไม่อยากทำ หรือสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ หรือแม้กระทั่งดูบ้าบอในสายตาของโลกหรือไม่? ในฐานะผู้เชื่อ เราเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรที่กลับหัวกลับหางของพระเจ้า และถูกเรียกให้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เช่น การดำเนินชีวิตที่ไม่เห็นแก่ตัว หรือการให้อภัยผู้ที่ทำร้ายเรา
เราเองก็เคยเป็นศัตรูกับพระเจ้ามาก่อน (โรม 5:10) แต่เพราะความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า พระองค์ติดตามเรา โดยส่งพระบุตรของพระองค์ คือ พระเยซูคริสต์ ให้มายังโลกและชดใช้ด้วยราคาสูงสุดสำหรับบาปของเรา พระเยซูตายแทนความตายที่เราสมควรได้รับ เสนอการให้อภัยและชีวิตใหม่ผ่านทางการเชื่อในพระองค์
พระเจ้าเห็นคุณ และอาจกำลังเรียกคุณให้ทำบางสิ่งที่ต้องอาศัยความเชื่อ หรือให้สัตย์ซื่อในที่ที่คุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม พระเจ้าทรงไว้วางใจได้ พระองค์ไม่ต้องการให้คุณหนีไป แต่ให้ติดตามพระองค์ จงวางใจในพระองค์เพื่อรับพระคุณที่คุณต้องการในแต่ละวันเพื่อทำตามงานที่พระองค์เรียกให้คุณทำ
อธิษฐาน ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ไม่เคยทิ้งข้าพระองค์ และเชื้อเชิญข้าพระองค์ให้เข้าร่วมในการงานของพระองค์ ขอให้การตอบสนองแรกของข้าพระองค์ต่อการทรงเรียกของพระองค์ คือ “ใช่” และขอเตรียมข้าพระองค์ให้สัตย์ซื่อในทุกๆ วัน อาเมน
*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน
1. S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน
2. O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?ๆ
3. A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?
4. P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ

เมื่อมองไปรอบ ๆ ในโลกปัจจุบัน เป็นเรื่องง่ายที่เราจะสงสัยว่าเมื่อไหร่ความยุติธรรมจะชนะและความชั่วร้ายจะสิ้นสุดลง พระวจนะของพระเจ้ามอบข่าวสารแห่งความหวัง เราเห็นว่าพระเจ้าทรงควบคุมทุกสิ่งและสามารถไว้วางใจได้ แม้ท่ามกลางบาปและความยากลำบาก พระเจ้าก็ไม่เคยหยุดตามหาเราและนำทางเราให้กลับไปหาพระองค์ เมื่อประชาชนในอิสราเอลและยูดาห์หันหลังให้กับพระเจ้าผู้แสนดีและเต็มไปด้วยความรักของพวกเขา พระเจ้าจึงส่งผู้เผยพระวจนะหรือผู้ส่งสารเพื่อไปเรียกพวกเขาให้กลับมาสู่ความสัมพันธ์กับพระองค์ ข้อความเหล่านี้เราพบได้ในพระธรรมของผู้เผยพระวจนะน้อย ในบทเฝ้าเดี่ยวทั้ง 4 สัปดาห์นี้ เราจะเจาะลึกลงไปในพระธรรมของผู้เผยพระวจนะน้อย เพื่อเห็นการติดตามของพระเจ้าของเราผู้สัตย์ซื่อและยุติธรรม บทเฝ้าเดี่ยวเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้ว่าชีวิตแห่งการเชื่อฟังนั้นเป็นอย่างไร พระเจ้าผู้ติดตามเรา นำทางเรากลับไปหาพระองค์ จะช่วยให้คุณเดินในความหวังที่ว่า พระเจ้าจะไม่ยอมแพ้และพระองค์มุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกสิ่งเป็นสิ่งใหม่
More
เราขอขอบคุณ รักพระเจ้ามหาศาล ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ thai.lovegodgreatly.com




