ยึดมั่นในความหวังท่ามกลางพายุ 🌪ตัวอย่าง

พระเจ้าไม่ได้ขอให้เรา เดินบนน้ำ
คืนนั้นเป็นคืนที่มืดและมีพายุ แน่นอนว่าเหล่าสาวกเหน็ดเหนื่อยหมดแรง เราจะ ไปถึงอีกฝั่งสำเร็จไหม? พวกเขาใช้เวลาพายเรืออยู่ 9 ชั่วโมงท่ามกลางความมืด แน่นอนที่พวกเขาแค่อยากกลับบ้านไปหาครอบครัวและได้หลับพักผ่อน แต่ด้วยเพียงกำลังแขนและไม้พายที่สู้กับลมพายุและทะเลที่บ้าคลั่ง พวกเขาแทบไม่เคลื่อนที่ไป ไหนเลย แต่ก็ไม่สามารถยอมแพ้ได้ หยุดพายก็หมายความว่าปล่อยเรือลอยไปตามคลื่น ซึ่งจะทำให้เรือจม แต่เขาก็ไม่มีแรงพอที่จะพายต่อ แม้ แต่นักเดินเรือที่เก่งกาจก็อาจจมได้ในคืนที่สภาพอากาศเป็นเช่นนี้
จากนั้นพระกิตติคุณมัทธิวบอกกับเราว่า ท่าม กลางพายุนั้น ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เดินบน น้ำตรงมาหาเหล่าสาวก หรือนั่นคือผี? เหล่าสาวกที่กำลังตกอยู่ในความกลัว สิ่งนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากยิ่งขึ้น และแน่นอนนั่นคือพระเยซู พระ องค์ทรงเรียกและแสดงพระองค์เพื่อปลอบพวก เขา แต่แล้วเหตุการณ์ก็หักมุม เปโตรได้ทำสิ่งที่ ไม่คาดคิด เขาขอเดินบนน้ำเหมือนพระเยซู พระเยซูทรงอนุญาต เปโตรก้าวออกจากเรือลงไปในคลื่นที่บ้าคลั่ง เปโตรต้องการเลียนแบบพระเยซูในการอัศจรรย์นี้ แต่เขาไม่สามารถทำได้ พระธรรม มัทธิว ระบุตอนจบของเหตุการณ์นี้ว่า
แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว และเมื่อ กำลังจะจมก็ร้องว่า “พระองค์เจ้าข้า ช่วยข้าพระองค์ด้วย” ในทันใดนั้นพระเยซูทรงเอื้อมพระหัตถ์จับเขาไว้ แล้วตรัสว่า “ท่านสงสัยทำไม ท่านช่างมีความเชื่อน้อยเสียจริง” เมื่อพระองค์กับเปโตรขึ้นเรือแล้ว ลมก็เงียบลง (มัทธิว 14:30-32)
เรามักมองการที่เปโตรกระโดดลงไปในน้ำเป็นตัวอย่างของความเชื่อที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในที่สุด เปโตรได้เดินบนน้ำ! แต่เราอาจพลาดไม่เห็นภาพที่ใหญ่กว่า เมื่อพระเยซูทรงตำหนิเปโตรที่มีความเชื่อน้อย แล้วเหตุใดเราจึงเห็นว่าเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของความเชื่อ?
พระเยซูทรงให้ความมั่นใจแก่เหล่าสาวกที่หวาดกลัวด้วยถ้อยคำของพระองค์ที่มาท่ามกลางพายุ “ทำใจให้ดีไว้เถิด เราเอง อย่ากลัวเลย” เปโตรร้องขอการยืนยัน บางทีสาวกที่เหลืออาจกำลังกลัวมากเกินกว่าจะถาม แต่พระคัมภีร์บันทึกว่า เปโตรคือผู้ที่ขอพระเยซูให้แสดงหลักฐานว่าเป็นพระองค์จริง “ถ้า เป็นพระองค์แน่แล้ว ขอทรงโปรดบอกให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์” (ข้อ 28)
ไม่ใช่ความคิดของพระเยซูที่จะให้เปโตรออกมาจากเรือ พระองค์ไม่ได้ขอให้เขาเดินบนน้ำ และเมื่อเปโตรขอ พระเยซูทรงอนุญาต และให้กำลัง แก่เขา แต่พระเยซูทรงขอให้เปโตรและเหล่าสาวกทำบางสิ่งที่ง่ายกว่านั้น ตื่นเต้นน้อยกว่านั้น พระ องค์ทรงขอให้พวกเขามีใจกล้าและเชื่อว่าพระองค์ทรงอยู่กับพวกเขาที่นั่นจริงๆ พระองค์ขอที่พวกเขาจะไม่กลัว
พระเยซูทรงเชื้อเชิญให้พวกเขาเชื่อและวางใจในฤทธิ์อำนาจและการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ แม้เมื่อพวกเขาอยู่ท่ามกลางเสียงลมที่ดังน่ากลัว ทะเลคลื่นสูง และเหตุการณ์ในอนาคตที่เราไม่รู้ พวกเขาคิดว่าพระองค์เป็นผี แต่พระเยซูทรงต้อง การให้สาวกทั้งสิบสองคน รวมถึงเราด้วย ที่จะรู้ว่าพระเจ้าของเราทรงฤทธานุภาพทุกประการ และเต็มเปี่ยมด้วยความรัก ทรงยิ่งใหญ่กว่าพายุใดๆที่เรากำลังเผชิญ พระองค์ต้องการให้การสถิตอยู่ของพระองค์ปลอบประโลมเราและสยบความกลัวของเรา พระองค์ต้องการให้เรารู้ว่าไม่มีสิ่งใด ไม่ว่าจะ
พระองค์ต้องการให้การสถิตอยู่ ของพระองค์ปลอบประโลมเรา และสยบความกลัวของเรา
เป็นลม หรือคลื่น หรือพายุ หรือความกลัว จะสามารถหยุดพระองค์ในการมาหาเราได้ ในอิสยาห์ 43 พระเจ้าทรงตรัสด้วยคำเช่นเดียวกัน เพื่อปลอบประโลมคนของพระองค์
“เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า เมื่อข้ามแม่น้ำ น้ำจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าลุยไฟ เจ้าจะไม่ไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาผลาญเจ้า เพราะเราเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า องค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ช่วยให้รอดของเจ้า” (ข้อ 2-3)
ด้วยความอ่อนล้าจากการต่อสู้กับคลื่นลม ทำ ให้สาวกไม่สามารถจำพระเยซูได้ ดังนั้น เมื่อพระ องค์เสด็จมาหาเขา พวกเขาจึงเห็นพระองค์เป็น อีกหนึ่งภัยคุกคาม
บางทีสถานการณ์ของคุณอาจนำไปสู่จุดเดียว กัน “แย่แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นอีก?” จำไว้ว่าพระเยซูทรงเป็นจอมเจ้านายของลมและคลื่น พระองค์ ทรงดำเนินผ่านน้ำที่อาจทำให้เราจม พระองค์ทรงดำเนินผ่านลมที่อาจคว่ำเรา ลองฟังเสียงจากเรือของคุณเองที่กำลังบอกว่า “ทำใจให้ดีไว้เถิด” พระเยซูทรงกำลังมาในความมืดบอกคุณว่า “เราเอง” พระเยซูทรงดำเนินมาเหนือคลื่นเพื่อปลอบประโลมคุณว่า “อย่ากลัวเลย” อย่ากลัวเลย
ใคร่ครวญ
- มีเหตุการณ์อื่นใดบ้างในพระคัมภีร์ที่พระเจ้าปรากฏและพูดถ้อยคำเดียวกันนี้ว่า “อย่ากลัวเลย”?
- อะไรคือสิ่งที่คุณกลัวมากที่สุดในเวลานี้?
- คิดทบทวนและจดบันทึกว่าในอดีตพระเยซูทรงช่วยให้คุณผ่านพ้นอะไรมาบ้าง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ

บางครั้งดูเหมือนว่าพระเยซูทรง “หลับ” ท่ามกลางพายุของเรา… แต่ความจริงที่สำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้คือ พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าอย่างสมบูรณ์ และก็ทรงเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์เช่นเดียวกัน… ดังนั้นพระองค์ทรงรู้จักเรา เข้าใจความอ่อนแอของเนื้อหนัง ความจำกัดของร่างกายและจิตวิญญาณ พระองค์ต้องการให้การสถิตอยู่ของพระองค์ปลอบประโลมเราและสยบความกลัวของเรา
More
เราขอขอบคุณ Our Daily Bread Ministries - Asia Pacific ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ thaiodb.org




