บทนำ

ฉันเคยเผชิญพายุกลางมหาสมุทรในอลาสกาหลายครั้ง แต่ครั้งหนึ่งที่เด่นชัด คือครั้งที่รู้สึกว่า ฉันต้องตายแน่ มันเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่ง เป็นช่วงหลังจากฤดูประมงและเป็นช่วงที่มักเกิดพายุ ขณะนั้นเราสามคนคือ สามีของฉัน คุณพ่อของสามี และตัวฉันอยู่ในเรือเครื่องยนต์ความเร็วสูง ขนาด 25 ฟุต และเป็นระยะทาง 100 ไมล์จากจุดที่เราอยู่ไปถึงบ้าน ถึงแม้ว่าเราจะรอจนถึงเช้าที่อากาศสงบ แต่ท้องฟ้ากลับมืดภายใน 20 นาที หลังจากที่เราเริ่มออกเดินทาง คลื่นยักษ์ลูกแล้ว ลูกเล่าม้วนตัวถาโถมเข้าใส่เรือลำเล็ก เสียงลมพัดแรงดังก้องในหูของเรา

และแล้วเครื่องยนต์เครื่องหนึ่งเกิดระเบิด เรือเสียทิศทางแล่นไปตามเกลียวคลื่น น้ำทะลักเข้า เรือทุกครั้งที่คลื่นซัดมา ในขณะที่เรือค่อยๆจมลง เราตะเกียกตะกายคว้าเสื้อชูชีพใส่ ฉันตกใจกลัว รู้ว่าเราทั้งหมดอาจจะตาย เรือที่ใช้การไม่ได้ของ เราสู้กับทะเลบ้าคลั่งอยู่สามชั่วโมง จนกระทั่งเรา ได้เข้าสู่อ่าวที่มีแนวกำบังคลื่นลม และได้พักใน บ้านของชายชราผู้หนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือเราซึ่งอยู่ในสภาพหมดแรง

ในพระกิตติคุณทั้งสี่เล่มได้กล่าวถึงพายุในทะเลกาลิลีที่เป็นอันตรายสองครั้งซึ่งทำให้สาวกกลัวสุดชีวิต ท่ามกลางพายุทั้งสองครั้งนั้น สาวกมีประสบ-การณ์ในความสับสนทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นขณะนั้น เหมือนที่ฉันได้สัมผัสประสบการณ์ในพายุของฉัน พระเยซูอยู่ด้วยกับเขา แต่การทรงอยู่ของพระองค์ไม่ได้หยุดภัยอันตรายในทันที พวกเขาต้องการ การปกป้องจากพระองค์อย่างที่สุด อย่างไรก็ตามพวกเขายังไม่แน่ใจในความรักของพระองค์ พายุ ในตัวนี้ร้ายแรงยิ่งกว่าพายุจริงเสียอีก

พายุเกิดขึ้นกับเราทุกคน ไม่เพียงแต่กับชาวประมง เราทุกคนสัมผัสการต่อสู้ดิ้นรนและการทดลองตลอดชีวิตของเรา บางครั้งเหมือนว่าการทดลองจะไม่มีวันสิ้นสุด คุณอาจรู้สึกเช่นนั้นใน เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย การหย่าร้าง ปัญหาทางการเงิน ลูกที่หลงผิด วิกฤตแห่งความเชื่อ แต่ขอให้อดทนต่อไป เพราะแม้พายุกำลังโหมกระหน่ำ แต่พระเยซูให้ความหวังที่แท้จริงและนำข่าวดีมาท่ามกลางพายุนั้น

เลสลี เลแลนด์ ฟิลด์