ทุกสิ่งใหม่ตัวอย่าง

All Things New

วันที่ 3 จาก 5

เมื่อเปาโลกล่าวถึงความทุกข์ยากของพระคริสต์ที่หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตของเรา เขาอาจหมายถึงแนวคิดสองสามข้อที่ทับซ้อนกันอยู่: 1. การทนทุกข์เนื่องจากพระคริสต์ 2. การทนทุกข์ที่ถูกกำหนดไว้สำหรับเราโดยพระคริสต์ 3. การทนทุกข์ที่เกี่ยวข้องกับพระคริสต์ 4. การทนทุกข์เหมือนที่พระคริสต์ทรงทนรับมา[1] สิ่งที่ฉันเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราที่จะต้องรู้ก็คือว่าในฐานะผู้เชื่อ เราจะต้องทนทุกข์กับสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างจากการมีส่วนร่วมของเรากับพระคริสต์ คริสเตียนหลายคนกำลังทุกข์ทรมานกับการข่มเหงอย่างรุนแรงทั่วโลกในขณะที่คนอื่น ๆ กำลังเจ็บปวดน้อยกว่า แต่ก็ยังคงเจ็บปวด สำหรับความเชื่อของพวกเขา เปาโลตระหนักว่ามีการสามัคคีธรรมกับพระเยซูเกิดขึ้นในยามทุกข์ยากเพราะไม่มีใครรู้จักความทุกข์ทรมานมากไปกว่าที่พระองค์ทรงรู้เลย

ฉันยังไม่เคยเจอคนที่ยินดีกับความทุกข์ยาก แต่ฉันเจอคนมากมายที่ได้พบการติดสนิทกับพระเยซูท่ามกลางความทุกข์ยากของพวกเขา มีบางส่วนของพระเยซูที่คุณไม่สามารถรู้จักได้บนเส้นทางที่ง่าย และเมื่อคุณได้ลิ้มรสชาติของความสัมพันธ์สนิทสนมกับพระองค์แล้วสักครั้งหนึ่ง คุณจะไม่ยอมแลกมันกับเส้นทางที่ราบรื่นเลย นอกเหนือจากการได้รับประสบการณ์การสามัคคีธรรมแบบพิเศษกับพระเยซูแล้ว (ฟิลิปปี 3:10) เปาโลยังเผยเหตุผลอีกประการหนึ่งด้วยว่า เหตุใดความทุกข์ยากจึงนำมาซึ่งพระพร 

เมื่อใดก็ตามที่ความทุกข์ยากของพระคริสต์ไหลล้นเข้ามาในชีวิตของเรา สิ่งที่ล้นออกมาจากเราก็คือการปลอบโยนของพระเจ้า (2 โครินธ์ 1:5) นี่มันยอดเยี่ยมไปเลย! 

หนึ่งในคำประกาศที่งดงามที่สุดในข้อพระคัมภีร์ทั้งหมดพบได้ในข้อ 4 “พระองค์ผู้ทรงหนุนใจเราในความยากลำบากทั้งหมดของเรา เพื่อเราจะสามารถหนุนใจคนทั้งหลายที่มีความยากลำบากอย่างใดอย่างหนึ่งได้” (THSV11) เมื่อเราสำรวจผ่านความยากลำบาก มันยากเสมอที่จะมองเห็นความเจ็บปวดของเราจากภายนอก แต่เราพบจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ในความทุกข์ยากของเราเมื่อเราตระหนักได้ว่า ประสบการณ์ของเราจะทำหน้าที่เป็นการหนุนใจให้แก่ผู้อื่นที่กำลังผ่านการทดลองที่คล้ายกันอยู่

การทนทุกข์ของพระคริสต์และการปลอบประโลมของพระองค์ดำเนินไปด้วยกันในชีวิตของเรา เคียงข้างกันไป ในฐานะคริสเตียน เราไม่เคยต้องทนทุกข์โดยปราศจากการหนุนใจของพระคริสต์ และฉันเชื่อว่ามีการหนุนใจบางอย่างที่เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยหากแยกจากการทนทุกข์ของพระองค์ หากคุณกำลังเคลื่อนไปช้า ๆ ผ่านการทดลอง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ไกลเกินกว่าที่คุณจะทนได้ รวบรวมเอาการปลอบประโลมจากพระเจ้าที่ไหลผ่านตัวตนของพระเยซูเข้ามาในชีวิตของคุณ พระองค์ทรงสัญญาไว้โดยเทียบกับความเจ็บปวดของคุณ เมื่อคุณได้พบกับการปลอบประโลมของพระเจ้า คุณจะกระตือรือร้นที่จะเยียวยาบาดแผลของคนอื่นที่มีความเจ็บปวดคล้ายกันเพราะการปลอบประโลมของพระเจ้านั้นไหลล้นออกมาในธรรมชาติ คุณจะมีมากเกินพอที่จะแบ่งปัน 

  
[1] David E. Garland, The New American Commentary, เล่ม 29, 2 โครินธ์ (Nashville: Broadman & Holman Publishers, 1999) เข้าถึงเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2017 ผ่านทาง mywsb.com

ข้อพระคัมภีร์

เกี่ยวกับแผนฯ

All Things New

ในการเดินทางผ่านพระธรรม 2 โครินธ์นี้ ทุกสิ่งใหม่ จะมาสำรวจศาสนศาสตร์ของเปาโลเรื่องความเชื่อที่โลดโผนในโลกนี้และการทรงเรียกของพระเจ้าที่ให้เรากล้าหาญ Kelly Minter ช่วยให้เราเข้าใจว่าการดำเนินชีวิตคริสเตียนอาจดูเหมือนขัดกับนิสัยตามธรรมชาติของเราอย่างไร แต่มันพิสูจน์แล้วว่าดีขึ้นอย่างไม่มีสิ้นสุดชั่วนิรันดร์ ในแผนการอ่าน 5 วันนี้ คุณจะได้สำรวจประเด็นต่าง ๆ เช่น: วิธีจัดการกับความสัมพันธ์ที่ยาก การวางใจในพระเจ้าด้วยเกียรติของคุณ การวางรากฐานตัวตนของคุณในพระคริสต์ การเข้าใจในจุดประสงค์ของความทุกข์ยากและการจัดเตรียมของพระเจ้าในความทุกข์ยากนั้น และการที่เราจะเป็นแสงสว่างแห่งพระกิตติคุณในโลกนี้ได้อย่างไร

More

เราขอขอบคุณ LifeWay Women สำหรับการจัดเตรียมแผนการอ่านนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม: http://www.lifeway.com/allthingsnew