พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

สายด่วนถึงพระเจ้า
ในเดือนตุลาคม ค.ศ.1962 มีความขัดแย้งกันระหว่างประธานาธิบดีเคนเนดี้แห่งสหรัฐอเมริกา และนายกรัฐมนตรีครุสชอฟแห่งสหภาพโซเวียตเกี่ยวกับการสร้างขีปนาวุธในคิวบา วิกฤตขีปนาวุธคิวบาน่าจะใกล้เคียงที่สุดที่เราจะเรียกว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่มันก็ถูกหันเหไปเนื่องจากมีการคมนาคมเข้ามา ในยุคก่อนจะมีโทรศัพท์มือถือและการส่งข้อความโต้ตอบแบบสมัยใหม่ มีการตกลงให้วางโทรศัพท์สีแดงเครื่องหนึ่งไว้บนโต๊ะทำงานของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา และอีกเครื่องหนึ่งไว้บนโต๊ะทำงานของนายกรัฐมนตรีแห่งสหภาพโซเวียต การเชื่อมต่อการสื่อสารนี้เรียกว่า ‘สายด่วน’ หากมีช่วงเวลาใดก็ตามที่อาจมีอันตรายที่เกิดจากความเข้าใจผิด พวกเขาสามารถยกโทรศัพท์ขึ้นและสื่อสารกัน การสื่อสารมีความสำคัญต่อทุกความสัมพันธ์ การจัดสรรเวลาเพื่อสร้างและดูแลการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญ พระเยซูทรงประทาน ‘สายด่วน’ ถึงพระเจ้าให้กับคุณ ที่ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น แต่มีไว้เพื่อใช้ตลอดเวลาสดุดี 37:1-9
จงเปิดใจต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า
ความปรารถนาของคุณจะสำเร็จได้อย่างไร? ดาวิดผู้เขียนพระธรรมสดุดีตอนนี้กล่าวว่า ‘จงปีติยินดีในพระยาห์เวห์ และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน’ (ข้อ 4) แทนที่จะทำตามสิ่งที่คุณปรารถนา ถ้าคุณปีติยินดีในพระเจ้า พระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของคุณ การยอมให้พระเจ้าประทานสิ่งต่าง ๆ ให้กับคุณดีกว่าการพยายามให้ได้มาซึ่งสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวคุณเอง พระองค์ทรงสัญญาว่า:
1. ความเชื่อท่ามกลางความหวาดกลัวของคุณ
อาจมีหลายอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้คุณกลัวและหวั่นวิตก แต่ดาวิดได้ย้ำถึง 3 ครั้งว่า ‘อย่าฉุนเฉียว’ (ข้อ 1, 7ข, 8ข) และอย่าอิจฉา (ข้อ 1ข) แต่จงหันไปหาพระเจ้า นำความกลัวของคุณให้ไว้กับพระองค์และ ‘จงวางใจในพระยาห์เวห์’ (ข้อ 3) ความเชื่อคือความวางใจ ซึ่งตรงกันข้ามกับความกลัวและความหวั่นวิตก
2. การทรงนำในการตัดสินใจของคุณ
‘จงมอบทางของท่านไว้กับพระยาห์เวห์’ (ข้อ 5) หัวใจสำคัญของการทรงนำคือมอบการตัดสินใจไว้กับพระเจ้าทูลขอความช่วยเหลือจากพระองค์และวางใจในพระองค์ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ผมใช้ข้อพระคัมภีร์นี้ในชีวิตของผมเอง ทั้งยังได้ใช้พระธรรมข้อนี้ในการอธิษฐานเผื่อคนอื่น ๆ ที่กำลังต่อสู้กับการตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเกี่ยวกับงานหรือคู่พระพรในอนาคตของพวกเขา
นี่เป็น 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ขั้นแรกคือมอบการตัดสินใจไว้กับพระเจ้าในคำอธิษฐาน ขอให้พระองค์เปิดประตูที่ถูกต้องสำหรับคุณ และปิดประตูที่ไม่ถูกต้อง จากนั้นขั้นที่สองคือวางใจว่าเราอยู่ในความควบคุมของพระองค์ ขั้นที่สามคือจงมองหาการทรงนำของพระองค์ในความเชื่อ ขณะที่คุณยังคงก้าวต่อไปบน ‘หนทาง' ของคุณด้วยใจคาดหวังว่าถ้าเป็นพระเจ้า พระองค์จะทรงกระทำการเช่นไร
3. สันติสุขภายในใจ
จงใช้สายด่วนของคุณถึงพระเจ้า จัดสรรเวลาเพื่อ ‘สงบอยู่ต่อพระยาห์เวห์ และเพียรรอคอยพระองค์’ (ข้อ 7) นี่คือแหล่งที่ทำให้ ‘ความชอบธรรมของท่านปรากฏอย่างความสว่าง’ (ข้อ 6) นี่เป็นหนทางเพื่อหลีกเลี่ยงความฉุนเฉียวและความโกรธ และเพื่อพบกับสันติสุขและความหวัง (ข้อ 8-9)
ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดทรงปกป้องข้าพระองค์จากความกลัว การอิจฉา และความโกรธเพราะข้าพระองค์วางใจในพระองค์ วันนี้ข้าพระองค์ต้องการมอบทางของข้าพระองค์ไว้กับพระองค์ ข้าพระองค์จะสงบอยู่ต่อพระองค์ ข้าพระองค์จะปีติยินดีในพระองค์
ลูกา 4:38-5:16
ฟังพระวจนะของพระเจ้า
สายด่วนของคุณถึงพระเจ้าเกี่ยวข้องกับการสื่อสารสองทาง มันข้องเกี่ยวกับทั้งการพูดคุยกับพระเจ้าผ่านทางการอธิษฐาน และการฟังพระวจนะของพระองค์ นี่คือเคล็ดลับในการทำพันธกิจของพระเยซู ไม่เคยมีใครทำพันธกิจได้ทรงพลังมากไปกว่าพระเยซู ไม่เคยมีใครที่ต้องการเวลาและกำลังของพระองค์มากไปกว่าพระเยซู
ทุก ๆ คนต้องการความช่วยเหลือของพระองค์ เมื่อพวกเขาร้องขอความช่วยเหลือของพระเยซูให้รักษาแม่ยายของซีโมน พระองค์ทรงรักษานางให้หาย พระองค์ทรงวางมือทุกคนที่ถูกนำมายังพระองค์และรักษาพวกเขาให้หาย พระองค์ทรงเทศนาสั่งสอนต่อไป (4:44) พระองค์ทรงรักษาคนโรคเรื้อน ฝูงชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น ‘มหาชนมาชุมนุมกันเพื่อจะฟังพระองค์และรับการรักษาโรคต่าง ๆ’ (5:15)
พระองค์ทรงทำได้อย่างไร? เคล็ดลับของพระองค์คืออะไร? ที่มาของฤทธิ์เดชของพระองค์คือที่ไหน? ‘พอถึงรุ่งเช้า พระเยซูเสด็จออกไปยังที่เงียบสงัด’ (4:42) ‘พระเยซูมักจะเสด็จออกไปยังที่เปลี่ยวและทรงอธิษฐาน’ (5:16) คุณจะไม่มีวันรับมือกับความต้องการของชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้าได้ นอกเสียจากว่าคุณจะได้รับการเสริมกำลังผ่านการต่อทางสายด่วนถึงพระเจ้า
ฝูงชนเบียดเสียดพระเยซู ‘เพื่อฟังพระวจนะของพระเจ้าได้ดีขึ้น’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเยซูทรงใช้เรือลำหนึ่งเป็นธรรมาสน์เพื่อสอนฝูงชน (ข้อ 3) การได้ยินถ้อยคำของพระเจ้าผ่านทางพระเยซูได้เปลี่ยนชีวิตของเปโตร
เปโตรไม่เพียงแต่จับได้ปลาฝูงใหญ่ แต่เขายังได้เห็นภาพที่ยิ่งใหญ่ว่าพระเจ้าสามารถทำสิ่งใดบ้างในชีวิตของเขา สามปีต่อมาเขาได้เทศนาซึ่งมีคน 3,000 คน กลับใจในวันเดียว เขาได้วางรากฐานซึ่ง 2,000 ปีต่อมาคนมากกว่าสองพันล้านคนยอมรับพระนามของพระเยซู เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องราวที่แสดงออกมานี้?
1. ศักยภาพมีอยู่มากมาย
พวกเขาไม่ได้จับปลาเลยแต่มีปลามากมายให้จับ ในทะเลกาลิลีมีฝูงปลามากมายที่ปกคลุมท้องทะเลราวกับว่ามันยาวต่อเนื่องถึงหนึ่งเอเคอร์
ถึงแม้การทำความสะอาดอวนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวประมง แต่เป้าหมายหลักคือการจับปลา งานหลักของคริสตจักรคือการทำพันธกิจ พระเยซูตรัสว่า ‘จงถอยออกไปที่น้ำลึก แล้วหย่อนอวนลงจับปลา’ (ข้อ 4) มีผู้คนมากมายที่ต้องการได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซู
2. ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้สำหรับพระเยซู
ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเปโตรเป็นเชิงลบและมองในแง่ร้าย เขาไม่คิดว่ามันจะได้ผล ‘เราทอดอวนมาตลอดทั้งคืนแล้วไม่ได้อะไรเลย’ (ข้อ 5ก) อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ว่าหลังจากฉุกคิดพักใหญ่ เขาจึงพูดว่า ‘แต่ข้าพเจ้าก็จะหย่อนอวนลงตามคำของท่าน’ (ข้อ 5ข) พระเยซูทรงกระทำในสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ‘เมื่อพวกเขาหย่อนลงแล้วก็จับปลาได้จำนวนมาก จนอวนของเขาเริ่มจะปริ’ (ข้อ 6)
3. ไม่สามารถทำได้โดยลำพังแต่โดยร่วมมือกันเท่านั้น
‘พวกเขาจึงทำสัญญาณบอกเพื่อน ๆ ที่อยู่ในเรืออีกลำหนึ่งให้มาช่วย พวกเขาก็มา และได้ปลาเต็มเรือทั้งสองลำจนเรือเพียบ’ (ข้อ 7) การร่วมมือกันเป็นหัวใจสำคัญของพันธกิจ ความแตกแยกทำให้ผูู้คนจากภายนอกคริสตจักรไม่พึงพอใจนัก แต่การร่วมมือกันและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นสิ่งที่น่าดึงดูด
4. เป็นนิมิตที่ควรค่าแก่การมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา
ปฏิกิริยาตอบสนองแรกของเปโตรคือการสัมผัสได้ถึงความไม่คู่ควรของตัวเขาเอง ‘ขอท่านไปให้ห่างจากข้าพเจ้าเถิด เพราะว่าข้าพเจ้าเป็นคนบาป!’ (ข้อ 8) ในขณะเดียวกัน เขาและคนอื่น ๆ ก็ประหลาดใจที่จับปลาได้ (ข้อ 9) พวกเขาต้องกลัวมาก แต่พระเยซูตรัสว่า ‘อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไปท่านจะเป็นผู้จับคน’ (ข้อ 10) พวกเขาเห็นว่าเป็นนิมิตที่ควรค่าแก่การมุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา ‘เมื่อนำเรือมาถึงฝั่งแล้ว พวกเขาก็สละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างและตามพระองค์ไป’ (ข้อ 11)
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ประทานสายด่วนถึงพระองค์แก่ข้าพระองค์ ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ เช่นเดียวกับพระเยซู ให้แสวงหาการอยู่ลำพังกับพระองค์ ให้ปลีกตัวไปยังที่เปลี่ยว อธิษฐาน และได้ยินถ้อยคำของพระองค์
กันดารวิถี 15:1-16:35
จัดลำดับความสำคัญในการสื่อสารกับพระเจ้า
เมื่อคุณอ่านพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม โดยเฉพาะข้อพระธรรมบางตอนสำหรับวันนี้ คุณอาจพบว่าพวกเขาค่อนข้างตกใจ ไม่มีคำตอบที่ง่ายหรือคำอธิบายพล่อย ๆ มีหลายสิ่งซึ่งยากที่จะเข้าใจ บางทีอาจจะดีกว่าที่จะจดจ่อกับสิ่งที่เราสามารถเข้าใจได้
สิ่งที่ชัดเจนในพระธรรมตอนนี้คือความสำคัญยิ่งของความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า และการใช้เวลากับพระองค์ คำพูดที่แสดงออกว่า ‘เป็นที่พอพระทัยแด่พระยาห์เวห์’ ปรากฏอยู่หลายครั้ง (15:7, 10, 13, 24) เครื่องบูชาเป็นสิ่งจำเป็นในการ ‘ลบล้างบาป’ (ข้อ 25) ‘การลบล้างบาป’ (At-one-ment) นำเราไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า สำหรับสิ่งนี้การให้อภัยเป็นสิ่งจำเป็น (ข้อ 25-26, 28) ทั้งหมดนี้เป็นการเตรียมเราสำหรับการที่พระเยซูทรงสละพระองค์เองเป็นเครื่องบูชา นำมาซึ่งการให้อภัยและการลบล้างบาปทั้งสิ้น เพื่อที่คุณจะได้มีสายด่วนถึงพระเจ้า
พระเยซูทรงเปลี่ยนความเข้าใจของเราเกี่ยวกับวันสะบาโต ประชาชนของพระเจ้าให้ความสำคัญกับวันสะบาโตเป็นอย่างมาก เป็นวันที่ต้องหยุดพักเพื่อใช้เวลากับพระเจ้า กฎของวันสะบาโตอาจจะไม่ได้นำมาใช้อยู่อีกแล้ว แต่หลักปฏิบัติของวันสะบาโตคือการให้เราหยุดเพื่อพักผ่อนและใช้เวลากับพระเจ้ายังคงใช้อยู่
จุดประสงค์ของการหยุดพักในวันสะบาโตคือเพื่อบังคับให้เราได้หยุดคิดและหยุดพัก ‘เพื่อเจ้าจะไม่ทำอะไรตามความพอใจของเจ้า หรือตามที่ตาของพวกเจ้าอยากเห็น’ (ข้อ 39) และกลายเป็นรูปเคารพของคุณ แต่คุณควรจะถวายตัวแด่พระเจ้า (ข้อ 40) และพระเจ้าต้องการนำคุณมาใกล้พระองค์ (16:9) เป็นเพราะความสำคัญของความสัมพันธ์ที่การคุกคามใด ๆ อันเกิดจากการโอหังและการกบฏ (ข้อ 1-2) ถือเป็นเรื่องร้ายแรง (ข้อ 1-35)
เรามีสิทธิพิเศษเป็นอย่างมากที่ได้ใช้ชีวิตในยุคของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสามารถเพลิดเพลินกับอิสรภาพที่พระเยซูนำมาให้ผ่านทางไม้กางเขนและการฟื้นคืนพระชนม์ สิ่งนี้ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับสายด่วนถึงพระเจ้าโดยปราศจากความกลัว ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ส่งเสริมให้คุณใช้สิทธิพิเศษนี้ให้มากที่สุด และใช้เวลาตามลำพังกับพระองค์ ปีติยินดีในการทรงสถิตของพระองค์ และนำความปรารถนาของคุณร้องทูลต่อพระองค์
ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้นำชีวิตให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ ให้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ในแต่ละวัน และให้หาเวลาเพื่อใช้เวลาตามลำพังกับพระองค์
Pippa Adds
สดุดี 37:4
‘จงปีติยินดีในพระยาห์เวห์ และพระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน’ (ข้อ 4)
ฉันพยายามที่จะจดจำไว้ว่า ‘ความปีติยินดี’ ต้องมาก่อน ไม่ใช่แค่เพียงเพราะว่า ‘พระองค์จะประทานตามใจปรารถนาของท่าน’ แต่นี่ยังคงเป็นพระสัญญาอันน่าอัศจรรย์ คือถ้าเราทำ พระองค์ก็จะทำ
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More