YouVersion Logo
Search Icon

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DAY 333 OF 365

เวลาของพระเจ้านั้นสมบูรณ์แบบ

พระเจ้าทรงรู้จังหวะเวลาของพระองค์เอง ‘คือวันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว’ (2 เปโตร 3:8) ทรงมีจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบ ไม่เคยเร็วไปและไม่เคยสายไป พระเจ้าไม่เคยรีบร้อน แต่พระองค์ทันเวลาเสมอ เราเห็นในเนื้อหาของวันนี้ว่า พระเจ้าทรงปกครองเหนืออนาคต (ดาเนียล 4:32) ‘เราจึงคอยท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่’ (2 เปโตร 3:13) พระเจ้าจะทรงประทานความเป็นธรรมแก่คนของพระองค์ (สดุดี 135:14) แต่คุณจะทำอย่างไร ในขณะที่คุณกำลังรอให้พระเจ้าทำในสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้?

สดุดี 135:13-21

วางใจในพระเจ้า

เมื่อคำอธิษฐานของคุณดูเหมือนจะไม่ได้รับคำตอบ คุณอาจถูกล่อลวงให้เลิกวางใจพระเจ้าและเริ่มไล่ตาม ‘พระ’ อื่น ๆ

การวางใจในพระเจ้าอาจดูล้าสมัยไปหน่อย แต่ผู้เขียนพระธรรมสดุดีกล่าวว่า ‘พระเจ้า พระนามของพระองค์เป็นนิรันดร์ พระเจ้า พระองค์จะไม่มีวันล้าสมัย’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความจริงที่ยิ่งใหญ่ในพระคัมภีร์คือคุณเป็นเหมือนสิ่งที่คุณวางความเชื่อทั้งหมดไว้ หากคุณเชื่อและวางใจใน ‘พระอื่น ๆ’ ที่ทำด้วยเงินหรือทอง คุณก็จะเป็นเหมือนพระเหล่านั้นคือไร้ซึ่งชีวิตจิตวิญญาณ ตาบอด และหูหนวก (ข้อ 16–18) แต่หากคุณวางใจในพระเจ้า คุณจะเต็มไปด้วยชีวิตและความปิติเมื่อคุณเป็นเหมือนดั่งพระองค์

จงวางใจในพระเจ้า ‘เพราะพระยาห์เวห์จะประทานความเป็นธรรมแก่ประชากรของพระองค์ และทรงพระกรุณาแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์’ (ข้อ 14) ‘พระเจ้ายืนหยัดเพื่อประชากรของพระองค์ พระเจ้าจับมือประชากรของพระองค์’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ดังนั้น คุณจึงถูกเรียกให้สรรเสริญและถวายเกียรติแด่พระเจ้า (ข้อ 19–21)

พึ่งพาพระเจ้าอย่างเต็มกำลังและมองไปที่พระองค์เพื่อที่พระองค์จะประทานความชอบธรรมให้แก่คุณ เมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่คุณต้องการให้คุณอดทนไว้ อย่าพยายามเกินหน้าพระเจ้า เวลาของพระองค์นั้นสมบูรณ์แบบ ให้เราวางใจในองค์พระองค์

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ผู้เดียว โปรดช่วยให้ข้าพระองค์เป็นเหมือนพระองค์ คือเต็มไปด้วยความรัก ความยินดี และสันติสุข

2  เปโตร 3:1-18

หันมาหาพระเจ้า

เมื่อคุณมองไปที่ความชั่วร้ายทั้งหมดในโลก ทั้งสงคราม ความรุนแรง การทรมานเชิงระบบของรัฐ อาชญากรรมที่น่าสยดสยอง และความทุกข์ทรมานนานับประการ คุณอาจสงสัยว่าทำไมพระเยซูไม่เสด็จกลับมาตอนนี้และจัดการทั้งหมดให้สิ้นไป

ทำไมพระเจ้าถึงล่าช้า? ทำไมพระเจ้ายังไม่เสด็จกลับมา?

เปโตรเตือนเราว่าผู้คนจะเยาะเย้ยเราและพูดว่า ‘เกิดอะไรขึ้นกับพระสัญญาถึงการเสด็จมาของพระองค์?’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาบอกว่ามีเหตุผลที่ดีมากสำหรับความล่าช้านี้ เหตุผลที่พระยาห์เวห์ยังไม่เสด็จมา นั่นก็เพื่อให้เวลาผู้คนกลับใจมากขึ้น

พระเจ้าไม่ทรงรีบเร่ง ‘แต่ท่านที่รักทั้งหลาย อย่ามองข้ามความจริงข้อนี้เสีย คือวันเดียวของพระเจ้าเป็นเหมือนกับพันปี และพันปีก็เป็นเหมือนกับวันเดียว’ (ข้อ 8)

พระเจ้าไม่ทรงเชื่องช้าในการรักษาพระสัญญา แต่ความล่าช้านั้นมาจากความอดทนของพระองค์ ‘ทรงอดทนกับพวกท่าน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศเลย แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่’ (ข้อ 9) พระเจ้าไม่ได้มาสายด้วยพระสัญญาของพระองค์ที่บางคนว่าอาจมองว่าสายเกินไป ‘แต่ทรงยับยั้งพระองค์เองไว้เพื่อคุณ ทรงยืดจุดจบไว้เพราะพระองค์ไม่ต้องการให้ใครหลงทางไป ทรงให้พื้นที่และเวลาแก่ทุกคนในการเปลี่ยนแปลง’ (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

การกลับใจเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนทิศทางในชีวิตคุณ เป็นการหันหลังให้จากสิ่งเลวร้ายทั้งหมดและหันไปหาพระเยซู การให้เวลาผู้คนกลับใจคือการที่พระเจ้าทรงเปิดประตูความรอดด้วยความรัก ‘จงตีความการยับยั้งชั่งใจขององค์เจ้านายของเราว่าคืออะไร นั่นคือ ความรอด’ (ข้อ 15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

หัวข้อเรื่องความรอดนี้ เป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในจดหมายของเปาโล และ ณ จุดนี้เปโตรได้อ้างถึงจดหมายเหล่านั้น ซึ่งผมเองรู้สึกได้รับการหนุนใจที่เขาอธิบายว่าบางครั้ง ‘เข้าใจยาก’ (ข้อ 16) เพราะหากคุณพยายามทำความเข้าใจ แสดงว่าคุณเป็นพวกเดียวกัน!

ที่สำคัญคือ เปโตรเปรียบเทียบข้อพระคัมภีร์เหล่านี้กับพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม (‘ข้ออื่น ๆ ในพระคัมภีร์’, ข้อ 16) ในการทำเช่นนั้น เขาแสดงให้เห็นว่าคริสตจักรยุคแรกและอัครทูตเข้าใจงานเขียนในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ว่ามีสิทธิอำนาจของพระเจ้าเช่นเดียวกับพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม

พระเจ้าจะเสด็จมาในเวลาที่เราไม่คาดคิด (‘เหมือนอย่างขโมย’, ข้อ 10) โลกที่เรารู้จักจะ ‘สลายไปด้วยไฟ’ (ข้อ 10) จะมี ‘ท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่’ (ข้อ 13) นิมิตแห่งอนาคตในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ไม่ใช่ผู้คนจำนวนมาก ‘ขึ้นสู่สวรรค์’ แต่จะมี ‘ท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่’ (ข้อ 13)

มีหลายครั้งที่เปโตรชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าสัตย์ซื่อต่อพระวจนะและพระสัญญาของพระองค์ (ข้อ 2,5,7,9,13) ความจริงก็คือสิ่งที่พระเจ้าตรัสไว้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

วิธีเตรียมตัวสำหรับอนาคตที่แน่นอนแต่ล่าช้าคือ ‘ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์’ และ ‘คาดหวังวันของพระเจ้าทุกวัน กระตือรือร้นรอในการมา’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และ ‘ใช้ชีวิตอย่างดีที่สุด ในความบริสุทธิ์และสันติสุข’ (ข้อ 14, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และเพื่อ ‘เติบโตในพระคุณและความเข้าใจองค์เจ้านายและพระผู้ช่วยให้รอดของเราคือพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระคุณคือความรักที่เราไม่สมควรได้รับ คุณเติบโตขึ้นในพระคุณเมื่อคุณหันไปหาพระเจ้า พึ่งพาพระองค์ในทุกสถานการณ์ที่คุณเผชิญ นำความต้องการของคุณมาหาพระองค์ทุกวัน ตามที่คุณคาดหวังอย่างกระตือรือร้นว่าพระองค์จะเสด็จกลับมา

ข้าแต่พระเจ้า ขณะที่ข้าพระองค์รอคอยการเสด็จกลับมาของพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตให้บริสุทธิ์และอยู่ในทางของพระองค์ ‘มีใจสงบ (กับพระองค์) ปราศจากมลทินและข้อตำหนิ’ (2 เปโตร 3:14)

ดาเนียล 4:19-5:16

จงขอบพระคุณพระเจ้า

ความภูมิใจมักเกิดขึ้นก่อนการล้มเหลว อย่างที่ผมได้ค้นพบหลายครั้งในชีวิตของผมเอง ทุกสิ่งที่เรามีมาจากพระเจ้า เราต้องพึ่งพาพระองค์สำหรับลมหายใจของเรา พระองค์เป็นผู้ควบคุมอดีต ปัจจุบัน และอนาคต การขอบพระคุณพระเจ้าทำให้เกิดความถ่อมใจ

‘เมื่อพูดถึงชีวิต สิ่งสำคัญคือคุณจะไม่เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ หรือรับไว้ด้วยการขอบคุณ’ เขียนโดย จี. เค. เชสเตอร์ตัน

เป็นเรื่องง่ายที่จะถ่ายทอดข้อความแห่งการหนุนใจจากพระเจ้า และพบว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะถ่ายทอดข้อความกล่าวตำหนิ ดาเนียลพบว่าเป็นสิ่งที่น่าตกตะลึงและน่าตกใจไม่น้อย แต่กระนั้นเขาก็เชื่อฟังพระเจ้า ในการที่จะถ่ายทอดออกไป (4:19 เป็นต้นไป)

ความผิดพลาดที่เนบูคัดเนสซาร์ทำ และเราทุกคนอาจจะทำเป็นครั้งคราว คือ การคิดว่าสิ่งที่ตนทำสำเร็จนั้นเป็นการกระทำของตัวเองทั้งหมด ‘นี่เป็นมหาบาบิโลน ซึ่งเราได้สร้างไว้ด้วยอำนาจใหญ่ยิ่งของเรา ให้เป็นพระราชฐาน และเพื่อเป็นศักดิ์ศรีอันสูงส่งของเรามิใช่หรือ?’ (ข้อ 30) ระวังการใช้ ‘ตัวฉัน’ และ ‘ของฉัน’ ในลักษณะนี้!

บทเรียนที่พระเจ้าต้องสอนเนบูคัดเนสซาร์และบางครั้งเราก็ได้รับการสอนเช่นนี้ด้วย คือ ทุกสิ่งที่คุณมีคือของประทานจากพระเจ้า ‘พระผู้สูงสุดทรงปกครองบรรดาราชอาณาจักรของมนุษย์ และประทานราชอาณาจักรเหล่านั้นแก่ผู้ที่พระองค์พอพระทัย’ (ข้อ 32)

ของประทานฝ่ายวิญญาณ ร่างกาย ครอบครัว บ้าน สติปัญญา รูปลักษณ์ เงิน ความสามารถด้านกีฬา ล้วนเป็นของประทานจากพระเจ้า ปฏิกิริยาของคุณต่อความสำเร็จไม่ควรเป็นเรื่องของความภาคภูมิใจ การเห็นว่าตนสำคัญ หรือการยินดีกับตนเอง แต่เป็นการสรรเสริญ และขอบพระคุณพระเจ้า ให้เกียรติ เและยกย่องพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ประทานแก่คุณ (ข้อ 34–37)

เนบูคัดเนสซาร์ทึกทักเอาเอง และไม่ขอบพระคุณ และถวายเกียรติแด่พระเจ้าในสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำเพื่อตน แต่ตรงกันข้ามพระองค์กลับเห็นว่าทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากน้ำมือของตนเอง

เมื่อเนบูคัดเนสซาร์กลับคืนเป็นปกติ พระองค์จึงตระหนักว่าทุกสิ่งที่ได้มานั้น มาจากพระเจ้า แทนที่จะรับสง่าราศี เอง ทรงขอบพระคุณและสรรเสริญพระเจ้า ‘ร้องเพลงสรรเสริญกษัตริย์แห่งสวรรค์’ (ข้อ 34–37, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ความถ่อมใจไม่ได้หมายความว่าแสร้งทำเป็นว่าไม่มีในสิ่งที่เรามี แต่หมายถึงการรู้ถึงที่มาของสิ่งที่มีอยู่ และสรรเสริญว่าสิ่งนั้นมาจากที่ใด ‘บัดนี้ตัวเราคือเนบูคัดเนสซาร์ ขอสรรเสริญ ยกย่องและถวายพระเกียรติแด่พระมหาราชาแห่งสวรรค์ เพราะว่าพระราชกิจของพระองค์ถูกต้อง และพระมรรคาของพระองค์ก็เที่ยงธรรม’ (ข้อ 37)

คำพยานของเนบูคัดเนสซาร์สรุปด้วยถ้อยคำเหล่านี้ว่า ‘พระองค์ทรงรู้วิธีเปลี่ยนคนหยิ่งผยองให้กลายเป็นชายหรือหญิงที่ถ่อมใจ’ (ข้อ 37ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ดาเนียลพูดกับเนบูคัดเนสซาร์ว่า ‘โอ องค์กษัตริย์ โปรดรับคำชี้แนะของข้าพระบาท จงชำระบาปของพระองค์และเริ่มต้นดำเนินชีวิตเพื่อผู้อื่น จงละจากชีวิตที่ชั่วร้ายของพระองค์ และดูแลความต้องการของคนยากจน แล้วพระองค์จะมีชีวิตที่ดีต่อไป’ (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คนรุ่นหลังไม่ได้เรียนรู้บทเรียนจากอดีต กษัตริย์เบลชัสซาร์ฝ่าฝืนคำสั่งให้นมัสการพระเจ้าเพียงผู้เดียวและ ‘สรรเสริญพระที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน’ (5:4)

เช่นเดียวกับเนบูคัดเนสซาร์ ภายใต้พื้นผิวมีความหวาดกลัวที่หยั่งรากลึกในชีวิตของเบลชัสซาร์อยู่ ขาดซึ่งสันติสุขกับพระเจ้า ทั้งสองได้รับการเตือนจากพระเจ้าว่าต้องทำอะไร ข้อแตกต่างคือเนบูคัดเนสซาร์กลับใจ ถ่อมใจ ยอมรับและขอบคุณพระเจ้า ในขณะที่เบลชัสซาร์ไม่กลับใจ

ดาเนียลเองเป็น ‘ที่รู้จักกันดีในเรื่องความฉลาดทางปัญญาและสติปัญญาทางจิตวิญญาณของเขา’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เขาเต็มด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ มีการล่อลวงมากมายที่อาจทำให้เขาหยิ่งผยอง แต่ดาเนียลยังคงพึ่งพาพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ ถวายสง่าราศี เกียรติ และการขอบพระคุณทั้งหมดแด่พระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงดูแลจักรวาลนี้ และทุกสิ่งที่ข้าพระองค์มีมาจากพระองค์ ข้าพเจ้าขอยกย่องสรรเสริญ ให้เกียรติ และสง่าราศีแด่พระองค์

Pippa Adds

2 เปโตร 3:10

‘แต่วันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น จะมาถึงเหมือนอย่างขโมย และในวันนั้น ฟ้าจะหายลับไปด้วยเสียงดังกึกก้อง และโลกธาตุจะสลายไปด้วยไฟ และแผ่นดินกับสิ่งสารพัดที่มีอยู่บนนั้นจะถูกเผาจนหมดสิ้น’

‘วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ ฟังดูน่ากลัวทีเดียว แต่ข้อ 11 บอกให้เรา ‘ดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์และที่ยำเกรงพระเจ้า’ และ ข้อ 12 กล่าวว่าให้ ‘เฝ้ารอ [และไม่ต้องกลัว] และเร่งวันของพระเจ้าให้มาถึง’

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

About this Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More