พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลSample

ไม่เคยยอมแพ้
เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร เขามีชีวิตที่ยืนยาว ใช้ชีวิตอย่างกล้าหาญและรวบรวมชาติด้วยวาทศิลป์ที่สร้างแรงบันดาลใจ เหตุการณ์ที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวประวัติของเขาคือเขาต้องลาออกจากกองทัพเรือในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจากปฏิบัติการดาร์ดาแนลที่ล้มเหลว เขาล้มเหลวอย่างน่าตื่นตะลึง แต่เขาเรียนรู้ที่จะไม่ยอมแพ้ มีคนบอกผมว่าครั้งหนึ่ง เมื่อเขากลับมาที่โรงเรียนเก่าของเขา โรงเรียนแฮร์โรว์ เพื่อพบปะพูดคุยกับพวกเด็ก ๆ คนทั้งโรงเรียนรวมตัวกันเพื่อฟังถ้อยคำประกอบด้วยปัญญาของเขา บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ลุกขึ้นพูด: ‘หนุ่มน้อย อย่ายอมแพ้ อย่ายอมแพ้ อย่ายอมแพ้’ คำพูดทั้งหมดใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที จากนั้นเขาก็นั่งลง ปัจจุบันไม่มีใครลืมคำพูดของเขาได้ลง อย่างน้อยก็คือเวอร์ชั่นยอดนิยมมากของเรื่องราวนี้ เชอร์ชิลล์พูดในลักษณะนั้นจริงๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการพูดที่ยาวนานกว่า ในตอนท้ายเขากล่าวว่า ‘อย่ายอมแพ้ อย่ายอมแพ้ อย่ายอม อย่ายอม อย่ายอม อย่ายอม ในสิ่งใด ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ใหญ่หรือเล็ก อย่ายอมแพ้ เชื่อมั่นในเกียรติและความรู้สึกที่ดี อย่ายอมจำนนต่อการบีบบังคับ อย่ายอมจำนนต่ออำนาจอันท่วมท้นที่เห็นได้ชัดของศัตรู’ ในยุคปัจจุบัน ชีวิตของเรากลายเป็นเรื่องปัจจุบันทันด่วนอยู่ตลอดที่สิ่งใดก็ตามที่ต้องใช้ความพากเพียรอย่างทรหดอดทนอาจดูไม่น่าดึงดูด เราต้องการผลตอบแทนและผลลัพธ์ในทันที แต่บางครั้งการจะได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็ใช้เวลานานกว่าจะได้มาสุภาษิต 23:10-18
อย่ายอมแพ้ในความกระตือรือร้น
‘เจ้าอย่าริษยาคนบาป แต่จงยำเกรงพระยาห์เวห์ตลอดเวลา เพราะแน่นอนมีอนาคตสำหรับเจ้า และความหวังของเจ้าจะไม่สลาย’ (ข้อ 17–18)
อัครทูตเปาโลเขียนบางอย่างที่คล้ายกัน ‘อย่าอ่อนระอา จงมีจิตใจกระตือรือร้นด้วยพระวิญญาณ’ (โรม 12:11) เราควรกระตือรือร้นเหมือนวันแรกที่เราได้พบพระเยซู อย่างที่ แบร์ กริลล์ส พูดไว้ว่า ‘จงเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุดที่คุณรู้จัก ความกระตือรือร้นจะค้ำจุนคุณในยามยาก ให้กำลังใจคนรอบข้าง และส่งอิทธิพลความกระตือรือร้นออกไปให้สุด’
เมื่อหลายปีก่อน ผมเขียนไว้ที่ขอบด้านข้างของหน้าพระคัมภีร์ข้างข้อพระวจนะที่ยกมาตอนนี้ ‘ผมรู้สึกค่อนข้างอิจฉาผู้คน [เพื่อนร่วมงานในที่ทำงานในขณะนั้น] และงานของพวกเขา นี่คือพระวจนะของพระเจ้าที่มีต่อผม คือไม่ใช่เพื่ออิจฉา แต่จงกระตือรือร้นแทนเพื่อพระเจ้า และพระเจ้าทรงสัญญาไว้ถึง “อนาคตที่สดใส”’ (สุภาษิต 23:18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Good News Translation โดยผู้แปล) สรรเสริญพระเจ้าสำหรับพระสัญญาที่เกาะเกี่ยวกับงานของผม
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยให้ข้าพระองค์ไม่ให้ขาดความกระตือรือร้น แต่ให้รักษาความเร่าร้อนทางฝ่ายวิญญาณของข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่พระองค์สัญญาถึง 'อนาคตที่สดใส'
กาลาเทีย 6:1-18
อย่าท้อใจการทำความดี
‘อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร’ (ข้อ 9)
เมื่อเปาโลเขียนถึงตอนท้ายของจดหมายฉบับนี้ เขาได้กระตุ้นให้ชาวกาลาเทียทำงานร่วมกันเป็นทีม ถ้ามีคนออกนอกเส้นทาง จงพยายามฟื้นฟูพวกเขาด้วยใจสุภาพ (ข้อ 1ก) แต่จงระวังตัวเองด้วย เกรงว่าตัวเราเองจะถูกทดลอง (ข้อ 1ข) คุณต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง ‘แต่ละคนจงสำรวจการกระทำของตนเอง… เพราะว่าแต่ละคนต้องรับภาระของตัวเอง’ (ข้อ 4-5)
เรามีความรับผิดชอบต่อสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมด้วย ‘รับภาระของกันและกัน และด้วยการกระทำเช่นนี้ท่านทั้งหลายก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระคริสต์’ (ข้อ 2)
เปาโลถือว่าเราทุกคนมีภาระ คำที่ใช้หมายถึง ‘ภาระหนัก’ เป็นคำกว้างๆ ที่ประกอบด้วยทุกข์ ความเจ็บป่วย ความพิการทางร่างกาย ความเศร้าโศก ความทุกข์ระทม ความกังวล ความรับผิดชอบ (ด้านการเงินและอื่น ๆ ) การทดลอง ข้อผิดพลาด ความสงสัย จุดอ่อนและความล้มเหลว (ด้านศีลธรรมและอื่น ๆ ) กล่าวอีกนัยหนึ่ง มันรวมภาระทุกอย่างที่ยากจะแบกรับ
วิธีหนึ่งที่พระเยซูทรงแบกรับภาระเหล่านี้ของคุณคือผ่านมิตรภาพของมนุษย์ นี่เป็นวิธีที่ทิตัสช่วยแบกรับภาระของเปาโล
ผมชอบความมีอิสระและการพึ่งพาตนเอง ไม่พึ่งพาผู้อื่น แต่ตัวผมถูกสร้างมาให้เป็นภาระแก่คุณ และคุณถูกออกแบบให้เป็นภาระแก่ผม ‘รับภาระของกันและกัน และด้วยการกระทำเช่นนี้ท่านทั้งหลายก็ได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระคริสต์’ (ข้อ 2)
ผมสามารถพูดได้เพียงว่าในชีวิตของผมเอง ผมรู้สึกขอบคุณต่อเพื่อนสนิทเหล่านั้นที่ผมและพิพพาได้พูดคุย และอธิษฐานด้วยเป็นประจำ คนที่เคยช่วยเราในบางครั้งที่ภาระดูเหมือนหนักเกินกว่าที่เราจะแบกกันไหว เราผ่านอะไรมาด้วยกันมากมายทั้งยังร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ทั้งหมดนี้ช่วยกันแบกภาระ
เป้าหมายของทีมคือการหว่านเมล็ดพันธุ์ที่ดีต่อไป ‘เพราะว่าใครหว่านอะไรลง ก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น คนที่หว่านสิ่งที่ตอบสนองเนื้อหนังของตน ก็จะเก็บเกี่ยวความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น แต่คนที่หว่านสิ่งที่ตอบสนองพระวิญญาณ ก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น’ (ข้อ 7–8)
อัครทูตเปาโลเขียนถึงชาวกาลาเทียว่า ‘...ไม่ท้อใจ’ (ข้อ 9) การทดลองคือความเมื่อยล้าในการทำความดี แต่พระสัญญาก็คือว่าคุณจะเก็บเกี่ยวผลถ้าคุณไม่ท้อใจ ใช้ทุกโอกาสทำดีกับทุกคน ‘เฉพาะอย่างยิ่ง ต่อคนที่เป็นสมาชิกของครอบครัวแห่งความเชื่อ’ (ข้อ 10)
มีความท้อใจมากมายรอบตัว มีการทดลองที่หนักหนาเพื่อให้ยอมแพ้ เมื่อคุณหว่านเมล็ด คุณจะไม่เห็นผลทันที มันต้องใช้เวลา บางครั้งเมื่อคุณมองย้อนกลับไปหลายปีต่อมา คุณจะเห็นว่าในที่สุดเมล็ดพันธุ์ที่คุณหว่านลงไปก็เกิดดอกออกผล ยังมีเมล็ดพืชอีกมากมายที่หว่านลงซึ่งคุณอาจไม่รู้อะไรเลยจนกว่าคุณจะเห็นการเก็บเกี่ยวในสวรรค์ กุญแจดอกหนึ่งในการคิดบวกคือการรักษามุมมองที่เป็นนิรันดร์
เปาโลไม่เคยหยุดเทศนาข้อความที่เรียบง่าย เกี่ยวกับ ‘เรื่องกางเขนของพระคริสต์' (ข้อ 12) ท่านเดินต่อไปและหว่านต่อไป ท่านปฏิเสธที่จะเพิ่มหรือลบข้อความที่ประกาศออกไป ทั้งยังปฏิเสธที่จะออกไปประกาศข้อความที่เป็นที่นิยมเพื่อหลีกเลี่ยงการกดขี่ข่มเหง (ข้อ 12) เป็นผลให้ท่านถูกข่มเหง ท่านเขียนว่า ‘ข้าพเจ้ามีรอยประทับตราของพระเยซูติดอยู่ที่กายของข้าพเจ้าแล้ว’ (ข้อ 17)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้หว่านต่อไป ทำความดีต่อไป และยึดมั่นในพระสัญญาของพระองค์ว่า ในเวลาที่เหมาะสม เราจะเก็บเกี่ยวพืชผลถ้าเราไม่ยอมแพ้
อิสยาห์ 49:8-51:16
อย่าเลิกวางใจในความรักของพระเจ้า
ทุกเช้า อิสยาห์รอคอยการทรงตรัสของพระเจ้า สั่งสอนเขา เพื่อเขาจะได้รู้ถ้อยคำที่ถูกต้องในการ ‘ค้ำชูผู้อิดโรย’ เพื่อให้กำลังใจผู้ที่ถูกทดลองให้ยอมรับความพ่ายแพ้ (50:4)
ในพระธรรมตอนนี้ วิธีที่เขาทำคือพูดกับผู้คนเกี่ยวกับความรักที่พระเจ้ามีต่อพวกเขา เขาพูดถึงความเมตตาของพระเจ้า (49:10–13) และเขาใช้การเปรียบเทียบห้าประการอธิบายความรักของพระเจ้า:
1. ผู้เลี้ยง
พระเจ้ารักคุณเหมือนผู้เลี้ยงที่รักแกะของตน พระเจ้าในฐานะพระผู้เลี้ยงของอิสราเอล จะทรงนำผู้คนของพระองค์กลับจากการเป็นเชลย ด้วยความรักของพระองค์ พระองค์จะทรงกระทำให้แม้แต่อุปสรรคก็สนองพระประสงค์ของพระองค์ (ข้อ 11) พระเยซูทรงหยิบภาพของผู้เลี้ยงที่ดีนี้มาประยุกต์ใช้กับพระองค์เอง (ยอห์น 10:3–15)
2. มารดา
ความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณยิ่งใหญ่กว่าความรักที่แม่มีต่อลูก ‘มารดาจะลืมทารกที่หน้าอกของหล่อน แล้วเดินหนีจากลูกที่เกิดมาได้หรือ? แต่ถึงแม้ว่ามารดาจะลืมลง เราก็ไม่มีวันลืมเจ้า ไม่เคยเลย’ (อิสยาห์ 49:15, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
3. ช่างแกะสลัก
พระเจ้าตรัสว่า ‘เราได้ประทับ (สักรูป) ของท่านบนฝ่ามือของเราอย่างไม่ลบเลือน’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ชาวบาบิโลนใช้รอยสักเพื่อเตือนพวกเขาถึงบุคคลที่พวกเขารัก ความรักและความมุ่งมั่นของพระเจ้าที่มีต่อคุณนั้นแสดงให้เห็นโดยการสลักรูปของคุณบนฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์
4. ผู้พิชิต
ความรักของพระเจ้าเป็นเหมือนผู้พิชิต (ข้อ 25–26) พระองค์ทรงเข้มแข็งพอที่จะทำตามจุดประสงค์ของพระองค์เพื่อคุณและต่อสู้กับผู้ที่กดขี่ข่มเหงคุณ (ข้อ 25)
5. สามี
ผู้คนต่างพูดว่าพระเจ้าหย่าขาดจากพวกเขา เพราะบาปของพวกเขา พระเจ้าตรัสว่าถึงแม้ความอ่อนแอและบาปของพวกเขาเป็นสาเหตุให้เกิดการกวาดต้อนไปเป็นเชลย พระเจ้าสามารถฟื้นฟูพวกเขาได้ พระองค์ไม่ได้หย่าขาดหรือขายพวกเขาให้เป็นทาส (50:1) ไม่มีใครอยู่ไกลเกินเอื้อมจากพระเจ้า พระองค์สมรสกับคนของพระองค์ ความรักที่พระองค์มีต่อคุณยิ่งใหญ่กว่าความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างสามีและภรรยา
อิสยาห์กระตุ้นผู้คนให้วางใจในพระเจ้าต่อไป: ‘บรรดาผู้รอคอยเราจะไม่อับอาย’ (49:23) พระเจ้าจะทรงช่วยผู้คนผ่านผู้รับใช้ที่ทนทุกข์ของพระองค์: ‘ข้าพเจ้าไม่ได้ซ่อนหน้า จากการเยาะเย้ยและการถ่มน้ำลายรด แต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้านายทรงช่วยข้าพเจ้า เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจะไม่ถูกทำให้อัปยศ เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงทำหน้าข้าพเจ้าให้เหมือนหินเหล็กไฟ’ (50:6–7)
พระเยซูทรงทราบว่าพระองค์กำลังจะถูกเยาะเย้ยและถ่มน้ำลายใส่ พระพักตร์ของพระองค์เหมือนหินเหล็กไฟ และเสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็มโดยรู้ว่าพระองค์จะทรงถูกตรึงที่กางเขนที่นั่น พระองค์มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ พระองค์ไม่ยอมแพ้ พระเจ้าพิสูจน์พระองค์แล้ว (ข้อ 8) ผลที่ได้คือชัยชนะอันยิ่งใหญ่และการเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ บรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์จะไม่มีวันผิดหวัง ช่วยข้าพระองค์ให้วางใจในความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์ต่อไป
Pippa Adds
กาลาเทีย 6:9
‘อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเก็บเกี่ยวในเวลาอันสมควร’
เป็นเรื่องง่ายมากที่จะท้อใจเมื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในสถานการณ์หรือคนที่คุณพยายามช่วยและดูเหมือนจะแย่ลง พระวจนะข้อนี้บอกว่าจงก้าวต่อไป แม้ว่าจะถูกล่อลวงให้ยอมแพ้ เพราะในที่สุดคุณจะได้เก็บเกี่ยว
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)About this Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Related Plans

Spiritual Portals

Victory Is Yours: Overcome Life’s Challenges God's Way

Helping Your Kids Know God's Good Design

Living LifeWise: The Good Samaritan

Be Fruitful

God With Us: Lessons From the Incarnation

Letting Go of Your Past

THE PRAYER of JABEZ

The Power of Generosity: Sharing God’s Abundance
