มองอุปสรรค: อาจเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้คาดหวัง

คุณเคยรู้สึกหงุดหงิดใจไหม?

“หงุดหงิดใจ” ฉันก็เคยรู้สึกเช่นนั้น เมื่อสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ฉันมองเห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าในความล่าช้านั้น บางครั้งพระองค์มาในนาทีสุดท้าย ฉันจึงเปลี่ยนจากความหงุดหงิดใจ ไปสู่การตระหนักรู้

ไม่นานมานี้ สามีของฉันจะพาฉันและลูกๆ ไปใช้เวลาด้วยกันที่ซาฟารีเวิล์ด หลังจากที่เขาไม่อยู่บ้านหลายวัน แต่ไปได้ประมาณครึ่งทางก็ถูกโทรตามให้ไปทำงานด่วน การพักผ่อนของเราจึงถูกยกเลิกไป

ฉันที่หงุดหงิดและรู้สึกผิดต่อลูกนิดหน่อย ก็ต้องหันมามองที่พระเจ้า และตัดสินใจว่า แทนที่จะจดจ่ออยู่กับความผิดหวัง ฉันจะหันมามองโอกาสที่อยู่ตรงหน้าดีกว่า

และสถานการณ์ที่ไม่เป็นอย่างที่คาดหวังนี้เอง ทำให้ฉันได้ยินข่าวดีจากไปงานด่วนของสามีในครั้งนั้น พระเจ้าให้โอกาสที่สำคัญและยิ่งใหญ่มากกับเราในงานรับใช้ ซึ่งทำให้ฉันเห็นว่า เรากำลังเข้าใกล้นิมิตที่พระเจ้าเคยเปิดเผยกับเราไว้มากขึ้นไปอีกขั้น แต่เราก็ไม่ลืมที่จะชดเชยให้ลูกที่ต้องผิดหวังในวันนั้น หลังจากนั้นสามีของฉันก็พาลูกไปเที่ยวด้วยกันจนได้ ฉันเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีแผนการพิเศษในวันนั้น และเพื่อสิ่งที่จะตามมาในอนาคต

บางครั้ง เรายังคงหยุดอยู่ตรง “ไฟแดง” รอจนกว่าพระเจ้าจะเคลียร์ทางให้เรา แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พระองค์ก็กำลังหยุดการจราจรในอีกถนนหนึ่ง และเปิดไฟเขียวทุกดวงให้พร้อม มันอาจเป็นเส้นทางที่ต่างออกไป โอกาสที่ต่างออกไป แต่สายตาของเรากลับจับจ้องอยู่ที่แผนการเดิมของเรา จนมองไม่เห็นโอกาสพิเศษที่อยู่ตรงหน้าเลย

ดังที่พระคัมภีร์กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า ““เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า และทางของพวกเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา” พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ” (อิสยาห์ 55:8)

พระเจ้าไม่ทรงคิดอย่างที่เราคิด พระองค์ทรงรู้ทุกอย่าง

เป็นไปได้ว่าคุณอาจมีภาพในใจของความฝันที่ชัดเจนมาก จนคุณพลาดโอกาสที่อยู่ตรงหน้าคุณเอง ฉันขอเชิญคุณพิจารณา “ไฟเขียว” เหล่านั้น ประตูที่พระเจ้าทรงเปิดให้คุณ แม้ว่ามันอาจไม่ตรงกับสิ่งที่คุณคาดหวังก็ตาม

ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางการงานที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจช่วยพัฒนาทักษะของคุณ หรือมื้อเที่ยงแบบกะทันหันกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี ขอให้คุณใส่ใจ “ไฟเขียว” เหล่านั้นให้ดี และแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้าผ่านสิ่งนั้น

คุณคือการอัศจรรย์