เอสเธอร์ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 5 : วันที่ 3 นำไปให้พระเจ้า
ลงลึกในพระคำ
เอสเธอร์ได้เผชิญกับช่วงเวลาที่ต้องใช้ความกล้าหาญและความเชื่ออย่างยิ่งยวด เมื่อเธอยืนต่อหน้ากษัตริย์ เสี่ยงชีวิตของเธอเพื่อช่วยเหลือประชากรของเธอ แต่ความมั่นใจของเธอไม่ได้มาจากความเข้มแข็งของเธอเอง เธอได้เตรียมใจด้วยการอธิษฐาน การอดอาหาร และไว้วางใจในพระเจ้า เธอรู้ว่าหน้าที่ของเธอ คือ การเชื่อฟังเท่านั้น ส่วนผลลัพธ์นั้นอยู่ในมืออันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า
เราสามารถเรียนรู้ได้มากมายจากตัวอย่างของเอสเธอร์ เมื่อเราเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลหรือความไม่แน่นอน เราสามารถนำความต้องการของเราไปหาพระเจ้าได้ เช่นเดียวกับที่เอสเธอร์ได้ทำ ฟีลิปปี 4:6 เตือนเราว่า เราไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล เพราะเรามีพระเจ้าผู้รับฟัง โดยผ่านการอธิษฐาน เราสามารถวางความกังวลของเราไว้ที่เท้าของพระองค์ โดยวางใจว่า พระองค์จะประทานสิ่งที่เราต้องการอย่างครบถ้วนตามเวลาอันสมบูรณ์แบบของพระองค์
กุญแจสำคัญคือการรู้ว่า ความมั่นใจของเราไม่ได้มาจากความสามารถในการควบคุมสถานการณ์ แต่มาจากความสัตย์ซื่อของพระเจ้า พระองค์รู้สิ่งที่เราต้องการก่อนที่เราจะขอ และพระองค์ทำงานอยู่เสมอ แม้ในยามที่เรามองไม่เห็น เมื่อเรามอบความกังวลของเราไว้กับพระเจ้า เราจะพบกับสันติสุขที่เกินความเข้าใจ โดยรู้ว่า ชีวิตของเราอยู่ในมือของพระเจ้าผู้รักเรามากกว่าที่เราจะสามารถจินตนาการได้
เพื่อนรัก วันนี้มีอะไรทำให้คุณวิตกกังวลหรือไม่? นำเรื่องนั้นไปให้พระเจ้าผ่านคำอธิษฐาน เชื่อว่าพระองค์รับฟังคุณ และปล่อยให้สันติสุขของพระองค์เข้ามาแทนที่ความวิตกกังวลของคุณ พระเจ้าสัตย์ซื่อและพระองค์จะไม่ทอดทิ้งคุณแน่นอน
อธิษฐาน พระเยซูเจ้าข้า ขอบพระคุณพระองค์ที่รับฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ และทราบถึงความต้องการของข้าพระองค์ แม้กระทั่งก่อนที่ข้าพระองค์จะเอ่ยปากขอ ขอช่วยให้ข้าพระองค์ปล่อยวางความวิตกกังวลทั้งหลายไว้กับพระองค์ และวางใจว่า พระองค์กำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อข้าพระองค์ ขอเติมเต็มหัวใจของข้าพระองค์ด้วยสันติสุข ขณะที่ข้าพระองค์พักพิงในความรักอันไม่สิ้นสุด และการสถิตอยู่เคียงข้างของพระองค์เสมอ ขอบพระคุณที่อยู่กับข้าพระองค์ในทุกย่างก้าว อาเมน
*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน
1. S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน
2. O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?
3. A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?
4. P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ

ในโลกที่ท้าทายความเชื่อของเราวันแล้ววันเล่า การเข้มแข็ง กล้าหาญ และลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าที่เคย แม้ว่าพระเจ้าจะไม่ถูกเอ่ยถึงในพระธรรมเอสเธอร์ แต่ลายนิ้วมือของพระองค์ปรากฏอยู่ทั่วเรื่องราวความจริงนี้ เอสเธอร์เป็นเรื่องราวเหนือกาลเวลา ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเราในปัจจุบันเช่นเดียวกับชาวยิวที่ได้ประสบเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้านำเด็กหญิงกำพร้าธรรมดาๆ คนหนึ่งขึ้นเป็นราชินีของประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุดในสมัยนั้น เรื่องราวของเอสเธอร์เตือนใจเราว่า พระเจ้ากำลังทำงานอยู่เสมอ จากเรื่องนี้ เราเรียนรู้ว่า ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "บังเอิญ" แม้ว่าบางครั้งพระเจ้าอาจดูเหมือนอยู่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งเหมือนไม่มีอยู่จริง แต่พระองค์ทรงอยู่ และพระองค์อยู่กับเราเสมอและกำลังทำงานในชีวิตของเรา "เพื่อเวลาเช่นนี้" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกความเชื่อเหนือความกลัว และก้าวไปข้างหน้าด้วยการเชื่อฟัง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เรื่องราวอันน่าทึ่งของ "คนธรรมดา" ที่กลายเป็น "คนสำคัญ" นี้ เหมาะสำหรับพวกเราทุกคน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเลือกที่จะกล้าหาญและทำสิ่งที่ถูกต้องท่ามกลางความไม่แน่นอน เราอาจไม่เห็นพระเจ้าทำงานในชีวิตของเราเสมอไป แต่เราเชื่อว่า พระองค์อยู่ในทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับที่พระองค์อยู่กับเอสเธอร์
More
เราขอขอบคุณ รักพระเจ้ามหาศาล ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ thai.lovegodgreatly.com