เอสเธอร์ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 4 : วันที่ 4 พูดความจริงด้วยความรัก
ลงลึกในพระคำ
หนึ่งในคุณลักษณะสำคัญของผู้นำที่ดี คือ การรักในความจริง ผู้นำที่ชอบธรรมไม่เพียงแต่พูดความจริง แต่ยังเห็นคุณค่าของการรับฟังความจริงด้วย แม้ว่าความซื่อสัตย์จะไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ใช่ไหม? สำหรับพวกเราบางคน การพูดความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องยาก อาจเป็นเรื่องที่น่ากลัว และสำหรับบางคน การรับฟังความจริงเกี่ยวกับตัวเองอาจเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า
เฝ้าเดี่ยวในวันนี้ เราเห็นถึงความสำคัญของการพูดในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงเพื่อความจริงเท่านั้น แต่เพราะมันสะท้อนถึงหัวใจที่สอดคล้องกับพระเจ้า ผู้นำที่ดีจะชื่นชมยินดีในผู้ที่พูดอย่างซื่อสัตย์และชอบธรรม แม้ว่าบางครั้งยากที่จะรับฟังก็ตาม ในฐานะผู้ติดตามพระคริสต์ เราถูกเรียกให้เป็นคนที่ดำเนินชีวิตและรักความจริงในทุกด้านของชีวิต ซึ่งหมายถึง การพูดความจริงด้วยความเมตตาและความถ่อมใจ และรับฟังความจริงด้วยความกรุณา แม้ในยามที่ความจริงนั้นท้าทายเรา
ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อไตร่ตรองดู คุณรู้สึกว่าการพูดความจริงหรือการรับฟังความจริงจากคนอื่นง่ายกว่าไหม? ทั้งสองอย่างล้วนต้องการความกล้าหาญและความถ่อมใจ การพูดความจริงด้วยความรักอาจทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ แต่บ่อยครั้งสิ่งนี้กลับนำมาซึ่งการเยียวยารักษา การฟื้นฟู และการเติบโต การรับฟังความจริง แม้ว่าจะเผยให้เห็นถึงด้านที่เราต้องเปลี่ยนแปลง แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของเราเพื่อจะเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น
เพื่อนที่รัก พระเจ้าปีติยินดีในความจริง และพระองค์เรียกเราให้สะท้อนหัวใจของพระองค์โดยวิธีนี้ ไม่ว่าเราจะพูดหรือฟัง ขอให้เราพยายามถวายเกียรติแด่พระองค์โดยการยึดมั่นในความจริงด้วยความรัก โดยรู้ว่าการทำเช่นนี้ จะทำให้เราเติบโตในด้านสติปัญญาและพระคุณมากขึ้น
อธิษฐาน พระเยซูเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพระองค์ให้เป็นผู้หญิงที่รักความจริงในทุกรูปแบบ โปรดประทานความกล้าหาญ เพื่อข้าพระองค์จะพูดความจริงด้วยความเมตตาและความถ่อมใจ และโปรดมอบพระคุณเพื่อข้าพระองค์จะยอมรับความจริงด้วยหัวใจที่เปิดกว้าง ขอให้คำพูดและการกระทำของข้าพระองค์สะท้อนความจริงของพระองค์ในทุกสิ่งที่ทำ อาแมน
*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน
1. S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน
2. O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?
3. A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?
4. P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ

ในโลกที่ท้าทายความเชื่อของเราวันแล้ววันเล่า การเข้มแข็ง กล้าหาญ และลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าที่เคย แม้ว่าพระเจ้าจะไม่ถูกเอ่ยถึงในพระธรรมเอสเธอร์ แต่ลายนิ้วมือของพระองค์ปรากฏอยู่ทั่วเรื่องราวความจริงนี้ เอสเธอร์เป็นเรื่องราวเหนือกาลเวลา ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเราในปัจจุบันเช่นเดียวกับชาวยิวที่ได้ประสบเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้านำเด็กหญิงกำพร้าธรรมดาๆ คนหนึ่งขึ้นเป็นราชินีของประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุดในสมัยนั้น เรื่องราวของเอสเธอร์เตือนใจเราว่า พระเจ้ากำลังทำงานอยู่เสมอ จากเรื่องนี้ เราเรียนรู้ว่า ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "บังเอิญ" แม้ว่าบางครั้งพระเจ้าอาจดูเหมือนอยู่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งเหมือนไม่มีอยู่จริง แต่พระองค์ทรงอยู่ และพระองค์อยู่กับเราเสมอและกำลังทำงานในชีวิตของเรา "เพื่อเวลาเช่นนี้" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกความเชื่อเหนือความกลัว และก้าวไปข้างหน้าด้วยการเชื่อฟัง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เรื่องราวอันน่าทึ่งของ "คนธรรมดา" ที่กลายเป็น "คนสำคัญ" นี้ เหมาะสำหรับพวกเราทุกคน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเลือกที่จะกล้าหาญและทำสิ่งที่ถูกต้องท่ามกลางความไม่แน่นอน เราอาจไม่เห็นพระเจ้าทำงานในชีวิตของเราเสมอไป แต่เราเชื่อว่า พระองค์อยู่ในทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับที่พระองค์อยู่กับเอสเธอร์
More
เราขอขอบคุณ รักพระเจ้ามหาศาล ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ thai.lovegodgreatly.com