เอสเธอร์ตัวอย่าง

สัปดาห์ที่ 3 : วันที่ 1 แสวงหาที่ปรึกษาที่เฉลียวฉลาดและสัตย์ซื่อ
ลงลึกในพระคำ
กษัตริย์อาหสุเอรัสเชื่อมั่นว่า ฮามานมีเจตนาดีต่อพระองค์ พระองค์เชื่อคำแนะนำของฮามานและนั่งดื่มกับเขาโดยไม่ทราบถึงความพินาศที่คำแนะนำของฮามานจะนำมาให้ สุภาษิต 25:19 ให้ภาพที่ชัดเจนว่า การไว้ใจคนที่ไม่คู่ควรแก่การไว้วางใจนั้นเป็นอย่างไร เป็นเหมือนกับการกัดฟันที่หัก ซึ่งเจ็บปวดและไม่มั่นคง หรือการเดินบนข้อเท้าที่แพลง ซึ่งช้าและไม่มั่นคง
เราทุกคนเคยมีช่วงเวลาที่ไว้ใจคนผิด บางทีคำแนะนำของพวกเขาดูเหมือนจะฉลาดในตอนนั้น หรือบางทีเราอาจอยากจะเชื่อว่าพวกเขาหวังดีกับเรา แม้ว่าในใจเราจะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างก็ตาม แต่เช่นเดียวกับกษัตริย์อาหสุเอรัส ในที่สุดเราก็ตระหนักได้ว่า การไว้ใจคนที่ใจคดเคี้ยวจะนำไปสู่ความเจ็บปวดและความเสียใจ ซึ่งเป็นเครื่องเตือนใจว่า การใช้สติปัญญาพิจารณาไตร่ตรองนั้นสำคัญเพียงใด เมื่อต้องรับฟังเสียงของคนอื่นและยอมให้คนอื่นมีอิทธิพลต่อชีวิตเรา
พระเจ้าเรียกเราให้แสวงหาคำปรึกษาจากผู้มีปัญญาและสัตย์ซื่อ ผู้ที่ไม่เพียงแต่พูดความจริง แต่พูดด้วยความปรารถนาดีต่อเรา และยิ่งกว่านั้น พระองค์เรียกเราให้วางใจในพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด สติปัญญาของพระเจ้านั้นมั่นคงและแน่นอน ไม่เหมือนคำแนะนำของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมา เมื่อเราวางรากฐานแห่งความไว้วางใจในพระองค์ เราก็สามารถมั่นใจได้ว่า พระองค์จะนำเราไปบนพื้นฐานที่มั่นคง แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก
วันนี้ใช้เวลาไตร่ตรองดูว่า คุณกำลังขอคำแนะนำและการชี้แนะจากใคร? คนเหล่านั้นกำลังนำคุณเข้าใกล้พระเจ้ามากขึ้น หรือดึงคุณออกห่างจากความจริงของพระองค์? จงทูลขอสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อจะได้รู้ว่า ใครควรมีสิทธิ์มีเสียงในชีวิตของคุณ และจงเชื่อว่าพระองค์จะช่วยคุณ
อธิษฐาน พระเยซูเจ้า ขอช่วยข้าพระองค์ให้วางใจในผู้ที่มีความปรารถนาดีต่อข้าพระองค์ และแสวงหาพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด โปรดประทานสติปัญญา เพื่อข้าพระองค์จะได้มองเห็นอย่างชัดเจนเมื่อคำแนะนำของใครบางคนไม่สอดคล้องกับความจริงของพระองค์ และนำทางข้าพระองค์ให้ดำเนินไปตามแผนการที่พระองค์มีไว้สำหรับชีวิตของข้าพระองค์ เอเมน
*ในการศึกษาพระคัมภีร์ เราใช้วิธีศึกษาแบบ SOAP ซึ่งย่อมาจาก S (Scripture) พระคัมภีร์, O (Observation) สังเกต, A (Application) ประยุกต์ใช้ และ P (Prayer) อธิษฐาน
1. S - scripture (พระคัมภีร์) เขียนข้อพระคัมภีร์ลงไป คุณจะประหลาดใจกับสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยแก่คุณเพียงแค่ใช้เวลาช้าลงและเขียนสิ่งที่คุณกำลังอ่าน
2. O - observation (สังเกต) คุณเห็นอะไรในข้อที่คุณกำลังอ่าน? เป้าหมายคือใคร? มีคำซ้ำกันมั้ย? คำไหนที่โดดเด่นสำหรับคุณ?
3. A - application (ประยุกต์ใช้) วันนี้พระเจ้ากำลังพูดอะไรกับคุณ? คุณจะนำสิ่งที่คุณเพิ่งอ่านไปประยุกต์ใช้กับชีวิตส่วนตัวของคุณได้อย่างไร? คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? คุณต้องลงมือทำสิ่งใดหรือไม่?
4. P - prayer (อธิษฐาน) อธิษฐานพระวจนะของพระเจ้าใช้เวลาขอบคุณพระองค์ หากพระองค์ทรงเปิดเผยบางสิ่งแก่คุณในช่วงเวลานี้ผ่านพระคำของพระองค์ อธิษฐานเกี่ยวกับสิ่งนั้น หากพระองค์ทรงเปิดเผยความบาปบางอย่างในชีวิตของคุณ สารภาพมัน และจำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณอย่างสุดซึ้ง
ข้อพระคัมภีร์
เกี่ยวกับแผนฯ

ในโลกที่ท้าทายความเชื่อของเราวันแล้ววันเล่า การเข้มแข็ง กล้าหาญ และลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าที่เคย แม้ว่าพระเจ้าจะไม่ถูกเอ่ยถึงในพระธรรมเอสเธอร์ แต่ลายนิ้วมือของพระองค์ปรากฏอยู่ทั่วเรื่องราวความจริงนี้ เอสเธอร์เป็นเรื่องราวเหนือกาลเวลา ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเราในปัจจุบันเช่นเดียวกับชาวยิวที่ได้ประสบเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้านำเด็กหญิงกำพร้าธรรมดาๆ คนหนึ่งขึ้นเป็นราชินีของประเทศที่ทรงอำนาจมากที่สุดในสมัยนั้น เรื่องราวของเอสเธอร์เตือนใจเราว่า พระเจ้ากำลังทำงานอยู่เสมอ จากเรื่องนี้ เราเรียนรู้ว่า ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "บังเอิญ" แม้ว่าบางครั้งพระเจ้าอาจดูเหมือนอยู่ห่างไกล หรือแม้กระทั่งเหมือนไม่มีอยู่จริง แต่พระองค์ทรงอยู่ และพระองค์อยู่กับเราเสมอและกำลังทำงานในชีวิตของเรา "เพื่อเวลาเช่นนี้" เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเลือกความเชื่อเหนือความกลัว และก้าวไปข้างหน้าด้วยการเชื่อฟัง ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม เรื่องราวอันน่าทึ่งของ "คนธรรมดา" ที่กลายเป็น "คนสำคัญ" นี้ เหมาะสำหรับพวกเราทุกคน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเลือกที่จะกล้าหาญและทำสิ่งที่ถูกต้องท่ามกลางความไม่แน่นอน เราอาจไม่เห็นพระเจ้าทำงานในชีวิตของเราเสมอไป แต่เราเชื่อว่า พระองค์อยู่ในทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับที่พระองค์อยู่กับเอสเธอร์
More
เราขอขอบคุณ รักพระเจ้ามหาศาล ที่ให้แผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดไปที่ thai.lovegodgreatly.com