ความสำคัญของความเชื่อ

ในเช้าวันอังคาร พระเยซูและสาวกของพระองค์กลับไปยังเยรูซาเล็ม พวกเขาผ่านต้นมะเดื่อที่เหี่ยวแห้งระหว่างทาง และพระเยซูตรัสกับเพื่อนร่วมทางของพระองค์อีกครั้ง เกี่ยวกับความสำคัญของความเชื่อ

ความเชื่อของคุณเป็นอย่างไรในวันนี้? ใช้เวลาสักครู่และครุ่นคิดเกี่ยวกับคำถามนี้ และจากนั้น ขอให้คุณเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการอธิษฐาน ที่คุณขอให้พระเจ้าประทานความเชื่อที่มากยิ่งขึ้นให้กับคุณ

ขอให้เราเดินทางกลับมาที่พระวิหารกันต่อ ผู้นำทางศาสนาในเวลานั้นไม่พอใจพระเยซู ที่สถาปนาตัวเองเป็นผู้มีสิทธิอำนาจทางจิตวิญญาณ พวกเขาจัดการซุ่มโจมตีโดยตั้งใจจะจับกุมพระองค์ แต่พระเยซูหลบหลีกกับดักของพวกเขา และประกาศการพิพากษาอย่างรุนแรงต่อพวกเขา โดยตรัสว่า…

"คนนำทางตาบอด!...เพราะพวกท่านเหมือนอุโมงค์ฝังศพที่ฉาบด้วยปูนขาว ภายนอกดูสวยงาม แต่ภายในเต็มไปด้วยกระดูกคนตายและความโสโครกทั้งสิ้น ภายนอกพวกท่านดูเหมือนคนชอบธรรม แต่ภายในจิตใจของพวกท่านเต็มไปด้วยความหน้าซื่อใจคดและความชั่วช้า...พวกงู! ชาติงูพิษ! พวกท่านจะหนีพ้นจากการพิพากษาลงโทษในนรกได้อย่างไร?" (มัทธิว 23:24-33)

ฉันขอเชิญคุณใช้เวลาสั้นๆ และสารภาพสิ่งใดก็ตามในชีวิตของคุณ ที่อาจไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย ให้เราขอพระเยซูทำให้ใจของเรา เป็นพื้นที่แห่งชีวิต ไม่ใช่ความตาย

กลับมาสู่เหตุการณ์ในวันนั้นของพระเยซู ช่วงบ่ายของวันนั้น พระเยซูออกจากเมืองและไปกับสาวกของพระองค์ ไปยังภูเขามะกอกเทศ ณ ที่นี่ พระเยซูได้เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับยุคสุดท้าย ซึ่งเหมือนกับที่พระองค์ตรัสไว้ในคำอุปมา โดยใช้ภาษาเชิงสัญลักษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ยุคสุดท้าย รวมถึงการเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ และการพิพากษาครั้งสุดท้าย

เราพบอะไรในช่วงเวลานี้? เราพบความจริงและพระสัญญาว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา พระองค์จะเสด็จกลับมา และคำอธิษฐานของฉันคือ เราจะยึดมั่นในความหวังนี้ไว้ในวันนี้

นอกจากนี้ พระคัมภีร์ยังบอกด้วยว่าวันอังคารนี้เป็นวันที่ยูดาส อิสคาริโอท เจรจาต่อรองกับผู้นำทางศาสนาในสมัยนั้น เพื่อทรยศพระเยซู (ดู มัทธิว 26:14-16)

วันนี้ เราสามารถเชิญพระเยซูเข้ามามีส่วนในชีวิตของเราได้ เข้ามาในบางสิ่งบางอย่างที่เรากำลังทำ ซึ่งอาจเป็นสิ่งเดียวกับที่ยูดาสได้ทำก็ได้ วันนี้ เราสามารถเอาชนะการทรยศ และเลือกเส้นทางที่บริสุทธิ์และมหัศจรรย์ของพระเยซูได้ ให้เราอธิษฐานด้วยกัน ขณะที่เราตั้งใจในใจของเราที่จะไม่ทำสิ่งใดในวันนี้ ที่จะเป็นการทรยศต่อความรักและการเสียสละของพระเยซู

“พระเยซู เราขอบคุณสำหรับการเดินทางของพระองค์ ไปยังภูเขามะกอกเทศ เราขอบคุณพระองค์ ที่ได้ประทานความหวังแห่งการเสด็จกลับมาอย่างมีชัยของพระองค์ ตอนนี้เราขออธิษฐานตามคำอธิษฐานของสดุดี 139 ว่า… “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงรู้จักจิตใจของข้าพระองค์ ขอทรงทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์ และขอทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใดๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางนิรันดร์” (สดุดี 139:23-24)”

อย่าให้ความอับอายครอบงำคุณ นั่นไม่ได้มาจากพระเยซู แต่จงยอมรับความจริงจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่สัญญาว่าไม่มีการกล่าวโทษสำหรับผู้ที่อยู่ในพระเยซูคริสต์ ขอให้คุณยึดมั่นในความหวังที่ว่า… เราสามารถเติบโตต่อไป และจงเลือกความจงรักภักดีแทนการทรยศ

คุณคือการอัศจรรย์