พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025ตัวอย่าง

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

วันที่ 363 จาก 365

มงกุฎของคุณกำลังมา

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เสด็จขึ้นครองบัลลังก์ในปี ค.ศ. 1952 ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในคริสตจักรเวสท์มินสเตอร์ แอบบีย์ พระองค์ได้รับพระคัมภีร์ การเจิมแต่งตั้ง และสวมมงกุฎโดยอาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี่ พระราชพิธีพัชราภิเษกของพระองค์ เป็นการเฉลิมฉลองข้ามชาติเนื่องในวาระครบรอบหกสิบของการขึ้นครองราชย์ของพระองค์ จุดสำคัญอยู่ที่ช่วงสุดสัปดาห์ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2012 ที่เต็มไปด้วยงานสังสรรค์ตามท้องถนนและการแสดงดนตรี มีรอบนมัสการแห่งการขอบพระคุณ และพิธีเฉลิมฉลองทางแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 300 ปี ทั่วทั้งประเทศต่างมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลอง วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2017 พระองค์ทรงเป็นพระมหาราชินีแห่งอังกฤษที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดถึง 65 ปี ตามที่ถูกกล่าวถึงในพันธสัญญาใหม่ คริสเตียนทุกคนจะได้รับมงกุฎและครอบครองยาวนานกว่านั้นอีก และจะมีงานเฉลิมฉลองและความชื่นชมยินดีที่ยิ่งใหญ่กว่าของผู้ปกครองทุกคนบนโลกนี้ คุณจะได้ครอบครอบ*ร่วมกับพระคริสต์* (วิวรณ์ 20:4,6) สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร? ใครครอบครองร่วมกับพระองค์? แล้วการครอบครองนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อใด?

สดุดี 149:1-9

ได้รับเกียรติจากการสวมมงกุฎโดยองค์พระผู้เป็นเจ้า

ประชากรของพระเจ้าถูกเรียกให้เฉลิมฉลองแด่พระผู้สร้างองค์อธิปไตย จอมกษัตริย์ของพวกเขา (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ให้สรรเสริญพระองค์ด้วยการเต้นรำและร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระองค์ (ข้อ 2-3)

เหตุผลก็คือ 'เพราะพระยาห์เวห์ทรงปรีดีในประชากรของพระองค์ พระองค์ประทานชัยชนะเป็นมงกุฎแก่คนที่ถ่อมใจ ให้ผู้จงรักภักดียินดีในเกียรตินี้ ให้พวกเขาร้องเพลงด้วยความยินดีบนที่นอน' (ข้อ 4-5) 'บรรดาผู้ที่รักพระองค์' ต่างก็ 'อยู่ในที่นั่งแห่งเกียรติ' (ข้อ 9, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) มีคำใบ้ซ่อนอยู่ในที่นี้ ในการสวมมงกุฏของประชากรของพระองค์ แห่งการครอบครองร่วมกับพระคริสต์

พระเจ้าทรงปรีดีในการแบ่งปันพระพรของพระองค์กับคุณ และข้อพระคำเหล่านี้เป็นเครื่องเตือนใจคุณได้รับพระพรจากพระองค์มาแล้วมากเพียงใด คุณสามารถปรีดีใน 'มงกุฎ' แห่งความรอดและชื่นชมยินดีในเกียรติในการมีสัมพันธภาพกับพระองค์

ผู้เขียนสดุดีกล่าวต่อไปว่า ประชากรของพระเจ้าจะลงมือพิพากษา ('ดาบสองคมในมือของพวกเขา', ข้อ 6ข) ในพันธสัญญาใหม่ของวันนี้ เราได้เห็นว่าประชากรของพระเจ้าจะร่วมกับพระคริสต์ในการพิพากษา (วิวรณ์ 19:11 เป็นต้นไป) อาวุธยุทโธปกรณ์นั้นไม่ใช่ดาบทั่วไป แต่เป็นดาบสองคมแห่งพระวจนะของพระเจ้า (ฮีบรู 4:12)

ความรับผิดชอบอันน่าทึ่งและทรงเกียรตินี้อาจทำให้หยิ่งได้ อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรง 'ประทานชัยชนะเป็นมงกุฎแก่คนที่ถ่อมใจ' (สดุดี 149:4) เราไม่สมควรได้รับความรอด นี่คือของประทาน เราไม่สมควรได้รับสิทธิ์ในการครอบครองร่วมกับพระคริสต์ นี่ยังเป็นของประทาน สิทธิพิเศษและเกียรติที่ไม่ธรรมดาด้วยเช่นกัน

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์สวมมงกุฎแห่งความรอดให้ข้าพระองค์ ขอบคุณที่ทรงเรียกให้เราครอบครองร่วมกับพระองค์ ขอบคุณที่ทรงเป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์ และที่ทรงเรียกให้เราได้เป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์

วิวรณ์ 20:1-15

สัมผัสประสบการณ์การครอบครองร่วมกับพระคริสต์ตอนนี้

แม้ว่าราจะตีความเจาะจงพระธรรมตอนนี้ว่าอย่างไร ชัดเจนว่านี่เป็นข่าวดี พระคริสต์จะเสด็จกลับมา ซาตานจะถูกล้มล้าง และคุณจะครอบครองร่วมกับพระเยซูและมีประสบการณ์ในชีวิตนิรันดร์ นี่คือสิ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง!

นี่คือตอนที่ยากที่สุดในพระธรรมวิวรณ์ หนังสือหลาย ๆ เล่ม อรรถาธิบาย และนวนิยายต่างก็พากันเขียนเกี่ยวกับ 'ยุคพันปี' และเมื่อใดที่ 'การรับขึ้นไป' จะอุบัติขึ้น มีแนวคิดที่น่าสนใจในเรื่องนี้ และก็น่าเศร้าที่คริสตจักรแบ่งแยกกันในเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น ผมขอแสดงแนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยความกังวลใจอยู่บ้าง

ยุคพันปี หรือ millennium (พหูพจน์ของ millennia) คือช่วงเวลาเท่ากับ 1,000 ปี เป็นคำที่ได้มาจากภาษาละติน mille คือ หนึ่งพัน annus คือ ปี มีอยู่สองถึงสามครั้ง ที่ช่วงเวลา “หนึ่งพันปี” ถูกกล่าวไว้ (ข้อ 2-7) ช่วงเวลาพันปีนี้คือเมื่อไหร่?? ถ้ามองกว้าง ๆ มีสามแนวคิดด้วยกัน:

  1. แนวคิดหลังยุคพันปี
    นี่คือแนวคิดที่ว่าการกลับมาของพระคริสต์ ที่จะไม่เกิดขึ้นจนกว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะถูกสถาปนาโดยคริสตจักรในประวัติศาสตร์มนุษยชาติเป็นเวลาหนึ่งพันปี

  2. แนวคิดก่อนยุคพันปี
    นี่คือแนวคิดที่ว่าการเสด็จมาของพระคริสต์จะตามมาด้วยการผูกมัดซาตาน และการฟื้นคืนชีพของธรรมิกชนผู้ซึ่งจะถูก 'รับขึ้น' และจะเข้าร่วมกับพระองค์ในอาณาจักรชั่วคราว ที่ซึ่งพระองค์ครอบครองเหนือโลกนี้เป็นเวลาพันปี อาณาจักรพันปีแห่งนี้จะสิ้นสุดลงด้วยการพิพากษาและการกบฎครั้งสุดท้าย

  3. แนวคิดที่ไม่มียุคพันปี
    นี่คือแนวคิดที่ว่าายุคพันปีเป็นช่วงเวลาระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกและครั้งที่สองของพระคริสต์ ตำแหน่งนี้มีช่วงยาวนานหนึ่งพันปี ซึ่งเป็นเพียงภาพเปรียบเทียบ ไม่ใช่ตามตัวอักษรและการรับขึ้นไปจะเกิดขึ้นเมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ยังมีช่องว่างสำหรับความคิดเห็นที่แตกต่างระหว่างคริสเตียนด้วยกันในเรื่องนี้ โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามีความยากลำบากในทั้งสามแนวคิด อย่างไรก็ตาม เมื่อเราอ่านพระธรรมตอนนี้ในบริบทของพันธสัญญาใหม่ที่เหลือ และมองภาพรวมของพระคัมภีร์ทั้งเล่ม ผมมองว่า ทั้ง ๆ ที่ยังมีการโต้แย้งในสิ่งที่ไม่ตรงกันกัน แนวคิด 'ไม่มียุคพันปี' ดูมีหลักฐานประกอบมากที่สุด

ดังที่เราได้เห็น ภาษาส่วนใหญ่ในพระธรรมวิวรณ์เป็น ภาษาที่ใช้ในการพยากรณ์ถึงวันสิ้นโลก และไม่ได้ตีความออกมาตามตัวอักษร 'หนึ่งพันปี' หมายถึงช่วงเวลาอันยาวนานแต่ไม่ได้ระบุว่าช่วงเวลาเอาไว้ อะไรคือหลักฐานที่แสดงว่าช่วงเวลาหนึ่งพันปีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว?

ประการแรก ซาตานถูกผูกมัด (ข้อ 2) มารถูกให้คำจำกัดความว่า 'พญานาคที่เป็นงูดึกดำบรรพ์ผู้ซึ่งเป็นมารและซาตาน' (ข้อ 2) โดยการเสด็จมา พระเยซูทรงพิชิตซาตาน พระองค์ทรงผูกมัด 'คนที่มีกำลังมาก' (มาระโก 3:27, มัทธิว 12:29) บนไม้กางเขน ซาตานพ่ายแพ้และถูกโยนลงไป 'ในบาดาลลึก' ซึ่งถูก 'ใส่กุญแจและประทับตราไว้' (วิวรณ์ 20:3)

ประการที่สอง ประชาชาติจะไม่ถูกล่อลวงอีกต่อไปในช่วงเวลานี้ 'เพื่อไม่ให้มันล่อลวงประชาชาติต่าง ๆ ได้อีกต่อไป จนครบหนึ่งพันปี' (ข้อ 3) นี่เป็นยุคของคริสตจักร เมื่อพระกิตติคุณถูกแพร่ออกไปสู่ทุกชนทุกชาติ หลายล้านคน และตอนนี้หลายพันล้านคนจะเอ่ยพระนามของพระคริสต์ ดวงตาของพวกเขาจะถูกเปิดเพื่อข่าวประเสริฐแห่งพระเยซู

ประการที่ 3 ตามที่อัครทูตเปาโลกล่าวไว้ เราได้ครอบครองร่วมกับพระคริสต์แล้ว ผู้ที่ตายเพื่อพระคริสต์แล้วกลับเป็นขึ้นมาและประชากรของพระเจ้าจะได้ร่วมครอบครองกับพระคริสต์เป็นเวลาหนึ่งพันปี 'ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์หลายบัลลังก์ และผู้ที่นั่งอยู่บนนั้นได้รับมอบอำนาจในการพิพากษา…ครอบครองร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลาหนึ่งพันปี' (ข้อ 4) ดังที่เปาโลกล่าวไว้ว่า 'และพระองค์ทรงทำให้เราเป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์ และทรงให้เรานั่งด้วยกันกับพระองค์ในสวรรคสถานในพระเยซูคริสต์' (เอเฟซัส 2:6)

ประการที่ 4 คุณถูกเรียกให้ครอบครองในฐานะ 'ปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์' (วิวรณ์ 20:6) ความเป็นปุโรหิตของผู้เชื่อทุกคนได้เริ่มขึ้นแล้ว เราถูกเรียกให้เป็น 'ปุโรหิตบริสุทธิ์' (1 เปโตร 2:5) เปโตรก็ได้กล่าวว่าเรานั้นเป็น 'ปุโรหิตหลวง' (ข้อ 9)

ในช่วงท้ายสุดของช่วงเวลานี้ ซาตานจะ 'ถูกปล่อยออกจากคุกที่ขังมัน' (วิวรณ์ 20:7) และความขัดแย้งสุดท้ายจะอุบัติขึ้น เราได้เห็นอีกครั้งแล้วว่านี่ไม่ใช่ความขัดแย้งใด ๆ เลย แต่จะเป็นชัยชนะของพระเยซูที่พระองค์ทำสำเร็จแล้ว การทำลายล้างมารจะเสร็จสมบูรณ์ (ข้อ 8-10) จากนั้น การพิพากษาครั้งสุดท้ายจะอุบัติขึ้น (ข้อ 11-15)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่พระองค์ทำให้พระคริสต์เป็นขึ้นมาใหม่และประทับในสวรรคสถาน ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ใช้ทุกโอกาสอย่างเต็มกำลังความสามารถที่จะนำข่าวประเสริฐไปสู่ประชาชาติ

เนหะมีย์ 9:38-11:21

บริหารสิทธิอำนาจที่พระเจ้าประทานให้อย่างรับผิดชอบ

ในพระคัมภีร์เดิมหลายๆ ตอน เราคาดการณ์ได้ล่วงหน้าเกี่ยวกับอนาคต พระเจ้าพอพระทัยในประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงตั้งเราไว้ในตำแหน่งแห่งสิทธิอำนาจในการปกครองและครอบครอง อย่างไรก็ตาม เราก็ถูกเรียกให้บริหารสิทธิอำนาจนี้ด้วยความเชื่อฟัง และรับผิดชอบ (10:35)

ประชากรของพระเจ้าทำข้อตกลงผูกมัดเป็นลายลักษณ์อักษร เหล่าผู้นำ เลวีและปุโรหิตร่วมประทับตรา (9:38) พวกเขาสัญญาว่าจะรักษาธรรมบัญญัติและ 'ปฏิญาณ กับคำแช่งสาปและคำสาบานว่าจะติดตามธรรมบัญญัติของพระเจ้า' (10:29)

ปัญหาของพวกเขาก็เช่นเดียวกับเราคือไม่สามารถรักษาธรรมบัญญัติได้ เราจึงสมควรต้องอยู่ภายใต้คำแช่งสาปของพระเจ้า แต่ความเป็นจริงคือพระเยซูทรงแบกรับเอาคำแช่งสาปไปเพื่อเราทั้งหมดบนไม้กางเขน (กาลาเทีย 3:13)

เราถูกเรียกให้ทำจังหวะชีวิตให้สมดุลกัน ทั้งในด้านการทำงานและการพักผ่อน

ประชากรของพระเจ้าต้องรักษาวันสะบาโต และทุก ๆ ปีที่เจ็ด ให้งดการทำงานทุกอย่างบนผืนดินและยกเลิกหนี้ทั้งหมด (เนหะมีย์ 10:31) พวกเขาต้องถวายเครื่องบูชาลบล้างบาป(ข้อ 33)

พวกประมุขของประชาชนอาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม (11:1) จากพระธรรมตอนนี้เห็นได้ชัดเจนว่าชุมชนเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญา การรักษาธรรมบัญญัติเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ไม่ใช่แค่กษัตริย์และเจ้านายเท่านั้น

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณที่ข้าพระองค์ถูกเรียกให้มีความรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเอง และที่จะรับใช้พระองค์ และเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ ขอบคุณที่ข้าพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องถวายเครื่องบูชาเพื่อลบล้างบาปอีกต่อไป ขอบคุณที่พระองค์ทรงทำให้ข้าพระองค์เป็นขึ้นมาจากความตายร่วมกับพระเยซูคริสต์ รวมถึงมีชัยชนะเหนือซาตานผ่านการสิ้นพระชนม์และฟื้นพระชนม์ของพระเยซู เพื่อที่จะครอบครองร่วมกับพระองค์ในสวรรคสถาน ซึ่งอยู่เหนือทุกกฎ ทุกอำนาจ ทุกลัทธิ และทุกสิทธิอำนาจ และทุก ๆ ตำแหน่งที่ถูกตั้งขึ้นมา ไม่เพียงในยุคนี้เท่านั้น แต่ในยุคที่จะมาถึงด้วย (เอเฟซัส 1:20-21)

Pippa Adds

วิวรณ์ 20:12ข

'คนตายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของเขาทั้งหลายที่เขียนไว้ในหนังสือเหล่านั้น'

ฉันค่อนข้างเป็นห่วงเรื่องวันพิพากษา ฉันคิดไปไกลว่าในหนังสือนั้นจะเขียนถึงฉันไว้ว่าอย่างไรบ้าง...และฉันก็แอบคิดว่า พระเจ้าจะคิดอย่างไรกับปริมาณการกินช็อกโกแลตของฉันนะ!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

เกี่ยวกับแผนฯ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2025

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี เป็นแผนประจำวันซึ่งจะนำคุณอ่านพระคัมภีร์ทั้งเล่มในเวลาเพียงหนึ่งปี สำหรับใครก็ตามที่มองหาวิธีอ่านพระคัมภีร์แบบง่าย ๆ และมีแบบแผน แต่ละวันจะมีการสำรวจหัวข้อที่แตกต่างกันผ่านข้อพระคัมภีร์ที่คัดสรรมาจากพระธรรมสดุดีหรือสุภาษิต ตลอดจนพันธสัญญาใหม่และพันธสัญญาเดิม พร้อมด้วยคำอธิบายประจำวันจากนิคกี้ และพิพพา กัมเบล เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและนำไปใช้ได้จริง

More

เราขอขอบคุณ Alpha International สำหรับการจัดทำแผนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม bible.alpha.org/th