ฮีบรู 7:15-28

ฮีบรู 7:15-28 THSV11

ข้อนี้ประจักษ์ชัดยิ่งขึ้นอีก เมื่อปรากฏว่ามีปุโรหิตอีกผู้หนึ่งตามแบบอย่างของเมลคีเซเดคเกิดขึ้น ผู้ซึ่งเป็นปุโรหิตโดยไม่ได้รับการแต่งตั้งตามธรรมบัญญัติเรื่องเชื้อสาย แต่โดยฤทธิ์เดชแห่งชีวิตอันไม่สามารถจะทำลายได้ เพราะมีพยานกล่าวถึงพระองค์ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘เจ้าจะเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค’ ” ในด้านหนึ่ง บัญญัติเดิมนั้นก็ได้ยกเลิกไปเพราะมีจุดอ่อนและไร้ประสิทธิภาพ ในอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากธรรมบัญญัตินั้นไม่สามารถทำสิ่งใดให้สมบูรณ์ได้ พระเจ้าจึงทรงให้ความหวังที่ดีกว่านั้น ซึ่งโดยความหวังนั้นเอง เราจึงเข้าใกล้พระเจ้าได้ พระเจ้าทรงยืนยันเรื่องนี้โดยคำปฏิญาณของพระองค์ เพราะว่าคนอื่นๆ เข้ารับตำแหน่งปุโรหิตโดยไม่มีคำปฏิญาณเลย แต่พระเยซูทรงเป็นปุโรหิตโดยมีคำปฏิญาณตรัสถึงพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงปฏิญาณ แล้ว และจะไม่ทรงเปลี่ยนพระทัย เจ้าจะเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์” โดยคำปฏิญาณนี้ พระเยซูจึงทรงเป็นผู้ค้ำประกันพันธสัญญาที่ดีกว่าเก่า ปุโรหิตเผ่าเลวีนั้นมีการสืบตำแหน่งกันหลายคน เพราะความตายขัดขวางไม่ให้พวกเขาปฏิบัติงานได้ตลอดไป แต่พระเยซูองค์นี้ทรงดำรงตำแหน่งปุโรหิตตลอดกาล เพราะพระองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่ชั่วนิรันดร์ เพราะเหตุนี้ พระองค์จึงทรงสามารถช่วยคนทั้งหลายที่เข้ามาใกล้พระเจ้าโดยทางพระองค์นั้นอย่างเต็มที่ เพราะว่าพระองค์ทรงพระชนม์อยู่ทุกเวลา เพื่อทูลขอเผื่อคนเหล่านั้น มหาปุโรหิตเช่นนี้แหละที่เหมาะสำหรับพวกเรา คือเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากอุบาย ไร้มลทิน แยกจากคนบาปทั้งหลาย และอยู่สูงกว่าฟ้าสวรรค์ พระเยซูไม่ต้องนำเครื่องบูชามาทุกๆ วัน (เหมือนอย่างมหาปุโรหิตคนอื่นๆ ที่ตอนแรกถวายสำหรับบาปของตัวเอง แล้วจึงถวายสำหรับบาปของประชาชน) เพราะพระองค์ทรงถวายเครื่องบูชาครั้งเดียวเป็นพอ เมื่อพระองค์ทรงถวายพระองค์เอง เพราะว่าธรรมบัญญัติแต่งตั้งมนุษย์ผู้อ่อนแอให้เป็นมหาปุโรหิต แต่ถ้อยคำปฏิญาณซึ่งตรัสภายหลังธรรมบัญญัตินั้น แต่งตั้งพระบุตรขึ้น ผู้ที่พระเจ้าทำให้เพียบพร้อมชั่วนิรันดร์

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา