พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

สันติภาพในที่มืด
‘ผู้ชายหลายคนไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่า แบร์ กริลส์ นักปีนเขาและนักผจญภัยที่กล้าหาญ’ หนังสือพิมพ์ The Sun เขียนถึงอดีตสมาชิกคนหนึ่งของกองกำลังพิเศษแห่งสหราชอาณาจักร ซีรีส์ผจญภัยทางโทรทัศน์ของเขามีชื่อว่า *ผจญภัยสุดขั้วกับแบร์ กริลส์* (ภาษาอังกฤษ: Man vs. Wild) มีผู้ชมประมาณ 1.2 พันล้านคนในกว่า 180 ประเทศ เมื่อผมอ่านอัตชีวประวัติของเขา ในหนังสือ Mud, Sweat and Tears (โคลน หยาดเหงื่อ และน้ำตา) ผมไม่ได้ออกเดินทางผจญภัยไปในที่ห่างไกลหรือท้าทายตัวเองให้ทำอะไรอย่างเขา ผมรู้สึกทึ่ง ตาตรึงใจ และตกใจกับความอดทนทั้งทางร่างกายและจิตใจของเขา เขารอดชีวิตจากเหตุการณ์มากมายทั้งจาก The SAS (หน่วยรบพิเศษของกองทัพบกบริติช, ขยายความโดยผู้แปล) กระดูกหลังหักจากการกระโดดร่ม การปีนเขาเอเวอเรสต์ การอยู่ในกองทหารต่างประเทศของฝรั่งเศส และผจญความท้าทายไม่ธรรมดาอื่น ๆ มากมาย สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชมในอัตชีวประวัติของแบร์ คือ การเปิดเผยอย่างแช่มชื่นของเขาเกี่ยวกับการดิ้นรนของเขาทั้งภายในและภายนอกจิตใจ เขาเผยถึงความวิตกกังวล ความกลัวความสูง และความรู้สึกอ่อนแอ เป็นความบกพร่องที่ผมเห็นว่าน่าชื่นชม ความเชื่อที่เข้มแข็งอย่างคริสเตียนส่องประกายผ่านความบกพร่องเหล่านี้ เขาเขียนเอาไว้ว่า ‘ความเชื่อในพระคริสต์แสดงพลังอันยิ่งใหญ่ในชีวิตของผม ช่วยให้ผม*ดำเนินไปอย่างเข้มแข็ง*เมื่อบ่อยครั้งเหลือเกินที่ผม*รู้สึกว่าอ่อนแอจริง ๆ*’ ท่ามกลางความยากลำบากของชีวิต และการท้าทายที่ไม่ธรรมดา พระคริสต์ทรงเป็นพลังซึ่งสถิตอยู่กับเรา และนำสันติสุขมาให้แก่เรา ‘สวัสดิภาพที่สมบูรณ์’ (อิสยาห์ 26:3) ทำให้ผมนึกถึงวันหนึ่งในฤดูร้อนที่สวยงามและสงบสุข นึกถึงการนั่งที่ริมทะเลสาบรกร้างโดยไม่สนใจโลก และไม่มีการล่อลวง ไม่มีปัญหาใด ๆ ไม่มีเรื่องยุ่งยากให้ต้องรับมือ ‘สวัสดิภาพที่สมบูรณ์’ ในสถานการณ์เช่นนั้นจะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจหรือพิเศษไม่ธรรมดา แต่จากที่เราได้ใคร่ครวญในพระคัมภีร์ เป็นที่แน่ชัดว่าพระสัญญาเรื่อง ‘สวัสดิภาพที่สมบูรณ์’ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สวัสดิภาพของพระเจ้ามาถึงคุณแม้ในที่มืด ท่ามกลางการต่อสู้กับอุปสรรคและความท้าทายที่ยากลำบากที่สุดของคุณสดุดี 106:32-39
การล่อลวง
การล่อลวงที่ผู้คนของพระเจ้าประสบในอดีต ในหลาย ๆ รูปแบบนั้นไม่ต่างจากที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ‘ริมฝีปากของเขาพูดถ้อยคำหุนหัน’ (ข้อ 33) ‘แต่ท่านได้ปะปนกับประชาชาติเหล่านั้น และหัดทำอย่างที่พวกเขาทำกัน ท่านปรนนิบัติรูปเคารพของพวกเขา ซึ่งกลายเป็นบ่วงสำหรับท่าน’ (ข้อ 35-36)
คุณถูกเรียกให้อยู่ ‘ในโลก’ แต่ไม่ใช่เป็น ‘ของโลก’ นี่เป็นความตึงเครียดที่ยากลำบาก ในขณะที่คุณคลุกคลีอยู่กับผู้ไม่เชื่อในสิ่งที่คุณเชื่อหรือวิถีชีวิตของคุณ คุณจะถูกล่อลวงให้รับเอาธรรมเนียมปฏิบัติของพวกเขาและการบูชารูปเคารพของพวกเขา รูปเคารพในศตวรรษที่ 21 ได้แก่ เงิน เรื่องทางเพศ อำนาจ และชื่อเสียง อิทธิพลของสิ่งเหล่านี้ที่มีต่อเรานั้นเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างมาก
เราควรจะสามารถชื่นชมกับของประทานที่ดีทั้งหมดที่พระเจ้าประทานแก่เราโดยไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใด ๆ หรือนมัสการสิ่งอื่นใดนอกจากพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
จดหมายถึง Diognetus (จดหมายฉบับแรกที่ปกป้องศาสนาคริสต์จากข้อกล่าวหาของนักวิจารณ์) เขียนในศตวรรษที่ 2 บรรยายวิถีชีวิตของคริสเตียน ดังนี้
พวกเขาอาศัยอยู่ในประเทศของตนเอง แต่ในฐานะคนต่างด้าวเท่านั้น พวกเขามีส่วนร่วมในทุกสิ่งในฐานะพลเมืองและอดทนต่อทุกอย่างในฐานะคนต่างด้าว แผ่นดินของต่างชาติทุกแห่งคือบ้านเกิดของพวกเขา และสำหรับพวกเขาแล้ว บ้านเกิดทุกแห่งเป็นแผ่นดินของต่างชาติไป... มันเป็นความจริงที่พวกเขา ‘อยู่ในเนื้อหนัง’ แต่พวกเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่ ‘ตามเนื้อหนัง’
พวกเขายุ่งอยู่กับโลก แต่สัญชาติของพวกเขาอยู่ในสวรรค์ พวกเขาเชื่อฟังพระบัญญัติที่กำหนดขึ้น และในชีวิตของพวกเขาเอง พวกเขาปฏิบัติมากยิ่งกว่าที่พระบัญญัติได้กำหนดไว้... พวกเขายากจน แต่ก็ยังทำให้คนมากมายร่ำรวย...คริสเตียนอาศัยอยู่ในโลก แต่ไม่ใช่ของโลก
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยข้าพระองค์ไม่ให้บูชารูปเคารพตามวัฒนธรรม หรือใช้ขนบธรรมเนียมของผู้คนที่ข้าพระองค์ใช้เวลาอยู่กับพวกเขาภายนอกคริสตจักร ขอช่วยข้าพระองค์ให้ยืนหยัดต่อการล่อลวงเหล่านี้และประสบกับ ‘สวัสดิภาพที่สมบูรณ์’ ของพระองค์
2 โครินธ์ 11:16-33
การทดลอง
ฝ่ายตรงข้ามของเปาโลตกอยู่ในกับดักที่เตือนเอาไว้ในสดุดี 106 พวกเขารับเอาธรรมเนียมของโลกรอบตัว และบูชารูปเคารพ พวกเขา ‘อวดตามเนื้อหนัง’ (ข้อ 18) พวกเขาอวดความสำเร็จของพวกเขา หมกมุ่นอยู่กับวัฒนธรรมแห่งชื่อเสียง ความสำเร็จ และวาทศิลป์จัดจ้าน
การโอ้อวดของพวกเขาเป็นเหตุให้เปาโลต้องโอ้อวดในแบบที่ต่างออกไป พวกเขาก็เหมือนคนทั้งโลกที่โอ้อวดเกี่ยวกับจุดแข็งของพวกเขา แต่เปาโลบอกว่า ถ้าท่านจะต้องโอ้อวด ท่าน ‘จะอวดสิ่งที่แสดงถึงความอ่อนแอของ[ข้าพเจ้า]’ (ข้อ 30)
ท่านกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ตัวเองเคยผ่านมา ไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปที่คนส่วนใหญ่จะโอ้อวด เป็นเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่จะละอายใจที่จะพูดถึง ไม่แม้แต่รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เรื่องราวเหล่านั้นรวมไปถึงการถูกคุมขังอยู่บ่อยครั้ง การถูกเฆี่ยมตีห้าครั้งจากพวกยิว ‘เฆี่ยนข้าพเจ้าห้าครั้ง ครั้งละสามสิบเก้าที ข้าพเจ้าถูกตีด้วยไม้สามครั้ง ถูกก้อนหินขว้างครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเผชิญภัยเรือแตกสามครั้ง ข้าพเจ้าลอยอยู่ในทะเลวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ข้าพเจ้าเดินทางบ่อย ๆ ข้าพเจ้าเผชิญภัยในแม่น้ำ เผชิญโจรภัย เผชิญภัยจากชนชาติของข้าพเจ้าเอง เผชิญภัยจากคนต่างชาติ เผชิญภัยในเมือง เผชิญภัยในป่า เผชิญภัยในทะเล เผชิญภัยจากพี่น้องจอมปลอม ต้องตรากตรำและลำบาก ต้องอดหลับอดนอนบ่อย ๆ ต้องหิวและกระหาย ต้องอดข้าวบ่อย ๆ ต้องทนหนาวและเปลือยกาย’ (ข้อ 23-27) เรื่องราวที่เกิดขึ้นจบลงด้วยการกระทำที่ดูเหมือนจะเป็นการหลบหนีจากการจับกุมที่น่าอับอาย (ข้อ 32-33)
นอกจากนี้ เปาโลยังกล่าวถึงทำงานหนักของท่าน (ข้อ 23) การเดินทางของท่าน (ข้อ 26) ที่ท่านต้อง ‘ต้องตรากตรำและลำบาก ต้องอดหลับอดนอนบ่อย ๆ’ (ข้อ 27) ทั้งยังมีความกดดันในแต่ละวันจากความกังวลของตนเอง (ความวิตกกังวล) เกี่ยวกับคริสตจักรทั้งสิ้น (ข้อ 28) และความเจ็บปวดที่ท่านประสบเมื่อคริสเตียนถูกชักนำไปสู่ความบาป (ข้อ 29) ท่านมีความวิตกกังวล ความเครียด และความท้าทายมากมายในชีวิต
ถึงแม้ว่าทั้งหมดนี้ เปาโลมักจะพูดถึงสันติสุขที่เป็นมาจากพระเจ้าที่เขาได้มีประสบการณ์ และอธิษฐานเผื่อผู้อื่นให้ได้รับประสบการณ์เดียวกัน ‘สวัสดิภาพที่สมบูรณ์’ ของพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการทดลองใด ๆ ที่ต้องเผชิญ สันติสุขที่ไม่ธรรมดาของเขาคือพระสัญญาของพระเจ้าแม้จะมีการทดลอง ผมไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีสันติสุขในเรือนจำ ถูกเฆี่ยนตี เรืออับปาง ตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลา และอื่น ๆ อีกมากมาย ทว่านี่คือสิ่งที่อัครสาวกเปาโลน่าจะเคยประสบมาก่อน
เปาโลเขียนไว้ว่า ‘อย่ากระวนกระวายในสิ่งใด ๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์’ (ฟิลิปปี 4:6-7)
อี.เอช. บิคเกอร์สเตธ เขียนไว้ว่า ‘สันติสุขและสวัสดิภาพที่สมบูรณ์ในโลกแห่งบาปที่มืดมนนี้อย่างนั้นหรือ? พระโลหิตของพระเยซูทรงกระซิบว่าสันติสุขอยู่ภายใน’
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยพวกข้าพระองค์ในการทดลอง การวิพากษ์วิจารณ์ การโศกเศร้า การล่อลวง ความเจ็บป่วย และความห่วงใยต่อคริสตจักรทั้งหมด แม้ในที่มืดโปรดช่วยข้าพระองค์ให้อยู่ในทางที่รู้จัก ‘สวัสดิภาพที่สมบูรณ์’ ของพระองค์
อิสยาห์ 24:1-26:21
ความวางใจ
อิสยาห์เขียนไว้ว่า ‘พระองค์จะทรงพิทักษ์ผู้มีใจแน่วแน่ไว้ในสวัสดิภาพที่สมบูรณ์ ['ผู้ที่จิตใจของเขาอยู่กับพระองค์' พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล] เพราะเขาวางใจในพระองค์ จงวางใจในพระยาห์เวห์เป็นนิตย์ เพราะยาห์คือพระยาห์เวห์ ทรงเป็นศิลานิรันดร์’ (26:3-4) นี่คือความลับของสวัสดิภาพที่สมบูรณ์ อันมาจากการวางใจในพระเจ้า แม้จะมีการทดลองและการล่อลวง ‘เรารอคอยพระองค์ เพื่อพระองค์จะทรงช่วยเรา’ (25:9)
เมื่อเราคิดมากเกินไปเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้ ปัญหาหลายอย่าง ความท้าทายหลายประการ และความรับผิดชอบมากมายที่เรากำลังเผชิญอยู่ เราจะเป็นกังวลและวิตกได้ง่าย แต่ในการทดลองและการล่อลวงทั้งหมดในขีวิต พระเจ้าสัญญาว่าจะทำให้คุณอยู่ในสวัสดิภาพที่สมบูรณ์หากคุณหันความคิดของคุณไปหาพระเจ้า และให้ความคิดของคุณ ‘คงอยู่’ ในพระองค์ วางใจในพระองค์
ในการอ่านของวันนี้ อิสยาห์ดูเหมือนจะคาดการณ์จุดจบของโลก จะมีการพิพากษาทำลายล้าง (บทที่ 24) แต่มันจะเป็นวันแห่งชัยชนะด้วย (บทที่ 25)
พระองค์ทรงเล็งเห็นถึงงานเลี้ยงแห่งสวรรค์ว่า ‘บนภูเขานี้ พระยาห์เวห์จอมทัพจะทรงจัดเลี้ยงชนทุกชาติคืองานเลี้ยงด้วยของอ้วนพี และด้วยเหล้าองุ่นที่ตกตะกอนแล้ว’ (25:6) ‘พระองค์จะทรงกลืนความตายเสียเป็นนิตย์ แล้วพระยาห์เวห์องค์เจ้านายจะทรงเช็ดน้ำตาจากทุกใบหน้า และจะทรงเอาการลบหลู่แห่งชนชาติของพระองค์ไปจากทั้งแผ่นดินโลก’ (ข้อ 8)
อิสยาห์ดูเหมือนจะมองเห็นท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ที่กล่าวถึงในหนังสือวิวรณ์ เมื่อพระเจ้า ‘จะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของเขาทั้งหลาย และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความโศกเศร้า การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นผ่านไปแล้ว’ (วิวรณ์ 21:4)
ผู้เผยพระวจนะกล่าวต่อไปว่า ‘คนตายของพระองค์จะมีชีวิตอีก ศพของพวกเขาจะลุกขึ้น โอ ผู้อาศัยในผงคลี จงตื่นขึ้น และโห่ร้องด้วยความชื่นบาน’ (อิสยาห์ 26:19) อาจจะเป็นได้ว่านี่เป็นข้ออ้างอิงในพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่ชัดเจนเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีวิตทางร่างกายของแต่ละบุคคล ชี้ไปถึงการฟื้นคืนพระชนม์ทางกายของพระเยซูผู้ทรงเป็น ‘ผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย’ (โคโลสี 1:18)
พระเยซูได้พิชิตความตายและด้วยเหตุนี้จึงเอาชนะความกลัวจากความตาย และความกลัวหรือวิตกกังวลในเรื่องอื่น ๆ ได้เช่นกัน เพราะพระเยซู อนาคตของคุณจึงปลอดภัย คุณไม่จำเป็นต้องกังวลหรือวิตกเกี่ยวกับความตายหรือสิ่งอื่นใด วางใจอนาคตของคุณไว้กับพระองค์ หันความคิดของคุณไปหาพระองค์ และเริ่มสัมผัสกับความคงเส้นคงวาและสวัสดิภาพที่สมบูรณ์ของพระองค์
ข้าแต่พระเจ้า ‘จิตใจของข้าพระองค์ปรารถนาพระองค์ในกลางคืน... พระองค์จะทรงทำให้เกิดสวัสดิภาพแก่พวกข้าพระองค์ เพราะทุกสิ่งที่พวกข้าพระองค์ทำนั้น พระองค์ทรงทำเพื่อข้าพระองค์... ข้าพระองค์รับรู้แต่พระนามของพระองค์เท่านั้น’ (อิสยาห์ 26:9, 12-13)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขอมอบเหตุทั้งปวงที่เป็นไปได้ว่าทำให้เกิดความวิตกกังวลนี้แก่พระองค์... และข้าพระองค์วางใจในพระองค์
Pippa Adds
อิสยาห์ 26:3
‘พระองค์จะทรงพิทักษ์ผู้มีใจแน่วแน่ไว้ในสวัสดิภาพที่สมบูรณ์ เพราะเขาวางใจในพระองค์’
มีหลายอย่างที่ฉันกังวลถึง ฉันกำลังจะทำรายการเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในใจ และหลังจากนั้นก็จะมอบเรื่องพวกนั้นไว้กับพระเจ้า และพยายามรับเอาความสุขใน ‘สันติภาพที่สมบูรณ์’
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Zkus se modlit

Milost ve vašem příběhu

Svoboda

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Porazit sebevědomí a úzkost

Radujme se

Uvědomit si, že Bůh mě miluje
