Logo YouVersion
Ikona vyhledávání

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

พระเยซูคริสต์ทรงสถิตในคุณ

ผมเอานวมชกมวยมาช่วยในการนำเสนอ ผมห้อยเอาไว้แล้วแสดงให้เห็นว่ามันไร้ประสิทธิภาพเพียงใดเมื่อไม่มีมือสวมอยู่ จากนั้นผมก็เอามือเข้าไปในนวม ชกแล้วชกอีกในอากาศ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความแตกต่างระหว่างพลังของนวมชกมวยที่ว่างเปล่ากับนวมที่มีมือสวมอยู่ ย้อนไปในอดีต ผมได้ไปบรรยายในเรือนจำสำหรับวัยรุ่นในอ็อกฟอร์ด ตอนนั้นผมเป็นนักศึกษาศาสนศาสตร์ และได้รับโอกาสให้บรรยายในโถงที่จัดนมัสการ อนุศาสนาจารย์ในเรือนจำที่ช่วยฝึกฝนผมที่สถานกักกันดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าภาพนั้นอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมสำหรับกรณีของการเทศนาในเรือนจำ เพราะมันอาจบ่งบอกว่าพระเยซูและความรุนแรงมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด! แต่ตัดประเด็นเรื่องนัยยะของการใช้กำลัง เขาเห็นด้วยว่าการเปรียบเปรยของผมเป็นการเปรียบเทียบที่ดี สิ่งที่ผมพยายามจะอธิบายคือความแตกต่างที่เกิดขึ้นเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาอยู่ในคุณโดยพระวิญญาณของพระองค์ ถ้าไม่มีพระวิญญาณ เราก็อ่อนแอ (2 โครินธ์ 13:4) เหมือนถุงมือที่ไม่มีมือสวม แต่เมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาอยู่ในตัวคุณ คุณมีฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าในชีวิตของคุณ (ข้อ 4-5) หากคุณ ‘ตระหนัก’ (ข้อ 5) สิ่งนี้จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ

สุภาษิต 22:17-27

เติมเต็มหัวใจของคุณด้วยสติปัญญาของพระเจ้า

หัวใจของคุณแข็งแรงแค่ไหน? คุณได้เติมเต็มหัวใจด้วยสติปัญญาของพระเจ้าหรือไม่? สิ่งที่คุณนำเข้าปากมีผลต่อสุขภาพกายของคุณ เช่นเดียวกับสิ่งที่คุณใส่เข้าไปในหัวใจก็มีความสำคัญเช่นกัน

ผู้เขียนพระธรรมตอนนี้แนะนำให้คุณรักษาสติปัญญาที่มาจากพระคำของพระเจ้าไว้ในใจของคุณ ‘เก็บความหวานไว้ภายใน’ และเตรียมมันให้พร้อมที่ริมฝีปากของคุณ เพื่อที่ ‘รากฐานของคุณคือการไว้วางใจในพระเจ้า...’ (ข้อ 17-19ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เมื่อคุณเรียนรู้สติปัญญาจากพระคัมภีร์ (ตัวอย่างเช่น โดยการท่องจำข้อพระคัมภีร์) ความไว้วางใจของคุณในพระเจ้าจะยิ่งลึกซึ้งขึ้น (ข้อ 19)

จากนั้นเขาได้เขียนสามสิบ ‘หลักการ อันเป็นแนวทางการใช้ชีวิตที่ได้รับทดสอบไปแล้ว’ (ข้อ 20, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เป็นสามสิบ ‘ความจริงที่ได้ผล’ (ข้อ 21, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ซึ่งบางข้อในช่วงแรกนั้นนำมาให้อ่านในวันนี้ด้วย:

  1. วิธีปฏิบัติต่อคนยากจนและคนขัดสน จงใจดี อย่าเอาเปรียบพวกเขา อย่าบีบคั้นพวกเขา (ข้อ 22-23)
  2. วิธีหลีกเลี่ยงการติดกับความโกรธและอารมณ์ร้าย: ‘อารมณ์ร้ายสามารถติดต่อสู่กันได้ อย่าไปติดเชื้อเข้า’ (ข้อ 24-25, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
  3. คำเตือนเกี่ยวกับการพนันและคำแนะนำในทางปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ อย่าค้ำประกันหนี้ให้แก่คนอื่น (ข้อ 26-27)

สิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้เป็นหลักการอันชาญฉลาดที่ช่วยให้คุณมีชีวิตที่ดี หัวใจของสติปัญญาเป็นสิ่งที่เหนือไปกว่าการแนะนำที่ดี มันเกี่ยวกับการ ‘วางใจในพระยาห์เวห์’ (ข้อ 19)

ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ เราเรียนรู้ว่าพระเยซูทรงเป็น ‘พระปัญญา' ของพระเจ้า (1 โครินธ์ 1:30) เพราะพระเยซูสถิตอยู่ในคุณ คุณจึงมีพระปัญญาของพระเจ้าอยู่ในหัวใจ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ในใจของข้าพระองค์ โดยพระวิญญาณของพระองค์ ขอบคุณสำหรับฤทธิ์อำนาจของพระวจนะของพระเจ้า ช่วยข้าพระองค์ให้อ่าน เรียนรู้ ไตร่ตรอง และเตรียมคำพูดของพระองค์ไว้บนริมฝีปากของข้าพระองค์ เพื่อให้ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเยซูคริสต์

2 โครินธ์ 13:1-14

ตระหนักว่าพระเยซูคริสต์สถิตอยู่ในคุณ

คุณตระหนักหรือไม่ว่าพระเยซูคริสต์ทรงสถิตอยู่ในตัวคุณ? อัครสาวกเปาโลไม่สงสัยเลยว่าพระเยซูคริสต์ทรงสถิตอยู่ในท่าน เขาตระหนักในคำพูดที่เขาพูดกับชาวโครินธ์ว่า ‘พระคริสต์ตรัสทางข้าพเจ้า’ (ข้อ 3)

เปาโลได้เปรียบในการพบการทรงสถิตของพระเยซูคริสต์ที่ฟื้นคืนพระชนม์ เขาเขียนไว้ด้วยความมั่นใจอย่างมากว่า ‘เพราะว่าแม้พระองค์ทรงถูกตรึงเพราะทรงยอมอ่อนแอ แต่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่เพราะฤทธานุภาพของพระเจ้า เพราะว่าถึงแม้เราอ่อนแอในพระองค์ แต่ต่อพวกท่าน เราจะมีชีวิตอยู่ด้วยกันกับพระองค์เนื่องด้วยฤทธานุภาพของพระเจ้า’ (ข้อ 4)

การสำรวจตนเองมีความสำคัญและแตกต่างจากการกล่าวโทษตัวเองโดยสิ้นเชิง อาจารย์เปาโลกระตุ้นให้ชาวโครินธ์ ‘สำรวจและทดสอบ และประเมินตนเองเพื่อดูว่าพวกท่านกำลังยึดมั่นในความเชื่อของตนและแสดงออกมาเป็นผลที่เหมาะสมแล้วหรือไม่’ (ข้อ 5ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) จุดประสงค์ของการสำรวจตนเองคือเพื่อให้คุณเห็นสิ่งที่ผิดในชีวิต ยอมรับมัน หันหลังให้กับมัน และมีเสรีภาพจากสิ่งที่ผิดโดยทางพระเยซูคริสต์

เปาโลกระตุ้นชาวโครินธ์ตระหนักว่าพระเยซูคริสต์ทรงสถิตอยู่ในเขาเช่นไร ‘พระเยซูคริสต์สถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย’ เช่นนั้น (ข้อ 5) ทั้งยังพูดถึงเราที่อยู่ในพระคริสต์บ่อยกว่าพระคริสต์ในตัวเรา แต่ถึงอย่างไร ข้อความที่เขาพูดตรงข้ามนั้นช่างน่าทึ่ง ในโคโลสี บทที่ 1 ข้อ 27 อาจารย์เปาโลเขียนว่า ‘พระคริสต์สถิตในพวกท่าน อันเป็นความหวังที่จะได้รับศักดิ์ศรี’ และเขาได้เขียนไว้ในพระธรรมตอนนี้เช่นกันว่าพระคริสต์สถิตอยู่ในคุณ และความแตกต่างทำให้เกิดคำถามว่า ‘พวกท่านไม่ตระหนักว่าพระเยซูคริสต์สถิตอยู่ในท่านทั้งหลายหรือ?' (2 โครินธ์ 13:5)

การสถิตของพระเยซูเปลี่ยนความอ่อนแอของเราให้เป็นกำลัง (ข้อ 9) นี่คือเหตุผลที่เขาอธิษฐานเพื่อความสมบูรณ์ (ข้อ 9) และสามารถกระตุ้นให้พวกเขา ‘กลับสู่สภาพดีดังเดิม’ (ข้อ 11)

แน่นอนว่าไม่มีใครในพวกเราจะบรรลุถึงความสมบูรณ์แบบในชีวิตนี้ การเป็นพวกชอบความสมบูรณ์แบบนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ แต่พวกเราทุกคนสามารถตั้งเป้าที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบกับพระเจ้าและกันและกันได้ เปาโลทรงวิงวอนชาวโครินธ์ว่า ‘จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และพระเจ้าแห่งความรักและสันติสุขจะสถิตกับท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 11)

เป็นไปได้อย่างไรกัน? ตอนนี้เปาโลลงท้ายด้วยคำว่า ‘พระคุณ’: ‘ขอพระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเยซูคริสต์ ความรักของพระเจ้า และการสามัคคีธรรมของพระวิญญาณบริสุทธิ์จงสถิตอยู่กับท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 14)

ตรีเอกานุภาพทั้งหมดถูกรวมเข้ามาเป็น ‘พระคุณอันน่าอัศจรรย์’ (ข้อ 14ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ของพระเยซูที่ช่วยให้คุณได้รับการอภัยและชำระให้สะอาดอยู่เสมอ นี่คือ ‘ความรักอันเหลือล้นของพระเจ้า’ (พระบิดา) (ข้อ 14ข, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ซึ่งเติมเต็มหัวใจของคุณที่ช่วยให้คุณตั้งเป้าหมายสำหรับความรักที่สมบูรณ์แบบ นี่คือ ‘มิตรภาพที่ใกล้ชิดของพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 14ค, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ของพระเยซูที่สถิตอยู่ในคุณที่ช่วยให้คนไม่สมบูรณ์แบบเติบโตเป็นผู้ใหญ่และวันหนึ่งได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ต่อหน้า เช่นนี้เท่านั้นจึงนับเป็นความสมบูรณ์แบบ

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ภายในข้าพระองค์ ขอให้พระคุณอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์หลั่งไหลออกมาจากทุกสิ่งที่ข้าพระองค์ทำ เติมเต็มข้าพระองค์ในวันนี้ให้มีความรู้เกี่ยวกับความรักที่ฟุ่มเฟือยของพระองค์ และมิตรภาพที่ใกล้ชิดของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์

อิสยาห์ 30:19-32:20

รู้ว่าความรักของพระเจ้าเทลงในหัวใจของคุณโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์

เป็นผลของวันเพ็นเทคอสต์ที่พระวิญญาณของพระคริสต์มาสถิตอยู่ในตัวคุณ ความรักที่พระเจ้ามีต่อคุณถูกเทลงในหัวใจของคุณ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเยซู (โรม 5:5) พระวิญญาณของพระองค์ทำให้คุณตระหนักว่าคุณเป็นลูกของพระเจ้าและพระคริสต์สถิตอยู่ในคุณ

ในพระธรรมตอนนี้ อิสยาห์เห็นภาพของพระเจ้าในหกรูปแบบ:

1., พระอาจารย์
พระเจ้าเป็นครูของคุณ พระองค์ทรงสอนคุณผ่าน ‘ขนมปังแห่งความยากลำบากและน้ำแห่งความทุกข์ใจแก่พวกท่าน' (อิสยาห์ 30:20) บ่อยครั้งที่เราเผชิญความยากลำบากในชีวิตเป็นช่วงเวลาที่เราเรียนรู้ได้มากที่สุด พระเยซูทรงพรรณาถึงพระองค์เองว่าเป็น ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า’ และ ‘พระอาจารย์’ ของคุณ (ยอห์น 13:14)

2. ผู้ทรงนำ
‘และเมื่อท่านหันไปทางขวา หรือหันไปทางซ้าย หูของท่านจะได้ยินคำพูดจากข้างหลังท่านว่า “นี่เป็นหนทาง จงเดินในทางนี้”’ (อิสยาห์ 30:20) พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำทางและทรงนำคุณไปตามทางแคบที่นำไปสู่ชีวิต

3. ผู้รักษา
‘พระยาห์เวห์ทรงพันรอยแผลชนชาติของพระองค์ และรักษารอยช้ำ’ (ข้อ 26) บ่อยครั้งเมื่อผู้คนพบพระเยซูครั้งแรก พวกเขาประสบกับการเยียวยาความเจ็บปวดจากอดีต การรักษานี้เป็นกระบวนการที่จะเป็นไปตลอดชีวิต

4. กษัตริย์
พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์ผู้ ‘จะปกครองในทางที่ถูกต้อง แลผู้นำของพระองค์จะดำเนินการตามความยุติธรรม’ (บทที่ 32 ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระองค์ทรงปกครองชีวิตเราโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งสถิตอยู่ภายในเรา

5. สติปัญญา
พระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดและสติปัญญาของเรา (บทที่ 31 ข้อ 1-3) อิสยาห์เตือนว่าอย่าวางใจในกำลังของเราแทนที่จะมองหาพระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลและการแสวงหาความช่วยเหลือจากพระเจ้า (ข้อ 1) พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นแหล่งของปัญญาในชีวิตของเรา

6. แม่
พระองค์เป็นเหมือนแม่นกที่จะปกป้องกรุงเยรูซาเล็มและช่วยมันให้รอด (บทที่ 31 ข้อ 5, ดู ลูกา บทที่ 13 ข้อ 34) พระเจ้าเป็นทั้งพ่อและแม่สำหรับเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์มักโยงไปยังด้านที่เป็นสตรีในธรรมชาติของพระเจ้า

พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็น ‘พระวิญญาณของพระเยซู' (กิจการ 16:7) โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูเสด็จมาอยู่ในตัวคุณ

ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ดูเหมือนจะมองเห็นวันเพ็นเทคอสต์เมื่อ ‘พระวิญญาณถูกเทลงมาบนเราจากเบื้องบน’ (อิสยาห์ 32:15ก, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

‘ทรงเทพระวิญญาณจากเบื้องบนลงมาบนเรา... ความยุติธรรม... ความชอบธรรม... สันติสุข... ความเงียบสงบและความวางใจเป็นนิตย์... ปลอดภัย... ในที่พักสงบ... ความสุขจะมีกับพวกท่าน’ (ข้อ 15-20)

การหลั่งไหลของพระวิญญาณนำไปสู่ผลอันยิ่งใหญ่แห่งความชอบธรรมและสันติสุข (ความสงบ ความมั่นใจ ความปลอดภัย และการพักสงบ) นำไปสู่การหว่านอย่างใจกว้างและเสรีภาพ พระเจ้าสัญญากับคุณว่าถ้าคุณดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ คุณจะได้รับพระพรมากมายในชีวิตนี้และในชีวิตนิรันดร์

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับสิทธิพิเศษของการมีชีวิตอยู่ในยุคของพระวิญญาณ ยุคที่ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์เหลือบมองเห็น ขอบพระคุณที่ตอนนี้ข้าพระองค์สามารถสัมผัสการทรงสถิตได้อย่างเต็มที่ ขณะที่พระเยซูคริสต์ทรงสถิตอยู่ภายในข้าพระองค์โดยพระวิญญาณของพระองค์

Pippa Adds

อิสยาห์ 30:21

'และเมื่อท่านหันไปทางขวา หรือหันไปทางซ้าย หูของท่านจะได้ยินคำพูดจากข้างหลังท่านว่า “นี่เป็นหนทาง จงเดินในทางนี้”’

ฉันสนใจเสมอว่าเสียงนั้นอยู่ ‘ข้างหลังคุณ’ และไม่ได้อยู่ข้างหน้าคุณ คุณต้องก้าวออกไปด้วยความเขื่อ ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคุณกำลังไปไหน คุณอาจจะต้องก้าวออกไปในที่ที่ไม่รู้จัก แต่ในขณะที่คุณทำเช่นนั้น คุณต้องตั้งใจฟังเสียงนั้นที่อยู่ข้างหลังคุณ กระซิบข้างหูว่า ‘ไปต่อ นี่แหละคือทางนั้น’

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

O tomto plánu

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More