โรม 14:1-23

โรม 14:1-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ให้​ยอมรับ​คน​ที่​ยัง​มี​ความเชื่อ​อ่อนแอ​อยู่ และ​อย่า​ไป​โต้เถียง​กับ​เขา​ใน​เรื่อง​ความ​คิดเห็น​ที่​แตกต่าง​กัน คน​หนึ่ง​เชื่อ​ว่า​เขา​กิน​ได้​ทุก​อย่าง แต่​คน​ที่​มี​ความเชื่อ​อ่อนแอ​อยู่​กิน​แต่​ผัก​เท่านั้น คน​ที่​กิน​ได้​ทุก​อย่าง​ก็​อย่า​ไป​ดูถูก​คน​ที่​ไม่​ได้​กิน ส่วน​คน​ที่​ไม่​ได้​กิน​ก็​อย่า​ไป​กล่าว​โทษ​คน​ที่​กิน​ทุก​อย่าง เพราะ​พระเจ้า​ยอมรับ​เขา​ไว้​แล้ว คุณ​คิด​ว่า​คุณ​เป็น​ใคร​กัน ถึง​ได้​เที่ยว​ไป​กล่าว​โทษ​คน​ใช้​ของ​คน​อื่น เขา​จะ​ยืนหยัด​หรือ​ล้ม​ลง​ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​เจ้านาย​ของ​เขา แต่​เขา​จะ​ยืนหยัด​ได้​แน่ เพราะ​องค์​เจ้า​ชีวิต​สามารถ​ช่วย​ให้​เขา​ยืนหยัด​อยู่​ได้ คนหนึ่ง​คิด​ว่า​วัน​หนึ่ง​ดี​กว่า​อีก​วัน​หนึ่ง แต่​อีก​คน​หนึ่ง​คิด​ว่า​ทุกๆ​วัน​เหมือนกัน​หมด ใคร​เชื่อ​อย่างไร​ก็​ให้​มั่นใจ​อย่าง​เต็มที่​ใน​สิ่ง​ที่​เชื่อ​นั้น คน​ที่​คิด​ว่า​วัน​หนึ่ง​พิเศษ​กว่า​อีก​วัน​หนึ่ง เขา​ก็​ได้​ทำ​อย่าง​นั้น​เพื่อ​ให้​เกียรติ​กับ​องค์​เจ้า​ชีวิต และ​คน​ที่​กิน​ได้​ทุก​อย่าง ก็​ได้​กิน​เพื่อ​ให้​เกียรติ​กับ​องค์​เจ้า​ชีวิต เพราะ​เขา​ขอบคุณ​พระเจ้า​สำหรับ​อาหาร​นั้น​แล้ว และ​คน​ที่​ไม่​ได้​กิน​ทุก​อย่าง ก็​ได้​ทำ​เพื่อ​ให้​เกียรติ​กับ​องค์​เจ้า​ชีวิต​เหมือน​กัน เพราะ​เขา​ก็​ขอบคุณ​พระเจ้า​แล้ว เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ใน​พวก​เรา​ที่​ใช้​ชีวิต​อยู่ หรือ​ตาย​ไป เพื่อ​ผล​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง เพราะ​ถ้า​เรา​มี​ชีวิต​อยู่ เรา​ก็​อยู่​เพื่อ​องค์​เจ้า​ชีวิต และ​ถ้า​เรา​ตาย เรา​ก็​ตาย​เพื่อ​องค์​เจ้า​ชีวิต ดัง​นั้น​ไม่ว่า​เรา​จะ​อยู่​หรือ​ตาย เรา​ก็​เป็น​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต รู้​ไหม​ว่า​ทำไม​พระคริสต์​ถึง​ได้​ตาย​และ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ใหม่ ก็​เพื่อ​พระองค์​จะ​ได้​เป็น​องค์​เจ้า​ชีวิต​ของ​ทั้ง​คน​ตาย​และ​คน​เป็น​นั่นเอง แล้ว​คุณ​ที่​กิน​แต่​ผัก จะ​ไป​กล่าว​โทษ​พี่น้อง​ของ​คุณ​ที่​กิน​ทุก​อย่าง​ทำไม และ​คุณ​ที่​กิน​ทุก​อย่าง จะ​ไป​ดูถูก​พี่น้อง​ของ​คุณ​ที่​กิน​แต่​ผัก​ทำไม เพราะ​เรา​ทุก​คน​ต่าง​ก็​ต้อง​ยืน​อยู่​ต่อหน้า​พระเจ้า​เพื่อ​ให้​พระองค์​ตัดสิน​ด้วย​กัน​ทั้งนั้น เหมือน​กับ​ที่​พระคัมภีร์​เขียน​ไว้​ว่า “องค์​เจ้า​ชีวิต​พูด​ว่า เรา​มี​ชีวิต​อยู่​แน่​ขนาด​ไหน ก็​ให้​แน่ใจ​ขนาด​นั้น​เลย​ว่า ทุก​หัวเข่า​จะ​ต้อง​กราบลง​ต่อหน้า​เรา และ​ทุก​ลิ้น​จะ​ต้อง​สรรเสริญ​พระเจ้า” ดังนั้น​เรา​ทุก​คน​จะ​ต้อง​รายงาน​เรื่อง​ที่​เรา​ได้​ทำ​ไป​ต่อหน้า​พระเจ้า ดังนั้น​หยุด​กล่าว​โทษ​กัน​ได้​แล้ว แต่​ให้​ตั้งใจ​ว่า​จะ​ไม่​เป็น​ต้นเหตุ​ทำ​ให้​พี่น้อง​สะดุด​ล้ม​ไป​ทำ​บาป ใน​ฐานะ​คน​ของ​พระเยซู​เจ้า ผม​รู้​และ​เชื่อมั่น​ว่า อาหาร​ทุก​ชนิด​กิน​ได้​หมด แต่​ถ้า​คน​ไหน​คิด​ว่า​กิน​แล้ว​ผิด มัน​ก็​ผิด​สำหรับ​คน​นั้น ถ้า​อาหาร​ที่​คุณ​กิน​นั้น ไป​ทำร้าย​จิตใจ​ของ​พี่น้อง​คุณ แสดง​ว่า​คุณ​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​ความรัก ดังนั้น​อย่า​ให้​การ​กิน​ของ​คุณ​ไป​ทำลาย​คน​ที่​พระคริสต์​ยอม​ตาย​ให้​เลย ที่​คุณ​เชื่อ​ว่า​กิน​ได้​ทุก​อย่าง​นั้น​ก็ดี​แล้ว แต่​อย่า​ให้​ความเชื่อ​ของ​คุณนี้ ทำ​ให้​คน​อื่น​ดูถูก​เอา​ได้ เพราะ​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า ไม่​ได้​เป็น​เรื่อง​ของ​อาหาร​และ​เครื่องดื่ม แต่​เป็น​เรื่อง​ของ​การ​ทำ​ตามใจ​พระเจ้า เรื่อง​สันติสุข และ​เรื่อง​ความ​ชื่นชม​ยินดี​ที่​มา​จาก​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์ คน​ที่​รับใช้​พระคริสต์​อย่างนี้ พระเจ้า​ก็​ชอบใจ​และ​มนุษย์​ก็​นับถือ​ด้วย ดังนั้น​ขอให้​เรา​ตั้งใจ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ก่อ​ให้เกิด​สันติสุข​และ​สิ่ง​ที่​เสริมสร้าง​กัน อย่า​ให้​อาหาร​ที่​คุณ​กิน​นั้น​เป็น​เหตุ​ที่​มา​ทำลาย​งาน​ของ​พระเจ้า​เลย อาหาร​ทุก​อย่าง​กิน​ได้​หมด แต่​มัน​ผิด​ถ้า​หาก​สิ่ง​ที่​คน​นั้น​กิน​เข้า​ไป เป็น​เหตุ​ทำ​ให้​พี่น้อง​สะดุด​ล้ม​ไป​ทำ​บาป คุณ​ทำ​ดี​แล้ว ที่​ยอม​ไม่​กิน​เนื้อสัตว์​หรือ​ดื่ม​เหล้า​องุ่น หรือ​ทำ​อะไร​ก็​แล้ว​แต่ ที่​จะ​มา​เป็น​เหตุ​ทำ​ให้​พี่น้อง​ของ​คุณ​สะดุด​ล้ม​ไป​ทำ​บาป คุณ​เชื่อ​อย่างไร​ใน​เรื่อง​พวกนี้ ก็​ให้​เก็บ​ไว้​ระหว่าง​คุณ​กับ​พระเจ้า คน​ที่​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​เขา​เห็น​ว่า​ดี แล้ว​ใจ​ของ​เขา​ไม่​ฟ้อง​ว่า​ผิด เป็น​คน​ที่​น่า​นับถือ​จริงๆ แต่​คน​ที่​ยัง​กิน​ทั้งๆ​ที่​สงสัย​ว่า​ผิด พระเจ้า​จะ​ตัดสิน​ว่า​เขา​ผิด เพราะ​เขา​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​ที่​เขา​เชื่อ เพราะ​ทุก​อย่าง​ที่​ไม่​ได้​ทำ​ตาม​ความเชื่อ​ก็​เป็น​บาป

แบ่งปัน
อ่าน โรม 14

โรม 14:1-23 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

จงต้อนรับคนที่ยังมีความเชื่อน้อยอยู่ แต่ไม่ใช่เพื่อให้โต้เถียงกันในเรื่องที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็ได้ แต่อีกคนหนึ่งที่มีความเชื่อน้อยก็กินแต่ผักเท่านั้น อย่าให้คนที่กินนั้นดูหมิ่นคนที่ไม่กิน และอย่าให้คนที่ไม่กินตัดสินคนที่กิน เพราะว่าพระเจ้าทรงยอมรับเขาแล้ว ท่านเป็นใคร จึงกล่าวโทษบ่าวของคนอื่น? บ่าวคนนั้นจะตั้งมั่นหรือจะล่มจมก็สุดแล้วแต่นายของเขา และเขาจะตั้งมั่นแน่นอน เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถให้เขาตั้งมั่นได้ คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่งดีกว่าอีกวันหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งถือว่าทุกวันเหมือนกัน ขอให้ทุกคนมีความแน่ใจในความคิดเห็นของตนเถิด คนที่ถือวันก็ถือเพื่อถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า คนที่กินทุกสิ่งก็กินเพื่อถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเขาขอบพระคุณพระเจ้า และคนที่ไม่กิน ก็ไม่กินเพื่อถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และยังขอบพระคุณพระเจ้า เราไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง และเราไม่ได้ตายเพื่อตัวเอง ถ้าเรามีชีวิตอยู่ก็เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และถ้าเราตายก็เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะฉะนั้นไม่ว่าเรามีชีวิตอยู่หรือตายไปก็ตาม เราก็เป็นคนขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุนี้เอง พระคริสต์สิ้นพระชนม์และคืนพระชนม์อีก เพื่อจะได้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคนตายและคนเป็น แต่ตัวท่านเล่า ทำไมจึงกล่าวโทษพี่น้องของท่าน? หรือท่านผู้เป็นอีกฝ่ายหนึ่ง ทำไมท่านจึงดูหมิ่นพี่น้องของท่าน? เพราะว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ตรัสว่า ‘เรามีชีวิตอยู่ตราบใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบเรา และทุกลิ้นจะสรรเสริญ พระเจ้า’ ” ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า ดังนั้นอย่าให้เรากล่าวโทษกันและกันอีกเลย แต่จงตัดสินใจดีกว่าว่าจะไม่วางสิ่งซึ่งทำให้พี่น้องสะดุด หรือสิ่งกีดขวางทางของเขา ในฐานะที่ข้าพเจ้าอยู่ในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เชื่อแน่ว่า ไม่มีอะไรที่เป็นมลทินในตัวเองเลย แต่ถ้าใครถือว่าสิ่งใดเป็นมลทินสิ่งนั้นก็เป็นมลทินสำหรับคนนั้น ถ้าพี่น้องเป็นทุกข์เพราะอาหารที่ท่านกิน ท่านก็ไม่ได้ประพฤติตามทางแห่งความรักเสียแล้ว พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อใคร ก็อย่าให้คนนั้นพินาศเพราะอาหารที่ท่านกินเลย ฉะนั้นอย่าให้สิ่งที่ดีสำหรับท่าน เป็นข้อตำหนิติเตียนของคนอื่นได้เลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ คนที่ปรนนิบัติพระคริสต์ในลักษณะนี้ ก็เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า และเป็นที่รับรองของมนุษย์ด้วย เหตุฉะนั้นให้เรามุ่งประพฤติในสิ่งซึ่งทำให้เกิดความสงบสุขและความเจริญแก่กันและกัน อย่าทำลายสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างเพราะเห็นแก่อาหารเลย อาหารทุกอย่างปราศจากมลทินก็จริง แต่การกินอาหารซึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นสะดุด ก็เป็นสิ่งไม่ดี เป็นการดีที่จะไม่กินเนื้อสัตว์หรือเหล้าองุ่นหรือทำสิ่งใดๆ ที่จะเป็นเหตุให้พี่น้องสะดุด จงให้ความเชื่อของท่านเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องระหว่างท่านกับพระเจ้า ใครไม่มีเหตุติเตียนตัวเองในสิ่งที่ตนเห็นชอบแล้วนั้นก็เป็นสุข แต่คนที่มีความสงสัยอยู่นั้น ถ้าเขากินก็มีความผิด เพราะเขาไม่ได้กินตามที่ตนเชื่อ ทั้งนี้เพราะการกระทำใดๆ ที่ไม่ได้เกิดจากความเชื่อก็เป็นบาปทั้งสิ้น

แบ่งปัน
อ่าน โรม 14

โรม 14:1-23 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ส่วนคนที่ยั​งอ​่อนในความเชื่อนั้น จงรับเขาไว้ แต่​มิใช่​เพื่อให้​โต้​เถียงกันในเรื่องความเชื่อที่แตกต่างกันนั้น คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็​ได้​ทั้งนั้น แต่​อี​กคนหนึ่งที่ยั​งอ​่อนในความเชื่ออยู่​ก็​กินแต่ผักเท่านั้น อย่าให้​คนที​่กินนั้นดูหมิ่นคนที่​ไม่ได้​กิน และอย่าให้​คนที​่​มิได้​กินกล่าวโทษคนที่​ได้​กิน เหตุ​ว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดรับเขาไว้​แล้ว ท่านเป็นใครเล่าจึงกล่าวโทษผู้​รับใช้​ของคนอื่น ผู้รับใช้​คนนั้นจะได้​ดี​หรือจะล่มจมก็สุดแล้วแต่นายของเขา และเขาก็จะได้​ดี​แน่นอน เพราะว่าพระเจ้าทรงฤทธิ์สามารถให้เขาได้​ดี​ได้ คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่​งด​ีกว่าอีกวันหนึ่ง แต่​อี​กคนหนึ่งถือว่าทุกวันเหมือนกัน ขอให้​ทุ​กคนมีความแน่ใจในความคิดเห็นของตนเถิด ผู้​ที่​ถือวั​นก​็ถือเพื่อถวายเกียรติ​แด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า และผู้​ที่​ไม่​ถือวั​นก​็​ไม่​ถือเพื่อถวายเกียรติ​แด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ผู้​ที่​กิ​นก​็กินเพื่อถวายเกียรติ​แด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า เพราะเขาขอบพระคุณพระเจ้า และผู้​ที่​มิได้​กิ​นก​็​มิได้​กินเพื่อถวายเกียรติ​แด่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า และยังขอบพระคุณพระเจ้า เพราะในพวกเราไม่​มี​ผู้​ใดมี​ชี​วิตอยู่เพื่อตนเองฝ่ายเดียว และไม่​มี​ผู้​ใดตายเพื่อตนเองฝ่ายเดียว ถ้าเรามี​ชี​วิตอยู่​ก็​มี​ชี​วิตอยู่เพื่อองค์​พระผู้เป็นเจ้า และถ้าเราตายก็ตายเพื่อองค์​พระผู้เป็นเจ้า เหตุ​ฉะนั้นไม่ว่าเรามี​ชี​วิตอยู่หรือตายไปก็​ตาม เราก็เป็นคนขององค์​พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุนี้​เองพระคริสต์จึงได้ทรงสิ้นพระชนม์และได้ทรงเป็นขึ้นมาและทรงพระชนม์​อีก เพื่อจะได้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของทั้งคนตายและคนเป็น แต่​ตั​วท​่านเล่า เหตุ​ไฉนท่านจึงกล่าวโทษพี่น้องของท่าน หรือเหตุไฉนท่านจึ​งด​ูหมิ่นพี่น้องของท่าน เพราะว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่​หน​้าบัลลั​งก​์พิพากษาของพระคริสต์ เพราะมีคำเขียนไว้​ว่า ‘​องค์​พระผู้เป็นเจ้าได้ตรั​สว​่า “เรามี​ชี​วิตอยู่​ฉันใด หัวเข่าทุ​กห​ัวเข่าจะต้องคุกกราบลงต่อเรา และลิ้นทุ​กล​ิ้นจะต้องร้องสรรเสริญพระเจ้า”’ ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า ดังนั้นเราอย่ากล่าวโทษกันและกั​นอ​ีกเลย แต่​จงตัดสินใจเสียดี​กว่า คืออย่าให้​ผู้​หน​ึ่งผู้ใดวางสิ่งซึ่งให้​สะดุด หรือสิ่งซึ่งเป็นเหตุ​ให้​ล้มลงไว้ต่อหน้าพี่​น้อง ข้าพเจ้ารู้และปลงใจเชื่อเป็นแน่ในองค์​พระเยซู​เจ้​าว่า ไม่มี​สิ​่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นมลทินในตัวเองเลย แต่​ถ้าผู้ใดถือว่าสิ่งใดเป็นมลทิน สิ​่งนั้​นก​็เป็นมลทินสำหรับคนนั้น แต่​ถ้าพี่น้องของท่านไม่สบายใจเพราะอาหารที่ท่านกิน ท่านก็​ไม่ได้​ดำเนินตามทางแห่งความรักเสียแล้ว พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อผู้​ใด ก็​อย่าให้คนนั้นพินาศเพราะอาหารที่ท่านกินเลย ฉะนั้นอย่าให้การดีของท่านเป็​นที​่​ให้​เขาติเตียนได้ เพราะว่าอาณาจักรของพระเจ้านั้นไม่​ใช่​การก​ินและการดื่ม แต่​เป็นความชอบธรรมและสันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ ผู้​ที่​ปรนนิบัติ​พระคริสต์ในการเหล่านั้​นก​็เป็​นที​่พอพระทัยพระเจ้า และเป็​นที​่พอใจของมนุษย์​ด้วย เหตุ​ฉะนั้นให้เรามุ่งกระทำในสิ่งซึ่งทำให้​เก​ิดความสงบสุขแก่​กันและกัน และสิ่งเหล่านั้นซึ่งทำให้​เก​ิดความเจริญแก่​กันและกัน อย่าทำลายงานของพระเจ้าเพราะเรื่องอาหารเลย ทุ​กสิ่งทุกอย่างปราศจากมลทิ​นก​็​จริง แต่​ผู้​ใดที่กินอาหารซึ่งเป็นเหตุ​ให้​ผู้​อื่นหลงผิด ก็​มี​ความผิดด้วย เป็นการดี​ที่​จะไม่กินเนื้อสัตว์หรื​อด​ื่​มน​้ำองุ่นหรือทำสิ่งใดๆที่​เป็นเหตุให้​พี่​น้องสะดุด หรือสะดุดใจหรือทำให้​อ่อนกำลัง ท่านมีความเชื่อหรือ จงยึดไว้​ให้​มั่นต่อพระพักตร์​พระเจ้า ผู้​ใดไม่​มี​เหตุ​ที่​จะติเตียนตัวเองในสิ่งที่ตนเห็นชอบแล้​วน​ั้​นก​็​เป็นสุข แต่​ผู้​ที่​ยังสงสัยอยู่​นั้น ถ้าเขากิ​นก​็จะถูกลงพระอาชญา เพราะเขามิ​ได้​กินด้วยความเชื่อ ทั้งนี้​เพราะการกระทำใดๆก็​ตามที่​มิได้​กระทำด้วยความเชื่​อก​็เป็นบาปทั้งสิ้น

แบ่งปัน
อ่าน โรม 14

โรม 14:1-23 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ส่วนคนที่ยังมีความเชื่อน้อยอยู่นั้น จงรับเขาไว้ แต่มิใช่เพื่อให้โต้เถียงกันในเรื่องความเชื่อที่แตกต่างกันนั้น คนหนึ่งถือว่าจะกินอะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่คนที่มีความเชื่อน้อยก็กินแต่ผักเท่านั้น อย่าให้คนที่กินนั้นดูหมิ่นคนที่ไม่ได้กิน และอย่าให้คนที่มิได้กินกล่าวโทษคนที่ได้กิน เพราะว่าพระเจ้าได้ทรงโปรดรับเขาไว้แล้ว ท่านเป็นใครเล่า จึงกล่าวโทษบ่าวของคนอื่น บ่าวคนนั้นจะได้ดีหรือจะล่มจมก็สุดแล้วแต่นายของเขา และเขาก็จะได้ดีแน่นอน เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฤทธิ์อาจให้เขาได้ดีได้ คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่งดีกว่าอีกวันหนึ่ง แต่อีกคนหนึ่งถือว่าทุกวันเหมือนกัน ขอให้ทุกคนมีความแน่ใจในความคิดเห็นของตนเถิด ผู้ที่ถือวันก็ถือเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่กินก็กินเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเขาขอบพระคุณพระเจ้า และผู้ที่ไม่ได้กิน ก็มิได้กินเพื่อถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และยังขอบพระคุณพระเจ้า ในพวกเราไม่มีผู้ใดมีชีวิตอยู่เพื่อตนเองฝ่ายเดียว และไม่มีผู้ใดตายเพื่อตนเองฝ่ายเดียว ถ้าเรามีชีวิตอยู่ ก็มีชีวิตอยู่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และถ้าเราตายก็ตายเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เหตุฉะนั้นไม่ว่าเรามีชีวิตอยู่หรือตายไปก็ตาม เราก็เป็นคนขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุนี้เอง พระคริสต์จึงได้ทรงสิ้นพระชนม์และได้ทรงคืนพระชนม์อีก เพื่อจะได้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของคนตายและคนเป็น แต่ตัวท่านเล่า เหตุไฉนท่านจึงกล่าวโทษพี่น้องของท่าน หรือท่านผู้เป็นอีกฝ่ายหนึ่ง เหตุไฉนท่านจึงดูหมิ่นพี่น้องของท่าน เพราะว่าเราทุกคนต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสว่า <<เรามีชีวิตอยู่แน่นอนฉันใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบเรา และทุกลิ้นจะสรรเสริญพระเจ้า>> ฉะนั้นเราทุกคนจะต้องทูลเรื่องราวของตัวเองต่อพระเจ้า ดังนั้นเราอย่ากล่าวโทษกันและกันอีกเลย แต่จงตัดสินใจเสียดีกว่า ว่าจะไม่วางสิ่งซึ่งทำให้สะดุด หรือสิ่งกีดขวางทางของพี่น้อง ข้าพเจ้ารู้และปลงใจเชื่อเป็นแน่ในองค์พระเยซูเจ้าว่า ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นมลทินในตัวเองเลย แต่ถ้าผู้ใดถือว่าสิ่งใดเป็นมลทินสิ่งนั้นก็เป็นมลทินสำหรับคนนั้น ถ้าพี่น้องของท่านไม่สบายใจเพราะอาหารที่ท่านกิน ท่านก็ไม่ได้ประพฤติตามทางแห่งความรักเสียแล้ว พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อผู้ใด ก็อย่าให้ผู้นั้นพินาศ เพราะอาหารที่ท่านกินเลย ฉะนั้นอย่าให้สิ่งที่ดีสำหรับท่าน เป็นข้อตำหนิติเตียนของผู้อื่นได้เลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้านั้นไม่ใช่การกินและการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรมและสันติสุข และความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ที่ปรนนิบัติพระคริสต์ในการเหล่านั้น ก็เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า และเป็นที่พอใจของมนุษย์ด้วย เหตุฉะนั้นให้เรามุ่งประพฤติ ในสิ่งซึ่งทำให้เกิดความสงบสุขแก่กันและกัน และทำให้เกิดความเจริญแก่กันและกัน อย่าทำลายงานของพระเจ้าเพราะเห็นแก่อาหารเลย อาหารทุกอย่างปราศจากมลทินก็จริง แต่ผู้ใดที่กินอาหารซึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นทำผิด ก็มีความผิดด้วย เป็นการดีที่จะไม่กินเนื้อสัตว์หรือเหล้าองุ่นหรือทำสิ่งใดๆ ที่จะเป็นเหตุให้พี่น้องสะดุด ความเชื่อที่ท่านมีต่อพระเจ้านั้น จงยึดไว้ให้มั่น ผู้ใดไม่มีเหตุที่จะติเตียนตัวเองในสิ่งที่ตนเห็นชอบแล้วนั้น ก็เป็นสุข แต่ผู้ที่มีความสงสัยอยู่นั้นถ้าเขากินก็มีความผิด เพราะเขามิได้กินตามที่ตนเชื่อ ทั้งนี้เพราะการกระทำใดๆ ที่มิได้เกิดจากความเชื่อมั่นก็เป็นบาปทั้งสิ้น

แบ่งปัน
อ่าน โรม 14

โรม 14:1-23 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จงยอมรับผู้ที่อ่อนแอในความเชื่อโดยไม่ตัดสินเขาในเรื่องที่มีความเห็นแตกต่างกัน คนหนึ่งเชื่อว่ากินได้ทุกอย่าง แต่อีกคนหนึ่งซึ่งมีความเชื่ออ่อนแอกินแต่ผักเท่านั้น คนที่กินทุกอย่างอย่าดูถูกคนที่ไม่กิน และคนที่ไม่กินก็อย่ากล่าวโทษคนที่กิน เพราะพระเจ้าทรงยอมรับเขาแล้ว ท่านเป็นใครเล่าที่จะตัดสินบ่าวของคนอื่น? เขาจะได้ดีหรือล้มเหลวก็แล้วแต่นายของเขา และเขาจะได้ดีเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถทำให้เขาได้ดี คนหนึ่งถือว่าวันหนึ่งศักดิ์สิทธิ์กว่าอีกวันหนึ่ง ส่วนอีกคนถือว่าทุกวันเหมือนกันหมด แต่ละคนควรแน่ใจในความคิดเห็นของตนอย่างเต็มที่ ผู้ที่ถือวันหนึ่งวันใดเป็นพิเศษก็ถือเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่กินเนื้อก็กินเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะเขาขอบพระคุณพระเจ้า และผู้ที่ไม่กินก็ไม่กินเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าและขอบพระคุณพระเจ้า เพราะไม่มีพวกเราสักคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเองเท่านั้น และไม่มีพวกเราสักคนที่ตายเพื่อตัวเองเท่านั้น ถ้าเราอยู่ เราก็อยู่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และถ้าเราตาย เราก็ตายเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่หรือตาย เราก็เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุนี้เองพระคริสต์จึงสิ้นพระชนม์และคืนพระชนม์ เพื่อพระองค์จะทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของทั้งคนตายและคนเป็น แล้วท่านเล่าทำไมจึงตัดสินพี่น้องของตน? เหตุใดจึงดูถูกพี่น้องของตน? เพราะพวกเราทั้งหมดจะต้องยืนอยู่หน้าบัลลังก์พิพากษาของพระเจ้า ตามที่มีเขียนไว้ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด ทุกคนจะคุกเข่ากราบลงต่อหน้าเรา ทุกลิ้นจะสารภาพต่อพระเจ้า’ ” ดังนั้นแล้วพวกเราแต่ละคนจะต้องทูลให้การเรื่องราวของตนเองต่อพระเจ้า เหตุฉะนั้นให้เราเลิกตัดสินกัน แต่จงตัดสินใจว่าจะไม่วางสิ่งที่ทำให้สะดุดหรือวางเครื่องกีดขวางในทางของพี่น้อง ในฐานะผู้ที่อยู่ในองค์พระเยซูเจ้า ข้าพเจ้าแน่ใจอย่างเต็มที่ว่าไม่มีอาหารใดเป็นมลทินในตัวของมันเอง แต่ถ้าใครถือว่าสิ่งใดเป็นมลทิน สิ่งนั้นก็เป็นมลทินสำหรับเขา ถ้าพี่น้องของท่านลำบากใจเพราะสิ่งที่ท่านกิน ท่านก็ไม่ได้ประพฤติตนด้วยความรักอีกต่อไป อย่าให้การกินของท่านทำลายพี่น้องซึ่งพระคริสต์ได้สิ้นพระชนม์เพื่อเขา อย่าให้สิ่งที่ท่านเห็นว่าดีถูกกล่าวขวัญว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย เพราะอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องของการกินการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรม สันติสุขและความชื่นชมยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพราะผู้ใดรับใช้พระคริสต์เช่นนี้ก็เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าและเป็นที่พอใจมนุษย์ ฉะนั้นให้เราพยายามทุกวิถีทางที่จะทำสิ่งซึ่งนำไปสู่ความสงบสุขและการเสริมสร้างซึ่งกันและกัน อย่าทำลายการงานของพระเจ้าเพราะเห็นแก่อาหารเลย จริงอยู่อาหารทุกอย่างปราศจากมลทิน แต่ถ้ารับประทานสิ่งใดแล้วทำให้คนอื่นสะดุดก็ผิด เป็นการดีกว่าที่จะไม่รับประทานเนื้อสัตว์ หรือดื่มเหล้าองุ่น หรือทำสิ่งอื่นใดซึ่งจะเป็นเหตุให้พี่น้องล้มลง ดังนั้นสิ่งใดๆ ก็ตามที่ท่านเชื่อเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ จงเก็บไว้เป็นเรื่องระหว่างท่านเองกับพระเจ้าเถิด ความสุขมีแก่ผู้ที่ไม่กล่าวโทษตนเองในสิ่งที่เขาเห็นชอบ แต่ผู้ที่ยังสงสัยอยู่นั้น ถ้าเขากินก็มีความผิด เพราะเขาไม่ได้กินตามความเชื่อ และการกระทำใดๆ ซึ่งไม่ได้มาจากความเชื่อก็เป็นบาป

แบ่งปัน
อ่าน โรม 14

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา