วิวรณ์ 21:1-27

วิวรณ์ 21:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

หลังจากนั้น ผม​เห็น​สวรรค์​และ​โลกใหม่ เพราะ​สวรรค์​และ​โลก​แห่ง​แรก​หาย​ไปแล้ว และ​ไม่มี​ทะเล​อีก​ต่อไป ผม​เห็น​เมือง​ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง​ก็​คือ​เมือง​เยรูซาเล็ม​แห่งใหม่ กำลัง​ลง​จาก​สวรรค์​และ​มา​จาก​พระเจ้า เมืองนี้​ได้​เตรียม​ไว้​พร้อม​แล้ว เหมือน​กับ​เจ้าสาว​ที่​แต่งตัว​สวยงาม​รอ​สามี​ของ​เธอ ผม​ได้ยิน​เสียง​อัน​ดัง​จาก​บัลลังก์​พูด​ว่า “ดูนั่นสิ บ้าน​ของ​พระเจ้า​ก็​อยู่​กับ​มนุษย์​แล้ว พระองค์​จะ​อยู่​กับ​พวกเขา และ​พวกเขา​จะ​เป็น​ของ​พระองค์ พระเจ้า​เอง​ก็​อยู่​กับ​พวกเขา และ​เป็น​พระเจ้า​ของ​พวกเขา​ด้วย พระเจ้า​จะ​เช็ด​น้ำตา​ทุกหยด​ของเขา แล้ว​จะ​ไม่มี​ความตาย ความ​เศร้าโศก การ​ร้องไห้​หรือ​ความ​เจ็บปวด​อีก​ต่อไป เพราะ​สิ่งเก่าๆ​ที่​เคย​เป็น​มา​ได้​ผ่านพ้น​ไปแล้ว” หลังจากนั้น​ผู้​ที่​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​พูดว่า “โอ้โหดูสิ เรา​กำลัง​สร้าง​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ขึ้น​มา​ใหม่” พระองค์​พูด​อีก​ว่า “เขียน​เรื่องนี้​ไว้ เพราะ​คำพูด​เหล่านี้​เชื่อถือ​ได้​และ​เป็น​ความจริง” แล้ว​พระองค์​พูด​กับ​ผม​ว่า “มัน​สำเร็จ​แล้ว เรา​คือ​อัลฟา​และ​โอเมกา เป็น​จุด​เริ่มต้น​และ​จุดจบ ใคร​ที่​กระหาย เรา​ก็​จะ​ให้​น้ำดื่ม​จาก​แหล่งน้ำ​แห่ง​ชีวิต โดย​ไม่ต้อง​จ่าย​อะไร​เลย คน​ที่​ได้รับ​ชัยชนะ​จะ​เป็น​คน​ที่​ได้รับ​สิ่ง​เหล่านี้​ทั้งหมด เรา​จะ​เป็น​พระเจ้า​ของเขา​และ​เขา​จะ​เป็น​ลูก​ของเรา แต่​คน​ที่​ขี้ขลาด​ตาขาว คน​ที่​ทิ้ง​ความเชื่อ​ไป คน​ที่​ทำ​สิ่ง​เลวร้าย คน​ที่​ฆ่าคน คน​ที่​ทำ​ผิด​ทาง​เพศ คน​ที่​ใช้​เวทมนตร์​คาถา คน​ที่​กราบไหว้​รูปปั้น และ​คน​ที่​โกหก​นั้น​จะ​อยู่​ใน​บึงไฟ​กำมะถัน​ที่​ลุกโชน นั่น​จะ​เป็น​ความตาย​ครั้ง​ที่สอง” มี​ทูตสวรรค์​เจ็ด​องค์​ถือ​ขัน​เจ็ด​ใบ​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ภัยพิบัติ​สุดท้าย​เจ็ด​อย่าง แล้ว​องค์​หนึ่ง​พูด​กับ​ผม​ว่า “มานี่สิ เรา​จะ​ให้​คุณ​เห็น​เจ้าสาว​ของ​ลูกแกะ” ใน​ขณะที่​พระวิญญาณ​ครอบงำ​ผม​นั้น ทูตสวรรค์​ได้​พา​ผม​ไป​ยัง​ภูเขา​ที่​สูง​และ​ใหญ่​มาก และ​ให้​ผม​ดู​เมือง​เยรูซาเล็ม​อัน​ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง​กำลัง​ลง​มา​จาก​สวรรค์​และ​มา​จาก​พระเจ้า เมืองนั้น​สว่างไสว​ด้วย​รัศมี​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​ความ​สว่างไสว​นั้น​เหมือน​กับ​เพชร​พลอย ที่​มี​ราคา​แพง​มาก​และ​เหมือน​พลอย​สีเขียว​สดใส​ดั่ง​แก้ว​เจียระไน เมืองนั้น​มี​กำแพง​สูงใหญ่​ที่​มี​ประตู​อยู่​สิบสอง​บาน แต่​ละ​บาน​มี​ทูตสวรรค์​ยืน​เฝ้า​อยู่​หนึ่ง​องค์ และ​แต่ละ​ประตู​ก็​มี​ชื่อ​หนึ่ง​จาก​สิบสอง​เผ่า​ของ​ชนชาติ​อิสราเอล​เขียน​ไว้ แต่ละ​ทิศ​มี​ประตู​อยู่​สาม​บาน ทั้ง​ทิศ​เหนือ ทิศ​ใต้ ทิศ​ตะวันออก และ​ทิศ​ตะวันตก กำแพง​เมือง​ถูก​สร้าง​อยู่​บน​ฐาน​หิน​สิบสอง​อัน และ​บน​ฐาน​หิน​แต่ละ​อัน​นั้น​มี​ชื่อ​ของ​ศิษย์​เอก​แต่ละ​คน​ใน​สิบสอง​คน​ของ​ลูกแกะ​เขียน​อยู่ ทูตสวรรค์​องค์​ที่​พูด​กับ​ผม​มี​ไม้วัด​ซึ่ง​ทำ​ด้วย​ทองคำ เพื่อ​ที่​จะ​เอา​ไว้​วัด​ขนาด​ของ​เมือง ประตู และ​กำแพง​ต่างๆ เมืองนั้น​ถูก​สร้าง​เป็น​รูป​สี่เหลี่ยม​จัตุรัส ซึ่ง​มี​ความยาว​เท่ากับ​ความกว้าง ทูต​องค์นั้น​จึง​ได้​เอา​ไม้วัด​ทำ​การ​วัด​ขนาด​ของ​เมือง ซึ่ง​วัด​ความ​กว้าง ความ​ยาว​และ​ความ​สูง​ได้​เท่า​กัน​หมด คือ​สองพัน​สองร้อย​กิโลเมตร ทูตสวรรค์​องค์นั้น​ยัง​วัด​ขนาด​ของ​กำแพง ซึ่ง​วัด​ได้​หนา​หกสิบห้า​เมตร หน่วยวัด​ที่​ทูตสวรรค์​ใช้​นั้น เป็น​หน่วย​วัด​แบบ​เดียว​กับ​ที่​มนุษย์​ใช้ กำแพง​นั้น​สร้าง​ขึ้น​จาก​หิน​จำพวก​โมรา และ​ตัวเมือง​นั้น​ทำ​จาก​ทองคำ​บริสุทธิ์ ซึ่ง​สว่างไสว​เหมือน​แก้ว​เจียระไน ฐาน​หิน​สิบสอง​ฐาน​ของ​กำแพง​เมือง ทำ​ด้วย​เพชรพลอย​ต่างๆ ฐาน​ที่​หนึ่ง​เป็น​หิน​จำพวก​โมรา ฐาน​ที่​สอง​เป็น​พลอย​สี​น้ำเงิน ฐาน​ที่​สาม​เป็น​หิน​ควอตซ์​โปร่งใส​มี​หลาย​สี ฐาน​ที่​สี่​เป็น​มรกต ฐาน​ที่​ห้า​เป็น​หิน​ควอตซ์​ชนิด​หนึ่ง​มี​แถบ​สี​ขนาน​สลับ​กัน ฐาน​ที่​หก​เป็น​พลอย​สี​แดง​จำพวก​โกเมน ฐาน​ที่​เจ็ด​เป็น​ควอทซ์​สี​เหลือง ฐาน​ที่​แปด​เป็น​นิล​สี​น้ำเงิน​เขียว ฐาน​ที่​เก้า​เป็น​บุษราคัม​สี​เหลือง​น้ำตาล ฐาน​ที่​สิบ​เป็น​คริสโซเฟรส​ซึ่ง​เป็น​พลอย​เขียว​ชนิด​หนึ่ง ฐาน​ที่​สิบเอ็ด​เป็น​โกเมน​สี​ส้ม​อม​แดง และ​ฐาน​ที่​สิบสอง​เป็น​อเมธิส​สีม่วง ประตู​ทั้ง​สิบสอง​ประตู​นั้น​ทำ​ด้วย​ไข่มุก​สิบสอง​เม็ด ประตู​ละ​เม็ด ถนน​ของ​เมือง​ทำ​จาก​ทองคำ​บริสุทธิ์​ซึ่ง​ใส​เหมือน​แก้ว ผม​ไม่เห็น​วิหาร​ใน​เมืองนั้น​เลย เพราะ​องค์​เจ้า​ชีวิต พระเจ้า​ผู้​มี​ฤทธิ์​ทั้งสิ้น และ​ลูกแกะ​ก็​คือ​วิหาร​นั่นเอง เมือง​นี้​ไม่จำเป็น​ต้อง​อาศัย​แสงสว่าง​จาก​ดวง​อาทิตย์ หรือ​ดวงจันทร์ เพราะ​รัศมี​ของ​พระเจ้า​ทำ​ให้​เมือง​นี้​สว่าง และ​ลูกแกะ​คือ​ตะเกียง​ของ​เมือง​นี้ ทุกชนชาติ​ก็​จะ​เดิน​โดย​ใช้​แสง​จาก​ตะเกียง​นั้น และ​พวก​กษัตริย์​บน​โลก จะ​นำ​เอา​ศักดิ์ศรี​ของตน​เข้า​มา​สู่​เมืองนั้น ประตู​เมือง​จะ​เปิด​ตลอดเวลา​ไม่มี​วัน​ปิด เพราะ​ไม่มี​กลางคืน​ใน​เมืองนั้น ชนชาติ​ต่างๆ​จะ​นำ​ทรัพย์​สมบัติ​และ​ความ​มั่งคั่ง​ของ​เขา​เข้า​มา​สู่​เมืองนั้น สิ่ง​ที่​ไม่​บริสุทธิ์​จะ​ไม่​สามารถ​เล็ดลอด​เข้าไป​ได้เลย รวมทั้ง​คน​ที่​ทำ​สิ่ง​น่าอาย​หรือ​พูดโกหก​ด้วย คน​ที่​จะ​เข้า​ไปได้​จะ​ต้อง​เป็น​คน​ที่​มี​รายชื่อ​จด​อยู่​ใน​สมุด​แห่งชีวิต​ของ​ลูกแกะ​เท่านั้น

วิวรณ์ 21:1-27 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

และข้าพเจ้าเห็นฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะว่าฟ้าสวรรค์เดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกต่อไป และข้าพเจ้าได้เห็นนครบริสุทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้เตรียมพร้อมเหมือนอย่างเจ้าสาวที่แต่งตัวไว้สำหรับสามี ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระที่นั่งว่า “นี่แน่ะ ที่ประทับของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว และพระองค์จะประทับกับเขาทั้งหลาย พวกเขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ พระเจ้าเองจะสถิตกับเขา [และจะทรงเป็นพระเจ้าของเขา] พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆ หยดจากตาของเขาทั้งหลาย และความตายจะไม่มีอีกต่อไป ความโศกเศร้า การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นผ่านไปแล้ว” แล้วพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งตรัสว่า “นี่แน่ะ เราสร้างทุกสิ่งขึ้นใหม่” และตรัสอีกว่า “จงเขียนลงไปเถิด เพราะว่าคำเหล่านี้เป็นคำที่เชื่อถือได้และสัตย์จริง” แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “สำเร็จแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ใครที่กระหาย เราจะให้เขาดื่มจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย คนที่ชนะจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา แต่พวกที่ขี้ขลาด พวกที่ไม่เชื่อ พวกที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน พวกฆาตกร พวกล่วงประเวณี พวกใช้เวทมนตร์ พวกบูชารูปเคารพ และทุกคนที่โกหกนั้น มรดกของพวกเขาอยู่ในบึงที่ไฟและกำมะถันกำลังลุกไหม้อยู่ ซึ่งเป็นความตายครั้งที่สอง” แล้วทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ที่ถือชามเจ็ดใบเต็มด้วยภัยพิบัติสุดท้ายเจ็ดอย่างนั้น มาและพูดกับข้าพเจ้าว่า “มานี่ซี เราจะให้ท่านดูเจ้าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก” แล้วท่านนำข้าพเจ้าโดยพระวิญญาณขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่ และสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นนครบริสุทธิ์คือเยรูซาเล็ม ซึ่งลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนั้นเต็มไปด้วยพระสิริของพระเจ้า ใสสว่างเหมือนอย่างอัญมณี เหมือนอย่างแจสเพอร์ที่ใสดังแก้วผลึก นครนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีประตูสิบสองประตู และที่ประตูมีทูตสวรรค์สิบสององค์ บนประตูมีชื่อเผ่าของอิสราเอลสิบสองเผ่าจารึกไว้ ทางด้านตะวันออกมีสามประตู ทางด้านเหนือมีสามประตู ทางด้านใต้มีสามประตูและทางด้านตะวันตกมีสามประตู กำแพงของนครนั้นมีฐานศิลาสิบสองฐาน และบนฐานเหล่านั้นมีชื่ออัครทูตสิบสองคนของพระเมษโปดก ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้านั้นมีไม้วัดที่ทำด้วยทองคำเพื่อจะวัดตัวนคร ประตูและกำแพงของนครนั้น นครนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวเท่ากัน และท่านวัดนครนั้นด้วยไม้วัดได้ 12,000 สทาดิโอน ความยาว ความกว้างและความสูงเท่ากัน ท่านวัดกำแพงนครนั้นได้ 144 ศอก ตามมาตราวัดของมนุษย์ที่ทูตสวรรค์ก็ใช้ กำแพงนครนั้นสร้างขึ้นด้วยแจสเพอร์ และนครนั้นสร้างด้วยทองคำเนื้อบริสุทธิ์เหมือนแก้วที่ใสสะอาด ฐานศิลาต่างๆ ของกำแพงนครนั้นประดับด้วยอัญมณีทุกชนิด ฐานที่หนึ่งเป็นแจสเพอร์ ที่สองไพลิน ที่สามเป็นโมรา ที่สี่เป็นมรกต ที่ห้าโอนิกซ์ ที่หกคาร์เนเลียน ที่เจ็ดเพอริโด ที่แปดเบริล ที่เก้าโทแพซ ที่สิบคริโซเพรส ที่สิบเอ็ดเพทาย ที่สิบสองแอเมทิสต์ ประตูทั้งสิบสองประตูนั้นทำด้วยไข่มุกสิบสองเม็ด ประตูละเม็ด และถนนในนครนั้นเป็นทองคำเนื้อบริสุทธิ์เหมือนอย่างแก้วโปร่งใส ข้าพเจ้าไม่เห็นมีพระวิหารในนครนั้น เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกเป็นพระวิหารในนครนั้น นครนั้นไม่จำเป็นต้องมีแสงจากดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นประทีปของนครนั้น ประชาชาติต่างๆ จะเดินโดยอาศัยแสงสว่างของนครนั้น และกษัตริย์ทั้งหลายในแผ่นดินโลกจะนำศักดิ์ศรีของตนเข้ามาในนครนั้น ประตูต่างๆ ของนครจะไม่ปิดในเวลากลางวัน และจะไม่มีเวลากลางคืนในนั้น คนทั้งหลายจะนำศักดิ์ศรีและเกียรติของประชาชาติต่างๆ เข้ามา และไม่มีสิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือคนใดที่ประพฤติอย่างน่าสะอิดสะเอียน หรือประพฤติการหลอกลวงจะเข้าไปในนครนั้นได้ นอกจากพวกที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้น

วิวรณ์ 21:1-27 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ข้าพเจ้าได้​เห​็นท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินโลกเดิ​มน​ั้นหายไปหมดสิ้นแล้ว และทะเลก็​ไม่มี​อีกแล้ว ข้าพเจ้า คือยอห์น ได้​เห​็นเมืองบริ​สุทธิ​์ คือกรุงเยรูซาเล็มใหม่ เลื่อนลอยลงมาจากพระเจ้าและจากสวรรค์ กรุ​งนี้​ได้​จัดเตรียมไว้​พร​้อมแล้ว เหมือนอย่างเจ้าสาวแต่งตัวไว้สำหรับสามี ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังมาจากสวรรค์​ว่า “​ดู​เถิด พล​ับพลาของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์​แล้ว พระองค์​จะทรงสถิ​ตก​ับเขา เขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ และพระเจ้าเองจะประทั​บอย​ู่กับเขา และจะทรงเป็นพระเจ้าของเขา พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่​มี​อีกต่อไป ความคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่​มี​อีกต่อไป เพราะยุคเดิ​มน​ั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” พระองค์​ผู้​ประทับบนพระที่นั่งตรั​สว​่า “​ดู​เถิด เราสร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่” และพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเขียนไว้​เถิด เพราะว่าถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์​จร​ิงและสัตย์​ซื่อ​” พระองค์​ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “สำเร็จแล้ว เราเป็​นอ​ัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ผู้​ใดกระหาย เราจะให้​ผู้​นั้นดื่มจากบ่อน้ำพุ​แห่​งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย ผู้​ใดมี​ชัยชนะ ผู้​นั้นจะได้รับสิ่งสารพัดเป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา แต่​คนขลาด คนไม่​เชื่อ คนที​่​น่าสะอิดสะเอียน ฆาตกร คนล่วงประเวณี คนใช้​เวทมนตร์ คนไหว้​รู​ปเคารพ และคนทั้งปวงที่​พู​ดม​ุ​สาน​ั้น จะได้รับส่วนของตนในบึงที่​เผาไหม้​ด้วยไฟและกำมะถัน นั่นคือความตายครั้งที่​สอง​” ทูตสวรรค์​องค์​หน​ึ่งในบรรดาทูตสวรรค์​เจ​็ดองค์​ที่​ถือขันเจ็ดใบ อันเต็​มด​้วยภัยพิบั​ติ​สุดท้ายทั้งเจ็ดประการนั้น ได้​มาพู​ดก​ับข้าพเจ้าว่า “เชิญมานี่​เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดู​เจ้​าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก” ท่านได้นำข้าพเจ้าโดยพระวิญญาณขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่ และได้สำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นเมืองใหญ่​นั้น คือกรุงเยรูซาเล็​มอ​ันบริ​สุทธิ​์ ซึ่งกำลังลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า เมืองนั้นประกอบด้วยสง่าราศีของพระเจ้า ใสสว่างดุจพลอยมณีอันหาค่ามิ​ได้ เช่นเดียวกับพลอยหยกอันสุกใสเหมือนแก้วผลึก เมืองนั้​นม​ีกำแพงสูงใหญ่ มี​ประตู​สิ​บสองประตู และที่​ประตู​มี​ทูตสวรรค์​สิ​บสององค์ และที่​ประตู​นั้นจารึกเป็นชื่อตระกูลของชนชาติอิสราเอลสิบสองตระกูล ทางด้านตะวันออกมีสามประตู ทางด้านเหนื​อม​ีสามประตู ทางด้านใต้​มี​สามประตู ทางด้านตะวันตกมีสามประตู และกำแพงเมืองนั้​นม​ีฐานสิบสองฐาน และที่ฐานนั้นจารึกชื่​ออ​ัครสาวกสิบสองคนของพระเมษโปดก ทูตสวรรค์​องค์​ที่​พู​ดก​ับข้าพเจ้านั้น ถือไม้วัดทองคำเพื่อจะวัดเมือง และวัดประตูและกำแพงของเมืองนั้น เมืองนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจั​ตุ​รัส กว้างยาวเท่ากันและท่านเอาไม้วัดเมืองนั้น ได้​สองพันสี่ร้อยกิโลเมตร กว้างยาวและสูงเท่ากัน ท่านวัดกำแพงเมืองนั้น ได้​เจ​็ดสิบสองเมตร ตามมาตรวัดของมนุษย์ ซึ่งคือมาตรวัดของทูตสวรรค์​องค์​นั้น กำแพงเมืองนั้​นก​่​อด​้วยพลอยหยก และเมืองนั้นเป็นทองคำบริ​สุทธิ​์ สุกใสดุจแก้ว ฐานของกำแพงเมืองนั้นประดั​บด​้วยเพชรพลอยทุกชนิด ฐานที่​หน​ึ่งเป็นพลอยหยก ที่​สองไพทูรย์ ที่​สามหินคว๊อตซ์​โปร่งแสง ที่สี่​มรกต ที่​ห้าโกเมน ที่​หกทั​บท​ิม ที่​เจ​็ดเพชรสี​เขียว ที่​แปดพลอยเขียว ที่​เก​้าบุษราคัม ที่​สิ​บหยก ที่​สิ​บเอ็ดพลอยสี​แดง ที่​สิ​บสองเป็นพลอยสี​ม่วง ประตู​ทั้งสิบสองประตูนั้นเป็นไข่​มุ​กสิบสองเม็ด ประตู​ละเม็ด และถนนในเมืองนั้นเป็นทองคำบริ​สุทธิ​์ ใสราวกับแก้ว ข้าพเจ้าไม่​เห​็​นม​ีพระวิหารในเมืองนั้นเลย เพราะองค์​พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้า ผู้​ทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกทรงเป็นพระวิหารในเมืองนั้น เมืองนั้นไม่ต้องการแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะว่าสง่าราศีของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของเมืองนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นความสว่างของเมืองนั้น บรรดาประชาชาติ​ที่​รอดแล้วจะเดินไปในท่ามกลางแสงสว่างของเมืองนั้น และบรรดากษั​ตริ​ย์ในแผ่นดินโลกจะนำสง่าราศีและเกียรติของตนเข้ามาในเมืองนั้น ประตู​เมืองทุกประตูจะไม่ปิดเลยในเวลากลางวัน ด้วยว่าจะไม่​มี​เวลากลางคืนในเมืองนั้นเลย และคนทั้งหลายจะนำสง่าราศีและเกียรติของบรรดาประชาชาติ​เข​้ามาในเมืองนั้น สิ​่งใดที่เป็นมลทิน หรือผู้ใดก็​ตามที่​กระทำสิ่งที่​น่าสะอิดสะเอียน หรือพู​ดม​ุสาจะเข้าไปในเมืองไม่​ได้​เลย เว้นแต่​เฉพาะคนที่​มี​ชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้

วิวรณ์ 21:1-27 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ข้าพเจ้าได้เห็นท้องฟ้าใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เพราะท้องฟ้าเดิมและแผ่นดินโลกเดิมนั้นหายไปหมดสิ้นแล้ว และทะเลก็ไม่มีอีกแล้ว ข้าพเจ้าได้เห็นวิสุทธนคร คือนครเยรูซาเล็มใหม่ เลื่อนลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนี้ได้จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว เหมือนอย่างเจ้าสาวแต่งตัวไว้สำหรับสามี ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังมาจากพระที่นั่งว่า <<ดูเถิด พลับพลาของพระเจ้าอยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะทรงสถิตกับเขา เขาจะเป็นชนชาติของพระองค์ และพระเจ้าเองจะประทับอยู่กับเขา พระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุกๆหยดจากตาของเขา ความตายจะไม่มีอีกต่อไป การคร่ำครวญ การร้องไห้ และการเจ็บปวดจะไม่มีอีกต่อไป เพราะยุคเดิมนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว>> พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งตรัสว่า <<ดูเถิด เราสร้างสิ่งสารพัดขึ้นใหม่>> และพระองค์ตรัสอีกว่า <<จงเขียนไว้เถิด เพราะว่าถ้อยคำเหล่านี้เป็นคำสัตย์ซื่อและสัตย์จริง>> พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า <<สำเร็จแล้ว เราเป็นอัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ผู้ใดกระหาย เราจะให้ผู้นั้นดื่มจากบ่อน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย ผู้ใดมีชัยชนะ ผู้นั้นจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา แต่คนขลาด คนไม่เชื่อ คนที่น่าเกลียดน่าชัง คนที่ฆ่ามนุษย์ คนล่วงประเวณี คนใช้เวทมนตร์ คนไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดมุสานั้น มรดกของเขาอยู่ที่ในบึงไฟและกำมะถันที่กำลังไหม้อยู่นั้น นั่นคือความตายครั้งที่สอง>> ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในบรรดาทูตสวรรค์เจ็ดองค์ ที่ถือขันเจ็ดใบอันเต็มด้วยภัยพิบัติสุดท้ายทั้งเจ็ดประการนั้น ได้พูดกับข้าพเจ้าว่า <<เชิญมานี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูเจ้าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก>> ท่านได้นำข้าพเจ้าโดยพระวิญญาณขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่ และได้สำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นนครบริสุทธิ์ คือเยรูซาเล็ม ซึ่งกำลังลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า นครนั้นประกอบด้วยพระสิริของพระเจ้า ใสสว่างดุจแก้วมณีอันหาค่ามิได้ เช่นเดียวกับแก้วมณีโชติอันสุกใสและเป็นผลึก นครนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีประตูสิบสองประตู และที่ประตูมีทูตสวรรค์สิบสององค์ และที่ประตูนั้นจารึกเป็นชื่อเผ่าของพวกอิสราเอลสิบสองเผ่า ทางด้านตะวันออกมีสามประตู ทางด้านเหนือมีสามประตู ทางด้านใต้มีสามประตูและทางด้านตะวันตกมีสามประตู และกำแพงนครนั้นมีฐานศิลาสิบสองฐาน และที่ฐานศิลานั้นจารึกชื่ออัครทูตสิบสองคนของพระเมษโปดก ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้านั้นถือไม้วัดทองคำเพื่อจะวัดนคร และวัดประตู และกำแพงของนครนั้น นครนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวเท่ากัน และท่านเอาไม้วัดนครนั้นได้สองพันกว่ากิโลเมตรกว้างยาวและสูงเท่ากัน ท่านวัดกำแพงนครนั้นได้ร้อยสี่สิบสี่ศอกตามมาตราวัดของมนุษย์ ซึ่งเหมือนกันกับของทูตสวรรค์ กำแพงนครนั้นก่อด้วยแก้วมณีโชติ และนครนั้นสร้างด้วยทองคำเนื้อบริสุทธิ์สุกใสดุจแก้ว ฐานของกำแพงนครนั้นประดับด้วยเพชรนิลจินดาทุกชนิด ฐานที่หนึ่งเป็นแก้วมณีโชติ ที่สองไพฑูรย์ ที่สามโมรา ที่สี่มรกต ที่ห้าโกเมน ที่หกทับทิม ที่เจ็ดบุษราคำน้ำแก่ ที่แปดเพทาย ที่เก้าบุษราคำน้ำอ่อน ที่สิบหยก ที่สิบเอ็ดนิล ที่สิบสองเป็นพลอยสีม่วง ประตูทั้งสิบสองประตูนั้นทำด้วยไข่มุกสิบสองเม็ด ประตูละเม็ด และถนนในนครนั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ ใสราวกับแก้ว ข้าพเจ้าไม่เห็นมีพระวิหารในนครนั้นเลย เพราะพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด และพระเมษโปดกทรงเป็นพระวิหารในนครนั้น นครนั้นไม่ต้องการแสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เพราะว่าพระสิริของพระเจ้าเป็นแสงสว่างของนครนั้น และพระเมษโปดกทรงเป็นดวงประทีปของนครนั้น บรรดาประชาชาติจะเดินไปในท่ามกลางแสงสว่างของนครนั้น และบรรดากษัตริย์ในแผ่นดินโลกจะนำศักดิ์ศรีของตนเข้ามาในนครนั้น ประตูนครทุกประตูจะไม่ปิดเลยในเวลากลางวัน และจะไม่มีเวลากลางคืนในนครนั้นเลย และคนทั้งหลายจะนำศักดิ์ศรีและเกียรติของบรรดาประชาชาติเข้ามาในนครนั้น สิ่งใดที่เป็นมลทิน หรือผู้ใดที่ประพฤติเป็นที่น่าสะอิดสะเอียน หรือพูดมุสาจะเข้าไปในนครไม่ได้เลย เฉพาะคนที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้

วิวรณ์ 21:1-27 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

และข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และโลกใหม่เพราะฟ้าเดิมและโลกเดิมได้ดับสูญไปแล้ว ทะเลก็ไม่มีอีกแล้ว ข้าพเจ้าเห็นนครบริสุทธิ์ คือเยรูซาเล็มใหม่ที่พระเจ้าทรงให้เลื่อนลอยลงมาจากสวรรค์ นครนี้ได้รับการตระเตรียมไว้เหมือนเจ้าสาวแต่งกายงดงามรอรับผู้เป็นสามี และข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังมาจากพระที่นั่งว่า “บัดนี้ที่ประทับของพระเจ้ามาอยู่กับมนุษย์แล้ว พระองค์จะสถิตกับพวกเขา เขาทั้งหลายจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระเจ้าเองจะทรงอยู่กับพวกเขาและเป็นพระเจ้าของพวกเขา พระองค์จะทรงซับน้ำตาทุกๆ หยดของพวกเขา จะไม่มีความตาย หรือการคร่ำครวญ หรือการร่ำไห้ หรือความเจ็บปวดรวดร้าวอีกต่อไป เพราะระบบเก่าได้ผ่านพ้นไปแล้ว” พระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้นตรัสว่า “เรากำลังสร้างสรรพสิ่งขึ้นใหม่!” และตรัสอีกว่า “จงเขียนสิ่งนี้ลงไปเพราะข้อความเหล่านี้เที่ยงแท้และเชื่อถือได้” พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “สำเร็จแล้ว เราคืออัลฟาและโอเมกา เป็นปฐมและอวสาน ผู้ใดกระหาย เราจะให้ผู้นั้นดื่มจากธารน้ำพุแห่งชีวิตโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย ผู้ที่มีชัยชนะจะได้รับทั้งหมดนี้เป็นกรรมสิทธิ์ เราจะเป็นพระเจ้าของเขาและเขาจะเป็นบุตรของเรา ส่วนคนขี้ขลาดตาขาว คนที่ไม่เชื่อ คนชั่วช้า ฆาตกร คนผิดศีลธรรมทางเพศ คนใช้คาถาอาคม คนกราบไหว้รูปเคารพ และคนทั้งปวงที่พูดโกหก ที่ของเขาคือบึงไฟกำมะถันลุกโชน นั่นคือความตายครั้งที่สอง” หนึ่งในทูตสวรรค์เจ็ดองค์ที่ถือขันแห่งภัยพิบัติเจ็ดประการสุดท้ายนั้นมาบอกข้าพเจ้าว่า “มาเถิด เราจะให้ท่านดูเจ้าสาว คู่อภิเษกของพระเมษโปดก” โดยพระวิญญาณทูตนั้นนำข้าพเจ้าไปที่ภูเขาสูงใหญ่ และสำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นนครบริสุทธิ์ คือเยรูซาเล็มที่พระเจ้าทรงให้เลื่อนลอยลงมาจากสวรรค์ นครนั้นเปล่งประกายด้วยพระเกียรติสิริของพระเจ้าส่องแสงเจิดจ้าดั่งแสงอัญมณีล้ำค่าเช่นโมราใสกระจ่างดั่งแก้ว นครนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีสิบสองประตู แต่ละประตูมีทูตสวรรค์หนึ่งองค์ประจำอยู่ บนประตูแต่ละประตูจารึกชื่อตระกูลหนึ่งในอิสราเอลสิบสองเผ่า ด้านตะวันออกมีสามประตู ด้านเหนือมีสามประตู ด้านใต้มีสามประตูและด้านตะวันตกมีสามประตู กำแพงนครนั้นมีสิบสองฐานและบนฐานเหล่านั้นจารึกชื่ออัครทูตทั้งสิบสองคนของพระเมษโปดก ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้าถือไม้วัดทองคำเพื่อวัดขนาดของนครนั้นและประตูกับกำแพง นครนั้นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวเท่ากัน เขาเอาไม้วัดระยะนครนั้นได้ 12,000 ซทาดิออน ความกว้างความสูงเท่ากับความยาว เขาวัดความหนาของกำแพงได้ 144 ศอกตามมาตราวัดของมนุษย์ซึ่งทูตสวรรค์ใช้ กำแพงก่อด้วยโมรา ส่วนนครนั้นสร้างจากทองคำบริสุทธิ์ สุกใสดั่งแก้ว ฐานรากของกำแพงประดับด้วยอัญมณีล้ำค่านานาชนิด ฐานที่หนึ่งคือโมรา ฐานที่สองคือพลอยสีน้ำเงิน ฐานที่สามคือพลอยสีเขียว ฐานที่สี่คือมรกต ฐานที่ห้าคือโกเมน ฐานที่หกคือพลอยหลากสี ฐานที่เจ็ดคือพลอยสีเขียวเหลือง ฐานที่แปดคือพลอยสีน้ำเงินเขียว ฐานที่เก้าคือบุษราคัม ฐานที่สิบคือหยก ฐานที่สิบเอ็ดคือพลอยสีแดงส้ม ฐานที่สิบสองคือพลอยสีม่วง ประตูทั้งสิบสองทำด้วยไข่มุกขนาดใหญ่ประตูละเม็ด ถนนในเมืองทำด้วยทองคำเนื้อดีสุกปลั่งดั่งแก้วใส ข้าพเจ้าไม่เห็นพระวิหารในนครนี้เลยเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์และพระเมษโปดกคือวิหารแห่งนคร นครนี้ไม่ต้องอาศัยแสงจากดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ เพราะพระเกียรติสิริของพระเจ้าคือแสงสว่าง และพระเมษโปดกคือดวงประทีปแห่งนครนี้ นานาประชาชาติจะดำเนินในแสงสว่างของนครนี้ และเหล่ากษัตริย์ของโลกจะนำความโอ่อ่าอลังการของตนเข้ามาในนครนี้ ประตูนครไม่เคยปิดเลยสักวันเพราะที่นั่นไม่มีกลางคืน ประชาชาติทั้งหลายจะนำเกียรติและศักดิ์ศรีเข้ามาในนคร สิ่งใดๆ ที่เป็นมลทิน หรือผู้ทำสิ่งที่น่าละอายหรือโป้ปดมุสาจะไม่มีวันได้เข้าในนครนั้นเลย เฉพาะผู้มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของพระเมษโปดกเท่านั้นจึงจะเข้าได้

วิวรณ์ 21:1-27 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ครั้น​แล้ว​ข้าพเจ้า​ก็​ได้​เห็น​สวรรค์​ใหม่​กับ​แผ่นดิน​โลก​ใหม่ ด้วย​ว่า​สวรรค์​แรก​กับ​แผ่นดิน​แรก​ได้​หาย​ไป ทะเล​ก็​ไม่​มี​อีก​ต่อ​ไป​แล้ว ข้าพเจ้า​ได้​เห็น​เมือง​บริสุทธิ์​คือ​เมือง​เยรูซาเล็ม​ใหม่ ซึ่ง​ลง​มา​จาก​สวรรค์​โดย​มา​จาก​พระ​เจ้า เมือง​นี้​มี​การ​เตรียม​ไว้​ให้​พร้อม ดุจ​ดัง​เจ้าสาว​แต่งตัว​ไว้​เพื่อ​สามี​ของ​เธอ ข้าพเจ้า​ได้ยิน​เสียง​ดัง​จาก​บัลลังก์​กล่าว​ว่า “ดู​เถิด ที่​พำนัก​ของ​พระ​เจ้า​อยู่​ท่าม​กลาง​มนุษย์ พระ​องค์​จะ​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา และ​เขา​ทั้ง​หลาย​จะ​เป็น​คน​ของ​พระ​องค์ และ​พระ​เจ้า​เอง​จะ​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา พระ​องค์​จะ​เช็ด​น้ำตา​ทุก​หยด​จาก​ตา​ของ​เขา จะ​ไม่​มี​ความ​ตาย​หรือ​การ​ร้อง​คร่ำครวญ การ​ร่ำไห้​หรือ​ความ​เจ็บ​ปวด​อีก​ต่อ​ไป ด้วย​ว่า​สิ่ง​เดิม​ทั้ง​หลาย​นั้น​ได้​สูญหาย​ไป​แล้ว” องค์​ผู้​นั่ง​อยู่​บน​บัลลังก์​กล่าว​ว่า “ดู​เถิด เรา​ทำ​ทุก​สิ่ง​ใหม่​หมด” และ​พระ​องค์​กล่าว​ว่า “จง​เขียน​ไว้​เถิด เพราะ​ว่า​คำกล่าว​เหล่า​นี้​วางใจ​ได้​และ​เป็น​ความ​จริง” พระ​องค์​ได้​กล่าว​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า “สิ้น​สุด​แล้ว เรา​เป็น​อัลฟา​และ​โอเมกา คือ​เป็น​จุด​แรกเริ่ม​และ​จุด​สุด​ท้าย ผู้​ที่​กระหาย เรา​ก็​จะ​ให้​ดื่ม​จาก​น้ำพุ​แห่ง​ชีวิต​โดย​ไม่​ต้อง​เสีย​ค่า​อะไร​เลย ผู้​ที่​มี​ชัย​ชนะ​ก็​จะ​ได้​รับ​สิ่ง​เหล่า​นี้​เป็น​มรดก เรา​จะ​เป็น​พระ​เจ้า​ของ​เขา และ​เขา​จะ​เป็น​บุตร​ของ​เรา แต่​สำหรับ​คน​ขลาด คน​ที่​ไม่​มี​ความ​เชื่อ คน​ที่​มี​มลทิน ฆาตกร คน​ผิด​ประเวณี คน​ที่​ใช้​วิทยาคม คน​ที่​บูชา​รูป​เคารพ และ​คน​โกหก​ทั้ง​หลาย เขา​เหล่า​นี้​จะ​อยู่​ใน​ทะเล​เพลิง​ที่​ลุกโชน​ด้วย​เปลว​ไฟ​และ​กำมะถัน นั่น​คือ​ความ​ตาย​ครั้ง​ที่​สอง” ทูต​สวรรค์​องค์​หนึ่ง​ใน​เจ็ด​องค์​ที่​มี​ขัน 7 ใบ​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​ภัย​พิบัติ​สุด​ท้าย​ทั้ง​เจ็ด ก็​มา​พูด​กับ​ข้าพเจ้า​ว่า “มา​นี่​เถิด เรา​จะ​ให้​ท่าน​ดู​เจ้าสาว​คือ​ภรรยา​ของ​ลูก​แกะ” ครั้น​แล้ว​ก็​ได้​พา​ข้าพเจ้า​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​สูง​ใหญ่​ใน​ฝ่าย​วิญญาณ เพื่อ​ให้​ข้าพเจ้า​ดู​เมือง​บริสุทธิ์​คือ​เมือง​เยรูซาเล็ม ซึ่ง​ลง​มา​จาก​สวรรค์​โดย​มา​จาก​พระ​เจ้า เมือง​นั้น​ส่อง​แสง​เรืองรอง​ด้วย​พระ​บารมี​ของ​พระ​เจ้า ความ​เจิด​จรัส​ดั่ง​เพชร​นิล​จินดา​อัน​มีค่า​ยิ่ง ดุจ​มณี​สีเขียว และ​กระจ่าง​ใส​อย่าง​แก้ว​เจียระไน เมือง​นั้น​มี​กำแพง​สูง​ใหญ่ มี​ประตู 12 บาน และ​ประตู​แต่​ละ​บาน​มี​ทูต​สวรรค์ 1 องค์ ชื่อ​ของ​แต่​ละ​เผ่า​ของ​ชน​ชาติ​อิสราเอล​จารึก​ไว้​ที่​ประตู​แต่​ละ​บาน ทาง​ด้าน​ตะวัน​ออก​มี​ประตู 3 บาน ทาง​ด้าน​เหนือ​มี​ประตู 3 บาน ทาง​ด้าน​ใต้​มี​ประตู 3 บาน และ​ทาง​ด้าน​ตะวัน​ตก​มี​ประตู 3 บาน กำแพง​เมือง​มี​ฐาน​ราก 12 ฐาน ซึ่ง​มี​ชื่อ​ของ​อัครทูต​ทั้ง​สิบ​สอง​ของ​ลูก​แกะ​อยู่​บน​ฐาน​นั้น ทูต​สวรรค์​องค์​ที่​พูด​กับ​ข้าพเจ้า มี​ไม้วัด​ทองคำ​เพื่อ​จะ​วัด​เมือง ประตู และ​กำแพง เมือง​นั้น​เป็น​สี่​เหลี่ยม​จัตุรัส​กว้าง​ยาว​เท่ากัน ท่าน​ใช้​ไม้วัด​เมือง​ได้​ความ​ยาว ความ​กว้าง และ​ความ​สูง​เท่า​กัน​คือ​ด้าน​ละ 12,000 สตาเดีย ท่าน​วัด​กำแพง​ได้​สูง​ประมาณ 144 ศอก อัน​เป็น​หน่วย​การ​วัด​ของ​มนุษย์ ซึ่ง​ทูต​สวรรค์​ก็​ใช้​วัด​เช่น​กัน กำแพง​ทำ​ด้วย​มณี​สีเขียว และ​เมือง​เป็น​ทองคำ​บริสุทธิ์ และ​ใส​ดุจ​ดัง​แก้ว​ใส ฐาน​ของ​กำแพง​เมือง​ประดับ​ด้วย​เพชร​นิล​จินดา​อัน​มีค่า​ทุก​ชนิด ฐาน​แรก​เป็น​มณี​สีเขียว ที่​สอง​เป็น​นิล​สีคราม ที่​สาม​เป็น​หิน​แก้ว​หลาก​สี ที่​สี่​เป็น​มรกต ที่​ห้า​เป็น​นิล​ชนิด​หนึ่ง ที่​หก​เป็น​มณี​สีแดง ที่​เจ็ด​เป็น​โกเมน ที่​แปด​เป็น​แก้ว​ผลึก​สีเขียว​ปน​น้ำเงิน ที่​เก้า​เป็น​บุษราคัม ที่​สิบ​เป็น​หิน​เขี้ยว​หนุมาน​หลาก​สี ที่​สิบ​เอ็ด​เป็น​แก้ว​ผลึก​สีส้ม​ปน​แดง ที่​สิบ​สอง​เป็น​พลอย​สีม่วง และ​ประตู​ทั้ง 12 บาน​เป็น​ไข่มุก 12 เม็ด ประตู​แต่​ละ​บาน​เป็น​ไข่มุก 1 เม็ด ถนน​ใน​เมือง​เป็น​ทองคำ​บริสุทธิ์​และ​ใส​ดุจ​ดัง​แก้ว​ใส ข้าพเจ้า​เห็น​ว่า​ไม่​มี​พระ​วิหาร​ใน​เมือง​นั้น ด้วย​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า องค์​พระ​เจ้า​จอม​โยธา และ​ลูก​แกะ เป็น​พระ​วิหาร​ของ​เมือง เมือง​นั้น​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​ดวง​อาทิตย์​หรือ​ดวง​จันทร์​ส่อง​แสง ด้วย​ว่า​พระ​บารมี​ของ​พระ​เจ้า​ให้​ความ​สว่างไสว และ​ลูก​แกะ​เป็น​ดวง​ตะเกียง​ของ​เมือง บรรดา​ประเทศ​ชาติ​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ได้​โดย​อาศัย​แสง​จาก​เมือง​นั้น และ​บรรดา​กษัตริย์​ของ​แผ่นดิน​โลก​จะ​นำ​ความ​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​ตน​เข้า​มา​ใน​เมือง ใน​เวลา​กลางวัน​ประตู​ทุก​บาน​จะ​ไม่​มี​วัน​ปิด​เลย และ​ที่​นั่น​จะ​ไม่​มี​เวลา​กลางคืน บรรดา​ประเทศ​ชาติ​จะ​นำ​ความ​ยิ่ง​ใหญ่​และ​เกียรติ​เข้า​มา​ใน​เมือง​นั้น ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​มี​มลทิน ผู้​ใด​ที่​ประพฤติ​สิ่ง​อัน​น่าชัง และ​พูด​โกหก จะ​เข้า​มา​ใน​เมือง​นั้น​ไม่​ได้ ยกเว้น​บรรดา​ผู้​ที่​มี​ชื่อ​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​แห่ง​ชีวิต​ของ​ลูก​แกะ​เท่า​นั้น