ฟีลิปปี 2:1-30

ฟีลิปปี 2:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ดังนั้น ถ้า​พวก​คุณ​ได้รับ​กำลังใจ​เพราะ​มี​ส่วน​ร่วม​กับ​พระคริสต์ ถ้า​ได้รับ​การ​ปลอบใจ​จาก​ความรัก ถ้า​ได้​ใช้​ชีวิต​ร่วม​กัน​เพราะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​พระวิญญาณ และ​ได้รับ​ความรักใคร่​เอ็นดู​และ​ความ​เห็นอก​เห็นใจ ผม​ก็​ขอให้​คุณ​ทำ​สิ่ง​ที่​จะ​ให้​ความสุข​กับ​ผม​อย่าง​เต็มที่ คือ​การ​เป็น​น้ำหนึ่งใจ​เดียวกัน มี​ความรัก​อย่าง​เดียวกัน เป็น​ใจ​เดียวกัน และ​มี​เป้าหมาย​เดียวกัน อย่า​ทำ​อะไร​ที่​ชิงดี​ชิงเด่น​กัน หรือ​เพราะ​หลง​คิด​ว่า​ตัวเอง​เก่ง แต่​ให้​ถ่อมตัว​ลง และ​มอง​คน​อื่น​ว่า​สำคัญ​กว่า​ตัวเอง อย่า​ให้​ใคร​คิด​เห็น​แต่​ประโยชน์​ส่วนตัว แต่​ให้​คิดถึง​ประโยชน์​ของ​คน​อื่น​ด้วย ใช้​ชีวิต​ด้วย​กัน โดย​คิด ทำ และ​รู้สึก​อย่าง​นี้ เช่น​เดียว​กัน​กับ​พระเยซู​คริสต์ คือ​ถึง​แม้​พระองค์​จะ​มี​สภาพ​เป็น​พระเจ้า พระองค์​ก็​ไม่​ได้​คิด​ที่​จะ​ใช้​ความ​เท่าเทียม​กับ​พระเจ้า​ของ​พระองค์​เพื่อ​ผล​ประโยชน์​ของ​พระองค์​เอง​เลย แต่​พระองค์​ได้​ทิ้ง​ความ​เป็น​ตัว​ของ​พระองค์​เอง​ไป​จน​หมด คือ​ยอมรับ​สภาพ​เป็น​ทาส และ​ได้​มา​เกิด​เป็น​มนุษย์ เมื่อ​พระองค์​ได้​มา​ปรากฏ​ตัว​ใน​ร่าง​มนุษย์​แล้ว พระองค์​ได้​ถ่อมตัว​ของ​พระองค์​ลง ยอม​เชื่อฟัง​พระเจ้า​ทุก​อย่าง ถึง​ขนาด​ยอม​ตาย แม้​กระทั่ง​ต้อง​ตาย​บน​ไม้​กางเขน พระเจ้า​ก็​เลย​ยก​พระเยซู​ขึ้น​สูง​ที่สุด และ​ยกย่อง​ชื่อ​ของ​พระองค์​ให้​ยิ่งใหญ่​กว่า​ชื่อ​ทั้งหมด เพื่อ​ทุกๆ​คน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์​ก็​ดี ใน​โลก​นี้​ก็​ดี หรือ​ใต้​โลก​นี้​ก็​ดี จะ​ได้​คุกเข่า​ลง​ให้​เกียรติ​กับ​พระเยซู ทุกๆ​คน​จะ​ยอมรับ​ว่า พระเยซู​คริสต์​คือ​องค์​เจ้า​ชีวิต แล้ว​พระเจ้า​พระบิดา​ก็​จะ​ได้รับ​เกียรติยศ เพื่อนๆ​ที่รัก คุณ​ก็​เชื่อฟัง​เป็น​อย่าง​ดี​มา​ตลอด ดังนั้น​ผม​ขอ​ให้​คุณ​ทำงาน​หนัก​ต่อ​ไป​ด้วย​ใจ​ที่​เคารพ​และ​ยำเกรง​พระเจ้า จน​กว่า​คุณ​จะ​บรรลุ​ถึง​ความรอด ตอน​นี้​ผม​อยาก​ให้​คุณ​ทำ​อย่าง​นี้​ต่อ​ไป ไม่​ใช่​แค่​ตอน​ที่​ผม​อยู่​ด้วย​เท่านั้น แต่​โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ตอน​นี้​ที่​ผม​ไม่​ได้​อยู่​ด้วย คุณ​สามารถ​ทำ​สิ่ง​เหล่านี้​ได้ เพราะ​เป็น​พระเจ้า​เอง​ที่​กำลัง​ทำงาน​อยู่​ใน​หมู่​พวก​คุณ พระองค์​ทำให้​คุณ​เต็มใจ​ที่​จะ​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​พระองค์​ต้องการ และ​ให้​ฤทธิ์​อำนาจ​กับ​คุณ​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น​ด้วย ให้​ทำ​ทุก​อย่าง​โดย​ไม่​บ่น​หรือ​เถียงกัน เพื่อ​พวก​คุณ​จะ​ไร้​ที่ติ และ​บริสุทธิ์ จะ​ได้​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​ที่​ไม่​มี​ตำหนิ​เลย ทั้งๆ​ที่​คน​รอบ​ข้าง​คดโกง และ​วิปริต​ผิดเพี้ยน​ไปหมด​แล้ว แต่​พวก​คุณ​จะ​ได้​ส่อง​แสง​อยู่​ท่ามกลาง​พวก​เขา​เหมือน​กับ​แสงสว่าง​ต่างๆ​ใน​ท้องฟ้า​ที่​ส่อง​สว่าง​เข้า​มา​ใน​โลก​มืด ให้​ทำ​ทั้งหมด​นี้​ใน​ขณะ​ที่​พวก​คุณ​เสนอ​คำสอน​ที่​ให้​ชีวิต​กับ​พวก​เขา เพื่อ​ใน​วัน​ที่​พระเยซู​คริสต์​กลับ​มา ผม​จะ​ได้​ภูมิใจ​ใน​ตัว​คุณ และ​จะ​ได้​เห็น​ชัดเจน​ว่า ผม​วิ่ง​ชนะ​และ​ทำงาน​สำเร็จ ผม​จะ​เปรียบ​เทียบ​ความเชื่อ​ของ​พวก​คุณ​เป็น​เหมือน​สัตว์​ที่​ถูก​เผา​ถวาย​ให้​กับ​พระเจ้า​และ​เป็น​การ​รับใช้​พระองค์ ถ้า​หาก​ผม​เป็น​เหมือน​เครื่อง​ดื่ม​บูชา​ที่​ถูก​เท​บน​เครื่อง​บูชา​ของ​พวก​คุณ​นั้น ผม​ก็​ดีใจ​และ​ดี​ใจ​กับ​พวก​คุณ​ทุก​คน ใน​ทำนอง​เดียวกัน พวก​คุณ​ทุก​คน​ควร​จะ​ดีใจ​และ​ร่วม​ดีใจ​กับ​ผม​ด้วย เพราะ​พระเยซู​เป็น​องค์​เจ้า​ชีวิต ผม​คาด​ว่า​ผม​จะ​ได้​ส่ง​ทิโมธี​ไป​หา​พวก​คุณ​เร็วๆ​นี้​แน่นอน แล้ว​ผม​จะ​ได้​มี​กำลังใจ เมื่อ​เขา​กลับ​มา​เล่า​เรื่อง​พวก​คุณ มี​แต่​ทิโมธี​เท่านั้น​ที่​มี​ความคิด​เหมือน​กับ​ผม​และ​สนใจ​ใน​เรื่อง​ทุกข์สุข​ของ​พวก​คุณ​จริงๆ ส่วน​คน​อื่นๆ​ที่​อาจ​จะ​ส่ง​มา​ได้ ก็​สนใจ​แต่​เรื่อง​ของ​ตัวเอง​มาก​กว่า ไม่​ได้​สนใจ​เรื่อง​ของ​พระเยซู​คริสต์ คุณ​ก็​รู้​อยู่​แล้ว​ว่า​นิสัย​ของ​ทิโมธี​นั้น​เป็น​อย่างไร และ​เขา​ได้​รับใช้​ใน​การ​ประกาศ​ข่าวดี​ด้วย​กัน​กับ​ผม เหมือน​ลูก​ช่วย​พ่อ ดังนั้น พอ​ผม​รู้​ว่า​เรื่อง​ของ​ผม​ที่นี่​จะ​เป็น​อย่างไร ผม​ก็​หวัง​ที่​จะ​ได้​ส่ง​ทิโมธี​ไป​หา​พวก​คุณ​ทันที ผม​เชื่อ​ว่า องค์​เจ้า​ชีวิต​จะ​เปิด​โอกาส​ให้​ผม​ได้​มา​เจอ​พวก​คุณ​เร็วๆ​นี้​เหมือน​กัน แต่​ตอนนี้ คิด​ว่า​จำเป็น​จะ​ต้อง​ส่ง​เอปาโฟรดิทัส​กลับ​มา​หา​คุณ​ก่อน เขา​เป็น​ทั้ง​น้องชาย เพื่อน​ร่วม​งาน และ​เพื่อน​ทหาร​ของ​ผม พวก​คุณ​ได้​ส่ง​เขา​มา​ดูแล​ผม​ตอน​ที่​ผม​ขาด​แคลน ผม​ส่ง​เขา​มา เพราะ​เขา​อยาก​จะ​เจอ​คุณ​มาก และ​เขา​ก็​กลุ้มใจ​มาก​เพราะ​คุณ​ได้​ข่าว​ว่า​เขา​ป่วย ตอนนั้น​เขา​ก็​ป่วย​หนัก​จริงๆ​จน​เกือบ​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว แต่​พระเจ้า​เมตตา​เขา ซึ่ง​ก็​ถือ​ว่า​ได้​เมตตา​ผม​ด้วย เพื่อ​ผม​จะ​ได้​ไม่​เป็น​ทุกข์​มาก​ไป​กว่า​นี้ ผม​จึง​ตั้งใจ​จะ​ส่ง​เขา​กลับ​ไป​หา​คุณ เพื่อ​คุณ​จะ​ได้​ดีใจ​เมื่อ​เจอ​เขา​อีก และ​ตัว​ผม​เอง​จะ​ได้​กังวล​น้อย​ลง ดังนั้น ให้​อ้า​แขน​ต้อนรับ​เขา​ด้วย​ความยินดี​อย่าง​ยิ่ง เพราะ​เขา​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​องค์​เจ้า​ชีวิต​เหมือน​กัน และ​ให้​เกียรติ​กับ​เขา​และ​ทุก​คน​ที่​เป็น​อย่าง​เขา เพราะ​เขา​เกือบ​จะ​ตาย​จาก​งาน​ที่​เขา​ทำ​เพื่อ​พระคริสต์ เขา​ได้​เสี่ยงชีวิต​เพื่อ​รับใช้​ผม ใน​เรื่อง​ที่​พวก​คุณ​เอง​ก็​ทำ​ให้​ผม​ไม่​ได้

ฟีลิปปี 2:1-30 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เพราะฉะนั้น ในเมื่อมีความชูใจในความสัมพันธ์กับพระคริสต์ มีการปลอบโยนจากความรัก มีการสามัคคีธรรมกันจากพระวิญญาณ และมีความเห็นใจกันและความเมตตากรุณา ก็ขอให้ท่านทั้งหลายทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม ด้วยการมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีจิตใจและความคิดเป็นหนึ่งเดียวกัน อย่าทำสิ่งใดด้วยการชิงดีหรือถือดี แต่จงถือว่าคนอื่นดีกว่าตัวด้วยใจถ่อม อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆ ด้วย จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสภาพเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้ แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมตัวลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขน เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้นสูงสุด และประทานพระนามเหนือนามทั้งหมดแก่พระองค์ เพื่อที่ว่าเพราะพระนามของพระเยซูนั้น ทุกชีวิตในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกเข่าลงกราบพระองค์ และเพื่อที่ว่าทุกลิ้นจะยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา ฉะนั้น พวกที่รักของข้าพเจ้า เหมือนอย่างที่ท่านเชื่อฟังข้าพเจ้าอยู่เสมอ ท่านจงอุตส่าห์ประพฤติอย่างสมกับความรอดของท่านทั้งหลาย ด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่น ไม่เฉพาะในเวลาที่ข้าพเจ้าอยู่ด้วยเท่านั้น แต่มากยิ่งกว่านั้นอีกในเวลาที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงทำการอยู่ภายในพวกท่าน ให้ท่านมีความประสงค์และมีความสามารถทำตามชอบพระทัยของพระองค์ จงทำทุกสิ่งโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่มีที่ติและไร้ความผิด เป็นบุตรของพระเจ้าที่ปราศจากตำหนิท่ามกลางชนชาติที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆ ในโลก จงยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิต เพื่อข้าพเจ้าจะมีความภูมิใจในวันของพระคริสต์ว่าข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งแข่งโดยเปล่าประโยชน์ หรือตรากตรำโดยเปล่าประโยชน์ แต่ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าถูกเทดุจเครื่องดื่มบูชาลงบนเครื่องบูชาที่ท่านถวายเพราะความเชื่อ ข้าพเจ้าก็ยินดีและร่วมยินดีกับพวกท่านทุกคน และท่านก็ควรยินดีและร่วมยินดีกับข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าหวังในพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ในไม่ช้านี้ข้าพเจ้าจะส่งทิโมธีไปหาพวกท่าน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รับความชูใจเมื่อรู้ข่าวของท่าน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีใครอื่นที่เหมือนทิโมธีซึ่งเอาใจใส่เรื่องของพวกท่านจริงๆ เพราะว่าคนอื่นๆ แสวงหาประโยชน์ของพวกเขาเองทุกคน ไม่ใช่ประโยชน์ของพระเยซูคริสต์ และท่านทั้งหลายรู้ถึงคุณค่าของทิโมธีดีว่าเขาได้รับใช้ร่วมกับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐ เหมือนอย่างบุตรกับบิดา เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจึงหวังว่าจะส่งเขาไปโดยเร็ว เมื่อพอจะเห็นได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าแน่ใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าในไม่ช้าข้าพเจ้าก็จะไปหาด้วย ข้าพเจ้าเห็นว่าจำเป็นจะต้องส่งเอปาโฟรดิทัสไปหาพวกท่าน เขาเป็นทั้งพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนทหารของข้าพเจ้า และยังเป็นตัวแทนที่พวกท่านส่งมาปรนนิบัติข้าพเจ้าในยามที่ข้าพเจ้าขาดแคลน เพราะเขาคิดถึงท่านทุกคนและเป็นทุกข์เพราะว่าพวกท่านได้ยินว่าเขาป่วย เขาป่วยจริงๆ จนเกือบจะตาย แต่พระเจ้าทรงพระเมตตาเขา และไม่เฉพาะแต่เขาคนเดียว แต่ทรงเมตตาข้าพเจ้าด้วยเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ามีทุกข์ซ้อนทุกข์ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงปรารถนาที่จะส่งเขาไปยิ่งขึ้น เพื่อพวกท่านจะได้ยินดีที่เห็นเขาอีก และเพื่อความร้อนใจของข้าพเจ้าจะบรรเทาลง เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงต้อนรับเขาในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดียิ่ง และจงนับถือคนประเภทนี้ เพราะเขาเกือบจะตายเนื่องจากงานของพระคริสต์ เขาเสี่ยงชีวิตของเขาเพื่อการปรนนิบัติของพวกท่านที่ไม่อาจทำให้ข้าพเจ้าได้นั้นจะสำเร็จบริบูรณ์

ฟีลิปปี 2:1-30 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เหตุ​ฉะนั้นถ้าได้รับการเร้าใจประการใดในพระคริสต์ ถ้ามีการหนุนใจประการใดในความรัก ถ้ามีส่วนประการใดกับพระวิญญาณ ถ้ามีการรักใคร่​เอ็นดู​และเห็นอกเห็นใจประการใด ก็​ขอให้​ท่านทำให้​ความยินดี​ของข้าพเจ้าเต็มเปี่​ยม ด้วยการมีความคิ​ดอย​่างเดียวกัน มี​ความรักอย่างเดียวกัน มี​ใจรู้สึกและคิดพร้อมเพรียงกัน อย่าทำสิ่งใดในทางทุ่มเถียงกันหรืออวดดี แต่​จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่​ประโยชน์​ของตนฝ่ายเดียว แต่​จงเห็นแก่​ประโยชน์​ของคนอื่นๆด้วย ท่านจงมีน้ำใจอย่างนี้ เหมือนอย่างที่​พระเยซู​คริสต์​ทรงมี​ด้วย พระองค์​ผู้​ทรงอยู่ในสภาพพระเจ้ามิ​ได้​ทรงเห็​นว​่าการเท่าเที​ยมก​ับพระเจ้านั้นเป็นการแย่งชิงเอาไปเสีย แต่​ได้​ทรงกระทำพระองค์เองให้​ไม่มี​ชื่อเสียงใดๆ และทรงรับสภาพอย่างผู้​รับใช้ ทรงถือกำเนิดในลักษณะของมนุษย์ และเมื่อทรงปรากฏพระองค์ในสภาพมนุษย์​แล้ว พระองค์​ก็​ทรงถ่อมพระองค์​ลง ยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่​กางเขน เหตุ​ฉะนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงยกพระองค์ขึ้นอย่างสูงที่สุดด้วย และได้ทรงประทานพระนามเหนือนามทั้งปวงให้​แก่​พระองค์ เพื่อ ‘หัวเข่าทุ​กห​ัวเข่า’ ในสวรรค์​ก็ดี ที่​แผ่​นดินโลกก็​ดี ใต้​พื้นแผ่นดินโลกก็​ดี ‘จะต้องคุกกราบลง’ นม​ัสการในพระนามแห่งพระเยซู​นั้น และเพื่อ ‘ลิ้นทุ​กล​ิ้นจะยอมรับ’ ว่าพระเยซู​คริสต์​ทรงเป็นองค์​พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นการถวายพระเกียรติ​แด่​พระเจ้าพระบิดา เหตุ​ฉะนี้​พวกที่รักของข้าพเจ้า เหมือนท่านทั้งหลายได้ยอมเชื่อฟังทุกเวลา และไม่​ใช่​เมื่อข้าพเจ้าอยู่ด้วยเท่านั้น แต่​เดี๋ยวนี้​เมื่อข้าพเจ้าไม่​อยู่​ด้วย ท่านทั้งหลายจงให้ความรอดของตนเกิดผลด้วยความเกรงกลัวตัวสั่น เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน ทั้งให้ท่านมีใจปรารถนาและให้​ประพฤติ​ตามชอบพระทัยของพระองค์ จงกระทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะปราศจากตำหนิและไม่​มีความผิด เป็น ‘​บุ​ตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า’ ในท่ามกลาง ‘​ยุ​คที่คดโกงและวิปลาส’ ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆในโลก โดยการป่าวประกาศยกพระวจนะอั​นม​ี​ชี​วิตไว้​อยู่​เสมอ เพื่อข้าพเจ้าจะได้​ชื่นชมยินดี​ในวันของพระคริสต์​ว่า ข้าพเจ้าไม่​ได้​วิ่งเปล่าๆ และไม่​ได้​ทำงานโดยเปล่าประโยชน์ แท้​จร​ิงถ้าแม้ข้าพเจ้าต้องถวายตัวเป็นเครื่องบู​ชา และเป็นการปรนนิบั​ติ​เพราะความเชื่อของท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้ายังจะมี​ความชื่นชมยินดี​ด้วยกั​นก​ั​บท​่านทั้งหลาย ซึ่งท่านก็ควรจะยินดีและชื่นชมด้วยกั​นก​ับข้าพเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน แต่​ข้าพเจ้าหวังใจในพระเยซู​เจ้​าว่า ในไม่ช้าข้าพเจ้าจะให้ทิโมธีไปหาพวกท่าน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รับความชูใจเช่​นก​ันเมื่อได้รับข่าวของท่าน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่​มี​ผู้​ใดที่​มีน​้ำใจเหมือนทิโมธี ซึ่งจะเอาใจใส่ในทุกข์สุขของท่านอย่างแท้​จริง เพราะว่าคนทั้งหลายย่อมแสวงหาประโยชน์ของตนเอง ไม่ได้​แสวงหาประโยชน์ของพระเยซู​คริสต์ แต่​ท่านก็​รู้​ถึงคุณค่าของทิโมธี​แล​้​วว​่า เขาได้​รับใช้​ร่วมกับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐ เสมือนบุตรรับใช้​บิดา เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าหวังใจว่า พอจะเห็นได้ว่าจะเกิดการอย่างไรแก่​ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะใช้เขาไปโดยเร็ว แต่​ข้าพเจ้าไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ในไม่ช้าข้าพเจ้าเองจะมาหาท่านด้วย ข้าพเจ้าคิดแล้​วว​่า จะต้องให้เอปาโฟรดิทั​สน​้องชายของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนทหารของข้าพเจ้า และเป็นผู้นำข่าวของพวกท่าน และได้​ปรนนิบัติ​ข้าพเจ้าในยามขัดสน มาหาท่านทั้งหลาย เพราะว่าเขาคิดถึงท่านทุกคน และเป็นทุกข์มากเพราะท่านได้ข่าวว่าเขาป่วย เขาป่วยจริงๆ ป่วยจนเกือบจะตาย แต่​พระเจ้าทรงพระกรุณาโปรดเขา และไม่​ใช่​ทรงโปรดเขาคนเดียว แต่​ทรงโปรดข้าพเจ้าด้วย เพื่อไม่​ให้​ข้าพเจ้ามี​ความทุกข์​ซ้อนทุกข์ เหตุ​ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงรีบร้อนใช้เขาไป หวังว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้​เห​็นเขาอีก ท่านจะได้​ชื่นชมยินดี และความทุกข์ของข้าพเจ้าจะเบาบางไปสักหน่อย เหตุ​ฉะนั้นท่านจงต้อนรับเขาไว้ในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี​ทุกอย่าง และจงนับถือคนอย่างนี้ ด้วยว่าเขาเกือบจะตายเสียแล้วเพราะเห็นแก่การของพระคริสต์ คือได้เสี่ยงชีวิตของตน เพื่อการปรนนิบั​ติ​ของท่านทั้งหลายที่บกพร่องต่อข้าพเจ้าอยู่นั้นจะได้เต็มบริบู​รณ​์

ฟีลิปปี 2:1-30 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เหตุฉะนั้นถ้าชีวิตในพระคริสต์อำนวยการเร้าใจประการใด ถ้ามีการหนุนใจประการใดในความรัก ถ้ามีส่วนประการใดกับพระวิญญาณ ถ้ามีการรักใคร่เอ็นดูและเห็นอกเห็นใจประการใด ก็ขอให้ท่านทำให้ความยินดีของข้าพเจ้าเต็มเปี่ยม ด้วยการมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีใจรู้สึกและคิดพร้อมเพรียงกัน อย่าทำสิ่งใดในทางชิงดีกันหรือถือดี แต่จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย ท่านจงมีน้ำใจต่อกันเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า แต่มิได้ทรงถือว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดถือ แต่ได้กลับทรงสละ และทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และเมื่อทรงปรากฏพระองค์ในสภาพมนุษย์แล้ว พระองค์ก็ทรงถ่อมพระองค์ลงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งความมรณาที่กางเขน เหตุฉะนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงยกพระองค์ขึ้นอย่างสูง และได้ประทานพระนามเหนือนามทั้งปวงให้แก่พระองค์ เพื่อเพราะพระนามนั้น ทุกเข่า ในสวรรค์ ที่แผ่นดินโลก ใต้พื้นแผ่นดินโลก จะคุกลงกราบ พระเยซู และเพื่อ ทุกลิ้นจะยอมรับ ว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระบิดาเจ้า เหตุฉะนี้ พวกที่รักของข้าพเจ้า เมื่อท่านเชื่อฟังทุกเวลาฉันใด ท่านทั้งหลายจงอุตส่าห์ประพฤติ เพื่อให้ได้ความรอด ด้วยความเกรงกลัวและตัวสั่นฉันนั้น มิใช่เฉพาะเมื่อข้าพเจ้าอยู่กับท่านเท่านั้น แต่จงยิ่งประพฤติให้มากขึ้น ในเมื่อข้าพเจ้าไม่อยู่ด้วย เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน ให้ท่านมีใจปรารถนา ทั้งให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์ จงทำสิ่งสารพัดโดยปราศจากการบ่นและการทุ่มเถียงกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด เป็น บุตรที่ปราศจากตำหนิของพระเจ้า ในท่ามกลาง พงศ์พันธุ์ที่คดโกงและวิปลาส ท่านปรากฏในหมู่พวกเขาดุจดวงสว่างต่างๆในโลก จงยึดมั่นในพระวาทะแห่งชีวิต เพื่อข้าพเจ้าจะมีที่อวดในวันของพระคริสต์ว่า ข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งเปล่าๆ และไม่ได้ทำงานโดยเปล่าประโยชน์ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าต้องถูกเทลง เพื่อให้ครบเครื่องบูชาแห่งความเชื่อของท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าก็ยังจะยินดีและชื่นชมร่วมกับท่านด้วย ซึ่งท่านก็ควรจะยินดีและชื่นชมด้วยกันกับข้าพเจ้าด้วยเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าหวังใจในพระเยซูเจ้าว่า ในไม่ช้าข้าพเจ้าจะให้ทิโมธีไปหาพวกท่าน เพื่อข้าพเจ้าจะได้รับความชูใจเมื่อได้รับข่าวของท่าน ข้าพเจ้าไม่มีผู้ใดที่มีน้ำใจเหมือนทิโมธี เป็นคนเอาใจใส่ในทุกข์สุขของท่านอย่างแท้จริง เพราะว่าคนอื่นๆย่อมแสวงหาประโยชน์ของตนเอง ไม่ได้แสวงหาประโยชน์ของพระเยซูคริสต์ แต่ท่านก็รู้ถึงคุณค่าของทิโมธีดีแล้ว ว่าเขาได้รับใช้ร่วมกับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐ เสมือนบุตรรับใช้บิดา เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงหวังใจว่าจะให้เขาไปโดยเร็ว เมื่อพอจะเห็นได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ว่าในไม่ช้าข้าพเจ้าเองจะไปหาท่านด้วย ข้าพเจ้าคิดแล้วว่า จะต้องให้เอปาโฟรดิทัสน้องของข้าพเจ้า ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนทหารของข้าพเจ้า และเป็นผู้รับใช้ของพวกท่านให้ปรนนิบัติข้าพเจ้าในยามขัดสน ไปหาท่านทั้งหลาย เพราะว่าเขาคิดถึงท่านและเป็นทุกข์เพราะท่านได้ข่าวว่าเขาป่วย เขาป่วยจริงๆ ป่วยจนเกือบจะตาย แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาโปรดเขา และไม่ใช่ทรงโปรดเขาคนเดียว แต่ทรงโปรดข้าพเจ้าด้วย เพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ามีความทุกข์ซ้อนทุกข์ เหตุฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงรีบให้เขาไป เพื่อท่านจะมีความยินดีที่เห็นเขาอีก และความร้อนใจของข้าพเจ้าก็จะได้เบาบางลงไปบ้าง เหตุฉะนั้น ท่านจงต้อนรับเขาไว้ในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดีอย่างยิ่ง และจงนับถือคนอย่างนี้ เพราะเขาเกือบจะสิ้นชีวิตเสีย เนื่องจากการปฏิบัติงานของพระคริสต์ เขาได้เสี่ยงชีวิตของเขา เพื่อการปรนนิบัติของท่านต่อข้าพเจ้าจะได้เต็มบริบูรณ์

ฟีลิปปี 2:1-30 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ในเมื่อท่านได้รับกำลังใจจากการเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ ได้รับการปลอบโยนจากความรักของพระองค์ ได้สามัคคีธรรมกับพระวิญญาณ ได้รับความอ่อนโยนและความสงสาร ก็จงทำให้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีอย่างบริบูรณ์โดยมีความคิดอย่างเดียวกัน มีความรักอย่างเดียวกัน มีใจเดียวกัน และมีเป้าหมายเดียวกัน อย่าทำสิ่งใดด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างเห็นแก่ตัว หรือด้วยความถือดี แต่จงทำด้วยความถ่อมใจ ถือว่าคนอื่นดีกว่าตน แต่ละคนไม่ควรมุ่งหาประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่ควรคิดถึงประโยชน์ของคนอื่นด้วย ท่านควรมีท่าทีแบบเดียวกับพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสภาพพระเจ้า แต่ไม่ได้ทรงยึดติดในความเท่าเทียมกับพระเจ้า พระองค์กลับทรงสละทุกสิ่ง มารับสภาพทาส บังเกิดเป็นมนุษย์ และเมื่อทรงปรากฏเป็นมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง และยอมเชื่อฟังแม้ต้องตายบนไม้กางเขน! ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงเชิดชูพระองค์ขึ้นสู่ที่สูงสุด และประทานพระนามเหนือนามทั้งปวงแก่พระองค์ เพื่อทุกชีวิตในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้แผ่นดินโลก จะคุกเข่าลงนมัสการพระนามของพระเยซู และทุกลิ้นจะยอมรับว่าพระเยซูคริสต์คือองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติสิริแด่พระเจ้าพระบิดา ฉะนั้นเพื่อนที่รักทั้งหลาย ในเมื่อท่านได้เชื่อฟังเสมอมา ไม่เพียงขณะที่ข้าพเจ้าอยู่ด้วย แต่ยิ่งเชื่อฟังมากขึ้นขณะที่ข้าพเจ้าไม่อยู่ด้วย ก็จงบากบั่นต่อไปด้วยความเกรงกลัวจนตัวสั่นจนกระทั่งความรอดของท่านบรรลุผล เพราะพระเจ้าคือผู้ทรงกระทำกิจภายในท่าน ให้ท่านตั้งใจและทำตามพระประสงค์อันดีของพระองค์ จงทำทุกสิ่งโดยปราศจากการบ่นว่าหรือทุ่มเถียงกัน เพื่อท่านจะปราศจากตำหนิและบริสุทธิ์ เป็นบุตรของพระเจ้าผู้ปราศจากข้อบกพร่องในยุคอันคดโกงและเสื่อมทราม ส่องสว่างท่ามกลางพวกเขาดั่งดวงดาวในจักรวาล ขณะที่ท่านยึดมั่นในพระวจนะแห่งชีวิตเพื่อข้าพเจ้าจะอวดได้ในวันแห่งพระคริสต์ว่าข้าพเจ้าไม่ได้วิ่งหรือลงแรงโดยเปล่าประโยชน์ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้ากำลังถูกเทลงบนเครื่องบูชาและการรับใช้ที่มาจากความเชื่อของท่านดั่งเป็นเครื่องดื่มบูชา ข้าพเจ้าก็ยังดีใจและชื่นชมยินดีร่วมกับพวกท่านทั้งปวง ดังนั้นท่านเองก็ควรจะดีใจและชื่นชมยินดีร่วมกับข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าคาดหวังในองค์พระเยซูเจ้าว่าอีกไม่นานจะส่งทิโมธีไปหาท่าน เพื่อข้าพเจ้าเองจะได้ชื่นใจเมื่อได้รับข่าวเกี่ยวกับท่าน ข้าพเจ้าไม่มีใครอื่นที่เหมือนทิโมธีผู้ซึ่งเอาใจใส่ทุกข์สุขของท่านอย่างแท้จริง เพราะทุกคนมุ่งหาประโยชน์ของตนเอง ไม่ได้คำนึงถึงพระเยซูคริสต์ แต่ท่านทราบอยู่ว่าทิโมธีได้พิสูจน์ตนเองแล้วเพราะเขาได้ร่วมรับใช้กับข้าพเจ้าในการประกาศข่าวประเสริฐเหมือนบุตรรับใช้บิดา ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงหวังจะส่งเขามาทันทีที่ข้าพเจ้าเห็นว่าเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับข้าพเจ้าจะลงเอยอย่างไร และข้าพเจ้ามั่นใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่าข้าพเจ้าเองจะมาหาท่านในไม่ช้า แต่ข้าพเจ้าคิดว่าจำเป็นต้องส่งเอปาโฟรดิทัสกลับมาหาท่าน เขาเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนร่วมงาน และเป็นเพื่อนทหารของข้าพเจ้า ทั้งยังเป็นผู้ที่พวกท่านส่งมาเพื่อปรนนิบัติข้าพเจ้าในยามขัดสน เนื่องจากเขาคิดถึงพวกท่านทั้งปวงมากและทุกข์ใจเพราะท่านได้ข่าวว่าเขาป่วย ที่จริงเขาป่วยหนักเกือบตาย แต่พระเจ้าทรงเมตตาเขา และไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังทรงเมตตาข้าพเจ้าด้วยเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าเป็นทุกข์ซ้อนทุกข์ ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงยิ่งรีบส่งเขามาเพื่อพวกท่านจะได้ดีใจที่เจอเขาอีกและข้าพเจ้าเองจะได้คลายความกระวนกระวายใจ ขอให้ท่านต้อนรับเขาในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง และจงให้เกียรติคนเช่นนี้ เพราะเขาเกือบตายเพื่องานของพระคริสต์ เขาเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือข้าพเจ้าในสิ่งที่ท่านไม่สามารถทำได้

ฟีลิปปี 2:1-30 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ฉะนั้น ถ้า​ท่าน​มี​พลัง​ใจ​ใน​พระ​คริสต์ ถ้า​มี​การ​ปลอบโยน​จาก​ความ​รัก​ของ​พระ​องค์ ถ้า​มี​สามัคคีธรรม​ของ​พระ​วิญญาณ ถ้า​มี​ความ​อ่อน​หวาน​และ​ความ​สงสาร ขอ​ให้​ท่าน​ทำ​ให้​ความ​ยินดี​ของ​ข้าพเจ้า​เต็ม​เปี่ยม ด้วย​การ​มี​ความ​คิด​อย่าง​เดียว​กัน มี​ความ​รัก​อย่าง​เดียว​กัน มี​จิต​วิญญาณ​และ​ความ​รู้สึก​นึก​คิด​ที่​เป็น​หนึ่ง​เดียว​กัน อย่า​กระทำ​สิ่งใด​อัน​เกิด​จาก​ความ​เห็น​แก่​ตัว​หรือ​คิด​ยโส แต่​จง​ถ่อมตัว และ​ถือ​ว่า​ผู้อื่น​สำคัญ​กว่า​ตน​เอง อย่า​เพียง​แต่​คิดถึง​ผล​ประโยชน์​ของ​ตน​เอง แต่​จง​คิดถึง​ผล​ประโยชน์​ของ​ผู้อื่น​ด้วย จง​ให้​ความ​รู้สึก​นึก​คิด​เป็น​เช่น​นี้​ใน​หมู่​ท่าน อย่าง​ที่​เป็น​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ แม้​ว่า​พระ​องค์​มี​สถานภาพ​เป็น​พระ​เจ้า แต่​ไม่​ได้​ยึด​สถานภาพ​ที่​เสมอ​กับ​พระ​เจ้า​ไว้ พระ​องค์​กลับ​สละ​ทุก​สิ่ง โดย​รับ​สภาพ​เป็น​ผู้​รับใช้ และ​มา​เกิด​ใน​ลักษณะ​ของ​มนุษย์ และ​เมื่อ​ปรากฏ​ให้​เห็น​เป็น​ร่างกาย​อย่าง​มนุษย์​แล้ว พระ​องค์​ก็​ถ่อม​พระ​องค์​เอง และ​ยอม​เชื่อฟัง​จน​ถึง​ขั้น​ที่​ต้อง​เสีย​ชีวิต แม้​กระทั่ง​เป็น​ความ​ตาย​บน​ไม้​กางเขน ฉะนั้น​พระ​เจ้า​จึง​ได้​ยก​พระ​องค์​ขึ้น​สู่​ที่​สูง​สุด และ​มอบ​พระ​นาม​ที่​เหนือ​นาม​อื่น​ใด​แก่​พระ​องค์ เพื่อ​ว่า​ทุก​คน​จะ​ได้​คุกเข่า​ลง​ให้​กับ​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​ทั้ง​ใน​สวรรค์ บน​โลก และ​ใต้​บาดาล และ​ลิ้น​ทุก​ลิ้น​ยอม​สารภาพ​ว่า พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เพื่อ​ถวาย​พระ​บารมี​แด่​พระ​เจ้า​ผู้​เป็น​พระ​บิดา ฉะนั้น เพื่อน​ที่​รัก​ทั้ง​หลาย ตาม​ที่​ท่าน​ได้​เชื่อฟัง​มา​เสมอ​แล้ว​เมื่อ​ข้าพเจ้า​อยู่​กับ​ท่าน และ​บัดนี้​แม้​ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​อยู่​ด้วย ท่าน​ก็​ควร​เชื่อฟัง​มาก​ยิ่ง​ขึ้น ท่าน​จง​ประพฤติ​ตน​ให้​ถึง​ที่​สุด เพื่อ​ให้​ความ​รอด​พ้น​ของ​ท่าน​บริบูรณ์​ด้วย​ความ​เกรงกลัว​และ​หวาด​หวั่น ด้วย​ว่า​พระ​เจ้า​เป็น​ผู้​สำแดง​การ​กระทำ​ใน​หมู่​ท่าน เพื่อ​ให้​ท่าน​ยินยอม​และ​ดำเนิน​งาน​ตาม​จุด​ประสงค์​ของ​พระ​องค์ จง​กระทำ​ทุก​สิ่ง​โดย​ไม่​บ่น​หรือ​โต้เถียง เพื่อ​ท่าน​จะ​ได้​ไม่​ถูก​ตำหนิ​และ​จะ​ได้​เป็น​ผู้​บริสุทธิ์ เป็น​บรรดา​บุตร​ของ​พระ​เจ้า​ที่​ปราศจาก​ความ​มัวหมอง​ท่าม​กลาง​คน​ใน​ช่วง​กาล​เวลา​ที่​คดโกง​และ​เสื่อม​ศีลธรรม ท่าน​ปรากฏ​ใน​ท่าม​กลาง​พวก​เขา​ดุจ​ดวง​ดารา​ที่​สาด​ส่อง​ไป​ใน​โลก เสนอ​คำกล่าว​แห่ง​ชีวิต​ให้​เขา เพื่อ​ว่า​ใน​วัน​ที่​พระ​คริสต์​มา ข้าพเจ้า​จะ​ได้​ภูมิใจ​ว่า ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​วิ่ง​หรือ​ลงแรง​ไป​โดย​เปล่า​ประโยชน์ ถ้า​แม้​ว่า​โลหิต​ของ​ข้าพเจ้า​ถูก​เท​ลง​ดั่ง​เครื่อง​ดื่ม​บูชา​บน​เครื่อง​สักการะ​แห่ง​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน ข้าพเจ้า​ก็​ชื่นชม​และ​ยินดี​ร่วม​กับ​ท่าน​ทุก​คน ดังนั้น​ท่าน​ควร​ดีใจ​และ​ชื่นชม​ยินดี​ร่วม​กับ​ข้าพเจ้า​ด้วย หาก​เป็น​ด้วย​ความ​ตั้งใจ​ของ​พระ​เยซู องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ข้าพเจ้า​หวัง​ว่า​จะ​ให้​ทิโมธี​มา​หา​ท่าน​เร็วๆ นี้ ข้าพเจ้า​จะ​ได้​มี​กำลังใจ​เมื่อ​ได้​รับ​ข่าว​ที่​เกี่ยว​กับ​ท่าน ข้าพเจ้า​ไม่​มี​ใคร​ที่​จะ​เป็น​เหมือน​ทิโมธี คือ​เขา​ห่วงใย​เรื่อง​ของ​ท่าน​อย่าง​แท้​จริง ด้วย​ว่า​ทุก​คน​ห่วงใย​แต่​เรื่อง​ของ​ตน​เอง แต่​ไม่​ได้​ห่วง​ใน​เรื่อง​ของ​พระ​เยซู​คริสต์ แต่​ท่าน​ก็​ทราบ​แล้ว​ว่า ทิโมธี​ได้​พิสูจน์​ให้​เห็น​คุณค่า​ของ​เขา​แล้ว​ว่า เขา​ได้​รับใช้​ร่วม​กับ​ข้าพเจ้า​ใน​งาน​ด้าน​ข่าว​ประเสริฐ​เสมือน​บุตร​ทำงาน​ร่วม​กับ​บิดา ฉะนั้น​ข้าพเจ้า​หวัง​ว่า​จะ​ให้​เขา​มา​หา​ท่าน ทันที​ที่​ข้าพเจ้า​ทราบ​ว่า​อะไร​จะ​เกิด​ขึ้น​กับ​ข้าพเจ้า และ​ข้าพเจ้า​วางใจ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า ข้าพเจ้า​เอง​จะ​มา​หา​ท่าน​ใน​เร็วๆ นี้​ด้วย แต่​ข้าพเจ้า​คิด​ว่า​จำเป็น​ที่​จะ​ให้​เอปาโฟรดิทัส​กลับ​มา​หา​ท่าน​ทั้ง​หลาย เขา​เป็น​น้อง เป็น​เพื่อน​ร่วม​งาน และ​เพื่อน​ร่วม​รบ​กับ​ข้าพเจ้า เขา​เป็น​คน​ที่​ท่าน​ส่ง​มา​ช่วย​รับใช้​ข้าพเจ้า​ใน​ยาม​ขัดสน ด้วย​ว่า​เขา​อยาก​มา​หา​ท่าน​ทั้ง​หลาย​มาก อีก​ทั้ง​เป็น​ทุกข์​เพราะ​ท่าน​ได้​ข่าว​ว่า​เขา​ป่วย เขา​ป่วย​หนัก​จน​เกือบ​จะ​เสีย​ชีวิต แต่​พระ​เจ้า​โปรด​เมตตา​เขา และ​อีก​ทั้ง​ได้​โปรด​ข้าพเจ้า​ด้วย​คือ​ข้าพเจ้า​ไม่​เศร้าใจ​ยิ่ง​ไป​กว่า​นี้ ข้าพเจ้า​จึง​ได้​รีบ​ให้​เขา​ไป​หา​ท่าน เพื่อ​ว่า​เวลา​ท่าน​พบ​เขา​อีก​ท่าน​จะ​ได้​ยินดี และ​ข้าพเจ้า​จะ​ได้​เป็น​กังวล​น้อย​ลง ฉะนั้น​จง​ต้อนรับ​เขา​ดั่ง​คน​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ด้วย​ความ​ยินดี​ยิ่ง และ​จง​นับถือ​คน​อย่าง​เขา​ไว้​เถิด เพราะ​เขา​เกือบ​สิ้น​ชีวิต​เพื่อ​งาน​ของ​พระ​คริสต์ เขา​เสี่ยง​ชีวิต​เพื่อ​ทดแทน​สิ่ง​ที่​ท่าน​ไม่​สามารถ​ช่วย​ข้าพเจ้า​ได้