กันดารวิถี 9:1-14

กันดารวิถี 9:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ใน​ที่​เปล่าเปลี่ยว​แห้งแล้ง​ซีนาย นี่​เป็น​เดือน​แรก​ของ​ปี​ที่​สอง​หลังจาก​ที่​ชาว​อิสราเอล​ออก​มา​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์ พระองค์​พูด​ว่า “ชาว​อิสราเอล​จะ​ต้อง​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อย ใน​เวลา​ที่​ได้​กำหนด​ไว้ เจ้า​ต้อง​ฉลอง​ใน​เวลา​ที่​ได้​กำหนด​ไว้ คือ​วัน​ที่​สิบสี่​ของ​เดือนนี้ ใน​ช่วง​เย็น​ก่อน​ค่ำ เจ้า​ต้อง​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อย​ให้​เป็น​ไป​ตาม​กฎ​และ​ระเบียบ​ต่างๆ​ของ​มัน” โมเสส​จึง​บอก​ชาว​อิสราเอล​ให้​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อย พวกเขา​ได้​ฉลอง​เทศกาลนี้​ใน​ตอน​เย็น​ก่อน​ค่ำ ของ​วัน​ที่​สิบ​สี่​ของ​เดือน​แรก ตาม​ที่​พระยาห์เวห์​ได้​สั่ง​โมเสส​ไว้​ทุกอย่าง แต่​มี​บาง​คน​ที่​ไม่​บริสุทธิ์ เพราะ​ไป​ถูก​ศพ​มา ไม่​สามารถ​ร่วม​ฉลอง​กับ​คน​อื่นๆ​ได้ พวกเขา​จึง​มา​พบ​โมเสส​และ​อาโรน​ใน​วันนั้น พวกเขา​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “พวกเรา​ไม่​บริสุทธิ์​เพราะ​ไป​ถูก​ศพ​มา แต่​ทำไม​ถึง​ห้าม​ไม่​ให้​พวกเรา​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ต่อ​พระยาห์เวห์​ใน​เวลา​ที่​กำหนด​นี้ พร้อม​กับ​ชาว​อิสราเอล​คน​อื่นๆ​ละ” โมเสส​บอก​พวกเขา​ว่า “คอย​เดี๋ยว​นะ เรา​จะ​ไป​ถาม​พระยาห์เวห์​ว่า​พระองค์​จะ​เอา​ยังไง​กับ​พวกท่าน” พระยาห์เวห์​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “ให้​บอก​ชาว​อิสราเอล​ว่า ‘ถ้า​มี​ใคร​ไม่​บริสุทธิ์​เพราะ​ไป​ถูก​ศพ​มา ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ตัว​เจ้า​เอง​หรือ​ลูกหลาน​ของ​เจ้า​ที่​กำลัง​เดินทาง​อยู่ คนๆ​นั้น​ก็​สามารถ​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อย​ได้ พวกเขา​สามารถ​ฉลอง​เทศกาล​นี้​ได้​ใน​ตอน​เย็น​ก่อน​ค่ำ ของ​วัน​ที่​สิบสี่ ของ​เดือน​ที่สอง พวกเขา​ต้อง​กิน​แกะ​ของ​เทศกาลนี้ กับ​ขนมปัง​ไม่​ใส่​เชื้อฟู และ​ผัก​ที่​มี​รส​ขม พวกเขา​จะ​ต้อง​ไม่​ให้​มี​อาหาร​พวกนี้​เหลือ​ถึง​วันรุ่งขึ้น และ​พวกเขา​ต้อง​ไม่​หัก​กระดูก​ของ​แกะ​ด้วย พวกเขา​ต้อง​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อย​ให้​เป็น​ไป​ตาม​กฎ​ทุกอย่าง​ของ​เทศกาลนี้ แต่​คน​ที่​บริสุทธิ์ และ​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ระหว่าง​การ​เดินทาง แต่​ไม่​ยอม​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อยนี้ คนๆ​นั้น​จะ​ต้อง​ถูก​ตัด​ออก​จาก​ประชาชน​ของ​เขา เพราะ​เขา​ไม่​ได้​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ให้​กับ​พระยาห์เวห์​ใน​เวลา​ที่​ได้​กำหนด​ไว้ คนๆ​นั้น​จะ​ต้อง​ถูก​ลง​โทษ​สำหรับ​ความผิด​ของ​เขา ถ้า​มี​ชาว​ต่างชาติ​อาศัย​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเจ้า และ​เขา​อยาก​จะ​ฉลอง​เทศกาล​ปลดปล่อยนี้​ของ​พระยาห์เวห์ เขา​ก็​ฉลอง​ได้ แต่​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎ​และ​ระเบียบ​ของ​เทศกาลนี้​ด้วย ไม่ว่า​จะ​เป็น​คน​อิสราเอล​หรือ​คน​ต่าง​ชาติ​ก็​ใช้​กฎ​เดียวกัน’”

กันดารวิถี 9:1-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ในเดือนที่หนึ่งปีที่สอง ตั้งแต่เขาทั้งหลายออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสที่ถิ่นทุรกันดารซีนายว่า “จงให้คนอิสราเอลถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดไว้ คือในวันที่สิบสี่เวลาเย็นของเดือนนี้ เจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดนั้น เจ้าจงทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายทั้งสิ้นของเทศกาลเลี้ยงนั้น” โมเสสจึงบอกคนอิสราเอลให้ถือเทศกาลปัสกา เขาทั้งหลายถือเทศกาลปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่งที่ถิ่นทุรกันดารซีนาย และคนอิสราเอลก็ทำทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์ตรัสสั่งโมเสส แต่มีผู้ชายบางคนเป็นมลทินเพราะแตะต้องศพ จึงถือปัสกาในวันนั้นไม่ได้ พวกเขาจึงมาหาโมเสสและอาโรนในวันนั้น คนเหล่านั้นกล่าวกับท่านว่า “เรามีมลทินเพราะแตะต้องศพ ทำไมจึงไม่ให้เราถวายเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์ตามเวลาที่กำหนดไว้ท่ามกลางคนอิสราเอล?” และโมเสสบอกเขาทั้งหลายว่า “จงคอยอยู่ก่อนเพื่อข้าพเจ้าจะฟังดูว่า พระยาห์เวห์จะตรัสสั่งในเรื่องของพวกท่านอย่างไร” พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงกล่าวกับคนอิสราเอลว่า ถ้ามีใครในพวกเจ้าหรือในชาติพันธุ์ของเจ้ามีมลทินเพราะแตะต้องศพหรือไปทางไกล ผู้นั้นสามารถถือปัสกาแด่พระยาห์เวห์ได้ แต่ให้ถือปัสกาในเวลาเย็นของวันที่สิบสี่เดือนที่สอง ให้เขากินขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม เขาทั้งหลายต้องไม่ให้อะไรเหลือไว้จนวันรุ่งขึ้น และไม่ให้หักกระดูกแกะปัสกา ให้เขาทำตามกฎเกณฑ์ในเรื่องเทศกาลปัสกาทุกประการ ส่วนคนที่สะอาดและไม่ได้เดินทาง แต่ไม่ยอมถือเทศกาลปัสกา ก็ให้คนนั้นถูกตัดออกจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขาไม่ได้นำเครื่องบูชาของพระยาห์เวห์มาถวายตามเวลากำหนด เขาต้องรับโทษของเขา ถ้าคนต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลายจะถือเทศกาลปัสกาแด่พระยาห์เวห์ ก็ให้เขาถือตามกฎเกณฑ์และกฎหมายของเทศกาลปัสกา เจ้าจงมีกฎเกณฑ์อย่างเดียวกันสำหรับคนต่างด้าวและคนพื้นเมือง”

กันดารวิถี 9:1-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ในเดือนที่​หน​ึ่งปี​ที่​สองตั้งแต่เขาทั้งหลายออกจากแผ่นดิ​นอ​ียิปต์ พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสที่ถิ่นทุ​รก​ันดารซีนายว่า “​ให้​คนอิสราเอลถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดไว้ คือเดือนนี้ในวันขึ้นสิบสี่​ค่ำ เวลาเย็น เจ้​าทั้งหลายจงถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดนั้น เจ้​าจงกระทำตามกฎเกณฑ์และพิธีต่างๆทั้งสิ้นของเทศกาลนั้น” โมเสสจึงบอกคนอิสราเอลให้ถือเทศกาลปัสกา เขาทั้งหลายได้ถือเทศกาลปัสกาในเดือนที่​หน​ึ่งวันขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็​นที​่ถิ่นทุ​รก​ันดารซี​นาย ที่​พระเยโฮวาห์ตรั​สส​ั่งโมเสสทุกประการ คนอิสราเอลก็กระทำตามอย่างนั้น และมี​ผู้​ชายบางคนที่​มี​มลทินเพราะถูกต้องศพ จึงถือปัสกาในวันนั้นไม่​ได้ เขาจึงมาอยู่ต่อหน้าโมเสสและอาโรนในวันนั้น เขาเหล่านั้นกล่าวแก่ท่านว่า “เรามีมลทินเพราะได้​ถู​กต้องศพ ทำไมจึงห้ามมิ​ให้​เราถวายเครื่องบูชาของพระเยโฮวาห์ตามวันกำหนดท่ามกลางคนอิสราเอล” และโมเสสบอกเขาว่า “จงคอยอยู่ก่อนเพื่อเราจะฟั​งด​ู​ว่า พระเยโฮวาห์จะตรั​สส​ั่งอย่างไรเรื่องท่าน” พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ถ้าผู้ใดในพวกเจ้าหรือในเชื้อสายของเจ้ามีมลทินเพราะถูกต้องศพ หรือไปทางไกลก็​ให้​ผู้​นั้นถือปัสกาแด่พระเยโฮวาห์ ให้​ถือปัสกาในเดือนที่สองวันขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็น ให้​เขากินขนมปังไร้เชื้อและผักรสขม เขาทั้งหลายต้องไม่​ให้​อะไรเหลือจนวั​นร​ุ่งขึ้น และไม่หักกระดูกแกะปัสกา ให้​กระทำตามกฎในเรื่องถือเทศกาลปัสกาทุกประการ แต่​คนที​่สะอาดและมิ​ได้​อยู่​ในระหว่างการเดินทางแต่งดไม่ถือเทศกาลปัสกา ผู้​นั้นจะต้องถูกตัดขาดจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขามิ​ได้​นำเครื่องบูชาของพระเยโฮวาห์มาถวายตามกำหนดเวลา ผู้​นั้นจะต้องได้รับโทษบาปของเขาเอง ถ้าคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย ใคร่​จะถือเทศกาลปัสกาแด่พระเยโฮวาห์ตามกฎของเทศกาลปัสกาและตามลักษณะก็​ให้​เขาถือได้ เจ้​าจงมีกฎอย่างเดียวสำหรั​บท​ั้งคนต่างด้าวและชาวเมือง”

กันดารวิถี 9:1-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ในเดือนที่หนึ่งปีที่สองตั้งแต่เขาทั้งหลาย ออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระเจ้าตรัสกับโมเสสที่ถิ่นทุรกันดารซีนายว่า <<ให้คนอิสราเอลถือเทศกาลปัสกา ตามเวลาที่กำหนดไว้ คือเดือนนี้ในวันขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็น เจ้าทั้งหลายจงถือเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดนั้น เจ้าจงกระทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมายทั้งสิ้นของเทศกาลนั้น>> โมเสสจึงบอกคนอิสราเอลให้ถือเทศกาลปัสกา เขาทั้งหลายได้ถือเทศกาลปัสกาในเดือนที่หนึ่ง ขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็น ที่ถิ่นทุรกันดารซีนาย ที่พระเจ้าตรัสสั่งโมเสสทุกประการ คนอิสราเอลก็กระทำตามอย่างนั้น และมีผู้ชายบางคนที่มีมลทินเพราะถูกต้องศพ จึงถือปัสกาในวันนั้นไม่ได้ เขาจึงมาอยู่ต่อหน้าโมเสสและอาโรนในวันนั้น เขาเหล่านั้นกล่าวแก่ท่านว่า <<เรามีมลทินเพราะได้ถูกต้องศพ ทำไมจึงห้ามมิให้เราถวายเครื่อง บูชาของพระเจ้าตามวันกำหนดท่ามกลางคนอิสราเอล>> และโมเสสบอกเขาว่า <<จงคอยอยู่ก่อนเพื่อเราจะฟังดูว่า พระเจ้าจะตรัสสั่งอย่างไรเรื่องท่าน>> พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า ถ้าผู้ใดในพวกเจ้าหรือในพงศ์พันธุ์ของเจ้ามีมลทิน เพราะถูกต้องศพหรือไปทางไกล ก็ให้ผู้นั้นถือปัสกาแด่พระเจ้า ให้ถือปัสกาในเดือนที่สองวันขึ้นสิบสี่ค่ำเวลาเย็น ให้เขากินขนมไร้เชื้อและผักรสขม เขาทั้งหลายต้องไม่ให้อะไรเหลือจนวันรุ่งขึ้น และไม่หักกระดูกแกะปัสกา ให้กระทำตามกฎเกณฑ์ ในเรื่องถือเทศกาลปัสกาทุกประการ แต่คนที่สะอาดและมิได้เดินทางไป แต่งดไม่ถือเทศกาลปัสกา ให้อเปหิผู้นั้นจากท่ามกลางชนชาติของเขา เพราะเขามิได้นำเครื่องบูชาของพระเจ้ามาถวายตามกำหนด ผู้นั้นต้องถูกทำโทษ ถ้าคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่ท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย จะใคร่ถือเทศกาลปัสกาแด่พระเจ้าตามกฎเกณฑ์ของ เทศกาลปัสกาและตามกฎหมาย ก็ให้เขาถือได้ เจ้าจงมีกฎเกณฑ์อย่างเดียวสำหรับทั้งคนต่างด้าว และชาวเมือง>>

กันดารวิถี 9:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสในถิ่นกันดารซีนายในเดือนที่หนึ่งของปีที่สองหลังจากพวกเขาออกจากอียิปต์ว่า “ให้ประชากรอิสราเอลฉลองเทศกาลปัสกาตามเวลาที่กำหนดไว้ ให้ฉลองพิธีนี้ตามเวลาที่กำหนดคือ เริ่มตั้งแต่พลบค่ำของวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่ง จงปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ของเราเกี่ยวกับพิธีนี้ทุกประการ” ดังนั้นโมเสสจึงประกาศให้ชนอิสราเอลฉลองเทศกาลปัสกา พวกเขาก็ฉลองในถิ่นกันดารซีนายตั้งแต่พลบค่ำของวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง ชาวอิสราเอลก็ทำทุกอย่างตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้ แต่มีบางคนไม่สามารถฉลองปัสกาในวันนั้นเพราะเป็นมลทินตามระเบียบพิธีในเรื่องศพ ดังนั้นพวกเขาจึงมาหาโมเสสกับอาโรนในวันเดียวกันนั้น และกล่าวกับโมเสสว่า “พวกข้าพเจ้าเป็นมลทินเนื่องจากศพ เหตุใดจึงถูกห้ามไม่ให้ถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าร่วมกับพี่น้องอิสราเอลอื่นๆ ตามเวลาที่กำหนด?” โมเสสตอบพวกเขาว่า “จงคอยอยู่ก่อน ดูว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะตรัสสั่งว่าอย่างไรเกี่ยวกับพวกท่าน” แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งชนอิสราเอลว่า ‘เมื่อใครในพวกท่านหรือวงศ์วานของท่านเป็นมลทินเพราะศพ หรืออยู่ระหว่างการเดินทางก็ยังฉลองปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ แต่ต้องเป็นเดือนถัดไป คือเริ่มจากตอนพลบค่ำของวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง พวกเขาต้องกินลูกแกะพร้อมกับขนมปังไม่ใส่เชื้อและผักขม อย่าเหลือสิ่งใดค้างไว้จนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น และอย่าหักกระดูกแกะแม้สักซี่ เมื่อพวกเขาฉลองปัสกานี้ พวกเขาต้องรักษากฎระเบียบของพิธีนี้ทุกประการ แต่หากผู้ใดไม่ได้เป็นมลทินตามระเบียบพิธีและไม่ได้อยู่ระหว่างการเดินทาง แต่ไม่ฉลองเทศกาลปัสกา จะต้องถูกตัดออกจากหมู่ประชากรของเขา โทษฐานบิดพลิ้วไม่ถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าตามเวลาที่กำหนด ผู้นั้นจะต้องรับผลจากบาปของตน “ ‘คนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้าที่ต้องการร่วมฉลองปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบเดียวกัน เป็นกฎเกณฑ์สำหรับทั้งคนต่างด้าวและคนอิสราเอลโดยกำเนิด’ ”

กันดารวิถี 9:1-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โมเสส​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​ซีนาย ใน​เดือน​แรก​ของ​ปี​ที่​สอง​หลัง​จาก​ที่​พวก​เขา​พ้น​ออก​จาก​แผ่นดิน​อียิปต์​ว่า “ให้​ชาว​อิสราเอล​ฉลอง​เทศกาล​ปัสกา​ตาม​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้ จง​ฉลอง​วัน​ตาม​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้​ใน​ยาม​โพล้เพล้​ของ​วัน​ที่​สิบ​สี่​เดือน​นี้ ตาม​คำ​บัญชา​และ​กฎเกณฑ์” ดังนั้น​โมเสส​จึง​บอก​ชาว​อิสราเอล​ให้​ฉลอง​เทศกาล​ปัสกา พวก​เขา​ก็​ทำ​ตาม​นั้น​เมื่อ​อยู่​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​ซีนาย​เวลา​โพล้เพล้​ของ​วัน​ที่​สิบ​สี่​ของ​เดือน​แรก ชาว​อิสราเอล​ทำ​ทุกอย่าง​ตาม​ที่พระ​ผู้​เป็น​เจ้าบัญชา​โมเสส​ทุก​ประการ แต่​มี​บางคน​ที่​ไม่​สามารถ​ฉลอง​เทศกาล​ปัสกา​ใน​วัน​นั้น​ได้ เพราะ​มี​มลทิน​ที่​เกิด​จาก​การ​แตะต้อง​ซากศพ พวก​เขา​จึง​มา​พบ​โมเสส​และ​อาโรน​ใน​วัน​เดียวกัน​นั้น และ​พูด​กับ​โมเสส​ว่า “พวก​เรา​มี​มลทิน​เพราะ​แตะต้อง​ซากศพ แต่​ทำไม​พวก​เรา​ถึง​ถูก​กัน​ไม่​ให้​ถวาย​เครื่อง​บูชา​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ด้วย​กัน​กับ​ชาว​อิสราเอล​อื่นๆ ตาม​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้​เล่า” โมเสส​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “จง​รอ​จนกว่า​เรา​จะ​ทราบ​ว่า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​บัญชา​อย่างไร​ใน​เรื่อง​ของ​ท่าน” แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โมเสส​ว่า “จง​บอก​ชาว​อิสราเอล​ตาม​นี้ ‘เมื่อ​ใคร​ก็​ตาม​ใน​พวก​เจ้า​หรือ​ผู้​สืบ​เชื้อสาย​มี​มลทิน​เพราะ​แตะต้อง​ซากศพ หรือ​เดินทาง​ไป​ที่​อื่น พวก​เขา​ก็​สามารถ​ฉลอง​เทศกาล​ปัสกา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ได้ โดย​ให้​เขา​ฉลอง​ใน​วัน​ที่​สิบ​สี่​ของ​เดือน​สอง​ยาม​โพล้เพล้ เขา​ต้อง​รับประทาน​เนื้อ​แกะ​กับ​ขนมปัง​ไร้​เชื้อ​และ​ผัก​รส​ขม เขา​จะต้อง​ไม่​ให้​มี​ของ​เหลือ​ทิ้ง​ไว้​จนถึง​รุ่ง​เช้า หรือ​หัก​กระดูก​สัก​ชิ้น​เดียว เวลา​พวก​เขา​ฉลอง​วัน​ปัสกา เขา​ต้อง​ทำ​ตาม​กฎเกณฑ์​ทุก​ข้อ แต่​ถ้า​ชาย​ใด​ไม่​มี​มลทิน​และ​ไม่​ได้​ออก​เดินทาง​ไป​ไหน แต่​ไม่​ได้​ฉลอง​เทศกาล​ปัสกา เขา​จะต้อง​ถูก​ตัดขาด​จาก​ชน​ชาติ​ของ​เขา เพราะ​เขา​ไม่​ได้​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ตาม​กำหนด​เวลา ชาย​ผู้​นั้น​จะต้อง​รับ​โทษ​บาป​ของ​ตน ชาว​ต่างด้าว​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​หมู่​พวก​เจ้า​ที่​ต้องการ​ฉลอง​เทศกาล​ปัสกา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ต้อง​กระทำ​ตาม​คำ​บัญชา​และ​กฎเกณฑ์​ของ​วัน​ปัสกา เจ้า​ต้อง​ใช้​กฎเกณฑ์​เดียวกัน​นี้​สำหรับ​ชาว​ต่างแดน​และ​ชาว​อิสราเอล​โดย​กำเนิด’”