กันดารวิถี 18:21-31
กันดารวิถี 18:21-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
พวกชาวอิสราเอลจะถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของพืชผลและสัตว์ที่เกิดใหม่ เรายกส่วนนี้ให้กับชาวเลวี นี่จะเป็นส่วนแบ่งของพวกเขา เป็นค่าตอบแทน ที่พวกเขาทำงานหนักในเต็นท์นัดพบ ตั้งแต่นี้ไป ชาวอิสราเอลต้องไม่เข้าไปใกล้เต็นท์นัดพบ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกลงโทษ เพราะบาปของพวกเขาและจะตาย มีแต่ชาวเลวีเท่านั้นที่จะทำงานให้เต็นท์นัดพบ และพวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อความบาปที่เกิดขึ้น นี่จะเป็นกฎของพวกเจ้าตลอดไป และพวกเลวีก็จะไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดินของชาวอิสราเอล ชาวอิสราเอลจะถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ แล้วเราจะให้ส่วนนี้กับชาวเลวี เป็นส่วนแบ่งแทนที่ดิน เพราะอย่างนี้ เราถึงได้บอกชาวเลวีว่า พวกเขาจะไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดิน ท่ามกลางประชาชนชาวอิสราเอล” พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “ให้บอกชาวเลวีว่า ‘เมื่อคนอิสราเอลเอาสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้มาถวายให้กับเรา เราก็ได้มอบส่วนนี้ให้เป็นส่วนแบ่งของเจ้า เมื่อเจ้าได้รับส่วนแบ่งนี้แล้ว เจ้าต้องถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งนั้นให้กับพระยาห์เวห์ด้วย ของขวัญของเจ้านี้ พระเจ้าก็จะนับให้กับเจ้าเหมือนกับว่ามันเป็นเมล็ดข้าวจากลานนวดข้าวและน้ำองุ่นที่เต็มล้นในบ่อย่ำองุ่น ดังนั้น เมื่อเจ้าได้รับสิบเปอร์เซ็นต์ที่ชาวอิสราเอลเอามาถวายพระยาห์เวห์ เจ้าก็ต้องถวายของขวัญให้กับพระยาห์เวห์เหมือนกัน จากของขวัญที่เจ้าเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์นี้ เจ้าต้องเอาไปให้กับนักบวชอาโรน เจ้าจะต้องแยกส่วนที่ดีที่สุดจากของขวัญแต่ละอย่างทั้งหมดที่เจ้าได้รับมา เอาไว้เป็นของขวัญจากเจ้าที่ให้พระยาห์เวห์’ และให้บอกกับพวกเลวีว่า ‘เมื่อเจ้าเอาส่วนที่ดีที่สุดของมันมาถวายแล้ว พระเจ้าก็จะถือว่าส่วนที่เหลือนั้น เป็นของเจ้าชาวเลวี เหมือนกับตอนที่เอาผลผลิตจากลานนวดข้าว และผลผลิตจากบ่อย่ำองุ่น มาถวายนั่นเอง เจ้าและครอบครัวของเจ้าจะกินมันที่ไหนก็ได้ เพราะมันเป็นค่าแรงของเจ้าที่ทำงานในเต็นท์นัดพบ
กันดารวิถี 18:21-31 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
“และดูสิ เราให้ทศางค์ทั้งหมด ในอิสราเอลแก่คนเลวีเป็นมรดก เป็นค่าตอบแทนงานที่เขาทั้งหลายทำอยู่ คืองานที่เต็นท์นัดพบ ตั้งแต่นี้ไปคนอิสราเอลจะไม่เข้ามาใกล้เต็นท์นัดพบ เกรงว่าพวกเขาจะรับโทษบาปถึงตาย แต่คนเลวีจะต้องทำงานของเต็นท์นัดพบ และพวกเขาจะต้องรับโทษความผิดของเขา จะเป็นกฎกำหนดถาวรตลอดชาติพันธุ์ของเจ้า เขาทั้งหลายจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล เพราะว่าทศางค์ของคนอิสราเอล ซึ่งถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นเครื่องถวาย เราได้ให้แก่คนเลวีเป็นมรดก เพราะฉะนั้นเราจึงบอกพวกเขาว่าเขาจะไม่มีมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล” พระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “ยิ่งกว่านั้น เจ้าจงกล่าวแก่คนเลวีว่า ‘เมื่อพวกเจ้ารับทศางค์จากคนอิสราเอล ซึ่งเราให้แก่พวกเจ้าเป็นมรดกของเจ้าที่มาจากพวกเขานั้น เจ้าจงนำร้อยละสิบจากทศางค์นั้นถวายแด่พระยาห์เวห์เป็นเครื่องถวาย และเครื่องถวายของพวกเจ้านั้นจะนับเสมือนพืชผลที่ได้จากลานนวดข้าว และเสมือนผลผลิตเต็มเปี่ยมจากบ่อย่ำองุ่น ดังนั้นพวกเจ้าต้องถวายเครื่องถวายจากทศางค์ทั้งหมดของเจ้าที่รับจากคนอิสราเอลนั้นแด่พระยาห์เวห์ด้วย แล้วพวกเจ้าจงมอบส่วนที่เป็นเครื่องถวายแด่พระยาห์เวห์นี้ให้แก่อาโรนปุโรหิต เจ้าจงถวายเครื่องถวายทั้งหมดจากทุกอย่างที่พวกเจ้าได้รับนั้นแด่พระยาห์เวห์ คือจากส่วนที่ดีที่สุดทั้งหมดของสิ่งนั้น เป็นส่วนบริสุทธิ์จากสิ่งนั้น’ ฉะนั้นเจ้าจงพูดกับเขาทั้งหลายว่า ‘เมื่อเจ้าได้ถวายส่วนที่ดีที่สุดจากของเหล่านั้นแล้ว ให้คนเลวีนับส่วนที่เหลืออยู่ เสมือนพืชที่ได้มาจากลานนวดข้าวและเสมือนผลผลิตจากบ่อย่ำองุ่น และเจ้าทั้งหลายจะรับประทานส่วนนั้น ณ ที่ใดๆ ก็ได้ ทั้งตัวเจ้าและครัวเรือนของเจ้า เพราะว่าเป็นค่าตอบแทนการทำงานของพวกเจ้าในเต็นท์นัดพบ
กันดารวิถี 18:21-31 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ดูเถิด เราให้บรรดาสิบชักหนึ่งในอิสราเอลแก่คนเลวีเป็นมรดก เป็นค่าตอบแทนงานที่เขาปฏิบัติ คืองานปฏิบัติที่พลับพลาแห่งชุมนุม ตั้งแต่นี้ต่อไปคนอิสราเอลจะมิได้เข้ามาใกล้พลับพลาแห่งชุมนุม เกลือกว่าเขาจะรับโทษบาปและจะต้องตาย แต่คนเลวีจะต้องปฏิบัติงานของพลับพลาแห่งชุมนุม และเขาจะต้องรับโทษความชั่วช้าของเขา จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วอายุของเจ้า เขาจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนสิบชักหนึ่งของคนอิสราเอล ซึ่งนำมาถวายแด่พระเยโฮวาห์ เราได้ให้แก่คนเลวีเป็นมรดก เพราะฉะนั้นเราจึงได้บอกเขาว่า ‘เขาจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล’” พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “ยิ่งกว่านั้น เจ้าจงกล่าวแก่คนเลวีว่า ‘เมื่อพวกเจ้ารับสิบชักหนึ่งจากคนอิสราเอล ซึ่งเราให้แก่เจ้าอันมาจากเขาเป็นมรดกของเจ้านั้น เจ้าจงนำสิบชักหนึ่งของสิบชักหนึ่งที่เจ้าได้มานั้นถวายแด่พระเยโฮวาห์ และส่วนถวายของเจ้านั้นจะนับเหมือนหนึ่งเป็นพืชที่ได้มาจากลานนวดข้าว และเหมือนส่วนที่เต็มเปี่ยมจากบ่อย่ำองุ่น เพราะฉะนั้นเจ้าต้องนำของบูชาจากสิบชักหนึ่งทั้งสิ้นของเจ้าถวายแด่พระเยโฮวาห์ คือสิบชักหนึ่งที่เจ้ารับจากคนอิสราเอลนั้น จากส่วนได้นี้พวกเจ้าจงมอบของถวายแด่พระเยโฮวาห์แด่อาโรนปุโรหิต จากบรรดาของที่พวกเจ้าได้รับ เจ้าจงนำเครื่องถวายทุกสิ่งที่ต้องถวายแด่พระเยโฮวาห์ จากบรรดาของดีที่สุดนั้นคือส่วนของที่บริสุทธิ์’ ฉะนั้นเจ้าจงพูดกับเขาว่า ‘เมื่อเจ้าได้ถวายส่วนที่ดีที่สุดแล้ว ให้คนเลวีนับส่วนที่เหลืออยู่เป็นเหมือนหนึ่งพืชที่ได้มาจากลานนวดข้าวและเป็นผลได้จากบ่อย่ำองุ่น และเจ้าจะรับประทานส่วนนั้น ณ ที่ใดๆก็ได้ ทั้งตัวเจ้าและครอบครัวของเจ้า เพราะว่าเป็นรางวัลตอบแทนงานปฏิบัติของเจ้าในพลับพลาแห่งชุมนุม
กันดารวิถี 18:21-31 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
<<เราให้ทศางค์ ในอิสราเอลแก่คนเลวีเป็นมรดก เป็นค่าตอบแทนงานที่เขาปฏิบัติ คืองานปฏิบัติที่เต็นท์นัดพบ ตั้งแต่นี้ต่อไปคนอิสราเอลจะมิได้เข้ามาใกล้เต็นท์ นัดพบ เกลือกว่าเขาจะรับโทษบาปและจะต้องตาย แต่คนเลวี จะต้องปฏิบัติงานของเต็นท์นัดพบ และเขาจะต้องรับโทษความผิดของเขา จะเป็นกฎเกณฑ์ถาวรตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเจ้า เขาจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล เพราะว่าส่วนทศางค์ของคนอิสราเอล ซึ่งนำมาถวายแด่พระเจ้า เราได้ให้แก่คนเลวีเป็นมรดก เพราะฉะนั้นเราจึงได้บอกเขาว่า เขาจะไม่มีส่วนมรดกท่ามกลางคนอิสราเอล>> พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<ยิ่งกว่านั้น เจ้าจงกล่าวแก่คนเลวีว่า <เมื่อพวกเจ้ารับทศางค์จากคนอิสราเอล ซึ่งเราให้แก่เจ้าอันมาจากเขา เป็นมรดกของเจ้านั้น เจ้าจงนำทศางค์ของทศางค์ที่เจ้าได้มานั้นถวายแด่พระเจ้า และส่วนถวายของเจ้านั้นจะนับเหมือนหนึ่ง เป็นพืชที่ได้มาจากลานนวดข้าว และเหมือนส่วนที่เต็มเปี่ยมจากบ่อย่ำองุ่น เพราะฉะนั้นเจ้าต้องนำของบูชาจากทศางค์ ทั้งสิ้นของเจ้าถวายแด่พระเจ้า คือทศางค์ที่เจ้ารับจากคนอิสราเอลนั้น จากส่วนได้นี้ พวกเจ้าจงมอบของถวายแด่พระเจ้าแก่อาโรนปุโรหิต จากบรรดาของที่พวกเจ้าได้รับ เจ้าจงนำเครื่องถวายทุกสิ่งที่ต้องถวายแด่พระเจ้า จากบรรดาของดีที่สุดนั้น คือส่วนของที่บริสุทธิ์> ฉะนั้นเจ้าจงพูดกับเขาว่า <เมื่อเจ้าได้ถวายส่วนที่ดีที่สุดแล้ว ให้คนเลวีนับส่วนที่เหลืออยู่เป็นเหมือนหนึ่งพืชที่ได้มา จากลานนวดข้าวและเป็นผลได้จากบ่อย่ำองุ่น และเจ้าจะรับประทานส่วนนั้น ณ ที่ใดๆก็ได้ ทั้งตัวเจ้าและครอบครัวของเจ้า เพราะว่าเป็นรางวัลตอบแทนงานปฏิบัติของเจ้าในเต็นท์นัดพบ
กันดารวิถี 18:21-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
“เรายกสิบลดทั้งหมดที่คนอิสราเอลนำมาถวายให้เป็นกรรมสิทธิ์ของคนเลวี เพื่อตอบแทนงานซึ่งเขาทำในขณะที่ปรนนิบัติรับใช้ที่เต็นท์นัดพบ นับแต่นี้ไปชาวอิสราเอลอย่าเข้าใกล้เต็นท์นัดพบ มิฉะนั้นเขาจะต้องรับผลของบาปของเขาและเสียชีวิต ชาวเลวีจะเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เต็นท์นัดพบ และรับผิดชอบการล่วงละเมิดใดๆ ต่อเต็นท์นั้น นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไป พวกเขาจะไม่ได้รับกรรมสิทธิ์ใดๆ ในหมู่ชนอิสราเอล แต่เรายกสิบลดซึ่งชนอิสราเอลถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าให้เป็นกรรมสิทธิ์ของคนเลวี ด้วยเหตุนี้เราจึงกล่าวว่า ‘พวกเขาจะไม่ได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ใดๆ ในหมู่ชนอิสราเอล’ ” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงบอกคนเลวีว่า ‘เมื่อเจ้าได้รับสิบลดจากชนอิสราเอลซึ่งเรายกให้เจ้าเป็นกรรมสิทธิ์ จงถวายสิบลดจากสิบลดนั้นเป็นเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า สิบลดนี้จะถือเสมือนเป็นเครื่องบูชาผลแรกของข้าวจากลานนวดข้าว และเหล้าองุ่นจากบ่อย่ำองุ่นของเจ้า ด้วยวิธีนี้เจ้าก็จะได้ถวายเครื่องบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าจากสิบลดทั้งปวงที่เจ้ารับจากชนอิสราเอล จากสิบลดนี้จงมอบส่วนที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าให้แก่ปุโรหิตอาโรน เจ้าต้องยกส่วนที่ดีที่สุดและบริสุทธิ์ที่สุดของทุกสิ่งที่ได้รับเป็นส่วนที่ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า’ “จงกล่าวกับคนเลวีว่า ‘เมื่อเจ้านำส่วนที่ดีที่สุดนี้มาถวาย ก็เปรียบเหมือนเป็นเครื่องบูชาจากผลผลิตจากลานนวดข้าวหรือบ่อย่ำองุ่นของเจ้า ส่วนที่เหลือจากนี้ เจ้ากับครัวเรือนจะนำไปรับประทานที่ไหนก็ได้ เพราะเป็นสิ่งตอบแทนที่เจ้าทำหน้าที่รับใช้ที่เต็นท์นัดพบ
กันดารวิถี 18:21-31 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
เราได้ยกหนึ่งในสิบของทุกสิ่งในอิสราเอลให้แก่ชาวเลวีเป็นมรดก เป็นค่าตอบแทนการงานของพวกเขา ที่รับใช้ในกระโจมที่นัดหมาย และจากนี้ไปชาวอิสราเอลจะต้องไม่มาใกล้กระโจมที่นัดหมาย มิฉะนั้นเขาจะรับโทษบาปของตนถึงแก่ความตาย แต่ชาวเลวีจะต้องรับใช้งานของกระโจมที่นัดหมาย และต้องรับผิดชอบการกระทำผิดต่อสถานที่ และจงถือเป็นกฎเกณฑ์ของทุกชาติพันธุ์ของพวกเจ้าไปตลอดกาล และพวกเขาจะไม่ได้รับมรดกท่ามกลางชาวอิสราเอล ด้วยว่า เราได้ยกหนึ่งในสิบที่เป็นของชาวอิสราเอลซึ่งพวกเขานำมาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าเพื่อให้เป็นมรดกแก่ชาวเลวีแล้ว ฉะนั้นเราจึงบอกพวกเขาว่าพวกเขาจะไม่ได้รับมรดกท่ามกลางชาวอิสราเอล” พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวกับโมเสสว่า “ยิ่งกว่านั้น เจ้าจงบอกชาวเลวีว่า ‘เมื่อเจ้ารับหนึ่งในสิบที่เราได้ให้แก่เจ้าจากชาวอิสราเอลเป็นมรดก เจ้าก็จงถวายหนึ่งในสิบของหนึ่งในสิบที่ได้รับแด่พระผู้เป็นเจ้า และของถวายของเจ้าจะนับว่าเป็นเสมือนธัญพืชจากลานนวดข้าว และเหล้าองุ่นจากเครื่องสกัด ดังนั้นเจ้าจะต้องมอบหนึ่งในสิบแด่พระผู้เป็นเจ้า เช่นเดียวกับที่ประชาชนชาวอิสราเอลมอบให้ คือเมื่อเจ้าได้รับหนึ่งในสิบที่ประชาชนชาวอิสราเอลมอบแด่พระผู้เป็นเจ้า เจ้าก็จะมอบหนึ่งในสิบจากส่วนที่เจ้าได้รับนั้นแก่อาโรนปุโรหิต เจ้าจงมอบส่วนที่ดีที่สุด บริสุทธิ์ที่สุดของทุกๆ สิ่งที่เจ้าได้รับแด่พระผู้เป็นเจ้าเป็นของถวาย’ ฉะนั้นเจ้าจงบอกพวกเขาว่า ‘เมื่อเจ้าถวายส่วนที่ดีที่สุด ก็จะนับว่าส่วนที่เหลือเป็นเสมือนผลผลิตจากลานนวดข้าวและผลจากเครื่องสกัดสำหรับชาวเลวี และพวกเจ้ากับครอบครัวจะรับประทานที่ไหนก็ได้ ถือเป็นเครื่องตอบแทนสำหรับงานรับใช้ในกระโจมที่นัดหมาย