มาระโก 10:1-31

มาระโก 10:1-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​พระเยซู​ก็​ไป​จาก​ที่​นั่น พระองค์​เข้า​ไป​ที่​แคว้น​ยูเดีย ที่​อยู่​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน มี​ชาวบ้าน​มากมาย​มา​หา​พระองค์ พระองค์​ก็​สั่งสอน​เขา​เหมือน​เคย มี​ฟาริสี​บางคน​มา​ทดสอบ​พระองค์ โดย​ถาม​ว่า “มัน​ถูก​กฎ​หรือ​เปล่า​ที่​ผู้ชาย​จะ​หย่า​กับ​ภรรยา” พระองค์​ย้อน​ถาม​ว่า “แล้ว​โมเสส​สั่ง​ว่า​อย่าง​ไร​เกี่ยวกับ​เรื่องนี้” พวก​เขา​ตอบ​ว่า “โมเสส​ยอม​ให้​ผู้ชาย​เขียน​ใบ​หย่า​ให้​กับ​ภรรยา แล้ว​ก็​หย่า​ได้” พระองค์​จึง​พูด​ว่า “ที่​โมเสส​เขียน​อย่าง​นั้น​ให้ ก็​เพราะ​จิตใจ​ของ​พวก​คุณ​มัน​ดื้อ​ด้าน แต่​อันที่จริง ตั้ง​แต่​เริ่ม​สร้าง​โลก​มา​แล้ว ‘พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์​ให้​เป็น​ชาย​และ​หญิง’ ผู้ชาย​ถึง​ได้​แยก​จาก​พ่อ​แม่​ไป​อยู่​ร่วม​กัน​กับ​ภรรยา​ของ​เขา แล้ว​ทั้ง​สอง​ก็​กลาย​เป็น​คนๆ​เดียว​กัน พวก​เขา​ไม่​ใช่​สอง​คน​อีก​ต่อ​ไป​แต่​เป็น​คนๆ​เดียว​กัน ดังนั้น​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ได้​ผูกพัน​เข้า​ด้วย​กัน​แล้ว​ก็​อย่า​ให้​ใคร​มา​แยก​ออก​จาก​กัน​เลย” เมื่อ​พวก​เขา​อยู่​กัน​ตาม​ลำพัง​ใน​บ้าน พวก​ศิษย์​ก็​ถาม​พระเยซู​เกี่ยวกับ​เรื่องนี้ พระองค์​ตอบ​ว่า “ใคร​ก็​ตาม​ที่​หย่า​กับ​ภรรยา​แล้ว​ไป​แต่งงาน​ใหม่ ก็​ถือ​ว่า​มี​ชู้ และ​ถ้า​หญิง​ที่​หย่า​กับ​สามี​แล้ว​ไป​แต่งงาน​ใหม่ ก็​ถือ​ว่า​นาง​มี​ชู้​เหมือน​กัน” ผู้คน​ต่าง​พา​เด็ก​เล็กๆ​มา​ให้​พระองค์​แตะต้อง​ตัว แต่​พวก​ศิษย์​ได้​ต่อว่า​พวก​เขา​ไป เมื่อ​พระองค์​เห็น​ก็​ไม่​พอใจ จึง​พูด​กับ​พวก​ศิษย์​ว่า “ปล่อย​ให้​พวก​เด็ก​เล็กๆ​เข้า​มา​หา​เรา อย่า​ห้าม​พวก​เขา เพราะ​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​ของ​คน​ที่​เป็น​เหมือน​กับ​เด็ก​เล็กๆ​พวกนี้ เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ถ้า​คน​ไหน​ไม่​ยอมรับ​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เหมือน​กับ​ที่​เด็ก​เล็กๆ​พวกนี้​ยอมรับ คน​นั้น​จะ​ไม่​ได้​เข้า​ใน​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​แน่ๆ” แล้ว​พระองค์​ก็​โอบ​เด็กๆ​ไว้​ใน​อ้อมแขน​และ​วางมือ​อวยพร​ให้​กับ​พวก​เขา ใน​ขณะ​ที่​พระองค์​เริ่ม​ออก​เดิน​ทาง​นั้น​ก็​มี​ชาย​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​วิ่ง​เข้า​มา​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​พระองค์ แล้ว​ถาม​ว่า “อาจารย์​ผู้​ประเสริฐ ผม​จะ​ต้อง​ทำ​ยังไง​ถึง​จะ​มี​ชีวิต​กับ​พระเจ้า​ตลอด​ไป​ครับ” พระเยซู​ตอบ​ว่า “คุณ​เรียก​เรา​ว่า​ผู้​ประเสริฐ​ทำไม ไม่​มี​ใคร​ประเสริฐ​หรอก นอก​จาก​พระเจ้า​เท่า​นั้น คุณ​ก็​รู้​กฎปฏิบัติ​ดี​อยู่​แล้ว​นี่ ที่​ว่า​อย่า​ฆ่า​คน อย่า​มี​ชู้ อย่า​ขโมย อย่า​เป็น​พยาน​เท็จ อย่า​โกง และ​ให้​เคารพ​นับถือ​พ่อ​แม่” คน​หนุ่ม​คน​นั้น​ก็​ว่า “อาจารย์​ครับ ผม​รักษา​กฎ​ทุก​ข้อนี้​มา​ตั้ง​แต่​เด็ก​แล้ว​ครับ” พระเยซู​มอง​เขา​ด้วย​ความรัก​และ​พูด​ว่า “แต่​คุณ​ยัง​ขาด​อยู่​อีก​อย่าง​หนึ่ง คือ​ให้​ไป​ขาย​ทรัพย์​สมบัติ​ทุก​อย่าง​ที่​คุณ​มี แล้ว​เอา​เงิน​ไป​แจก​จ่าย​ให้​กับ​คน​ยากจน คุณ​ก็​จะ​มี​ทรัพย์​สมบัติ​อยู่​ใน​สวรรค์ แล้ว​มา​ติดตาม​เรา” เมื่อ​ได้ยิน​พระเยซู​พูด​อย่างนี้ เขา​ก็​เดิน​จาก​ไป​ด้วย​ความเศร้า เพราะ​เขา​ร่ำรวย​มาก พระเยซู​มอง​ไป​รอบๆ​และ​พูด​กับ​พวก​ศิษย์​ว่า “มัน​ยาก​มาก​ที่​คน​รวย​จะ​ได้​เข้า​ไป​ใน​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า” พวก​ศิษย์​ต่าง​ก็​งง​ที่​ได้ยิน​พระองค์​พูด​อย่าง​นั้น แต่​พระเยซู​พูด​ต่อว่า “ลูกๆ​เอ๋ย​รู้​ไหม​ว่า อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​นี่​เข้า​ยาก​จริงๆ จะ​ให้​อูฐ​ลอด​รูเข็ม ก็​ยัง​จะ​ง่าย​กว่า​ที่​จะ​ให้​คน​รวย​เข้า​ไป​ใน​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า” พวก​ศิษย์​ก็​ยิ่ง​งง​กัน​ไป​ใหญ่​และ​พูด​กัน​เอง​ว่า “ถ้า​อย่าง​นั้น​ใคร​จะ​ไป​รอด​ได้” พระเยซู​มอง​ดู​พวก​เขา​แล้ว​พูด​ว่า “สำหรับ​มนุษย์​ก็​เป็น​ไป​ไม่​ได้​เลย แต่​สำหรับ​พระเจ้า​ก็​เป็น​ไป​ได้ เพราะ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​เป็น​ไป​ได้​สำหรับ​พระเจ้า” เปโตร​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “ดู​สิ​ครับ พวก​เรา​ได้​สละ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​เพื่อ​มา​ติดตาม​อาจารย์” พระเยซู​พูด​ว่า “เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า คน​ที่​ได้​สละ​บ้าน​เรือน พี่น้อง​ชาย​หญิง พ่อ​แม่ ลูกๆ​หรือ​ไร่นา​เพื่อ​มา​ติด​ตาม​เรา​และ​ข่าวดี​ของ​เรา คนๆ​นั้น​จะ​ได้รับ​ผล​ตอบแทน​คืน​เป็น​ร้อย​เท่า​ของ​สิ่ง​ที่​เขา​มี​ใน​โลกนี้ ทั้ง​บ้าน​เรือน พี่น้อง​ชาย​หญิง พ่อ​แม่ ลูกๆ​และ​ไร่นา รวม​ถึง​ว่า​พวก​เขา​จะ​ต้อง​ถูกกดขี่​ข่มเหง​ด้วย แต่​พวก​เขา​จะ​มี​ชีวิต​กับ​พระเจ้า​ตลอด​ไป​ใน​โลก​หน้าที่​จะ​มา​ถึง คน​ที่​เป็น​ใหญ่​เป็น​โต​ที่สุด​ใน​ตอนนี้​จะ​กลาย​เป็น​คน​ที่​ต่ำต้อย​ที่สุด ส่วน​คน​ที่​ต่ำต้อย​ที่สุด​ใน​ตอนนี้​จะ​ได้​กลาย​เป็น​ใหญ่​เป็น​โต​ที่สุด”

มาระโก 10:1-31 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระเยซูทรงลุกขึ้นเสด็จออกจากที่นั่นไปยังเขตแดนแคว้นยูเดีย และเลยไปอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดน และฝูงชนพากันมาหาพระองค์อีก พระองค์จึงตรัสสั่งสอนพวกเขาตามที่พระองค์ทรงทำอยู่เสมอ พวกฟาริสีบางคนมาทดลองพระองค์ทูลถามว่า “การที่ผู้ชายจะหย่าภรรยาของตัวเองนั้นถูกต้องตามธรรมบัญญัติหรือไม่?” พระองค์ตรัสถามพวกเขาว่า “โมเสสบัญญัติไว้ว่าอย่างไร?” พวกเขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาต ให้ทำหนังสือหย่า แล้วปล่อยเธอไป ” พระเยซูจึงตรัสตอบพวกเขาว่า “โมเสสเขียนบัญญัติข้อนั้นเพราะใจของพวกท่านดื้อดึง แต่เดิมเมื่อสร้างโลกนั้น พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์เป็นชายและหญิง เพราะเหตุนี้ผู้ชายจึงต้องละบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจะไม่เป็นสองอีกต่อไป แต่เป็นเนื้อเดียวกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระเจ้าทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์พรากออกจากกันเลย” เมื่อเข้าไปในบ้านแล้ว พวกสาวกทูลถามพระองค์อีกถึงเรื่องนั้น พระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าใครหย่าภรรยาของตนแล้วไปมีภรรยาใหม่ คนนั้นก็ทำผิดประเวณีต่อภรรยาเดิม และถ้าผู้หญิงจะหย่าสามีของตนแล้วไปมีสามีใหม่ นางก็ทำผิดประเวณี” ขณะนั้นมีบางคนพาเด็กเล็กๆ มาหาพระองค์เพื่อจะให้พระองค์สัมผัสตัวเด็กเหล่านั้น แต่พวกสาวกห้ามไว้ เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นอย่างนั้นก็ไม่พอพระทัย ตรัสกับพวกสาวกว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆ เข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนอย่างพวกเขา เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ใครที่ไม่ยอมรับแผ่นดินของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆ จะเข้าในแผ่นดินนั้นไม่ได้” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆ เหล่านั้น วางพระหัตถ์บนตัวพวกเขา แล้วทรงอวยพรให้พวกเขา เมื่อพระองค์กำลังจะเสด็จออกไปนั้น มีคนหนึ่งวิ่งมาหาพระองค์ คุกเข่าลงทูลถามพระองค์ว่า “อาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะทำอย่างไร ถึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?” พระเยซูตรัสกับคนนั้นว่า “ท่านใช้คำว่าประเสริฐทำไม? ไม่มีใครประเสริฐนอกจากพระเจ้าองค์เดียว ท่านก็รู้จักบัญญัติแล้วที่ว่า ‘ห้ามฆ่าคน ห้ามล่วงประเวณีผัวเมียเขา ห้ามลักทรัพย์ ห้ามเป็นพยานเท็จ ห้ามโกงเขา จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า’ ” คนนั้นจึงทูลพระองค์ว่า “ท่านอาจารย์ บัญญัติเหล่านั้นข้าพเจ้าถือรักษาไว้ตั้งแต่เด็ก” พระเยซูทอดพระเนตรดูคนนั้น ทรงเอ็นดูเขาแล้วตรัสว่า “ท่านยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง จงไปขายบรรดาสิ่งของที่ท่านมีอยู่ แจกจ่ายให้กับคนยากจน ท่านจึงจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ แล้วจงกลับมาติดตามเรา” เมื่อเขาได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าของเขาก็สลด แล้วออกไปเป็นทุกข์ เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของจำนวนมาก พระเยซูจึงทอดพระเนตรรอบๆ แล้วตรัสกับเหล่าสาวกของพระองค์ว่า “คนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงๆ” เหล่าสาวกก็ประหลาดใจเพราะถ้อยคำของพระองค์ แล้วพระเยซูตรัสกับพวกเขาอีกว่า “ลูกเอ๋ยการเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงๆ อูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า” เหล่าสาวกก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง พูดกันเองว่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้?” พระเยซูทอดพระเนตรพวกเขาแล้วตรัสว่า “ส่วนมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่ไม่เหลือกำลังของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง” เปโตรจึงเริ่มทูลพระองค์ว่า “นี่แน่ะ ข้าพระองค์ทั้งหลายยอมสละสิ่งสารพัดและติดตามพระองค์มา” พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงกับท่านว่า ใครก็ตามที่สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือลูก หรือไร่นา เพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐของเรา คนนั้นจะได้รับผลตอบแทนร้อยเท่าในยุคนี้คือ บ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา ลูก และไร่นา พร้อมการข่มเหงด้วย และในยุคหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์ แต่หลายคนที่เป็นคนแรกจะกลับไปเป็นคนสุดท้าย และคนสุดท้ายจะกลับไปเป็นคนแรก”

มาระโก 10:1-31 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายพระองค์​ได้​ทรงลุกขึ้นเสด็จจากที่​นั่น เข​้าในเขตแดนแคว้นยูเดีย ไปตามทางแม่น้ำจอร์แดนฟากข้างโน้น และประชาชนพากันมาหาพระองค์​อีก พระองค์​จึงตรั​สส​ั่งสอนเขาอีกตามที่​พระองค์​ทรงเคยสอนนั้น พวกฟาริ​สี​มาทดลองพระองค์ทูลถามพระองค์​ว่า “​ผู้​ชายจะหย่าภรรยาของตนเป็นการถูกต้องตามพระราชบัญญั​ติ​หรือไม่​” พระองค์​ตรัสถามเขาว่า “โมเสสได้​บัญญัติ​ไว้​ว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าภรรยาแล้​วก​็หย่าให้” พระเยซู​จึงตรัสตอบเขาว่า “โมเสสได้​เข​ียนข้​อบ​ังคั​บน​ั้นเพราะเหตุใจพวกเจ้าแข็งกระด้าง แต่​ตั้งแต่​เดิมสร้างโลก ‘พระเจ้าได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง เพราะเหตุนี้​ผู้​ชายจะจากบิดามารดาของเขา จะไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้​ออ​ันเดียวกัน’ เขาจึงไม่เป็นสองต่อไป แต่​เป็นเนื้​ออ​ันเดียวกัน เหตุ​ฉะนั้น ซึ่งพระเจ้าได้ทรงผูกพั​นก​ันแล้ว อย่าให้​มนุษย์​ทำให้​พรากจากกันเลย” เมื่อเข้าไปในเรือนแล้วเหล่าสาวกของพระองค์ทูลถามพระองค์​อี​กถึงเรื่องนั้น พระองค์​จึงตรัสกับเขาว่า “ถ้าผู้ใดหย่าภรรยาของตน แล​้วไปมีภรรยาใหม่ ผู้​นั้​นก​็​ได้​ผิดประเวณี​ต่อเธอ และถ้าหญิงจะหย่าสามีของตน แล​้วไปมี​สามี​ใหม่ หญิงนั้​นก​็​ผิดประเวณี​” ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระองค์ เพื่อจะให้​พระองค์​ทรงถูกต้องตัวเด็กนั้น แต่​เหล่​าสาวกก็ห้ามปรามคนที่พาเด็กมานั้น เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นดังนั้​นก​็​ไม่​พอพระทัย จึงตรัสแก่​เหล่​าสาวกว่า “จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าอาณาจักรของพระเจ้าย่อมเป็นของคนเช่นเด็กเหล่านั้น เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้​หน​ึ่งผู้ใดมิ​ได้​รับอาณาจักรของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆ ผู้​นั้นจะเข้าในอาณาจั​กรน​ั้นไม่​ได้​” แล​้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆเหล่านั้น วางพระหัตถ์บนเขา แล​้วทรงอวยพรให้ เมื่อพระองค์กำลังเสด็จออกไปตามทาง มี​คนหนึ่งวิ่งมาหาพระองค์​คุ​กเข่าลงทูลถามพระองค์​ว่า “ท่านอาจารย์​ผู้​ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะกระทำประการใดจึงจะได้​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์เป็นมรดก” พระเยซู​ตรัสถามคนนั้​นว​่า “ท่านเรียกเราว่าประเสริฐทำไม ไม่มี​ใครประเสริฐเว้นแต่พระเจ้าองค์​เดียว ท่านรู้จักพระบัญญั​ติ​แล​้วซึ่งว่า ‘อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา อย่าฆ่าคน อย่าลักทรัพย์ อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อเขา จงให้​เกียรติ​แก่​บิ​ดามารดาของตน’” คนนั้นจึงทูลตอบพระองค์​ว่า “​อาจารย์​เจ้าข้า ข้อเหล่านี้ข้าพเจ้าได้ถือรักษาไว้​ตั้งแต่​เป็นเด็กมา” พระเยซู​ทรงเพ่​งด​ูคนนั้น ก็​ทรงรักเขา แล​้วตรัสแก่เขาว่า “ท่านยังขาดอยู่​สิ​่งหนึ่ง จงไปขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมี​อยู่ แจกจ่ายให้คนอนาถา แล​้​วท​่านจะมี​ทรัพย์สมบัติ​ในสวรรค์ แล​้วจงแบกกางเขน และตามเรามา” เมื่อเขาได้ยินคำนั้​นก​็​เสียใจ แล​้วออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามี​ทรัพย์​สิ​่งของเป็​นอ​ันมาก พระเยซู​จึงทอดพระเนตรรอบๆแล้วตรัสแก่​เหล่​าสาวกของพระองค์​ว่า “​คนมั่งมี​จะเข้​าในอาณาจักรของพระเจ้าก็ยากนักหนา” เหล่​าสาวกก็ประหลาดใจด้วยคำตรัสของพระองค์ และพระเยซูตรัสแก่เขาอี​กว่า “ลูกเอ๋ย คนที​่วางใจในทรัพย์​สมบัติ​จะเข้​าในอาณาจักรของพระเจ้าก็ยากนักหนา ตั​วอ​ูฐจะลอดรู​เข​็มก็ง่ายกว่าคนมั่​งม​ี​จะเข้​าในอาณาจักรของพระเจ้า” เหล่​าสาวกก็ประหลาดใจยิ่งนักจึงพู​ดก​ั​นว​่า “ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้” พระเยซู​ทอดพระเนตรเหล่าสาวกแล้วตรั​สว​่า “ฝ่ายมนุษย์ย่อมเป็นไปไม่​ได้ แต่​ไม่​เป็นแบบนั้​นก​ับพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงกระทำให้​เป็นไปได้​ทุกสิ่ง​” ฝ่ายเปโตรจึงเริ่​มท​ูลพระองค์​ว่า “​ดู​เถิด ข้าพระองค์ทั้งหลายได้สละสิ่งสารพัด และได้​ติ​ดตามพระองค์​มา​” พระเยซู​ตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดได้สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรื​อบ​ิดามารดา หรือภรรยา หรื​อบ​ุตร หรือที่​ดิน เพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐนั้น ในเวลานี้​ผู้​นั้นจะได้รับตอบแทนร้อยเท่า คื​อบ​้าน พี่​น้องชายหญิง มารดา บุ​ตรและที่​ดิน ทั้งจะถูกการข่มเหงด้วย และในโลกหน้าจะได้​ชี​วิ​ตน​ิรันดร์ แต่​มี​หลายคนที่เป็นคนต้นจะต้องกลับไปเป็นคนสุดท้าย และที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนต้น”

มาระโก 10:1-31 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายพระเยซูได้ทรงลุกขึ้นเสด็จจากที่นั่น เข้าในเขตแดนแคว้นยูเดีย และเสด็จไปแม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก และประชาชนพากันมาหาพระองค์อีก พระองค์จึงตรัสสั่งสอนเขาตามที่พระองค์ทรงเคยสอนนั้น พวกฟาริสี มาทดลองพระองค์ทูลถามว่า <<ผู้ชายจะหย่าภรรยาของตน เป็นการถูกต้องตามธรรมบัญญัติหรือไม่>> พระองค์ตรัสถามเขาว่า <<โมเสสได้บัญญัติไว้ว่าอย่างไร>> เขาทูลตอบว่า <<โมเสสอนุญาตให้ทำหนังสือหย่าให้ภรรยา แล้วก็หย่าให้>> พระเยซูจึงตรัสตอบเขาว่า <<โมเสสได้เขียนบัญญัติข้อนั้นเพราะเหตุใจพวกเจ้าดื้อดึง แต่ตั้งแต่เดิมสร้างโลก พระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นชายและหญิง เพราะเหตุนั้นบุรุษจึงต้องละบิดามารดาของตน ไปผูกพันอยู่กับภรรยา และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้ออันเดียวกัน เขาจึงไม่เป็นสองต่อไป แต่เป็นเนื้ออันเดียวกัน เหตุฉะนั้นซึ่งพระเจ้าได้ทรงผูกพันกันแล้ว อย่าให้มนุษย์ทำให้พรากจากกันเลย>> เมื่อเข้าไปในเรือนแล้ว เหล่าสาวกทูลถามพระองค์อีกถึงเรื่องนั้น พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า <<ถ้าผู้ใดหย่าภรรยาของตน แล้วไปมีภรรยาใหม่ ผู้นั้นก็ได้ผิดประเวณีต่อภรรยาเดิม และถ้าหญิงเองจะหย่าสามีของตน แล้วไปมีสามีใหม่ หญิงนั้นก็ผิดประเวณีเหมือนกัน>> ขณะนั้นเขาพาเด็กเล็กๆมาหาพระองค์ เพื่อจะให้พระองค์ทรงถูกต้องตัวเด็กนั้น แต่เหล่าสาวกก็ห้ามปรามไว้ เมื่อพระเยซูทรงเห็นดังนั้นก็ไม่พอพระทัย จึงตรัสแก่เหล่าสาวกว่า <<จงยอมให้เด็กเล็กๆเข้ามาหาเรา อย่าห้ามเขาเลย เพราะว่าแผ่นดินของพระเจ้าเป็นของคนเช่นเด็กอย่างนั้น เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้หนึ่งผู้ใดมิได้รับแผ่นดินของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆ ผู้นั้นจะเข้าในแผ่นดินนั้นไม่ได้>> แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กเล็กๆเหล่านั้น วางพระหัตถ์บนเขา แล้วทรงอวยพรให้ เมื่อพระองค์กำลังเสด็จออกไปตามทาง มีคนหนึ่งวิ่งมาหาพระองค์ คุกเข่าลงทูลถามพระองค์ว่า <<ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะกระทำประการใด จึงจะได้ชีวิตนิรันดร์>> พระเยซูตรัสถามคนนั้นว่า <<ท่านเรียกเราว่าประเสริฐทำไม ไม่มีใครประเสริฐเว้นแต่พระเจ้าองค์เดียว ท่านรู้จักพระบัญญัติแล้วซึ่งว่า <อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา อย่าลักทรัพย์ อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อเขา จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของตน> >> คนนั้นจึงทูลพระองค์ว่า <<อาจารย์เจ้าข้า ข้อเหล่านั้นข้าพเจ้าได้ถือรักษาไว้ตั้งแต่เป็นเด็กมา>> พระเยซูทรงเพ่งดูคนนั้น ก็ทรงรักเขาแล้วตรัสว่า <<ท่านยังขาดอยู่สิ่งหนึ่ง จงไปขายบรรดาสิ่งของซึ่งท่านมีอยู่แจกจ่ายให้คนอนาถา แล้วท่านจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ แล้วจงตามเรามาและเป็นสาวกของเรา>> เมื่อเขาได้ยินคำนั้น หน้าของเขาก็สลดลง แล้วคนนั้นออกไปเป็นทุกข์ เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก พระเยซูจึงทอดพระเนตรรอบๆ แล้วตรัสแก่เหล่าสาวกว่า <<คนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงหนา>> เหล่าสาวกก็ประหลาดใจด้วยพระวจนะของพระองค์ แต่พระเยซูตรัสแก่เขาอีกว่า <<ลูกเอ๋ย คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติ จะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้าก็ยากจริงหนา ตัวอูฐจะลอดรูเข็มก็ง่ายกว่าคนมั่งมีจะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า>> เหล่าสาวกก็ประหลาดใจยิ่งนักจึงทูลว่า <<ถ้าอย่างนั้นใครจะรอดได้>> พระเยซูทอดพระเนตรเหล่าสาวกแล้วตรัสว่า <<ฝ่ายมนุษย์ก็เหลือกำลังที่จะทำได้ แต่ไม่เหลือกำลังของพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงกระทำให้สำเร็จได้ทุกสิ่ง>> ฝ่ายเปโตรจึงเริ่มทูลพระองค์ว่า <<นี่แหละ ข้าพระองค์ทั้งหลายได้สละสิ่งสารพัด และได้ติดตามพระองค์มา>> พระเยซูตรัสตอบเขาว่า <<เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ถ้าผู้ใดได้สละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือลูก หรือไร่นา เพราะเห็นแก่เราและข่าวประเสริฐของเรา ในยุคนี้ ผู้นั้นจะได้รับตอบแทนร้อยเท่าคือ บ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา ลูกและไร่นา ทั้งจะถูกการข่มเหงด้วยและในยุคหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์ แต่มีหลายคนที่เป็นคนต้นจะต้องกลับไปเป็นคนสุดท้าย และที่เป็นคนสุดท้ายจะกลับเป็นคนต้น>>

มาระโก 10:1-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

จากที่นั่นพระเยซูเสด็จไปยังแคว้นยูเดียและอีกฟากของแม่น้ำจอร์แดน ฝูงชนมากมายหลายกลุ่มติดตามพระองค์มาอีกและพระองค์ทรงสั่งสอนพวกเขาเหมือนเช่นเคย ฟาริสีบางคนมาทดสอบพระองค์โดยทูลถามว่า “ผิดบัญญัติหรือไม่ที่ผู้ชายจะขอหย่าภรรยา?” พระองค์ตรัสว่า “โมเสสได้สั่งไว้ว่าอย่างไร?” พวกเขาทูลว่า “โมเสสอนุญาตให้ผู้ชายเขียนหนังสือหย่าและส่งภรรยาไป” พระเยซูตรัสว่า “เพราะพวกท่านใจแข็งกระด้างโมเสสจึงเขียนบทบัญญัติข้อนี้ให้ แต่เริ่มแรกในการทรงสร้างนั้นพระเจ้า ‘ทรงสร้างพวกเขาเป็นผู้ชายและผู้หญิง’ ‘เพราะเหตุนี้ผู้ชายจะละจากบิดามารดาของตนไปผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับภรรยา และทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน’ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เป็นสองอีกต่อไปแต่เป็นหนึ่งเดียว ฉะนั้นที่พระเจ้าทรงผูกพันเข้าด้วยกันแล้วก็อย่าให้มนุษย์แยกออกจากกันเลย” เมื่อกลับเข้าไปในบ้านอีกเหล่าสาวกทูลถามพระเยซูถึงเรื่องนี้ พระองค์ทรงตอบว่า “ผู้ใดหย่าภรรยาแล้วไปแต่งงานกับหญิงอื่นก็ล่วงประเวณีต่อนาง และหากนางหย่าจากสามีแล้วไปแต่งงานกับชายอื่นนางก็ล่วงประเวณี” ประชาชนพาเด็กเล็กๆ มาให้พระเยซูทรงแตะต้องแต่เหล่าสาวกตำหนิพวกเขา เมื่อพระเยซูทรงเห็นก็ไม่พอพระทัยจึงตรัสกับพวกเขาว่า “จงให้เด็กเล็กๆ มาหาเรา อย่าขัดขวางเขาเลย เพราะอาณาจักรของพระเจ้าเป็นของคนที่เป็นเหมือนเด็กๆ เหล่านี้ เราบอกความจริงแก่ท่านว่าผู้ใดไม่รับอาณาจักรของพระเจ้าเหมือนเด็กเล็กๆ ผู้นั้นจะไม่มีวันได้เข้าในอาณาจักรของพระเจ้าเลย” แล้วพระองค์ทรงอุ้มเด็กๆ ทรงวางพระหัตถ์บนพวกเขาและอวยพร ขณะพระเยซูเสด็จออกไปชายคนหนึ่งวิ่งมาคุกเข่าลงต่อหน้าพระองค์แล้วทูลถามว่า “ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะต้องทำอะไรบ้างจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์?” พระเยซูทรงตอบว่า “ทำไมท่านจึงว่าเราประเสริฐ? นอกจากพระเจ้าแล้วไม่มีใครอื่นที่ประเสริฐ ท่านก็รู้บทบัญญัติที่ว่า ‘อย่าฆ่าคน อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า’” เขาทูลว่า “ท่านอาจารย์ ทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าถือปฏิบัติมาตั้งแต่เด็ก” พระเยซูทอดพระเนตรมาที่เขา ทรงรักเขาและตรัสว่า “ท่านยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง จงไปขายทุกสิ่งที่มี แจกจ่ายให้คนยากจน แล้วท่านจะมีทรัพย์สมบัติในสวรรค์ จากนั้นจงตามเรามา” เขาได้ยินเช่นนั้นก็หน้าสลดแล้วจากไปด้วยความทุกข์เพราะเขาร่ำรวยมาก พระเยซูทอดพระเนตรไปรอบๆ แล้วตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ยากนักที่คนรวยจะเข้าอาณาจักรของพระเจ้า!” เหล่าสาวกแปลกใจในพระดำรัส แต่พระเยซูตรัสอีกว่า “ลูกเอ๋ย ยากยิ่งนักที่จะเข้าอาณาจักรของพระเจ้า! ให้อูฐลอดรูเข็มยังง่ายกว่าที่คนรวยจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า” เหล่าสาวกก็ยิ่งประหลาดใจจึงพูดกันว่า “ถ้าเช่นนั้นใครจะรอดได้?” พระเยซูทอดพระเนตรที่พวกเขาและตรัสว่า “สำหรับมนุษย์ก็เป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับพระเจ้าทุกสิ่งเป็นไปได้” เปโตรทูลว่า “ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ละทิ้งทุกสิ่งมาติดตามพระองค์!” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าผู้ใดละบ้าน หรือพี่น้องชายหญิง หรือบิดามารดา หรือลูกๆ หรือไร่นาเพื่อเราและเพื่อข่าวประเสริฐ เขาจะได้รับผลตอบแทนร้อยเท่าในยุคนี้ (ไม่ว่าบ้าน พี่น้องชายหญิง มารดา ลูก ไร่นา รวมทั้งการข่มเหง) และในยุคหน้าจะได้ชีวิตนิรันดร์ แต่หลายคนที่เป็นคนต้นจะกลับไปเป็นคนสุดท้ายและคนสุดท้ายจะกลับไปเป็นคนต้น”

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา