ลูกา 8:9-25

ลูกา 8:9-25 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

พวก​ศิษย์​ถาม​พระองค์​ว่า “เรื่อง​ที่​เล่า​ให้​ฟัง​นี้ หมายถึง​อะไร​ครับ” พระองค์​ตอบ​ว่า “มี​แต่​พวก​คุณ​เท่า​นั้น​ที่​เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ถึง​เรื่อง​ความลับ​ของ​อาณาจักร​ของ​พระเจ้า แต่​สำหรับ​คน​อื่น เรา​จะ​พูด​เป็น​เรื่อง​เปรียบเทียบ​ให้​ฟัง เพื่อ​ว่า ‘แม้​พวก​เขา​มองดู ก็​จะ​ไม่​เห็น แม้​พวก​เขา​ได้ยิน ก็​จะ​ไม่​เข้าใจ’” นี่​คือ​ความหมาย​ของ​เรื่อง​เปรียบเทียบ​นั้น “เมล็ด​พืช​ก็​คือ​ถ้อยคำ​ของ​พระเจ้า เมล็ดพืช​ที่​ตก​ตาม​ถนนหนทาง​ก็​คือ คน​ที่​ได้ยิน​ถ้อยคำ​ของ​พระเจ้า แต่​ถูก​มารร้าย​มา​แย่ง​เอา​ถ้อยคำ​นั้น​ไป​จาก​ใจ​ของ​เขา ทำ​ให้​เขา​ไม่​เชื่อ ก็​เลย​ไม่​รอด เมล็ดพืช​ที่​ตกใน​ดิน​ที่​ชั้นล่าง​เป็น​หิน​ก็​คือ คน​ที่​ได้ยิน​ถ้อย​คำ และ​รับ​ไว้​ทันที​ด้วย​ความ​ดีใจ​แต่​มี​ราก​ที่​ไม่​ลึก จึง​เหมือน​คน​ที่​เชื่อ​ประเดี๋ยวเดียว เมื่อ​เกิด​ความ​ทุกข์ยาก​ใน​ชีวิต​ก็​เลิก​เชื่อ เมล็ดพืช​ที่​ตก​อยู่​กลาง​พงหนาม ก็​คือ​คน​ที่​ฟัง​ถ้อยคำ​ของ​พระเจ้า​และ​รับ​ไว้ แต่​เพราะ​ความ​กังวลใจ หรือ​การ​เห็น​แก่​ความ​ร่ำรวย หรือ​ความสนุก​สนาน​ใน​ชีวิต ทำ​ให้​ไม่​เกิด​ผล เมล็ดพืช​ที่​ตกใน​ดิน​ดี ก็​คือ​คน​ที่​มี​จิตใจ​ดี​และ​ซื่อสัตย์ เมื่อ​ได้ยิน​ถ้อยคำ​ของ​พระเจ้า ก็​เก็บ​รักษา​ไว้ และ​เกิด​ผล​มาก​ด้วย​ความมานะ​อดทน” “คง​ไม่​มี​ใคร​จุด​ตะเกียง​แล้ว​เอา​ถัง​มา​ครอบ​ไว้​หรือ​วาง​ไว้​ใต้​เตียง​หรอก แต่​เขา​จะ​วาง​ไว้​บน​เชิงตะเกียง จะ​ได้​ส่อง​สว่าง​ให้​กับ​คน​ที่​เข้า​มา​ใน​บ้าน ทุก​อย่าง​ที่​ซ่อน​ไว้​เดี๋ยวนี้ ก็​จะ​ถูก​ค้น​พบ ทุก​อย่าง​ที่​เป็น​ความลับ​เดี๋ยวนี้ ก็​จะ​ถูก​เปิดเผย ถ้า​อย่าง​นั้น ระวัง​ให้​ดี​ว่า​คุณ​จะ​เป็น​ผู้​ฟัง​แบบ​ไหน คน​ที่​เข้าใจ​ดี​อยู่​แล้ว ก็​จะ​เข้าใจ​มาก​ยิ่ง​ขึ้น ส่วน​คน​ที่​ไม่​เข้าใจ​แล้ว​ยัง​ไม่​สนใจ​ฟัง​อีก แม้แต่​เรื่อง​ที่​เขา​คิด​ว่า​เข้าใจ​ก็​จะ​หาย​ไป​ด้วย” เมื่อ​แม่​กับ​น้องๆ​ของ​พระเยซู​มาหา ก็​เข้า​ไป​ไม่​ถึง​พระองค์​เพราะ​คน​แน่น​มาก มี​คน​มา​บอก​พระเยซู​ว่า “อาจารย์ แม่​กับ​พวก​น้องๆ​ของ​อาจารย์ มา​ยืน​รอ​พบ​อาจารย์​อยู่​ด้าน​นอก​ครับ” พระองค์​ตอบ​ไป​ว่า “แม่​และ​น้องๆ​ของ​เรา​ก็​คือ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฟัง​ถ้อยคำ​ของ​พระเจ้า แล้ว​ทำ​ตาม” วัน​หนึ่ง​ที่​ทะเลสาบ​พระเยซู​ลง​เรือ​พร้อม​กับ​พวก​ศิษย์ พระองค์​ออก​ปาก​ชวน​ว่า “พวก​เรา​ข้าม​ไป​ฝั่ง​โน้น​กัน​เถอะ” พวก​เขา​จึง​ออก​เรือ ขณะ​ที่​เรือ​แล่น​ไป​พระเยซู​ก็​นอนหลับ เกิด​พายุ​ใหญ่​ขึ้น​กลาง​ทะเลสาบ น้ำ​ซัด​เข้า​เรือ​จน​เกือบ​จะ​จม​อยู่​แล้ว ทุก​คน​ตก​อยู่​ใน​อันตราย พวก​เขา​จึง​พา​กัน​ไป​ปลุก​พระเยซู ตะโกน​ว่า “อาจารย์ อาจารย์ พวก​เรา​กำลัง​จะ​จม​อยู่​แล้ว” พระองค์​ก็​ตื่น​ขึ้น​มา และ​สั่ง​ลม​และ​คลื่น​ให้​สงบ พายุ​ก็​หยุด ทุก​อย่าง​สงบ​นิ่ง แล้ว​พระเยซู​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ความเชื่อ​ของ​พวก​คุณ​หาย​ไป​ไหน​หมด” พวก​เขา​ก็​เกรง​กลัว​และ​ประหลาดใจ เขา​พูด​กัน​ว่า “คนนี้​เป็น​ใคร​กัน แม้แต่​ลม​และ​คลื่น​ก็​ยัง​สั่ง​ได้ และ​พวกมัน​ก็​เชื่อฟัง​ด้วย”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:9-25 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พวกสาวกจึงทูลถามพระองค์ว่าอุปมานั้นหมายความว่าอย่างไร? พระองค์ตรัสว่า “ข้อความลึกลับเรื่องแผ่นดินของพระเจ้านั้นทรงให้พวกท่านรู้ได้ แต่ทรงให้เป็นอุปมาสำหรับคนอื่น เพื่อว่า เมื่อพวกเขาดู ก็จะไม่เห็น และเมื่อพวกเขาฟัง ก็จะไม่เข้าใจ “อุปมานั้นหมายถึงอย่างนี้ เมล็ดพืชหมายถึงพระวจนะของพระเจ้า ที่ตกตามหนทางหมายถึงคนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้ว มารมาชิงเอาพระวจนะไปจากใจของเขาเพื่อไม่ให้เขาเชื่อและรับความรอด ที่ตกบนหินหมายถึงคนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วก็รับพระวจนะนั้นด้วยความยินดี แต่ไม่มีราก เชื่อได้เพียงชั่วคราว เมื่อถูกทดลองก็หลงไป ที่ตกกลางหนามหมายถึงคนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้ว และขณะที่ดำเนินชีวิตอยู่ ความกังวล ทรัพย์สมบัติ และความสนุกสนานของชีวิตนี้ ก็รัดพวกเขาจนทำให้ผลไม่เติบโต ที่ตกในดินดีหมายถึงคนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะแล้วจดจำไว้ด้วยใจที่ซื่อสัตย์ดีงาม จึงเกิดผลโดยความทรหดอดทน “ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอาภาชนะครอบไว้หรือวางไว้ใต้เตียง มีแต่จะตั้งไว้ที่เชิงตะเกียงเพื่อให้คนที่เข้ามาได้เห็นแสงสว่างนั้น เพราะว่าไม่มีอะไรที่ซ่อนไว้แล้วจะไม่ปรากฏให้เห็น และไม่มีอะไรที่ปิดบังแล้วจะไม่ถูกล่วงรู้หรือเผยให้ประจักษ์ เพราะฉะนั้น จงเอาใจจดจ่อต่อสิ่งที่พวกท่านได้ยินได้ฟัง คนที่มีอยู่แล้ว จะทรงเพิ่มเติมให้แก่คนนั้น แต่คนที่ไม่มี แม้แต่สิ่งที่เขาคิดว่ามีอยู่นั้น ก็จะทรงเอาไปจากเขา” มารดาและพวกน้องชายของพระเยซูมาหาพระองค์ แต่ไม่สามารถเข้าถึงตัวพระองค์ได้เพราะคนมาก มีคนทูลพระองค์ว่า “มารดาและบรรดาน้องชายของท่านยืนอยู่ข้างนอก ต้องการจะพบท่าน” แต่พระองค์ตรัสกับพวกที่ชุมนุมกันในบ้านว่า “มารดาของเราและพี่น้องของเราคือคนเหล่านั้นที่ได้ฟังพระวจนะของพระเจ้าและทำตาม” อยู่มาวันหนึ่งพระองค์เสด็จลงเรือพร้อมกับพวกสาวกของพระองค์ แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า “ให้พวกเราข้ามทะเลสาบไปฝั่งโน้น” พวกเขาก็ถอยเรือออกไป ขณะกำลังแล่นไปนั้นพระองค์บรรทมหลับ และเกิดพายุหนักขึ้นกลางทะเล น้ำก็ทะลักเข้าเรือจนทุกคนตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจึงมาปลุกพระองค์ร้องว่า “พระอาจารย์ พระอาจารย์ เรากำลังจะจมน้ำตาย” พระองค์จึงทรงตื่นขึ้นห้ามลมและคลื่น แล้วคลื่นลมก็หยุดเงียบสงบ พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ความเชื่อของท่านทั้งหลายอยู่ที่ไหน?” เขาก็กลัวและอัศจรรย์ใจพูดกันว่า “ท่านผู้นี้เป็นใครนะ ถึงสั่งลมกับน้ำได้ และมันก็เชื่อฟังท่าน?”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:9-25 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เหล่​าสาวกจึงทูลถามพระองค์​ว่า “คำอุปมานั้นหมายความว่าอย่างไร” พระองค์​จึงตรั​สว​่า “ข้อความลึ​กล​ับแห่งอาณาจักรของพระเจ้าทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายรู้​ได้ แต่​สำหรับคนอื่นนั้นได้​ให้​เป็นคำอุปมา เพื่อเมื่อเขาดู​ก็​ไม่เห็น และเมื่อเขาได้ยิ​นก​็​ไม่เข้าใจ คำอุปมานั้​นก​็​อย่างนี้ เมล็ดพื​ชน​ั้นได้​แก่​พระวจนะของพระเจ้า ที่​ตกตามหนทางได้​แก่​คนเหล่านั้​นที​่​ได้ยิน แล​้วพญามารมาชิงเอาพระวจนะจากใจของเขา เพื่อไม่​ให้​เขาเชื่อและรอดได้ ซึ่งตกที่หินนั้นได้​แก่​คนเหล่านั้​นที​่​ได้​ยินแล้​วก​็รับพระวจนะนั้นด้วยความปรี​ดี แต่​ไม่มี​ราก เชื่อได้​แต่​ชั่วคราว เมื่อถูกทดลองเขาก็หลงเสียไป ที่​ตกกลางหนามนั้นได้​แก่​คนเหล่านั้​นที​่​ได้​ยินแล้วออกไป และความปรารภปรารมย์ ทรัพย์สมบัติ ความสนุกสนานแห่งชีวิ​ตน​ี้​ก็​ปกคลุมเขา ผลของเขาจึงไม่​เติบโต และซึ่งตกที่​ดิ​นดี​นั้น ได้แก่​คนเหล่านั้​นที​่​ได้​ยินพระวจนะด้วยใจซื่​อสัตย์​และใจที่​ดี​แล้วก็​จดจำไว้ จึงเกิดผลด้วยความเพียร ไม่มี​ผู้​ใดเมื่อจุดเทียนแล้วจะเอาภาชนะครอบไว้ หรือวางไว้​ใต้​เตียง แต่​ตั้งไว้​ที่​เชิงเทียน เพื่อคนทั้งหลายที่​เข​้ามาจะเห็นแสงสว่างได้ ด้วยว่าไม่​มี​สิ​่งใดที่ซ่อนไว้ซึ่งจะไม่ปรากฏแจ้ง และไม่​มี​สิ​่งใดที่ปิดบังไว้ซึ่งจะไม่​รู้​จะไม่ต้องแพร่งพราย เหตุ​ฉะนั้น ท่านทั้งหลายจะฟังอย่างไรก็จงเอาใจจดจ่อ เพราะว่าผู้ใดมี​อยู่​แล​้วจะทรงเพิ่มเติมให้​แก่​ผู้​นั้​นอ​ีก แต่​ผู้​ใดไม่​มี แม้​ซึ่งเขาคิดว่ามี​อยู่​นั้นจะทรงเอาไปจากเขา” ครั้งนั้นมารดาและพวกน้องชายของพระองค์มาหาพระองค์ แต่​เข​้าไปถึงพระองค์​ไม่ได้​เพราะคนมาก มี​คนทูลพระองค์​ว่า “มารดาและน้องชายของพระองค์ยืนอยู่ข้างนอกปรารถนาจะพบพระองค์” แต่​พระองค์​ตรัสตอบเขาว่า “มารดาของเรา และพี่น้องของเราคือคนเหล่านั้​นที​่​ได้​ฟังพระวจนะของพระเจ้าและกระทำตาม” อยู่​มาวันหนึ่งพระองค์เสด็จลงเรื​อก​ับเหล่าสาวกของพระองค์ แล​้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า “​ให้​เราข้ามทะเลสาบไปฟากข้างโน้น” เขาก็ถอยเรือออกไป เมื่อกำลังแล่นไปพระองค์ทรงบรรทมหลับ และบังเกิดพายุ​กล​้ากลางทะเลสาบ น้ำเข้าเรืออยู่น่ากลัวจะมี​อันตราย เขาจึงมาปลุกพระองค์​ว่า “​อาจารย์​เจ้าข้า อาจารย์​เจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังจะพินาศอยู่​แล้ว​” พระองค์​จึงทรงตื่นขึ้นห้ามลมและคลื่น แล​้วคลื่นลมก็หยุดเงียบสงบที​เดียว พระองค์​จึงตรัสแก่เขาว่า “ความเชื่อของเจ้าอยู่​ที่ไหน​” เขาเหล่านั้นกลัวและประหลาดใจพู​ดก​ั​นว​่า “ท่านผู้​นี้​เป็นผู้ใดจึงสั่​งบ​ังคับลมและน้ำได้ และลมกั​บน​้ำนั้​นก​็เชื่อฟังท่าน”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:9-25 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

เหล่าสาวกจึงทูลถามพระองค์ว่า คำเปรียบนั้นหมายความอย่างไร พระองค์จึงตรัสว่า <<ข้อความลึกลับแห่งแผ่นดินของพระเจ้าทรงโปรดให้ท่านทั้งหลายรู้ได้ แต่สำหรับคนอื่นนั้นได้ให้เป็นคำอุปมา เพื่อเมื่อเขาดูก็ไม่เห็น และเมื่อเขาได้ยินก็ไม่เข้าใจ <<คำเปรียบนั้นก็อย่างนี้ เมล็ดพืชนั้นได้แก่พระวจนะของพระเจ้า ที่ตกตามหนทางได้แก่ คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วมารมาชิงเอาพระวจนะจากใจของเขา เพื่อไม่ให้เชื่อและรอดได้ ซึ่งตกที่หินนั้นได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้ว ก็รับพระวจนะนั้นด้วยความปรีดี แต่ไม่มีราก เชื่อได้แต่ชั่วคราว เมื่อถูกทดลองเขาก็หลงเสียไป ที่ตกกลางหนามนั้นได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินแล้วออกไป และความปรารภปรารมย์ ทรัพย์สมบัติ ความสนุกสนานแห่งชีวิตนี้ก็ปกคลุมเขา ผลของเขาจึงไม่เติบโต และซึ่งตกที่ดินดีนั้น ได้แก่คนเหล่านั้นที่ได้ยินพระวจนะด้วยใจเลื่อมใสศรัทธา แล้วก็จดจำไว้ จึงเกิดผลโดยความเพียร <<ไม่มีผู้ใดเมื่อจุดตะเกียงแล้วจะเอาภาชนะครอบไว้ หรือวางไว้ใต้เตียงแต่ตั้งไว้ที่เชิงตะเกียง เพื่อคนทั้งหลายที่เข้ามา จะเห็นแสงสว่างได้ ด้วยว่าไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนไว้ซึ่งจะไม่ปรากฏแจ้ง และไม่มีสิ่งใดที่ปิดบังไว้ซึ่งจะไม่รู้ จะไม่ต้องแพร่งพราย เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจะฟังอย่างไรก็จงเอาใจจดจ่อ เพราะว่าผู้ใดมีอยู่แล้ว จะทรงเพิ่มเติมให้แก่ผู้นั้นอีก แต่ผู้ใดไม่มี แม้ซึ่งเขาคิดว่ามีอยู่นั้น จะทรงเอาไปจากเขา>> ครั้งนั้นมารดาและพวกน้องชายของพระองค์มาหาพระองค์ แต่เข้าไปถึงพระองค์ไม่ได้เพราะคนมาก มีคนทูลพระองค์ว่า <<มารดาและน้องชายของพระองค์ ยืนอยู่ข้างนอกปรารถนาจะมาหาพระองค์>> แต่พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<มารดาของเราและพี่น้องของเรา คือคนเหล่านั้นที่ได้ฟังพระดำรัสของพระเจ้าและกระทำตาม>> อยู่มาวันหนึ่งพระองค์เสด็จลงเรือกับเหล่าสาวกของพระองค์ แล้วพระองค์ตรัสแก่เขาว่า <<ให้เราข้ามทะเลสาบไปฟากข้างโน้น>> เขาก็ถอยเรือออกไป เมื่อกำลังแล่นไปพระองค์บรรทมหลับ และบังเกิดพายุกล้ากลางทะเล น้ำเข้าเรืออยู่น่ากลัวจะมีอันตราย เขาจึงมาปลุกพระองค์ว่า <<อาจารย์เจ้าข้า อาจารย์เจ้าข้า ข้าพเจ้ากำลังจะจมอยู่แล้ว>> พระองค์จึงทรงตื่นขึ้นห้ามลมและคลื่น แล้วคลื่นลมก็หยุดเงียบสงบทีเดียว พระองค์จึงตรัสแก่เขาว่า <<ความเชื่อของเจ้าอยู่ที่ไหน>> เขาเหล่านั้นกลัวและประหลาดใจพูดกันว่า <<ท่านนี้เป็นผู้ใดจึงสั่งบังคับลมและน้ำได้ ลมกับน้ำนั้นก็เชื่อฟังท่าน>>

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:9-25 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

เหล่าสาวกมาทูลถามพระองค์ถึงความหมายของคำอุปมานี้ พระองค์ตรัสว่า “ความลับของอาณาจักรของพระเจ้า ทรงโปรดให้พวกท่านรู้ แต่กับคนอื่นนั้นเรากล่าวเป็นคำอุปมาเพื่อว่า “ ‘แม้ได้ดูพวกเขาก็ไม่เห็น แม้ได้ฟังพวกเขาก็ไม่เข้าใจ’ “ความหมายของคำอุปมาก็คือ เมล็ดที่หว่านคือพระวจนะของพระเจ้า ที่หล่นตามทางคือผู้ที่ได้ยิน แล้วมารก็มาชิงพระวจนะไปจากใจของเขาเพื่อไม่ให้เขาเชื่อและได้รับความรอด ที่ตกลงบนหินคือผู้ที่ได้ยิน แล้วรับพระวจนะด้วยความยินดีแต่ไม่หยั่งรากลึก เขาเชื่อเพียงชั่วระยะหนึ่ง แต่เมื่อถูกทดลองก็เลิกราไป เมล็ดพืชที่ตกกลางพงหนามคือผู้ที่ได้ยิน แต่ขณะที่เขาดำเนินชีวิตไปตามทางของเขาก็ถูกความพะวักพะวน ทรัพย์สมบัติ และความสนุกบันเทิงในชีวิตกีดขวาง เขาจึงไม่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่เมล็ดที่ตกบนดินดีนั้นคือผู้ที่จิตใจดีงามสูงส่ง ผู้ได้ยินพระวจนะแล้วรับไว้และเกิดผลด้วยความอดทนบากบั่น “ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วซ่อนไว้ในถังหรือวางไว้ใต้เตียง แต่ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียงเพื่อคนที่เข้ามาเห็นแสงสว่าง เพราะไม่มีสักสิ่งที่ซ่อนไว้แล้วจะไม่ถูกเปิดเผย ไม่มีสักสิ่งที่ปิดบังไว้จะไม่มีใครรู้หรือไม่ถูกเปิดโปง เหตุฉะนั้นจงเอาใจใส่สิ่งที่เจ้าได้ยินได้ฟังให้ดี ผู้ใดที่มีอยู่แล้วจะได้รับเพิ่มขึ้น ส่วนผู้ที่ไม่มี แม้สิ่งที่เขาคิดว่าเขามีก็จะถูกเอาไปจากเขา” ขณะนั้นมารดากับน้องๆ ของพระเยซูมาหาพระองค์ แต่ไม่สามารถเข้าใกล้พระองค์ได้เพราะคนแน่นมาก มีบางคนมาทูลพระองค์ว่า “มารดากับน้องชายของท่านยืนอยู่ข้างนอกต้องการจะพบท่าน” พระองค์ทรงตอบว่า “มารดาและน้องชายของเราคือบรรดาผู้ที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าและนำไปปฏิบัติ” วันหนึ่งพระเยซูตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ให้เราข้ามทะเลสาบไปอีกฟากหนึ่งเถิด” พวกเขาจึงพากันลงเรือไป ขณะที่เขาแล่นเรือไปพระเยซูบรรทมหลับ เกิดพายุใหญ่กลางทะเลสาบ น้ำซัดเข้าเรือ และพวกเขาตกอยู่ในอันตรายใหญ่หลวง เหล่าสาวกเข้ามาปลุกพระองค์และทูลว่า “พระอาจารย์ พระอาจารย์ เรากำลังจะจมแล้ว!” พระองค์ทรงลุกขึ้นห้ามลมและคลื่น พายุก็สงบลงและทุกอย่างก็สงบเงียบ พระองค์ทรงถามเหล่าสาวกว่า “ความเชื่อของพวกท่านอยู่ที่ไหน?” พวกเขากลัวและประหลาดใจ ต่างถามกันว่า “นี่คือใครหนอ? แม้แต่ลมและคลื่นก็ยังเชื่อฟังคำสั่งของพระองค์”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8

ลูกา 8:9-25 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

พวก​สาวก​ของ​พระ​องค์​ถาม​ว่า คำ​อุปมา​นี้​หมาย​ความ​ว่า​อย่างไร พระ​องค์​กล่าว​ว่า “เรา​ทำ​ให้​เจ้า​เข้าใจ​ถึง​ความ​ลับ​ของ​อาณาจักร​ของ​พระ​เจ้า​แล้ว แต่​สำหรับ​ผู้อื่น เรา​กล่าว​เป็น​อุปมา​เพื่อ​ว่า ‘แม้​ว่า​ขณะ​ที่​กำลัง​ดู พวก​เขา​ก็​มอง​ไม่​เห็น แม้​ว่า​ขณะ​ที่​กำลัง​ได้ยิน พวก​เขา​ก็​ไม่​เข้าใจ’ นี่​คือ​ความ​หมาย​ของ​คำ​อุปมา​ที่​ว่า เมล็ด​พืช​นั้น​เป็น​เสมือน​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า พวก​ที่​อยู่​ตาม​ทาง​คือ​ผู้​ที่​ได้ยิน​แล้ว และ​พญามาร​ก็​มา​ปล้น​คำกล่าว​ออก​จาก​จิตใจ​ของ​เขา เพื่อ​ไม่​ให้​เชื่อ​และ​รอด​พ้น​ได้ พวก​ที่​อยู่​บน​หิน คือ​ผู้​ที่​เมื่อ​ได้ยิน​คำกล่าว​ก็​รับ​ไว้​ด้วย​ความ​ยินดี แต่​เนื่อง​จาก​เขา​ไม่​มี​ราก​ฐาน​อัน​มั่นคง จึง​เชื่อ​สักพัก​หนึ่ง พอ​ถึง​เวลา​ทดสอบ​ใจ​ก็​ล้มเลิก​จาก​ความ​เชื่อ เมล็ด​ที่​ตก​ท่าม​กลาง​ไม้​หนาม​เปรียบ​ได้​กับ​ผู้​ที่​ได้ยิน แต่​ขณะ​ที่​เขา​ดำรง​ชีวิต​ต่อ​ไป ก็​ถูก​ขัดขวาง​โดย​ความ​กังวล​ต่างๆ ความ​ร่ำรวย​และ​ความ​สำราญ ซึ่ง​ทำ​ให้​ไม่​อาจ​เติบโต​ได้ แต่​เมล็ด​บน​ดิน​ดี​เปรียบ​เสมือน​ผู้​ที่​บากบั่น ด้วย​จิตใจ​อัน​ซื่อสัตย์​และ​ดี​งาม​เมื่อ​ได้ยิน​คำกล่าว และ​ด้วย​ความ​พากเพียร​จึง​บังเกิด​ผล ไม่​มี​ผู้​ใด​ที่​จุด​ตะเกียง​แล้ว​ซ่อน​ไว้​ใน​โถ​หรือ​ใต้​เตียง แต่​จะ​ตั้ง​ไว้​บน​ขาตั้ง​ตะเกียง​เพื่อ​ให้​ผู้​ที่​เข้า​มา​ได้​เห็น​แสง​สว่าง ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​ซ่อน​ไว้​แล้ว​จะ​ไม่​ปรากฏ​แจ้ง และ​ไม่​มี​สิ่ง​ใด​ที่​เร้นลับ​แล้ว​จะ​ไม่​ถูก​เปิดเผย​ใน​ที่​แจ้ง ฉะนั้น​เจ้า​จง​ฟัง​ให้​ดี ผู้​ใด​ก็​ตาม​ที่​มี​อยู่​แล้ว​จะ​ได้​รับ​มาก​ขึ้น และ​ผู้​ใด​ที่​ไม่​มี แม้​ว่า​สิ่ง​ซึ่ง​เขา​คิด​ว่า​เขา​มี​อยู่​ก็​จะ​ถูก​ยึด​ไป​จาก​เขา​เสีย” ขณะ​นั้น​มารดา​และ​พวก​น้อง​ชาย​ของ​พระ​เยซู​มา​หา​พระ​องค์ แต่​ไม่​อาจ​ฝ่า​ฝูง​ชน​เข้า​มา​ได้​เพราะ​คน​แน่น มี​คน​มา​บอก​พระ​เยซู​ว่า “มารดา​และ​พวก​น้อง​ชาย​ของ​ท่าน​กำลัง​ยืน​อยู่​ข้าง​นอก​และ​ต้องการ​จะ​มา​หา​ท่าน” พระ​องค์​ตอบ​ว่า “มารดา​และ​พี่น้อง​ของ​เรา คือ​พวก​ที่​ฟัง​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​และ​ปฏิบัติ​ตาม” วัน​หนึ่ง พระ​เยซู​กล่าว​กับ​กลุ่ม​สาวก​ว่า “เรา​ข้าม​ทะเลสาบ​ไป​อีก​ฟาก​กัน​เถิด” ฉะนั้น​สาวก​ทั้ง​หลาย​ก็​ออก​เรือ​ไป ขณะ​ที่​แล่น​ใบ​ออก​ไป พระ​องค์​นอน​หลับ​อยู่ และ​เกิด​พายุ​กระหน่ำ​ใน​ทะเลสาบ น้ำ​ก็​ท่วม​ลำ​เรือ​จน​เข้า​ขั้น​อันตราย บรรดา​สาวก​จึง​ไป​ปลุก​พระ​องค์​ให้​ตื่น​พลาง​พูด​ว่า “นายท่าน นายท่าน พวก​เรา​กำลัง​จะ​ตาย​อยู่​แล้ว” พระ​องค์​ตื่น​ขึ้น​ห้าม​ลม​และ​คลื่น พายุ​จึง​หยุด​และ​สงบ​เงียบ​ลง พระ​องค์​จึง​ถาม​พวก​เขา​ว่า “ความ​เชื่อ​ของ​เจ้า​อยู่​ที่​ไหน” พวก​เขา​ถาม​กัน​และ​กัน​ด้วย​ความ​ตกใจ​และ​อัศจรรย์​ใจ​ว่า “แล้ว​ท่าน​ผู้​นี้​เป็น​ใคร จึง​สั่ง​ลม​และ​น้ำ​ให้​เชื่อฟัง​ได้”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 8