ลูกา 10:1-24

ลูกา 10:1-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ต่อมา​พระเยซู​เลือก​ศิษย์​อีก​เจ็ดสิบสอง​คน แล้ว​ส่ง​พวก​เขา​ออก​ไป​เป็น​คู่ๆ​ล่วงหน้า​พระองค์​ไป​ตาม​เมือง​และ​หมู่บ้าน​ต่างๆ​ที่​พระองค์​กำลัง​จะ​ไป พระองค์​บอก​พวก​เขา​ว่า “พืชผล​ที่​จะ​ให้​เก็บเกี่ยว​นั้น​มี​มากมาย​แต่​คน​งาน​มี​น้อย ดังนั้น​ให้​อ้อนวอน​ขอ​องค์​เจ้า​ชีวิต​ผู้​เป็น​เจ้าของ​พืชผล ให้​ส่ง​คนงาน​มา​ช่วย​เก็บเกี่ยว​พืชผล​ของ​พระองค์​ด้วย ไป​เถอะ แต่​อย่า​ลืม​นะ​ว่า​เรา​กำลัง​ส่ง​พวก​คุณ​ออก​ไป​เหมือน​พวก​ลูกแกะ​ไป​อยู่​ท่ามกลาง​ฝูง​หมาป่า ไม่​ต้อง​เอา​ถุง​เงิน ถุง​ย่าม หรือ​รองเท้า​ติดตัว​ไป และ​ไม่​ต้อง​หยุด​ทักทาย​ใคร​ใน​ระหว่าง​ทาง เมื่อ​เข้า​บ้าน​ไหน​ก็​ให้​อวยพร​ก่อน​ว่า ‘ขอ​ให้​บ้านนี้​อยู่​เย็น​เป็น​สุข’ ถ้า​บ้าน​นั้น​มี​คน​ที่รัก​ความสงบสุข​อยู่ พร​นั้น​ก็​จะ​ตก​เป็น​ของ​เขา แต่​ถ้า​ไม่​มี พร​นั้น​ก็​จะ​กลับ​มา​อยู่​กับ​คุณ​อีก เมื่อ​อยู่​บ้าน​ไหน​ก็​ให้​อยู่​บ้าน​นั้น​ตลอด อย่า​ย้าย​ไป​ย้าย​มา เมื่อ​เขา​เอา​อะไร​มา​ให้​กิน​และ​ดื่ม ก็​กิน​เลย เพราะ​คน​งาน​ก็​สมควร​จะ​ได้รับ​ค่าจ้าง เมื่อ​เข้า​ไป​ใน​เมือง​ไหน เขา​เลี้ยง​อะไร​ก็​ให้​กิน​สิ่ง​นั้น รักษา​คน​ที่​ไม่​สบาย​ใน​เมือง​นั้น และ​บอก​เขา​ว่า ‘อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว’ แต่​ถ้า​เมือง​ไหน​ไม่​ต้อนรับ​คุณ ก็​ให้​ไป​ยืน​อยู่​ที่​ถนน​แล้ว​พูด​ว่า ‘แม้แต่​ฝุ่น​ใน​เมืองนี้​ที่​ติด​เท้า​เรา เรา​ก็​จะ​ปัด​ออก​ให้​หมด’ เพื่อ​เป็น​การ​เตือน​พวก​คุณ แต่​ให้​รู้​เอา​ไว้​ว่า ‘อาณาจักร​ของ​พระเจ้า​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว’ เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ใน​วัน​พิพากษา โทษ​ของ​เมือง​นั้น​จะ​รุนแรง​กว่า​โทษ​ของ​เมือง​โสโดม​เสีย​อีก” “น่า​ละอาย​จริงๆ​เมือง​โคราซิน​และ​เมือง​เบธไซดา เพราะ​ถ้า​เรื่อง​อัศจรรย์​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​เมือง​ของ​เจ้า​นี้​ไป​เกิด​ที่​เมือง​ไทระ​และ​เมือง​ไซดอน แล้ว​ละ​ก็ คน​ที่​นั่น​ก็​คง​กลับตัว​กลับใจ ใส่​ผ้า​กระสอบ​และ​เอา​ขี้เถ้า​โรย​หัว​ไป​นาน​แล้ว ใน​วัน​พิพากษา​นั้น โทษ​ของ​เมืองนี้​จะ​รุนแรง​กว่า​โทษ​ของ​เมือง​ไทระ​และ​เมือง​ไซดอน​เสีย​อีก ส่วน​เจ้า เมือง​คาเปอรนาอุม เจ้า​คิด​ว่า เจ้า​จะ​ถูก​ยก​ขึ้น​สูง​เทียมฟ้า​หรือ ไม่​มี​ทาง เจ้า​จะ​ต้อง​ถูก​โยน​ลง​ไป​ใน​แดน​คน​ตาย​ต่าง​หาก” แล้ว​พระองค์​ก็​บอก​กับ​ศิษย์​ว่า “คน​ที่​ยอมรับ​ถ้อยคำ​ของ​พวก​คุณ ก็​เท่า​กับ​ยอมรับ​เรา​ด้วย และ​คน​ที่​ไม่​ยอมรับ​พวกคุณ ก็​เท่า​กับ​ไม่​ยอมรับ​เรา​ด้วย แล้ว​คน​ที่​ไม่​ยอมรับ​เรา ก็​เท่า​กับ​ไม่​ยอมรับ​พระเจ้า​ผู้ที่​ส่ง​เรา​มา​ด้วย” ศิษย์​ทั้ง​เจ็ดสิบสอง​คน​กลับ​มา​รายงาน​พระเยซู​ด้วย​ความดีใจ​ว่า “อาจารย์​ครับ ตอน​ที่​เรา​อ้าง​ชื่อ​ของ​อาจารย์ แม้แต่​พวก​ผี​ชั่ว ยัง​เชื่อฟัง​เรา​เลย” พระเยซู​ตอบ​ว่า “เรา​เห็น​ซาตาน​ตกลง​มา​จาก​ฟ้า​เหมือน​ฟ้าแลบ เรา​ให้​อำนาจ​พวก​คุณ ที่​จะ​เหยียบย่ำ​งู​ร้าย​และ​แมงป่อง และ​เรา​ให้​อำนาจ​เหนือ​ศัตรู​ทั้งหมด ไม่​มี​อะไร​ทำร้าย​พวก​คุณ​ได้ แต่​ทั้งนี้ทั้งนั้น​อย่า​ดีใจ​เพราะ​พวก​ผี​ชั่ว​เชื่อฟัง​คุณ แต่​ให้​ดีใจ​เพราะ​มี​ชื่อ​ของ​พวก​คุณ​จด​ไว้​บน​สวรรค์​แล้ว” ใน​เวลา​นั้น​พระเยซู​เต็ม​ไป​ด้วย​ความสุข​ใน​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์ พระองค์​พูด​ว่า “ลูก​ขอ​ขอบคุณ​พระองค์​ผู้​เป็น​เจ้าของ​ฟ้าสวรรค์​และ​แผ่นดินโลก เพราะ​พระองค์​ได้​ปิดบัง​เรื่อง​เหล่านี้​จาก​พวก​ที่​มี​การศึกษา​และ​พวก​เฉลียว​ฉลาด แต่​เปิดเผย​ให้​กับ​คน​ที่​ไร้เดียงสา​เหมือน​เด็ก​เล็กๆ​ได้​รู้ ใช่​แล้ว พระบิดา เพราะ​นั้นแหละ​เป็น​ไป​ตาม​ความพอใจ​ของ​พระองค์” “พระบิดา​ได้​ให้​เรา​มี​สิทธิอำนาจ​เหนือ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง ไม่​มี​ใคร​รู้จัก​พระบุตร นอก​จาก​พระบิดา และ​ไม่​มี​ใคร​รู้จัก​พระบิดา นอก​จาก​พระบุตร และ​คน​ที่​พระบุตร​เลือก​ที่​จะ​บอก​ให้​รู้​เกี่ยวกับ​พระบิดา” พระเยซู​หัน​มา​พูด​กับ​พวก​ศิษย์​เป็น​การส่วนตัว​ว่า “เป็น​เกียรติ​จริงๆ​สำหรับ​พวก​คุณ​ที่​ได้​เห็น​สิ่ง​เหล่านี้ เรา​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า มี​พวกผู้พูดแทนพระเจ้า และ​พวก​กษัตริย์​อยาก​เห็น​อยาก​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​พวก​คุณ​เห็น​และ​ได้ยิน​นี้ แต่​พวก​เขา​ก็​ไม่​ได้​เห็น​และ​ก็​ไม่​ได้ยิน​ด้วย”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 10

ลูกา 10:1-24 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ภายหลังเหตุการณ์เหล่านั้น พระเยซูทรงแต่งตั้งอีกเจ็ดสิบสองคนและทรงใช้พวกเขาออกไปเป็นคู่ๆ ล่วงหน้าไปก่อนพระองค์ เข้าไปทุกเมืองและทุกตำบลที่พระองค์จะเสด็จไปนั้น พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมาก แต่คนงานยังน้อยอยู่ เพราะฉะนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์ ไปเถอะ เราใช้พวกท่านออกไปเหมือนอย่างลูกแกะที่อยู่ท่ามกลางฝูงหมาป่า อย่าเอาถุงเงิน หรือย่าม หรือรองเท้าไป และอย่าทักทายใครตามทาง ถ้าจะเข้าไปในบ้านใดจงพูดก่อนว่า ‘ขอให้บ้านนี้มีสันติสุข’ ถ้ามีคนรักสันติอยู่ที่นั่น สันติสุขของพวกท่านจะอยู่กับเขา ถ้าไม่มี สันติสุขของท่านจะกลับคืนมาอยู่กับพวกท่าน จงอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันนั้นตลอด กินและดื่มของที่พวกเขาจัดให้นั้น เพราะว่าคนที่ทำงานสมควรจะได้รับค่าจ้างของตน อย่าย้ายจากบ้านนี้ไปบ้านโน้น เมื่อพวกท่านเข้าไปในเมืองไหนและมีคนต้อนรับท่าน จงรับประทานสิ่งที่เขาจัดให้ และจงรักษาคนป่วยในเมืองนั้นให้หายและแจ้งกับเขาว่า ‘แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้พวกท่านแล้ว’ แต่ถ้าท่านทั้งหลายเข้าไปในเมืองไหนและไม่มีใครต้อนรับท่าน จงออกไปที่กลางถนนของเมืองนั้นกล่าวว่า ‘แม้แต่ผงคลีดินในเมืองของพวกท่านที่ติดอยู่กับเท้าของเรา เราก็จะสะบัดออกเพื่อเป็นการประท้วงท่าน แต่พวกท่านจงเข้าใจข้อความนี้ คือแผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้แล้ว’ เราบอกพวกท่านว่า โทษของเมืองโสโดมในวันนั้นจะยังเบากว่าโทษของเมืองนั้น “วิบัติแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติแก่เจ้า เมืองเบธไซดา ถ้าการอัศจรรย์ต่างๆ ซึ่งทำท่ามกลางพวกเจ้าได้ทำในเมืองไทระและเมืองไซดอน คนในเมืองทั้งสองคงได้นุ่งห่มผ้ากระสอบ นั่งบนขี้เถ้า กลับใจใหม่นานแล้ว แต่ในวันพิพากษานั้น โทษของเมืองไทระและเมืองไซดอนจะเบากว่าโทษของพวกเจ้า ส่วนเจ้า เมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ? เปล่าเลย เจ้าจะต้องลงไปถึงแดนคนตายต่างหาก ผู้ที่ยอมฟังพวกท่านก็ยอมฟังเรา ผู้ที่ไม่ยอมรับพวกท่านก็ไม่ยอมรับเรา ผู้ที่ไม่ยอมรับเราก็ไม่ยอมรับผู้ที่ใช้เรามา” สาวกเจ็ดสิบสองคนนั้นกลับมาด้วยความยินดีทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า แม้แต่พวกผีก็อยู่ใต้บังคับของพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์” พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ นี่แน่ะ เราให้พวกท่านมีสิทธิอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และให้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรูนั้น ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกท่านได้เลย แต่ว่าอย่าชื่นชมยินดีในสิ่งนี้ คือที่พวกผีอยู่ใต้บังคับของท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์” ในเวลานั้นเอง พระเยซูทรงเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดาผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และโลก ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ที่พระองค์ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากคนมีปัญญาและคนฉลาด แต่ทรงสำแดงแก่พวกทารก ถูกแล้ว ข้าแต่พระบิดา พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น “พระบิดาของเราทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นใครนอกจากพระบุตร และผู้ที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้” พระองค์ทรงหันมาหาพวกสาวก ตรัสกับพวกเขาเป็นการส่วนตัวว่า “ผู้ที่ได้เห็นสิ่งที่พวกท่านเห็นก็เป็นสุข เพราะเราบอกพวกท่านว่า ผู้เผยพระวจนะหลายคนและกษัตริย์หลายองค์ปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ แต่เขาทั้งหลายไม่เคยเห็น และอยากจะได้ยินสิ่งที่พวกท่านได้ยิน แต่เขาก็ไม่เคยได้ยิน”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 10

ลูกา 10:1-24 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ภายหลังเหตุ​การณ์​เหล่านี้ องค์​พระผู้เป็นเจ้าทรงตั้งสาวกอื่​นอ​ีกเจ็ดสิบคนไว้และใช้เขาออกไปทีละสองคนๆ ให้​ล่วงหน้าพระองค์ไปก่อน ให้​เข​้าไปทุกเมืองและทุกตำบลที่​พระองค์​จะเสด็จไปนั้น พระองค์​ตรัสกับเขาว่า “การเก็บเกี่ยวนั้นเป็นการใหญ่​นักหนา แต่​คนงานยังน้อยอยู่ เหตุ​ฉะนั้นพวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์​ผู้​ทรงเป็นเจ้าของการเก็บเกี่ยวนั้น ให้​ส่งคนงานมาในการเก็บเกี่ยวของพระองค์ ไปเถอะ ดู​เถิด เราใช้ท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัขป่า อย่าเอาไถ้​เงิน หรือย่าม หรือรองเท้าไป และอย่าคำนับผู้ใดตามทาง ถ้าท่านจะเข้าไปในเรือนใดๆจงพู​ดก​่อนว่า ‘​ให้​ความสุ​ขม​ี​แก่​เรือนนี้​เถิด​’ ถ้าลูกแห่งสันติสุขอยู่​ที่นั่น สันติ​สุขของท่านจะอยู่กับเขา ถ้าหาไม่ สันติ​สุขของท่านจะกลั​บอย​ู่กั​บท​่านอีก จงอาศัยอยู่ในเรือนนั้น กินและดื่มของซึ่งเขาจะให้นั้นด้วยว่าผู้ทำงานสมควรจะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเที่ยวจากเรือนนี้ไปเรือนโน้น ถ้าท่านจะเข้าไปในเมืองใดๆและเขารับรองท่านไว้ จงกินของที่เขาตั้งให้ และจงรักษาคนป่วยในเมืองนั้นให้​หาย และแจ้งแก่เขาว่า ‘อาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว’ ถ้าท่านจะเข้าไปในเมืองใดๆและเขาไม่รับรองท่านไว้ จงออกไปที่กลางถนนของเมืองนั้นกล่าวว่า ‘​ถึงแม้​ผงคลี​ดิ​นแห่งเมืองของเจ้าทั้งหลายที่​ติ​ดอย​ู่กับเรา เราก็จะสะบัดออกเป็​นที​่​แสดงว่า เราไม่​เห​็นพ้องกับเจ้า แต่​เจ้​าทั้งหลายจงเข้าใจความนี้​เถิด คืออาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้​เจ้​าทั้งหลายแล้ว’ เราบอกท่านทั้งหลายว่า โทษของเมืองโสโดมในวันนั้นจะเบากว่าโทษของเมืองนั้น วิบัติ​แก่​เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติ​แก่​เจ้า เมืองเบธไซดา เพราะถ้าการมหัศจรรย์ซึ่งได้กระทำท่ามกลางเจ้าได้กระทำในเมืองไทระและเมืองไซดอน คนในเมืองทั้งสองจะได้นุ่งห่มผ้ากระสอบ นั่งบนขี้​เถ้า กล​ับใจเสียใหม่​นานมาแล้ว แต่​ในการพิพากษานั้น โทษของเมืองไทระและเมืองไซดอนจะเบากว่าโทษของเจ้า ฝ่ายเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม ซึ่งได้​ถู​กยกขึ้นเทียมฟ้า เจ้​าจะต้องลงไปถึงนรกต่างหาก ผู้​ที่​ฟังท่านทั้งหลายก็​ได้​ฟังเรา ผู้​ที่​เกล​ียดชังท่านทั้งหลายก็​เกล​ียดชังเรา ผู้​ที่​เกล​ียดชังเราก็​เกล​ียดชังผู้​ที่​ทรงใช้เรามา” ฝ่ายสาวกเจ็ดสิบคนนั้นกลับมาด้วยความปรี​ดี​ทูลว่า “​พระองค์​เจ้าข้า ถึงผีทั้งหลายก็​ได้​อยู่​ใต้​บังคับของพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์” พระองค์​ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า “เราได้​เห​็นซาตานตกจากสวรรค์เหมือนฟ้าแลบ ดู​เถิด เราได้​ให้​พวกท่านมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมลงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศั​ตรู ไม่มี​สิ​่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้​เลย แต่​ว่าอย่าเปรมปรี​ดิ​์ในสิ่งนี้ คือที่พวกผี​อยู่​ใต้​บังคับของท่าน แต่​จงเปรมปรี​ดิ​์เพราะชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์” ในโมงนั้นเอง พระเยซู​ทรงมีความเปรมปรี​ดิ​์ในพระวิญญาณ จึงตรั​สว​่า “​โอ ข้าแต่พระบิดา ผู้​เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระองค์​ที่​พระองค์​ได้​ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้​ไว้​จากคนมีปัญญาและคนสุขุมรอบคอบ และได้ทรงเปิดเผยสิ่งเหล่านี้​แก่​ทารกน้อย ข้าแต่พระบิดา ที่​เป็นอย่างนั้​นก​็เพราะเป็​นที​่ชอบพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์ พระบิดาของเราได้ทรงมอบสิ่งสารพัดให้​แก่​เรา และไม่​มี​ใครรู้ว่าพระบุตรเป็นผู้ใดนอกจากพระบิดา และไม่​มี​ใครรู้ว่าพระบิดาเป็นผู้ใดนอกจากพระบุตร และผู้​ที่​พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้​รู้​” พระองค์​ทรงเหลียวหลังไปทางเหล่าสาวกตรัสเฉพาะแก่พวกเขาว่า “​นัยน์​ตาทั้งหลายที่​ได้​เห​็นการณ์ซึ่งพวกท่านได้​เห​็​นก​็​เป็นสุข เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ศาสดาพยากรณ์​หลายคน และกษั​ตริ​ย์หลายองค์ ปรารถนาจะเห็นซึ่งท่านทั้งหลายเห็นอยู่​นี้ แต่​เขามิเคยได้​เห็น และอยากจะได้ยินซึ่งท่านทั้งหลายได้​ยิน แต่​เขามิเคยได้​ยิน​”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 10

ลูกา 10:1-24 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ภายหลังเหตุการณ์เหล่านั้น พระเยซูทรงตั้งสาวกอื่นอีกเจ็ดสิบคนไว้ และใช้เขาออกไปทีละสองคนๆ ให้ล่วงหน้าพระองค์ไปก่อน ให้เข้าไปทุกเมืองและทุกตำบลที่พระองค์จะเสด็จไปนั้น พระองค์ตรัสกับเขาว่า <<ข้าวที่ต้องเกี่ยวนั้นมีมากแต่คนงานยังน้อยอยู่ เหตุฉะนั้น พวกท่านจงอ้อนวอนพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของนา ให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวพืชผลของพระองค์ ไปเถอะ ดูเถิด เราใช้ท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัขป่า อย่าเอาไถ้เงิน หรือย่าม หรือรองเท้าไป และอย่าคำนับผู้ใดตามทาง ถ้าจะเข้าไปในเรือนใดๆ จงพูดก่อนว่า <ให้ความสุขมีแก่เรือนนี้เถิด> ถ้าลูกแห่งสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา ถ้าหาไม่ สันติสุขของท่านจะกลับอยู่กับท่านอีก จงอาศัยอยู่ในเรือนนั้น กินและดื่มของซึ่งเขาจะให้นั้น ด้วยว่าผู้ทำงานสมควรจะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเที่ยวจากเรือนนี้ไปเรือนโน้น ถ้าท่านจะเข้าไปในเมืองใดๆ และเขารับรองท่านไว้จงกินของที่เขาตั้งให้ และจงรักษาคนป่วยในเมืองนั้นให้หาย และแจ้งแก่เขาว่า <แผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว> ถ้าท่านจะเข้าไปในเมืองใดๆ และเขาไม่รับรองท่านไว้ จงออกไปที่กลางถนนเมืองนั้นกล่าวว่า <ถึงแม้ผงคลีดินแห่งเมืองของเจ้าทั้งหลายที่ติดอยู่กับเท้าของเรา เราก็สะบัดออกเป็นที่แสดงว่า เราไม่เห็นพ้องกับเจ้า แต่เจ้าทั้งหลายจงเข้าใจความนี้เถิด คือแผ่นดินของพระเจ้ามาใกล้แล้ว> เราบอกท่านทั้งหลายว่า โทษของเมืองโสโดมในวันนั้นจะเบากว่าโทษของเมืองนั้น <<วิบัติแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติแก่เจ้า เมืองเบธไซดา ถ้าการมหัศจรรย์ซึ่งได้กระทำท่ามกลางเจ้าได้กระทำในเมืองไทระและเมืองไซดอน คนในเมืองทั้งสองคงได้นุ่งห่มผ้ากระสอบ นั่งบนขี้เถ้า กลับใจเสียใหม่นานมาแล้ว แต่ในวันพิพากษานั้น โทษเมืองไทระและเมืองไซดอนจะเบากว่าโทษของเจ้า ฝ่ายเจ้าเมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ มิได้ เจ้าจะต้องลงไปถึงแดนคนตายต่างหาก <<ผู้ที่ฟังท่านทั้งหลายก็ได้ฟังเรา ผู้ที่ไม่ยอมรับท่านทั้งหลายก็ไม่ยอมรับเรา ผู้ที่ไม่ยอมรับเราก็ไม่ยอมรับผู้ที่ใช้เรามา>> ฝ่ายสาวกเจ็ดสิบคนนั้นกลับมาด้วยความปรีดีทูลว่า <<พระองค์เจ้าข้า ถึงผีทั้งหลายก็ได้อยู่ใต้บังคับของพวกข้าพระองค์โดยพระนามของพระองค์>> พระองค์ตรัสกับเขาทั้งหลายว่า <<เราได้เห็นซาตาน ตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ ดูเถิด เราได้ให้พวกท่านมีอำนาจเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่ากำลังศัตรู ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะทำอันตรายแก่ท่านได้เลย แต่ว่าอย่าเปรมปรีดิ์ในสิ่งนี้ คือที่พวกผีอยู่ใต้บังคับของพวกท่าน แต่จงเปรมปรีดิ์ เพราะชื่อของท่านจดไว้ในสวรรค์>> ในโมงนั้นเอง พระเยซูทรงมีความเปรมปรีดิ์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงตรัสว่า <<ข้าแต่พระบิดา ผู้เป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และโลก ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ ที่พระองค์ได้ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้ไว้จากผู้มีปัญญาและผู้ฉลาด แต่ได้ทรงสำแดงให้ผู้น้อยรู้ ข้าแต่พระบิดา พระองค์ทรงเห็นชอบดังนั้น <<พระบิดาของเราได้ทรงมอบสิ่งสารพัดให้แก่เรา และไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นผู้ใดนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นผู้ใดนอกจากพระบุตร และผู้ที่พระบุตรประสงค์จะสำแดงให้รู้>> พระองค์ทรงเหลียวหลังทอดพระเนตรเหล่าสาวก ตรัสเฉพาะแก่พวกเขาว่า <<นัยน์ตาทั้งหลายที่ได้เห็นการณ์ซึ่งพวกท่านได้เห็นก็เป็นสุข เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า ผู้เผยพระวจนะหลายคน และกษัตริย์หลายองค์ปรารถนาจะเห็นซึ่งท่านทั้งหลายเห็นอยู่นี้ แต่เขามิได้เคยเห็น และอยากจะได้ยินซึ่งพวกท่านทั้งหลายได้ยิน แต่เขามิเคยได้ยิน>>

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 10

ลูกา 10:1-24 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

หลังจากนี้พระเยซูทรงตั้งสาวกอีก 72 คนให้เขาออกไปเป็นคู่ๆ ล่วงหน้าพระองค์ไปยังทุกเมืองและทุกแห่งที่พระองค์จะเสด็จ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “งานเก็บเกี่ยวมีมากแต่คนงานมีน้อยนัก เหตุฉะนั้นจงทูลขอต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวให้ส่งคนงานมายังทุ่งแห่งการเก็บเกี่ยวของพระองค์ ไปเถิด! เราส่งท่านออกไปเหมือนลูกแกะท่ามกลางสุนัขป่า อย่าเอาถุงใส่เงิน หรือย่าม หรือรองเท้าไป และไม่ต้องแวะทักทายใครระหว่างทาง “เมื่อท่านเข้าไปในบ้านใด ก่อนอื่นจงพูดว่า ‘สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้’ ถ้าผู้รักสันติอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านก็ดำรงอยู่กับเขา ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น สันติสุขก็กลับคืนมาสู่ท่าน จงพักอยู่ที่บ้านนั้นและดื่มกินสิ่งที่เขาจัดมาให้ท่าน เพราะคนงานสมควรได้รับค่าจ้างของตน อย่าเที่ยวย้ายจากบ้านนี้ไปบ้านนั้น “เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและได้รับการต้อนรับ จงกินสิ่งที่เขาจัดให้ท่าน จงรักษาคนเจ็บป่วยที่นั่นและบอกพวกเขาว่า ‘อาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้พวกท่านแล้ว’ แต่เมื่อไปยังเมืองใดที่ไม่มีใครต้อนรับ จงไปที่กลางถนนและกล่าวว่า ‘แม้แต่ฝุ่นของเมืองของท่านซึ่งติดอยู่ที่เท้าของเรา เรายังเช็ดออกเป็นการกล่าวโทษท่าน แต่กระนั้นจงแน่ใจในข้อนี้ คืออาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว’ เราบอกท่านว่า ในวันนั้นโทษของเมืองโสโดมจะเบากว่าโทษของเมืองนั้น” “วิบัติแก่เจ้า เมืองโคราซิน! วิบัติแก่เจ้า เมืองเบธไซดา! เพราะหากการอัศจรรย์ที่ทำในเมืองของเจ้าได้ทำในเมืองไทระและเมืองไซดอน พวกเขาคงนุ่งห่มผ้ากระสอบนั่งจมกองขี้เถ้าและกลับใจใหม่นานแล้ว แต่ในวันพิพากษา โทษของเมืองไทระและเมืองไซดอนจะเบากว่าโทษของเจ้า ส่วนเจ้า เมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะถูกยกขึ้นเทียมฟ้าหรือ? ไม่เลย เจ้าจะต้องลงไปในเหวลึกต่างหาก “ผู้ที่ฟังพวกท่านก็ฟังเรา ผู้ที่ไม่ยอมรับพวกท่าน ก็ไม่ยอมรับเรา ผู้ที่ไม่ยอมรับเรา ก็ไม่ยอมรับพระองค์ผู้ทรงส่งเรามา” สาวกทั้ง 72 คนกลับมาด้วยความยินดีและทูลว่า “พระองค์เจ้าข้า โดยพระนามพระองค์ แม้แต่ผีก็สยบต่อพวกข้าพระองค์” พระเยซูตรัสตอบว่า “เราเห็นซาตานตกจากฟ้าสวรรค์เหมือนฟ้าแลบ เราให้สิทธิอำนาจแก่พวกท่านที่จะเหยียบงูร้ายและแมงป่อง และที่จะพิชิตฤทธิ์อำนาจทั้งปวงของศัตรู ไม่มีสิ่งใดจะทำอันตรายพวกท่านได้ อย่างไรก็ตาม อย่าชื่นชมยินดีที่วิญญาณต่างๆ ยอมสยบให้พวกท่าน แต่จงชื่นชมยินดีที่ชื่อของพวกท่านถูกจดไว้ในสวรรค์” ขณะนั้นพระเยซูทรงเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีโดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ และตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงปิดบังสิ่งเหล่านี้จากคนฉลาดและผู้รู้ และทรงเปิดเผยแก่บรรดาเด็กเล็กๆ ข้าแต่พระบิดา เพราะพระองค์ทรงเห็นชอบเช่นนั้น” “พระบิดาของเราทรงมอบสิ่งทั้งปวงแก่เรา ไม่มีใครรู้ว่าพระบุตรเป็นใครนอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้ว่าพระบิดาเป็นใครนอกจากพระบุตรกับบรรดาผู้ที่พระบุตรทรงเลือกที่จะเปิดเผยพระบิดาแก่เขา” จากนั้นพระองค์ทรงหันมาทางเหล่าสาวกและตรัสกับพวกเขาเป็นการส่วนพระองค์ว่า “ความสุขมีแก่ดวงตาทั้งหลาย ซึ่งได้เห็นสิ่งที่พวกท่านเห็น เพราะเราบอกพวกท่านว่า ผู้เผยพระวจนะมากมายและกษัตริย์หลายองค์ปรารถนาจะเห็นสิ่งที่พวกท่านเห็น แต่ไม่ได้เห็น และอยากได้ยินสิ่งที่พวกท่านได้ยินแต่ไม่ได้ยิน”

แบ่งปัน
อ่าน ลูกา 10

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา