ลูกา 1:5-22
ลูกา 1:5-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ในสมัยที่เฮโรด เป็นกษัตริย์ของแคว้นยูเดียนั้น มีนักบวชคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ เขาอยู่ในกลุ่มเวรของนักบวชอาบียาห์ เมียของเขาชื่อเอลีซาเบธ สืบเชื้อสายมาจากอาโรน ในสายตาของพระเจ้าองค์เจ้าชีวิตนั้นทั้งสองคนนี้เป็นคนที่ทำตามใจพระองค์ และทำตามคำสั่งและกฎต่างๆของพระองค์อย่างไม่มีที่ติ แต่เขาทั้งสองไม่มีลูก เพราะเอลีซาเบธเป็นหมันและทั้งคู่ก็แก่มากแล้ว เมื่อถึงเวรที่กลุ่มของนักบวชเศคาริยาห์จะต้องเข้าไปรับใช้อยู่ต่อหน้าพระเจ้า พวกเขาก็จับสลากกันตามประเพณีของนักบวช เพื่อเลือกคนที่จะเข้าไปเผาเครื่องหอมบูชา ในวิหารขององค์เจ้าชีวิต เศคาริยาห์ถูกเลือกในวันนั้น ในระหว่างที่เผาเครื่องหอมอยู่นั้น ฝูงชนจำนวนมากต่างพากันอธิษฐานอยู่ข้างนอก ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์เจ้าชีวิต มายืนอยู่ทางขวาของแท่นเผาเครื่องหอม เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็ตกใจกลัวมาก แต่ทูตสวรรค์นั้นบอกว่า “ไม่ต้องกลัว เศคาริยาห์ พระเจ้าได้ยินคำร้องขอของเจ้าแล้ว เอลีซาเบธเมียของเจ้าจะมีลูกชาย ให้ตั้งชื่อเขาว่ายอห์น เขาจะนำความสุขความยินดีมาให้เจ้า และคนมากมายจะดีใจเมื่อเขาเกิดมา เพราะเขาจะเป็นคนสำคัญในสายตาขององค์เจ้าชีวิต เขาจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นหรือของมึนเมาเลย และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะอยู่กับเด็กคนนี้ตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องแม่ เขาจะทำให้คนอิสราเอลจำนวนมากหันกลับมาหาองค์เจ้าชีวิตพระเจ้าของพวกเขา เขาจะนำหน้าองค์เจ้าชีวิต เขาจะมีพระวิญญาณ และฤทธิ์อำนาจเหมือนกับเอลียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า เขาจะทำให้จิตใจของพ่อหันกลับมาหาลูกๆ และทำให้คนที่ดื้อรั้นหันกลับมาเชื่อฟังอย่างที่ควรจะเป็น เพื่อเตรียมประชาชนให้พร้อมสำหรับพระองค์” แล้วเศคาริยาห์ก็พูดกับทูตสวรรค์ว่า “ผมจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่ท่านพูดมานี้จะเป็นจริง เพราะผมกับเมียก็แก่แล้ว” ทูตสวรรค์จึงตอบว่า “เราคือกาเบรียลที่ยืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้า พระองค์ส่งเรามา บอกข่าวดีนี้กับเจ้า แต่เพราะเจ้าไม่เชื่อคำพูดของเรา เจ้าจะกลายเป็นใบ้จนกว่าลูกของเจ้าจะเกิด เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เราบอกอย่างแน่นอน” คนที่กำลังคอยเศคาริยาห์อยู่ข้างนอกก็สงสัยว่า ทำไมเขาถึงอยู่ในวิหารนานนัก เมื่อเขาเดินออกมาก็พูดไม่ได้ คนเหล่านี้จึงรู้ว่าเขาได้เห็นนิมิตภายในวิหารนั้น เขาได้ทำไม้ทำมือบอกกับประชาชน แต่ยังพูดไม่ได้
ลูกา 1:5-22 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ในรัชกาลของเฮโรดกษัตริย์ของยูเดีย มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ซึ่งอยู่ในกองเวรอาบียาห์ ภรรยาของเศคาริยาห์ชื่อเอลีซาเบธ อยู่ในตระกูลอาโรน ท่านทั้งสองเป็นคนชอบธรรมต่อพระเจ้าและดำเนินตามบัญญัติและกฎหมายทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีที่ติเลย แต่ท่านทั้งสองไม่มีบุตร เพราะว่านางเอลีซาเบธเป็นหมัน และท่านทั้งสองก็ชราแล้ว เมื่อเศคาริยาห์ทำหน้าที่ปุโรหิตเข้าเฝ้าพระเจ้าในคราวที่กองเวรของท่านเข้าประจำการ ท่านเป็นผู้ที่จับได้ฉลากตามธรรมเนียมของปุโรหิต จึงต้องเข้าไปในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเผาเครื่องหอมบูชา ส่วนประชาชนอธิษฐานอยู่ข้างนอกในระหว่างที่เผาเครื่องหอมนั้น มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่เศคาริยาห์ ยืนอยู่ที่ข้างขวาแท่นเผาเครื่องหอมนั้น เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็ตกใจกลัว แต่ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวแก่ท่านว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะพระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว นางเอลีซาเบธภรรยาของท่านจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่ายอห์น ท่านจะมีความยินดีและเปรมปรีดิ์ และคนจำนวนมากจะชื่นชมยินดีที่บุตรนั้นเกิดมา เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่เฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ดื่มน้ำองุ่นหมักและเหล้าเลยและเขาจะเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เขาจะนำพงศ์พันธุ์อิสราเอลหลายคนให้หันกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของพวกเขา เขาจะนำหน้าพระองค์ด้วยจิตวิญญาณและฤทธิ์เดชของเอลียาห์ ให้พ่อกลับคืนดีกับลูก และให้คนดื้อด้านกลับได้ปัญญาของคนชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้ให้พร้อมสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า” เศคาริยาห์จึงพูดกับทูตสวรรค์ว่า “ข้าพเจ้าจะรู้แน่ได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าชราและภรรยาก็อายุมากแล้ว?” ทูตสวรรค์องค์นั้นจึงตอบว่า “เราคือกาเบรียลซึ่งยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และพระองค์ทรงใช้ให้มาพูดกับท่านและนำข่าวดีนี้มาแจ้ง นี่แน่ะ เพราะท่านไม่ได้เชื่อถ้อยคำของเราที่จะสำเร็จตามกำหนด ท่านจะเป็นใบ้ พูดไม่ได้จนกว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น” คนทั้งหลายที่คอยเศคาริยาห์ก็ประหลาดใจเพราะท่านอยู่ในพระวิหารนานมาก เมื่อท่านออกมาก็พูดกับพวกเขาไม่ได้ คนทั้งหลายจึงตระหนักว่าท่านได้เห็นนิมิตในพระวิหาร ท่านเอาแต่ทำบุ้ยใบ้กับพวกเขาและพูดไม่ได้อยู่อย่างนั้น
ลูกา 1:5-22 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ในรัชกาลเฮโรด กษัตริย์ของยูเดีย มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ อยู่ในเวรอาบียาห์ ภรรยาของเศคาริยาห์ชื่อเอลีซาเบธ อยู่ในตระกูลอาโรน เขาทั้งสองเป็นคนชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และดำเนินตามพระบัญญัติและกฎทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีที่ติเลย แต่เขาไม่มีบุตร เพราะว่านางเอลีซาเบธเป็นหมัน และเขาทั้งสองก็ชราแล้ว ต่อมาขณะที่เศคาริยาห์ทำหน้าที่ปุโรหิตเข้าเฝ้าพระเจ้า เมื่อท่านอยู่เวรประจำการของท่าน ท่านได้สลากตามธรรมเนียมของปุโรหิต ต้องเข้าไปในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเพื่อเผาเครื่องหอมบูชา ส่วนบรรดาประชาชนก็อธิษฐานอยู่ภายนอกในเวลาเผาเครื่องหอมนั้น ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่เศคาริยาห์ ยืนอยู่ที่ข้างขวาแท่นเผาเครื่องหอมบูชา เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็ตกใจกลัว แต่ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวแก่ท่านว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย ด้วยได้ทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว นางเอลีซาเบธภรรยาของท่านจะมีบุตรเป็นผู้ชาย และท่านจะตั้งชื่อบุตรนั้นว่า ยอห์น ท่านจะมีความปรีดาและยินดี และคนเป็นอันมากจะเปรมปรีดิ์ที่บุตรนั้นบังเกิดมา เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ดื่มน้ำองุ่นหรือเหล้าเลย และเขาจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา เขาจะนำคนอิสราเอลหลายคนให้หันกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาทั้งหลาย เขาจะนำหน้าพระองค์โดยแสดงอารมณ์และฤทธิ์เดชอย่างเอลียาห์ ให้พ่อกลับคืนดีกับลูกและคนที่ไม่เชื่อฟังให้กลับได้ปัญญาของคนชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้ให้สมแก่องค์พระผู้เป็นเจ้า” เศคาริยาห์จึงทูลทูตสวรรค์ว่า “ข้าพเจ้าจะรู้แน่ได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าก็ชราและภรรยาก็อายุมากแล้ว” ฝ่ายทูตสวรรค์นั้นจึงตอบท่านว่า “เราคือกาเบรียลซึ่งยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และทรงใช้ให้มาพูดและนำข่าวดีนี้มาแจ้งกับท่าน ดูเถิด เพราะท่านมิได้เชื่อถ้อยคำของเรา ถึงเรื่องที่จะสำเร็จตามกำหนด ท่านก็จะเป็นใบ้ แล้วไม่สามารถพูดได้ จนถึงวันที่การณ์เหล่านี้จะบังเกิดขึ้น” ฝ่ายคนทั้งหลายที่คอยเศคาริยาห์ ก็ประหลาดใจ เพราะท่านอยู่ในพระวิหารช้านาน เมื่อท่านออกมาแล้วก็พูดกับเขาไม่ได้ คนทั้งหลายจึงหยั่งรู้ว่าท่านได้เห็นนิมิตในพระวิหาร เพราะท่านใช้ใบ้กับเขาและยังเป็นใบ้อยู่
ลูกา 1:5-22 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ในรัชกาลเฮโรด กษัตริย์ของยูเดีย มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ อยู่ในเวรอาบียาห์ ภรรยาของเศคาริยาห์ ชื่อเอลีซาเบธ อยู่ในตระกูลอาโรน เขาทั้งสองเป็นคนชอบธรรมจำเพาะพระเจ้า และดำเนินตามบัญญัติและกฎหมายทั้งปวงของพระเป็นเจ้าไม่มีที่ติเลย แต่เขาไม่มีบุตร เพราะว่านางเอลีซาเบธเป็นหมัน และเขาทั้งสองก็ชราแล้ว ขณะที่เศคาริยาห์ทำหน้าที่ปุโรหิตเข้าเฝ้าพระเจ้า เมื่อกองเวรของท่านเข้าประจำการ ท่านได้ฉลากตามธรรมเนียมของปุโรหิต ต้องเข้าไปในพระวิหารเผาเครื่องหอมบูชา ส่วนบรรดาประชาชนก็อธิษฐานอยู่ภายนอก ในเวลาเผาเครื่องหอมนั้น ทูตองค์หนึ่งของพระเจ้า มาปรากฏแก่เศคาริยาห์ยืนอยู่ที่ข้างขวาแท่นเผาเครื่องหอมบูชา เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็ตกใจกลัว แต่ทูตองค์นั้นกล่าวแก่ท่านว่า <<เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย ด้วยได้ทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว นางเอลีซาเบธ ภรรยาของท่านจะมีบุตรเป็นผู้ชาย และท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่ายอห์น ท่านจะมีความปรีดาและยินดี และคนเป็นอันมากจะเปรมปรีดิ์ที่บุตรนั้นบังเกิดมา เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่จำเพาะพระเจ้า เขาจะไม่กินน้ำองุ่นหมักและเหล้าเลย และจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา เขาจะนำพงศ์พันธุ์อิสราเอลหลายคนให้หันกลับมาหาพระเจ้าของเขาทั้งหลาย เขาจะนำหน้าพระองค์โดยน้ำใจและฤทธิ์เดชของเอลียาห์ ให้พ่อกลับคืนดีกับลูก และคนดื้อด้านให้กลับได้ปัญญาของคนชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้ให้สมแก่พระเจ้า>> เศคาริยาห์จึงทูลทูตสวรรค์ว่า <<ข้าพเจ้าจะรู้แน่ได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าก็ชราและภรรยาก็อายุมากแล้ว>> ฝ่ายทูตสวรรค์นั้นจึงตอบว่า <<เราคือกาเบรียลซึ่งยืนคอยรับใช้อยู่หน้าพระพักตร์พระเจ้า และทรงใช้ให้มาพูดกับท่านและนำข่าวดีนี้มาแจ้ง นี่แน่ะ เพราะท่านมิได้เชื่อถ้อยคำของเราถึงเรื่องที่จะบังเกิดขึ้นตามกำหนด ท่านก็จะเป็นใบ้ไปจนถึงวันที่การณ์เหล่านี้จะสำเร็จ>> ฝ่ายคนทั้งหลายที่คอยเศคาริยาห์ก็ประหลาดใจเพราะท่านอยู่ในพระวิหารช้านาน เมื่อท่านออกมาแล้วก็พูดกับเขาไม่ได้ คนทั้งหลายจึงหยั่งรู้ว่าท่านได้เห็นนิมิตในพระวิหาร ท่านใช้ใบ้กับเขา และยังเป็นใบ้อยู่
ลูกา 1:5-22 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
ในรัชสมัยของกษัตริย์เฮโรดแห่งยูเดียมีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ อยู่ในสังกัดกองเวรปุโรหิตอาบียาห์ เอลีซาเบธภรรยาของเขาก็สืบเชื้อสายมาจากอาโรนด้วย ทั้งคู่เป็นคนชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า ยึดถือบทบัญญัติและกฎเกณฑ์ทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่มีที่ติ แต่พวกเขาไม่มีบุตรเพราะเอลีซาเบธเป็นหมันและทั้งสองก็ชราแล้ว ครั้งหนึ่งเมื่อกองเวรของเศคาริยาห์เข้าประจำการและเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ปุโรหิตต่อหน้าพระเจ้า เขาได้รับเลือกโดยการจับฉลากตามธรรมเนียมของปุโรหิตที่จะเข้าไปเผาเครื่องหอมบูชาในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า และเมื่อถึงเวลาเผาเครื่องหอม ผู้นมัสการทั้งปวงที่ชุมนุมกันก็กำลังอธิษฐานอยู่ข้างนอก แล้วทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่เขาโดยยืนอยู่ด้านขวาของแท่นเผาเครื่องหอม เมื่อเศคาริยาห์เห็นก็ตกใจกลัว แต่ทูตนั้นกล่าวกับเขาว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงได้ยินคำอธิษฐานของท่านแล้ว เอลีซาเบธภรรยาของท่านจะคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อเขาว่ายอห์น เขาจะเป็นความชื่นชมยินดีและความสุขใจแก่ท่านและคนทั้งหลายจะปีติยินดีที่เขาเกิดมา เพราะเขาจะยิ่งใหญ่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ดื่มเหล้าองุ่นและของมึนเมาเลย และเขาจะเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่เกิด เขาจะนำชนอิสราเอลมากมายกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของพวกเขา และเขาจะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยจิตใจและฤทธิ์อำนาจของเอลียาห์ เพื่อให้จิตใจของบิดาหันมาหาบุตรและให้คนดื้อด้านหันมาสู่สติปัญญาของผู้ชอบธรรม เพื่อจัดเตรียมชนชาติหนึ่งไว้สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า” เศคาริยาห์ถามทูตนั้นว่า “ข้าพเจ้าจะแน่ใจในเรื่องนี้ได้อย่างไร? ตัวข้าพเจ้าก็ชราและภรรยาก็อายุมากแล้ว” ทูตนั้นตอบว่า “เราคือกาเบรียล เรายืนอยู่ต่อหน้าพระเจ้า พระองค์ทรงใช้เรามาพูดกับท่านและให้มาบอกข่าวดีนี้แก่ท่าน บัดนี้ท่านจะเป็นใบ้ตราบจนวันที่สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะท่านไม่เชื่อคำของเราซึ่งจะเป็นจริงเมื่อถึงเวลาที่กำหนด” ขณะเดียวกันนั้นผู้คนกำลังรอเศคาริยาห์และสงสัยว่าทำไมเขาจึงอยู่ในพระวิหารนานนัก เมื่อเขาออกมาก็พูดกับใครไม่ได้ และเนื่องจากเขาพยายามแสดงท่าทางต่างๆ แก่พวกเขาแต่ก็ยังคงพูดไม่ได้ คนทั้งหลายจึงตระหนักว่าเขาได้เห็นนิมิตในพระวิหาร