โยชูวา 7:1-26

โยชูวา 7:1-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แต่​ชาว​อิสราเอล​ไม่​เชื่อฟัง​คำสั่ง​ใน​เรื่อง​สิ่งของ​ที่​ต้อง​ถูก​ทำลาย อาคาน​ลูกชาย​ของ​คารมี​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​ศับดี​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​เศราห์​จาก​เผ่า​ยูดาห์ ได้​แอบ​เอา​ของ​บางส่วน​มา​จาก​สิ่ง​ต่างๆ​ที่​ต้อง​ถูก​ทำลาย ดังนั้น​ความ​โกรธ​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​พลุ่ง​ขึ้น​ต่อ​คน​อิสราเอล ฝ่าย​โยชูวา​ได้​ส่ง​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ออก​จาก​เมือง​เยริโค​ไป​ยัง​เมือง​อัย ซึ่ง​อยู่​ใกล้ๆ​กับ​เมือง​เบธาเวน ทาง​ด้าน​ตะวันออก​ของ​เมือง​เบธเอล โยชูวา​บอก​พวกเขา​ว่า “ขึ้น​ไป​สอดแนม​แผ่นดิน​นั้น​มา” ดังนั้น​พวกเขา​จึง​ขึ้น​ไป​สอดแนม​เมือง​อัย แล้ว​พวกเขา​ได้​กลับ​มา​รายงาน​โยชูวา​ว่า “ไม่​จำเป็น​ต้อง​ให้​ประชาชน​ทั้งหมด​ขึ้น​ไป​ต่อสู้​กับ​เมือง​อัย ให้​ใช้​คน​แค่​สองสาม​พันคน​ขึ้นไป​ตี​เมือง​อัย​ก็พอ อย่า​ให้​ประชาชน​ทั้งหมด​ต้อง​เสียแรง​ขึ้น​ไป​ถึง​ที่นั่น​เลย เพราะ​เมือง​อัย​มี​ประชาชน​น้อย” ประชาชน​ประมาณ​สามพัน​คน​จึง​ได้​เดินทาง​ขึ้น​ไป​ที่​เมือง​อัย แต่​พวกเขา​ก็​ต้อง​ถูก​ชาว​เมือง​อัย​ตี​จน​แตก​หนี​กลับ​มา และ​ถูก​ฆ่าตาย​ประมาณ​สามสิบหก​คน และ​ชาว​เมือง​อัย​ยัง​ไล่ล่า​ชาว​อิสราเอล​ตั้งแต่​ที่​หน้า​ประตู​เมือง​ไป​จนถึง​เหมือง​หิน และ​ฆ่า​พวกเขา​ที่​ทาง​ลาด​แห่งนั้น ดังนั้น ชาว​อิสราเอล​จึง​กลัว​จน​จิตใจ​หลอม​ละลาย​ไป​อย่าง​น้ำ โยชูวา​ได้​ฉีก​เสื้อผ้า​ของเขา​และ​ซบหน้า​ลง​บน​พื้นดิน​ต่อหน้า​หีบ​ของ​พระยาห์เวห์​จนถึง​เวลา​เย็น พร้อมๆ​กับ​พวก​ผู้​อาวุโส​ของ​ชาว​อิสราเอล พวกเขา​ต่าง​ก็​เอา​ฝุ่น​โปรย​ลง​บน​หัว​ตัวเอง โยชูวา​พูด​ว่า “ข้าแต่​พระยาห์เวห์ องค์​เจ้า​ชีวิต พระองค์​นำ​ประชาชน​ทั้งหมด​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​มา​ทำไม​กัน เพื่อ​ให้​ชาว​อาโมไรต์​ทำลาย​ล้าง​พวกเรา​อย่างนั้น​หรือ เสียดาย​จริงๆ​พวกเรา​น่า​จะ​พอใจ​ที่​จะ​อยู่​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน​มากกว่า พระองค์​เจ้าข้า ข้าพเจ้า​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​แล้ว ใน​เมื่อ​ชาว​อิสราเอล​ได้​หันหลัง​หนี​จาก​ศัตรู​เสียแล้ว ชาว​คานาอัน และ​บรรดา​ประชาชน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่นดิน​นี้ จะ​ได้ยิน​เรื่องนี้​และ​จะ​พากัน​มา​ปิด​ล้อม​และ​ลบล้าง​พวกเรา​ไป​จาก​แผ่นดิน​โลก เมื่อ​ถึง​ขั้นนั้น พระองค์​จะ​ทำ​อะไร​เพื่อ​กู้​ชื่อเสียง​อัน​ยิ่งใหญ่​ของ​พระองค์” ดังนั้น​พระยาห์เวห์​จึง​พูด​กับ​โยชูวา​ว่า “ลุกขึ้น เจ้า​จะ​ซบหน้า​อยู่​อย่างนี้​ทำไม ชาว​อิสราเอล​ได้​ทำบาป พวกเขา​ได้​ละเมิด​ข้อตกลง​ที่​เรา​ได้​สั่ง​พวกเขา​ไว้ พวกเขา​ได้​เอา​ของ​บางส่วน​ที่​เรา​สั่ง​ให้​ทำลาย พวกเขา​ได้​ขโมย​พวกมัน​ไป​และ​โกหก พวกเขา​ได้​เอา​สิ่ง​เหล่านั้น​ไป​รวม​ไว้​กับ​ของ​ของ​พวกเขา ชาว​อิสราเอล​ก็​เลย​ไม่​สามารถ​ยืนหยัด​ต่อสู้​ศัตรู​ได้ พวกเขา​วิ่งหนี​จาก​ศัตรู เพราะ​พวกเขา​เอง​ได้​กลาย​เป็น​สิ่ง​ที่​จะ​ต้อง​ถูก​ทำลาย​ให้​กับเรา เรา​จะ​ไม่อยู่​กับ​พวกเจ้า​อีก​ต่อไป นอกจาก​ว่า​พวกเจ้า​จะ​เอา​ของ​เหล่านั้น​ที่​ต้อง​ทำลาย ออก​ไป​เสีย​จาก​พวกเจ้า ให้​ไป​ชำระ​ประชาชน​ให้​บริสุทธิ์​และ​พูด​ว่า ‘ให้​ชำระ​ตัว​ของ​พวกท่าน​ไว้​สำหรับ​วัน​พรุ่งนี้ เพราะ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ชาว​อิสราเอล​ได้​พูด “ชาว​อิสราเอล ท่ามกลาง​พวกเจ้า​ยัง​มี​สิ่งของ​ที่​เรา​ได้​สั่ง​ให้​ทำลาย​เก็บ​ไว้​อยู่ เจ้า​จะ​ไม่​สามารถ​ยืนหยัด​ต่อสู้​ศัตรู​ได้ จนกว่า​พวกเจ้า​จะ​เอา​สิ่ง​เหล่านั้น​ที่​เรา​ได้​สั่ง​ให้​ทำลาย​ออก​ไป​เสีย​จาก​พวกเจ้า” ใน​ตอนเช้า ให้​พวกเจ้า​เข้า​มา​ทีละ​เผ่า และ​เผ่า​ที่​พระยาห์เวห์​เลือก ก็​ให้​เข้า​มา​ทีละ​ตระกูล ตระกูล​ที่​พระยาห์เวห์​เลือก ก็​ให้​เข้า​มา​ทีละ​ครอบครัว ครอบครัว​ที่​พระยาห์เวห์​เลือก ก็​ให้​เข้า​มา​ทีละ​คน คนใด​ที่​ถูก​จับ​ได้​ว่า​มี​สิ่ง​เหล่านั้น​ที่​ต้อง​ถูก​ทำลาย จะ​ต้อง​ถูก​เผา​ไป​พร้อมๆ​กับ​ทุกสิ่ง​ที่​เป็น​ของเขา เพราะ​เขา​ได้​ละเมิด​ข้อตกลง​ของ​พระยาห์เวห์​และ​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​น่า​ละอาย​ใน​อิสราเอล’” ดังนั้น โยชูวา​จึง​ตื่น​ขึ้น​แต่​เช้าตรู่ และ​ได้​นำ​ชาว​อิสราเอล​เข้า​มา​ทีละ​เผ่า และ​พระยาห์เวห์​ได้​เลือก​เผ่า​ยูดาห์ เขา​ให้​ตระกูล​ต่างๆ​ใน​เผ่า​ยูดาห์​เข้า​มา และ​ตระกูล​ของ​เศราห์​ถูก​เลือก​ออก​มา เขา​ให้​แต่ละ​ครอบครัว​ใน​ตระกูล​เศราห์​มา ครอบครัว​ของ​ศับดี​ถูก​เลือก​ออก​มา โยชูวา​ได้​ให้​คน​ใน​ครอบครัว​ศับดี​เข้า​มา​ทีละ​คน และ​คน​ที่​ถูก​เลือก​คือ​อาคาน​ลูกชาย​ของ​คารมี​ที่​เป็น​ลูกชาย​ของ​ศับดี​จาก​เผ่า​ยูดาห์ แล้ว​โยชูวา​ก็​พูด​กับ​อาคาน​ว่า “ลูกเอ๋ย ให้​เกียรติ​กับ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​อิสราเอล​และ​สารภาพ​กับ​พระองค์​เถิด ให้​บอก​เรา​มา​สิ​ว่า เจ้า​ได้​ทำ​อะไร​ลงไป อย่า​ได้​ปิดบัง​อะไร​จาก​เรา​เลย” อาคาน​ได้​ตอบ​โยชูวา​ว่า “ถูกแล้ว ข้าพเจ้า​ได้​ทำ​บาป​ต่อ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​ประชาชน​อิสราเอล นี่​คือ​สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​ได้​ทำไป คือ​ใน​พวก​สิ่งของ​ทั้งหมด​ที่​พวกเรา​ยึด​มา​ได้​นั้น ข้าพเจ้า​ได้​เห็น​เสื้อคลุม​ตัวงาม​จาก​บาบิโลน เงิน​กว่า​สอง​กิโลกรัม และ​ทองคำ​แท่ง​หนึ่ง​หนัก​ประมาณ​หกร้อย​กรัม ข้าพเจ้า​อยาก​ได้​ของ​เหล่านั้น​มาก จึง​ได้​เอา​มัน​มา​และ​ซ่อน​ไว้​ใน​พื้นดิน​ใต้​เต็นท์​ของ​ข้าพเจ้า โดย​วาง​เงิน​อยู่​ด้านล่าง” โยชูวา​จึง​ได้​ส่ง​คน​ไป พวกเขา​วิ่ง​ไป​ที่​เต็นท์​หลังนั้น และ​ได้​พบ​ของ​ที่​ถูก​ซ่อน​ไว้​ใน​เต็นท์​นั้น โดย​มี​เงิน​วาง​อยู่​ด้าน​ล่าง พวกเขา​นำ​ของ​เหล่านั้น​ออก​มา​จาก​เต็นท์ และ​นำ​ไป​ที่​โยชูวา​และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้งหมด​อยู่ แล้ว​วาง​ของ​เหล่านั้น​ไว้​ต่อหน้า​พระยาห์เวห์ แล้ว​โยชูวา​และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้งหมด​ก็​ได้​พา​อาคาน​ลูกชาย​ของ​เศราห์ พร้อม​กับ​เงิน เสื้อคลุม ทอง​แท่ง พวก​ลูกชาย​ลูกสาว​ของเขา พวก​วัว ลา​และ​แกะ​ทั้งหลาย รวมทั้ง​เต็นท์​ของเขา และ​ทุกสิ่ง​ทุกอย่าง​ที่​เป็น​ของเขา ขึ้น​ไป​ที่​หุบเขา​อาโคร์ โยชูวา​พูด​ว่า “ทำไม​เจ้า​ถึง​ได้​นำ​ความ​เดือด​ร้อน​นี้​มา​ให้​กับ​พวกเรา วันนี้ พระยาห์เวห์​จะ​นำ​ความ​เดือด​ร้อน​มา​ให้​กับเจ้า” จากนั้น​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ก็​พา​กัน​เอา​หิน​ขว้าง​ใส่​อาคาน​กับ​ครอบครัว​ของเขา​ให้​ตาย เผา​ครอบครัว​ของ​อาคาน​และ​ทรัพย์สิน​ทั้งหมด​ของเขา และ​ขว้าง​ก้อนหิน​ใส่​พวกเขา แล้ว​ชาว​อิสราเอล​ก็​เอา​ก้อนหิน​มา​กอง​ทับ​ร่าง​ของเขา​ไว้​และ​มัน​ก็​ยัง​อยู่​จนถึง​ทุกวันนี้ นั่น​เป็น​เหตุ​ที่​เขา​เรียก​สถานที่​แห่งนั้น​ว่า​หุบเขา​อาโคร์ หลัง​จากนั้น​พระยาห์เวห์​ก็​หาย​จาก​ความ​โกรธ​ที่​แผดเผา​นั้น

โยชูวา 7:1-26 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

แต่ประชาชนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำสิ่งที่ต้องทำลายถวายบางส่วนไปเป็นของตน พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงพลุ่งขึ้นต่อประชาชนอิสราเอล โยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวนทางทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า “จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น” คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองอัย และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า “ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย” เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียง 3,000 คน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันพวกเขาตายประมาณ 36 คน โดยขับไล่เขาจากประตูเมืองไปถึงเชบาริม ฆ่าเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน หน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์จนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ทำไมพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบพวกข้าพระองค์ไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ทำลายเสีย? พวกข้าพระองค์น่าจะพอใจอยู่เพียงฟากตะวันออกของจอร์แดน ข้าแต่องค์เจ้านาย ข้าพระองค์จะทูลอะไรได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน แล้วยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และลบชื่อของพวกข้าพระองค์เสียจากโลก และพระองค์จะทรงทำอะไรเพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์?” ฝ่ายพระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้นเถิด ทำไมเจ้าจึงซบหน้าลงอย่างนี้เล่า? อิสราเอลได้ทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เขาได้ขโมยและหลอกลวง และได้เอาของนั้นรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นประชาชนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะพวกเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งที่ต้องทำลายถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า “โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งที่ต้องทำลายถวายอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า” พอรุ่งเช้าพวกท่านจงเข้ามาทีละเผ่า เผ่าใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ต้องเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละครอบครัว ครอบครัวใดที่พระยาห์เวห์ทรงจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละคน ใครถูกจับว่ามีสิ่งที่ต้องทำลายถวาย ก็ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและทุกสิ่งที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระยาห์เวห์ และเพราะเขาได้ทำสิ่งที่น่าอายในอิสราเอล’ ” โยชูวาจึงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และนำประชาชนอิสราเอลเข้ามาทีละเผ่า และเผ่ายูดาห์ถูกจับไว้ จึงนำตระกูลในเผ่ายูดาห์เข้ามา และตระกูลเศ-ราห์ถูกจับไว้ แล้วจึงนำตระกูลเศ-ราห์มาทีละคนและศับดีถูกจับไว้ และนำครอบครัวของเขาเข้ามาทีละคน และคนที่ถูกจับไว้คืออาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดีผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ โยชูวาจึงกล่าวแก่อาคานว่า “ลูกเอ๋ย จงถวายพระเกียรติแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลและถวายสรรเสริญแด่พระองค์ จงบอกข้าพเจ้ามาว่าท่านได้ทำอะไรไป อย่าปิดบังไว้จากข้าพเจ้าเลย” และอาคานตอบโยชูวาว่า “เป็นความจริงที่ข้าพเจ้าได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล ข้าพเจ้าได้ทำดังนี้ ท่ามกลางสิ่งของที่ริบมา ข้าพเจ้าเห็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่งของเมืองบาบิโลนกับเงินสองกิโลกรัม และทองคำแท่งหนึ่งหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา นี่แน่ะ ของเหล่านั้นซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่ข้างล่าง” โยชูวาจึงส่งผู้สื่อสารออกไปและเขาทั้งหลายก็วิ่งไปที่เต็นท์ นี่แน่ะ ของนั้นฝังอยู่ภายในเต็นท์ของเขา มีเงินอยู่ข้างล่าง เขาก็เอาออกมาจากเต็นท์นำไปให้โยชูวาและประชาชนอิสราเอลทั้งหมด แล้วเขาก็วางของเหล่านั้นลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ และโยชูวากับอิสราเอลทั้งหมดจึงพาอาคานบุตรเศ-ราห์ พร้อมกับเงิน เสื้อคลุมตัวนั้น และทองแท่งนั้น ทั้งบุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะ แกะ และเต็นท์ของเขา ทุกสิ่งที่เขามีอยู่ และนำคนกับของทั้งหมดขึ้นไปยังหุบเขาอาโคร์ และโยชูวากล่าวว่า “ทำไมท่านจึงนำความทุกข์ยากมาให้พวกเรา? พระยาห์เวห์จะทรงนำความทุกข์ยากมาถึงท่านในวันนี้” แล้วอิสราเอลทั้งหมดจึงเอาหินขว้างเขาให้ตาย เผาพวกเขาด้วยไฟ และขว้างพวกเขาด้วยก้อนหิน แล้วเอาหินถมทับเขาไว้เป็นกองใหญ่ยังอยู่จนทุกวันนี้ และพระยาห์เวห์ก็ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์ เพราะฉะนั้นจนถึงทุกวันนี้ เขายังเรียกที่นั้นว่าหุบเขาอาโคร์

โยชูวา 7:1-26 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

แต่​คนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องของที่​ถู​กสาปแช่งนั้น เพราะอาคานบุตรชายคารมี ผู้​เป็นบุตรชายศั​บด​ี ผู้​เป็นบุตรชายเศ-ราห์ ตระกูลยูดาห์ ได้​นำของที่​ถู​กสาปแช่งบางส่วนไปเป็นของตน และพระพิโรธของพระเยโฮวาห์​ก็​พลุ​่งขึ้นต่อคนอิสราเอล ฝ่ายโยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่​ใกล้​เบธาเวน ข้างทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า “จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น” คนเหล่านั้​นก​็ขึ้นไปและสอดแนมดู​ที่​เมืองอัย และเขากลับมารายงานแก่โยชู​วาว​่า “​ไม่​ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้​สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอั​ยก​็​พอ ไม่​ต้องให้ประชาชนทั้งหมดลำบากที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย” เพราะฉะนั้นจึ​งม​ีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียงสามพันคน แต่​ต้องแตกหนี​ให้​พ้นหน้าชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอั​ยก​็ฆ่าฟันคนเหล่านั้นตายประมาณสามสิบหกคน โดยขับไล่คนเหล่านั้นจากตรงหน้าประตูเมืองไปยังเชบาริมฟันเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชู​วาก​็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึ​งด​ินหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์จนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้​ใหญ่​ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลี​ดิ​นใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า “​โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า อนิจจาเอ๋ย เป็นไฉนพระองค์จึงทรงนำชนชาติ​นี้​ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบเราทั้งหลายไว้ในมือของคนอาโมไรต์​ให้​ทำลายเสีย พวกข้าพระองค์​มี​ความเสียดายที่​ไม่​พอใจอยู่เพียงฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น โอ ข้าแต่​องค์​พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะทูลประการใดได้เล่าเมื่​ออ​ิสราเอลหันหลังหนี​ให้​พ้นหน้าศั​ตรู​เสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอั​นก​ับผู้​ที่​อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นคงจะได้​ยิน แล​้วคงจะยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และตัดชื่อของบรรดาข้าพระองค์เสียจากแผ่นดินโลก และพระองค์จะทรงกระทำประการใดต่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์” ฝ่ายพระเยโฮวาห์ตรัสกับโยชู​วาว​่า “จงลุกขึ้นเถิด ไฉนเจ้าจึงซบหน้าลงดังนี้​เล่า คนอิสราเอลได้กระทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกของที่​ถู​กสาปแช่ง เขาได้ขโมยและปิดบัง และได้เอาของรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นคนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้​ศัตรู​ของตนไม่​ได้ ได้​หันหลังหนีต่อหน้าศั​ตรู เพราะเขากลายเป็นสิ่งที่​ถู​กสาปแช่ง เราจะไม่​อยู่​กับเจ้าทั้งหลายอีกต่อไป เว้นแต่​เจ้​าจะทำลายสิ่งของที่​ถู​กสาปแช่งเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้​บริสุทธิ์​และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสียเพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนอิสราเอลกล่าวเช่นนี้​ว่า “​โอ อิสราเอลเอ๋ย มี​สิ​่งของที่​ถู​กสาปแช่งอยู่ในหมู่พวกเจ้า เจ้​าจะยืนหยัดต่อสู้​ศัตรู​ของเจ้าไม่​ได้​จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งของที่​ถู​กสาปแช่งนั้นออกเสียจากหมู่พวกเจ้า”’ พอรุ่งเช้าเจ้าทั้งหลายจงเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระเยโฮวาห์ทรงเลือกจับไว้​ก็​ต้องเข้ามาทีละครอบครัว ครอบครัวใดที่พระเยโฮวาห์ทรงเลือกจับไว้​ก็​ให้​เข​้ามาที​ละคร​ัวเรือน ครัวเรือนใดที่พระเยโฮวาห์ทรงเลือกจับไว้ ก็​ให้​เข​้ามาทีละคน ผู้​ใดถูกจับว่ามีของที่​ถู​กสาปแช่งนั้น ก็​ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและสารพัดที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระเยโฮวาห์ และเพราะเขาได้กระทำความโง่เขลาในอิสราเอล” โยชูวาจึงลุกขึ้นแต่​เช้าตรู่ และนำคนอิสราเอลเข้ามาทีละตระกูล และตระกูลยูดาห์​ถู​กทรงเลื​อก จึงนำครอบครัวของยูดาห์​เข้ามา และทรงเลือกครอบครัวเศ-ราห์ และนำครอบครัวเศ-ราห์มาทีละคน และศั​บด​ี​ถู​กทรงเลื​อก และนำครัวเรือนของท่านเข้ามาทีละคน และคนที่​ถู​กทรงเลือกคืออาคานบุตรชายคารมี ผู้​เป็นบุตรชายศั​บด​ี ผู้​เป็นบุตรชายเศ-ราห์ ตระกูลยูดาห์ ฝ่ายโยชูวาจึงกล่าวแก่อาคานว่า “ลูกเอ๋ย จงถวายสง่าราศี​แด่​พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล และจงสารภาพต่อพระองค์ จงบอกข้ามาว่าเจ้าได้กระทำอะไรไป อย่าปิดบังไว้จากข้าเลย” และอาคานตอบโยชู​วาว​่า “เป็นความจริงแล้​วท​ี่ข้าพเจ้าได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล ข้าพเจ้าได้กระทำดังนี้ ในหมู่ของที่ริบมาข้าพเจ้าได้​เห​็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่งของเมืองบาบิ​โลน กับเงินสองร้อยเชเขล และทองคำแท่งหนึ่งหนั​กห​้าสิบเชเขล ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา ดู​เถิด ของเหล่านั้นซ่อนอยู่​ใต้​ดิ​นในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่​ข้างล่าง​” ฝ่ายโยชู​วาก​็​ให้​ผู้​สื่อสารออกไปและเขาทั้งหลายก็วิ่งไปที่​เต็นท์ ดู​เถิด ของนั้นซ่อนอยู่ในเต็นท์ของเขา มี​เงินอยู่​ข้างล่าง เขาก็เอาออกมาจากกลางเต็นท์นำไปให้โยชูวาและคนอิสราเอลทั้งปวง แล​้วเขาก็วางของเหล่านั้นลงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และโยชู​วาก​ับบรรดาคนอิสราเอลจึงพาอาคานบุตรชายเศ-ราห์ พร​้อมกับเงิน เสื้อคลุมตั​วน​ั้น และทองแท่งนั้น ทั้​งบ​ุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะแกะ และเต็นท์ของเขา ทุ​กสิ่งที่เขามี​อยู่ และนำคนกับของทั้งหมดไปยังหุบเขาอาโคร์ และโยชูวากล่าวว่า “ทำไมเจ้าจึงนำความยากร้ายมาให้​เรา พระเยโฮวาห์จะทรงนำความยากร้ายมาถึงเจ้าในวันนี้” และบรรดาคนอิสราเอลก็เอาหินขว้างเขาให้​ตาย เผาเขาทั้งหลายด้วยไฟ เมื่อขว้างเขาด้วยก้อนหินแล้ว แล​้วเอาหินถมกองทับเขาไว้เป็นกองใหญ่ยังอยู่จนทุกวันนี้ และพระเยโฮวาห์​ก็​ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์ เพราะฉะนั้นจนถึงทุกวันนี้เขายังเรียกที่นั้​นว​่าหุบเขาอาโคร์

โยชูวา 7:1-26 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

แต่คนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องของต้องถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำของถวายบางส่วนไปเป็นของตน และพระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อคนอิสราเอล ฝ่ายโยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวนข้างทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า <<จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น>> คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูที่เมืองอัย และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า <<ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย>> เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียงสามพันคน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันคนเหล่านั้นตาย ประมาณสามสิบหกคน โดยขับไล่คนเหล่านั้นจากประตูเมืองไปยัง เชบาริมฟันเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็แหลกเหลวไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน หน้าหีบแห่งพระเจ้าจนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์เจ้า เป็นไฉนพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบเราทั้งหลายไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ ทำลายเสีย พวกข้าพระองค์มีความเสียดายที่ไม่พอใจอยู่เพียงฟาก ตะวันออกของจอร์แดน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะทูลประการใดได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน แล้วคงจะยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และตัดชื่อของบรรดาข้าพระองค์เสียจากโลก และพระองค์จะทรงกระทำประการใด เพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์>> ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<จงลุกขึ้นเถิด ไฉนเจ้าจึงซบหน้าลงดังนี้เล่า คนอิสราเอลได้กระทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกของที่ต้องถวาย เขาได้ขโมยและปิดบัง และได้เอาของรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นคนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกทำลาย เราจะไม่อยู่กับเจ้าทั้งหลายอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งของที่ต้อง ถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า <จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า <<โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งของที่ต้องถวายอยู่ในหมู่พวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของเจ้าไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งของที่ต้องถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า>> พอรุ่งเช้าเจ้าทั้งหลายจงเข้ามาทีละเผ่า เผ่าใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ต้องเข้ามาทีละตระกูล ตระกูลใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละ ครอบครัว ครอบครัวใดที่พระเจ้าทรงเลือกจับไว้ก็ให้เข้ามาทีละคน ผู้ใดถูกจับว่ามีของต้องถวาย ก็ต้องถูกเผาเสียด้วยไฟ ทั้งตัวเขาและสารพัดที่เป็นของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของพระเจ้า และเพราะเขาได้กระทำสิ่งที่น่าอายในอิสราเอล> >> โยชูวาจึงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และนำคนอิสราเอลเข้ามาทีละเผ่า และพระเจ้าทรงเลือกเผ่ายูดาห์ จึงนำตระกูลในเผ่ายูดาห์เข้ามา และตระกูลเศ-ราห์ถูกทรงเลือก แล้วจึงนำตระกูลเศ-ราห์มาทีละคนและศับดีถูกทรงเลือก และนำครอบครัวของท่านเข้ามาทีละคน และคนที่ถูกทรงเลือกคืออาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดีผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ฝ่ายโยชูวาจึงกล่าวแก่อาคานว่า <<ลูกเอ๋ย จงถวายพระสิริแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล และถวายสรรเสริญแด่พระองค์ จงบอกข้ามาว่าเจ้าได้กระทำอะไรไป อย่าปิดบังไว้ จากข้าเลย>> และอาคานตอบโยชูวาว่า <<เป็นความจริงแล้วที่ข้าพเจ้าได้กระทำบาปต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล ข้าพเจ้าได้กระทำดังนี้ ในหมู่ของที่ริบมา ข้าพเจ้าได้เห็นเสื้อคลุมงามตัวหนึ่ง ของเมืองบาบิโลนกับเงินสองร้อยเชเขล และทองคำแท่งหนึ่งหนักห้าสิบเชเขล ข้าพเจ้าก็โลภอยากได้ของเหล่านั้น ข้าพเจ้าจึงเอามา ดูเถิด ของเหล่านั้นซ่อนอยู่ใต้ดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า เงินนั้นอยู่ข้างล่าง>> ฝ่ายโยชูวาก็ให้ผู้สื่อสารออกไปและเขาทั้งหลายก็ วิ่งไปที่เต็นท์ ดูเถิด ของนั้นฝังอยู่ภายในเต็นท์ของเขา มีเงินอยู่ข้างล่าง เขาก็เอาออกมาจากเต็นท์นำไปให้โยชูวาและ คนอิสราเอลทั้งปวง แล้วเขาก็วางของเหล่านั้นลงต่อพระพักตร์พระเจ้า และโยชูวากับบรรดาคนอิสราเอลจึงพาอาคานบุตรเศ-ราห์ พร้อมกับเงิน เสื้อคลุมตัวนั้น และทองแท่งนั้น ทั้งบุตรชายหญิงของเขา ทั้งวัว ลา แพะ แกะ และเต็นท์ของเขาทุกสิ่งที่เขามีอยู่ และนำคนกับของทั้งหมดขึ้นไปยังหุบเขาอาโคร์ และโยชูวากล่าวว่า <<ทำไมเจ้าจึงนำความยากร้ายมาให้เรา พระเจ้าทรงนำความยากร้ายมาถึงเจ้าในวันนี้>> และบรรดาคนอิสราเอลก็เอาหินขว้างเขาให้ตาย เผาเขาทั้งหลายด้วยไฟ และขว้างเขาด้วยก้อนหิน แล้วเอาหินถมกองทับเขาไว้เป็นกองใหญ่ยังอยู่จนทุกวันนี้ และพระเจ้าก็ทรงหันกลับจากพระพิโรธอันแรงกล้าของพระองค์ เพราะฉะนั้นจนถึงทุกวันนี้ เขายังเรียกที่นั้นว่าหุบเขาอาโคร์

โยชูวา 7:1-26 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

แต่ชนอิสราเอลไม่ซื่อสัตย์เกี่ยวกับของที่ต้องอุทิศถวาย อาคานบุตรคารมีผู้เป็นบุตรของศิมรี ผู้เป็นบุตรของเศราห์เผ่ายูดาห์ได้แอบเก็บบางสิ่งไว้ ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงพระพิโรธอิสราเอล ครั้งนั้นโยชูวาส่งคนจากเมืองเยรีโคไปเมืองอัยซึ่งอยู่ใกล้เบธอาเวนทางทิศตะวันออกของเบธเอล และสั่งพวกเขาว่า “จงไปสืบดูสภาพแถบนั้น” ดังนั้นพวกเขาจึงไปสำรวจดูเมืองอัย พวกเขากลับมารายงานโยชูวาว่า “ไม่ต้องนำพลทั้งหมดไปรบกับอัย ส่งเพียงสองหรือสามพันคนไปยึดก็พอ ไม่ต้องให้ประชากรทั้งหมดเหนื่อยยาก เพราะที่นั่นมีเพียงไม่กี่คน” ดังนั้นจึงมีทหารออกไปราวสามพันคน แต่ต้องแตกพ่ายหนีจากชาวเมืองอัย คนอิสราเอลราว 36 คนถูกฆ่าตายขณะบุกเข้าตีเมือง และอีกจำนวนมากถูกชาวเมืองอัยไล่ฆ่าฟันจากประตูเมืองถึงเหมืองหิน ประชาชนอิสราเอลก็ระทดท้อขวัญเสียไป โยชูวาจึงฉีกเสี้อผ้าหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นด้านหน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนถึงเวลาเย็น บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลก็ทำเช่นเดียวกัน และโปรยฝุ่นใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต เหตุใดจึงทรงนำเหล่าประชากรนี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาสู่เงื้อมมือชาวอาโมไรต์ให้เขาทำลายเรา? พวกข้าพระองค์น่าจะพอใจที่จะอาศัยฝั่งข้างโน้นของแม่น้ำจอร์แดน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะพูดอย่างไรดี ในเมื่ออิสราเอลพ่ายแพ้ศัตรูมาเช่นนี้? ชาวคานาอันและชนชาติใกล้เคียงได้ยินเรื่องนี้ ก็จะมารุมล้อมกวาดล้างข้าพระองค์ทั้งหลายให้สิ้นชื่อไปจากแผ่นดิน และจะเกิดอะไรขึ้นกับพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้น! เจ้าหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นทำไม? อิสราเอลได้ทำบาป ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเราซึ่งบัญชาให้เขาปฏิบัติ พวกเขาซุกซ่อนของที่ต้องอุทิศถวาย เขาขโมยและโกหก เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้กับทรัพย์สินส่วนตัว ด้วยเหตุนี้เองชนชาติอิสราเอลจึงไม่สามารถต่อสู้กับศัตรู แต่ต้องพ่ายแพ้เพราะถูกกำหนดไว้ให้พินาศ เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นแต่ว่าเจ้าทั้งหลายได้ทำลายของที่ต้องอุทิศถวายซึ่งเราสั่งให้ทำลายไปเสียก่อน “ไปเถิด ไปชำระเหล่าประชากรให้บริสุทธิ์ และสั่งพวกเขาว่า ‘จงชำระตนให้บริสุทธิ์ เตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า มีสิ่งที่ต้องอุทิศถวายอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า อิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูจนกว่าจะได้กำจัดสิ่งนั้นไป “ ‘เช้าวันพรุ่งนี้พวกเจ้าจงมารายงานตัวทีละเผ่า เผ่าที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงระบุ จงออกมาข้างหน้าทีละตระกูล ตระกูลที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงระบุ จงออกมาข้างหน้าทีละครอบครัว ครอบครัวที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงระบุ จงออกมาข้างหน้าทีละคน ผู้ที่ถูกจับได้ว่ามีของต้องอุทิศถวาย จะถูกเผาทำลายพร้อมทั้งข้าวของทุกอย่างของเขา เพราะเขาได้ละเมิดพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าทำสิ่งที่น่าอับอายในอิสราเอล!’ ” เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นโยชูวาจึงให้ชนอิสราเอลออกมาข้างหน้าทีละเผ่า จับได้เผ่ายูดาห์ ตระกูลต่างๆ ของยูดาห์ออกมาข้างหน้า จับได้ตระกูลเศราห์ ครอบครัวต่างๆ ของเศราห์ออกมาข้างหน้า จับได้ครอบครัวศิมรี โยชูวาให้ครอบครัวศิมรีออกมาทีละคน จับได้อาคานบุตรคารมีซึ่งเป็นบุตรศิมรี ซึ่งเป็นบุตรเศราห์แห่งเผ่ายูดาห์ โยชูวาจึงกล่าวกับอาคานว่า “ลูกเอ๋ยจงถวายเกียรติแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล และถวายสรรเสริญแด่พระองค์ บอกเราเถิดว่าเจ้าทำอะไรลงไป อย่าปิดบังไว้เลย” อาคานตอบว่า “เป็นความจริงที่ข้าพเจ้าได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล สิ่งที่ข้าพเจ้าทำลงไปคือ ในกองของที่ริบมาได้ ข้าพเจ้าเห็นเสื้อคลุมสวยงามจากบาบิโลน เงินหนักประมาณ 2.3 กิโลกรัม และทองแท่งหนักประมาณ 600 กรัม ข้าพเจ้าอยากได้ จึงนำมาฝังไว้ใต้พื้นดินในเต็นท์ของข้าพเจ้า โดยฝังเงินไว้ใต้สุด” โยชูวาจึงส่งคนไป พวกเขาวิ่งไปที่เต็นท์ของอาคาน พบของซ่อนอยู่ในเต็นท์ของเขา เงินถูกฝังไว้ใต้สุด เขานำของเหล่านั้นจากเต็นท์มายังโยชูวาและปวงชนอิสราเอล แล้ววางลงต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วโยชูวากับชนอิสราเอลทั้งปวงจึงนำอาคานบุตรเศราห์ เงิน เสื้อคลุม ทองแท่ง บรรดาบุตรชายและบุตรสาวของเขา วัว ลา แกะ เต็นท์ และ สมบัติทุกอย่างของเขาไปยังหุบเขาอาโคร์ โยชูวากล่าวว่า “ทำไมเจ้าจึงนำความเดือดร้อนมาสู่พวกเรา? วันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงนำความเดือดร้อนมาสู่เจ้า” แล้วชาวอิสราเอลทั้งปวงเอาหินขว้างใส่อาคานและครอบครัวจนตายและเผาร่างของพวกเขา แล้วเอาหินสุมทับอาคานเป็นพะเนิน ซึ่งยังคงอยู่ตราบทุกวันนี้ สถานที่นั้นจึงได้ชื่อว่าอาโคร์ ตราบเท่าทุกวันนี้ แล้วพระพิโรธอันรุนแรงขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็สงบลง

โยชูวา 7:1-26 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

แต่​ชาว​อิสราเอล​ไม่​ซื่อ​ตรง​เรื่อง​สิ่ง​ที่​ถวาย​แล้ว เนื่อง​จาก​อาคาน​บุตร​คาร์มี ผู้​เป็น​บุตร​ศับดี ผู้​เป็น​บุตร​เศรัค​จาก​เผ่า​ยูดาห์ ได้​ยักยอก​สิ่ง​ที่​ถวาย​แล้ว พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จึง​กริ้ว​ชาว​อิสราเอล​มาก โยชูวา​ให้​ชาย​บาง​คน​ไป​เมือง​อัย ซึ่ง​อยู่​ใกล้​เบธอาเวน ทาง​ด้าน​ตะวัน​ออก​ของ​เบธเอล โดย​สั่ง​ว่า “ขึ้น​ไป​สืบ​ความ​ใน​แผ่นดิน​ที่​นั่น” ชาย​เหล่า​นั้น​ก็​ขึ้น​ไป​สืบ​ความ​ใน​เมือง​อัย เมื่อ​กลับ​มา​ก็​บอก​โยชูวา​ว่า “ไม่​ต้อง​ให้​ทุก​คน​ขึ้น​ไป​ที่​นั่น แค่​ให้​ชาย​สอง​หรือ​สาม​พัน​คน​ขึ้น​ไป​โจมตี​เมือง​อัย อย่า​ให้​ทุก​คน​ต้อง​ไป​ลำบาก เพราะ​ที่​เมือง​นั้น​มี​คน​ไม่​มาก” ดังนั้น​ชาย​ประมาณ 3,000 คน​ได้​ขึ้น​ไป และ​กลับ​ต้อง​เตลิด​หนี​ไป​ต่อ​หน้า​ต่อ​ตา​พวก​ผู้​ชาย​ชาว​เมือง​อัย ผู้​ชาย​ชาว​เมือง​อัย​ได้​วิ่ง​ไล่​ชาย​อิสราเอล​ไป​จาก​ประตู​เมือง​จน​ถึง​เหมือง​หิน และ​ได้​ฆ่า​ชาย​ประมาณ 36 คน โดย​ฟัน​พวก​เขา​จน​ถึง​แก่​ความ​ตาย​ที่​บริเวณ​ทาง​ลาด และ​ประชาชน​ต่าง​พา​กัน​ขวัญ​เสีย​จน​ตั้ง​ตัว​ไม่​ติด โยชูวา​จึง​ฉีก​เสื้อ​ผ้า​ของ​ตน​และ​ซบ​หน้า​ลง​กับ​พื้น ณ เบื้อง​หน้า​หีบ​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​จน​กระทั่ง​ตก​เย็น บรรดา​หัวหน้า​ชั้น​ผู้​ใหญ่​ของ​อิสราเอล​กระทำ​เช่น​เดียว​กัน และ​ต่าง​ก็​ซัด​ฝุ่น​ผง​ลง​บน​หัว​ของ​ตน โยชูวา​พูด​ว่า “โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่ ทำไม​พระ​องค์​จึง​ต้อง​นำ​ชน​ชาติ​นี้​ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน​มา เพื่อ​ให้​พวก​เรา​ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​ชาว​อาโมร์​เพื่อ​ทำลาย​พวก​เรา​อย่าง​นั้น​หรือ ถ้า​พวก​เรา​พอ​ใจ​จะ​อยู่​ต่อ​ที่​อีก​ฟาก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน​ได้​ก็​คง​ดี​ไป​แล้ว โอ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ข้าพเจ้า​จะ​ว่า​อย่างไร​ได้​เล่า เมื่อ​อิสราเอล​หัน​หลัง​ให้​เหล่า​ศัตรู​เสีย​แล้ว ชาว​คานาอัน​และ​ผู้​อาศัย​ทุก​คน​ใน​แผ่นดิน​จะ​ได้ยิน​เรื่อง​นี้ แล้ว​พวก​เขา​ก็​จะ​ล้อม​พวก​เรา และ​ลบ​ชื่อ​ของ​เรา​ไป​เสีย​จาก​โลก​นี้ แล้ว​พระ​องค์​จะ​ทำ​อะไร​เพื่อ​พระ​นาม​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ของ​พระ​องค์” พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​กับ​โยชูวา​ว่า “ลุก​ขึ้น​เถิด ทำไม​เจ้า​จึง​ซบ​หน้า​ลง​กับ​พื้น​อย่าง​นี้ อิสราเอล​กระทำ​บาป พวก​เขา​ละเมิด​พันธ​สัญญา​ของ​เรา​ที่​เรา​บัญชา​ไว้ พวก​เขา​ได้​ยักยอก​บาง​สิ่ง​ที่​ถวาย​แล้ว เขา​ทั้ง​ขโมย​และ​โกหก และ​เก็บ​รวบ​รวม​ไว้​กับ​ของ​ส่วน​ตัว​ของ​เขา ฉะนั้น​ชาว​อิสราเอล​จึง​ไม่​สามารถ​ยืน​ต่อต้าน​ศัตรู​ได้ พวก​เขา​หัน​หลัง​ให้​เหล่า​ศัตรู​ของ​เขา​เอง เพราะ​พวก​เขา​ถูก​กำหนด​ให้​พินาศ​แล้ว เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​อีก​ต่อ​ไป เว้น​เสีย​แต่​ว่า​พวก​เจ้า​จะ​ทำลาย​สิ่ง​ที่​ถูก​กำหนด​ให้​พินาศ​ไป​เสีย​จาก​ท่าม​กลาง​พวก​เจ้า จง​ลุก​ขึ้น จง​ชำระ​ตัว​ประชาชน​ให้​บริสุทธิ์ และ​จง​พูด​ว่า ‘จง​ชำระ​ตัว​ให้​บริสุทธิ์​สำหรับ​พรุ่งนี้ เพราะ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล​กล่าว​ว่า “มี​สิ่ง​ที่​ถูก​ถวาย​แล้ว​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เจ้า โอ อิสราเอล​เอ๋ย เจ้า​ไม่​สามารถ​ยืน​ต่อต้าน​ศัตรู​ของ​เจ้า​ได้ จน​กว่า​จะ​เอา​สิ่ง​ที่​ถูก​ถวาย​ที่​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เจ้า​ออก​ไป​เสีย” ฉะนั้น​ตอน​เช้า​พวก​ท่าน​จง​มา​แสดง​ตัว​ตาม​เผ่า​ของ​ท่าน และ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ชี้​ด้วย​การ​จับ​ฉลาก​ว่า​เป็น​เผ่า​ใด ก็​ให้​เผ่า​นั้น​เข้า​มา​ใกล้ๆ ที​ละ​ครอบครัว และ​ครอบครัว​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ชี้​จะ​เข้า​มา​ใกล้ๆ ที​ละ​ครัว​เรือน และ​ครัว​เรือน​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ชี้​จะ​เข้า​มา​ใกล้ๆ ที​ละ​คน เมื่อ​พบ​คน​ที่​มี​สิ่ง​ที่​ถวาย​แล้ว​อยู่​กับ​เขา เขา​ก็​จะ​ถูก​เผา​ด้วย​ไฟ ทั้ง​ตัว​เขา​และ​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​มี เพราะ​เขา​ได้​ละเมิด​พันธ​สัญญา​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า และ​เป็น​เพราะ​เขา​ได้​กระทำ​สิ่ง​ที่​น่า​อับอาย​ใน​อิสราเอล’” ดังนั้น โยชูวา​ตื่น​ขึ้น​แต่​เช้า​ตรู่​และ​นำ​อิสราเอล​เข้า​มา​ใกล้ๆ ที​ละ​เผ่า และ​เผ่า​ยูดาห์​ก็​ถูก​ชี้​ตัว ท่าน​จึง​นำ​ครอบครัว​ทั้ง​หลาย​ของ​เผ่า​ยูดาห์​เข้า​มา​ใกล้ๆ และ​ครอบครัว​ชาว​เศรัค​ก็​ถูก​ชี้​ตัว ท่าน​จึง​นำ​ตัว​ชาย​แต่​ละ​คน​จาก​ครอบครัว​ของ​ชาว​เศรัค​เข้า​มา​ใกล้ๆ และ​ศับดี​ก็​ถูก​ชี้​ตัว ท่าน​จึง​นำ​ตัว​ชาย​แต่​ละ​คน​จาก​ครัว​เรือน​ของ​ศับดี​เข้า​มา​ใกล้ๆ และ​อาคาน​บุตร​คาร์มี ผู้​เป็น​บุตร​ศับดี ผู้​เป็น​บุตร​เศรัค​จาก​เผ่า​ยูดาห์​จึง​ถูก​ชี้​ตัว โยชูวา​จึง​พูด​กับ​อาคาน​ว่า “ลูก​เอ๋ย จง​ถวาย​เกียรติ​แด่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล และ​จง​สรรเสริญ​พระ​องค์​เถิด และ​จง​บอก​เรา​เดี๋ยว​นี้​ว่า​เจ้า​ได้​กระทำ​สิ่ง​ใด อย่า​ปก​ปิด​เรา​เลย” อาคาน​ตอบ​โยชูวา​ว่า “เป็น​ความ​จริง ข้าพเจ้า​ได้​กระทำ​บาป​ต่อ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​กระทำ​ก็​คือ ใน​จำนวน​ของ​ที่​ยึด​มา​ได้​นั้น ข้าพเจ้า​เห็น​เสื้อ​คลุม​สวย 1 ตัว​จาก​บาบิโลน เงิน 200 เชเขล ทองคำ​แท่ง​หนัก 50 เชเขล ข้าพเจ้า​จึง​อยาก​ได้​และ​ยักยอก​ไว้ ของ​ซ่อน​ไว้​ใต้​ดิน​ใน​กระโจม​ข้าพเจ้า เงิน​ก็​อยู่​ข้าง​ใต้​ด้วย” โยชูวา​ให้​ผู้​ส่ง​ข่าว​ไป พวก​เขา​วิ่ง​ไป​ที่​กระโจม ดู​เถิด ทุก​สิ่ง​ถูก​ซ่อน​ไว้​ใน​กระโจม​ของ​เขา​พร้อม​กับ​เงิน​ที่​อยู่​ข้าง​ใต้ พวก​เขา​จึง​เอา​ออก​มา​จาก​กระโจม นำ​ไป​ให้​โยชูวา​และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้ง​ปวง และ​เขา​วาง​ไว้ ณ เบื้อง​หน้า​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า โยชูวา​และ​ชาว​อิสราเอล​ทั้ง​ปวง​นำ​อาคาน​บุตร​เศรัค​กับ​เงิน เสื้อ​คลุม​และ​ทองคำ​แท่ง บรรดา​บุตร​ชาย​บุตร​หญิง โค ลา แกะ กระโจม และ​ทุก​สิ่ง​ที่​เขา​มี ขึ้น​ไป​ยัง​หุบ​เขา​อาโคร์ และ​โยชูวา​พูด​ว่า “ทำไม​เจ้า​จึง​นำ​ความ​เดือด​ร้อน​มา​สู่​พวก​เรา วัน​นี้​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​นำ​ความ​เดือด​ร้อน​มา​สู่​เจ้า” และ​อิสราเอล​ทุก​คน​ใช้​ก้อน​หิน​ขว้าง​อาคาน ใช้​ไฟ​เผา และ​ใช้​ก้อน​หิน​ขว้าง​พวก​เขา ชาว​อิสราเอล​ใช้​ก้อน​หิน​สุม​ทับ​ตัว​เขา​เป็น​กอง​พะเนิน​ซึ่ง​ยัง​อยู่​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ แล้ว​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ก็​หาย​จาก​ความ​โกรธ​อัน​ร้อน​แรง ฉะนั้น​สถาน​ที่​นั้น​เรียก​ว่า หุบ​เขา​อาโคร์​มา​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้