โยชูวา 7:1-13
โยชูวา 7:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แต่ชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังคำสั่งในเรื่องสิ่งของที่ต้องถูกทำลาย อาคานลูกชายของคารมีที่เป็นลูกชายของศับดีที่เป็นลูกชายของเศราห์จากเผ่ายูดาห์ ได้แอบเอาของบางส่วนมาจากสิ่งต่างๆที่ต้องถูกทำลาย ดังนั้นความโกรธของพระยาห์เวห์ได้พลุ่งขึ้นต่อคนอิสราเอล ฝ่ายโยชูวาได้ส่งคนกลุ่มหนึ่งออกจากเมืองเยริโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเมืองเบธาเวน ทางด้านตะวันออกของเมืองเบธเอล โยชูวาบอกพวกเขาว่า “ขึ้นไปสอดแนมแผ่นดินนั้นมา” ดังนั้นพวกเขาจึงขึ้นไปสอดแนมเมืองอัย แล้วพวกเขาได้กลับมารายงานโยชูวาว่า “ไม่จำเป็นต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไปต่อสู้กับเมืองอัย ให้ใช้คนแค่สองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ อย่าให้ประชาชนทั้งหมดต้องเสียแรงขึ้นไปถึงที่นั่นเลย เพราะเมืองอัยมีประชาชนน้อย” ประชาชนประมาณสามพันคนจึงได้เดินทางขึ้นไปที่เมืองอัย แต่พวกเขาก็ต้องถูกชาวเมืองอัยตีจนแตกหนีกลับมา และถูกฆ่าตายประมาณสามสิบหกคน และชาวเมืองอัยยังไล่ล่าชาวอิสราเอลตั้งแต่ที่หน้าประตูเมืองไปจนถึงเหมืองหิน และฆ่าพวกเขาที่ทางลาดแห่งนั้น ดังนั้น ชาวอิสราเอลจึงกลัวจนจิตใจหลอมละลายไปอย่างน้ำ โยชูวาได้ฉีกเสื้อผ้าของเขาและซบหน้าลงบนพื้นดินต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์จนถึงเวลาเย็น พร้อมๆกับพวกผู้อาวุโสของชาวอิสราเอล พวกเขาต่างก็เอาฝุ่นโปรยลงบนหัวตัวเอง โยชูวาพูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต พระองค์นำประชาชนทั้งหมดข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาทำไมกัน เพื่อให้ชาวอาโมไรต์ทำลายล้างพวกเราอย่างนั้นหรือ เสียดายจริงๆพวกเราน่าจะพอใจที่จะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนมากกว่า พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ในเมื่อชาวอิสราเอลได้หันหลังหนีจากศัตรูเสียแล้ว ชาวคานาอัน และบรรดาประชาชนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ จะได้ยินเรื่องนี้และจะพากันมาปิดล้อมและลบล้างพวกเราไปจากแผ่นดินโลก เมื่อถึงขั้นนั้น พระองค์จะทำอะไรเพื่อกู้ชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของพระองค์” ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงพูดกับโยชูวาว่า “ลุกขึ้น เจ้าจะซบหน้าอยู่อย่างนี้ทำไม ชาวอิสราเอลได้ทำบาป พวกเขาได้ละเมิดข้อตกลงที่เราได้สั่งพวกเขาไว้ พวกเขาได้เอาของบางส่วนที่เราสั่งให้ทำลาย พวกเขาได้ขโมยพวกมันไปและโกหก พวกเขาได้เอาสิ่งเหล่านั้นไปรวมไว้กับของของพวกเขา ชาวอิสราเอลก็เลยไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ศัตรูได้ พวกเขาวิ่งหนีจากศัตรู เพราะพวกเขาเองได้กลายเป็นสิ่งที่จะต้องถูกทำลายให้กับเรา เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป นอกจากว่าพวกเจ้าจะเอาของเหล่านั้นที่ต้องทำลาย ออกไปเสียจากพวกเจ้า ให้ไปชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และพูดว่า ‘ให้ชำระตัวของพวกท่านไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของชาวอิสราเอลได้พูด “ชาวอิสราเอล ท่ามกลางพวกเจ้ายังมีสิ่งของที่เราได้สั่งให้ทำลายเก็บไว้อยู่ เจ้าจะไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ศัตรูได้ จนกว่าพวกเจ้าจะเอาสิ่งเหล่านั้นที่เราได้สั่งให้ทำลายออกไปเสียจากพวกเจ้า”
โยชูวา 7:1-13 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แต่ประชาชนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำสิ่งที่ต้องทำลายถวายบางส่วนไปเป็นของตน พระพิโรธของพระยาห์เวห์จึงพลุ่งขึ้นต่อประชาชนอิสราเอล โยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวนทางทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า “จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น” คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองอัย และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า “ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย” เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียง 3,000 คน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันพวกเขาตายประมาณ 36 คน โดยขับไล่เขาจากประตูเมืองไปถึงเชบาริม ฆ่าเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน หน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์จนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้านาย ทำไมพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบพวกข้าพระองค์ไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ทำลายเสีย? พวกข้าพระองค์น่าจะพอใจอยู่เพียงฟากตะวันออกของจอร์แดน ข้าแต่องค์เจ้านาย ข้าพระองค์จะทูลอะไรได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน แล้วยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และลบชื่อของพวกข้าพระองค์เสียจากโลก และพระองค์จะทรงทำอะไรเพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์?” ฝ่ายพระยาห์เวห์ตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้นเถิด ทำไมเจ้าจึงซบหน้าลงอย่างนี้เล่า? อิสราเอลได้ทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เขาได้ขโมยและหลอกลวง และได้เอาของนั้นรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นประชาชนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะพวกเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องทำลายถวาย เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งที่ต้องทำลายถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า “โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งที่ต้องทำลายถวายอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งที่ต้องทำลายถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า”
โยชูวา 7:1-13 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แต่คนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องของที่ถูกสาปแช่งนั้น เพราะอาคานบุตรชายคารมี ผู้เป็นบุตรชายศับดี ผู้เป็นบุตรชายเศ-ราห์ ตระกูลยูดาห์ ได้นำของที่ถูกสาปแช่งบางส่วนไปเป็นของตน และพระพิโรธของพระเยโฮวาห์ก็พลุ่งขึ้นต่อคนอิสราเอล ฝ่ายโยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวน ข้างทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า “จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น” คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูที่เมืองอัย และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า “ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดลำบากที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย” เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียงสามพันคน แต่ต้องแตกหนีให้พ้นหน้าชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันคนเหล่านั้นตายประมาณสามสิบหกคน โดยขับไล่คนเหล่านั้นจากตรงหน้าประตูเมืองไปยังเชบาริมฟันเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็ละลายไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดินหน้าหีบแห่งพระเยโฮวาห์จนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า “โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า อนิจจาเอ๋ย เป็นไฉนพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบเราทั้งหลายไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ทำลายเสีย พวกข้าพระองค์มีความเสียดายที่ไม่พอใจอยู่เพียงฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น โอ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะทูลประการใดได้เล่าเมื่ออิสราเอลหันหลังหนีให้พ้นหน้าศัตรูเสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอันกับผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นคงจะได้ยิน แล้วคงจะยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และตัดชื่อของบรรดาข้าพระองค์เสียจากแผ่นดินโลก และพระองค์จะทรงกระทำประการใดต่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์” ฝ่ายพระเยโฮวาห์ตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้นเถิด ไฉนเจ้าจึงซบหน้าลงดังนี้เล่า คนอิสราเอลได้กระทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกของที่ถูกสาปแช่ง เขาได้ขโมยและปิดบัง และได้เอาของรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นคนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีต่อหน้าศัตรู เพราะเขากลายเป็นสิ่งที่ถูกสาปแช่ง เราจะไม่อยู่กับเจ้าทั้งหลายอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งของที่ถูกสาปแช่งเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า ‘จงชำระตัวเสียเพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า “โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งของที่ถูกสาปแช่งอยู่ในหมู่พวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของเจ้าไม่ได้จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งของที่ถูกสาปแช่งนั้นออกเสียจากหมู่พวกเจ้า”’
โยชูวา 7:1-13 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แต่คนอิสราเอลได้ละเมิดในเรื่องของต้องถวายนั้น เพราะอาคานบุตรคารมี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศ-ราห์ เผ่ายูดาห์ ได้นำของถวายบางส่วนไปเป็นของตน และพระพิโรธของพระเจ้าก็พลุ่งขึ้นต่อคนอิสราเอล ฝ่ายโยชูวาให้คนออกจากเยรีโคไปยังเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธาเวนข้างทิศตะวันออกของเมืองเบธเอล บอกเขาว่า <<จงขึ้นไปและสอดแนมดูเมืองนั้น>> คนเหล่านั้นก็ขึ้นไปและสอดแนมดูที่เมืองอัย และเขากลับมารายงานแก่โยชูวาว่า <<ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดขึ้นไป ให้สักสองสามพันคนขึ้นไปตีเมืองอัยก็พอ ไม่ต้องให้ประชาชนทั้งหมดปีนป่ายไปที่นั่นเลย เพราะเขามีคนน้อย>> เพราะฉะนั้นจึงมีประชาชนขึ้นไปที่นั่นเพียงสามพันคน แต่ต้องแตกหนีจากชาวเมืองอัย ฝ่ายชาวเมืองอัยก็ฆ่าฟันคนเหล่านั้นตาย ประมาณสามสิบหกคน โดยขับไล่คนเหล่านั้นจากประตูเมืองไปยัง เชบาริมฟันเขาตามทางลง และจิตใจของประชาชนก็แหลกเหลวไปอย่างน้ำ ฝ่ายโยชูวาก็ฉีกเสื้อผ้าของตนซบหน้าลงถึงดิน หน้าหีบแห่งพระเจ้าจนถึงเวลาเย็น ทั้งท่านกับพวกผู้ใหญ่ของคนอิสราเอล ต่างก็เอาผงคลีดินใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า <<ข้าแต่พระเยโฮวาห์เจ้า เป็นไฉนพระองค์จึงทรงนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อจะมอบเราทั้งหลายไว้ในมือของคนอาโมไรต์ให้ ทำลายเสีย พวกข้าพระองค์มีความเสียดายที่ไม่พอใจอยู่เพียงฟาก ตะวันออกของจอร์แดน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะทูลประการใดได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังหนีศัตรูเสียแล้ว เพราะว่าคนคานาอันกับบรรดาชาวเมืองคงจะได้ยิน แล้วคงจะยกมาตั้งล้อมพวกข้าพระองค์ และตัดชื่อของบรรดาข้าพระองค์เสียจากโลก และพระองค์จะทรงกระทำประการใด เพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์>> ฝ่ายพระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า <<จงลุกขึ้นเถิด ไฉนเจ้าจึงซบหน้าลงดังนี้เล่า คนอิสราเอลได้กระทำบาป เขาได้ละเมิดพันธสัญญาซึ่งเราได้บัญชาเขาไว้ เขาได้ยักยอกของที่ต้องถวาย เขาได้ขโมยและปิดบัง และได้เอาของรวมไว้กับข้าวของของตน เพราะฉะนั้นคนอิสราเอลจึงยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของตนไม่ได้ ได้หันหลังหนีศัตรู เพราะเขากลายเป็นสิ่งที่ต้องถูกทำลาย เราจะไม่อยู่กับเจ้าทั้งหลายอีกต่อไป เว้นแต่เจ้าจะทำลายสิ่งของที่ต้อง ถวายเหล่านั้นเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้นชำระประชาชนให้บริสุทธิ์และกล่าวว่า <จงชำระตัวเสีย เพื่อวันพรุ่งนี้ เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของคนอิสราเอลกล่าวเช่นนี้ว่า <<โอ อิสราเอลเอ๋ย มีสิ่งของที่ต้องถวายอยู่ในหมู่พวกเจ้า เจ้าจะยืนหยัดต่อสู้ศัตรูของเจ้าไม่ได้ จนกว่าเจ้าจะนำสิ่งของที่ต้องถวายนั้น ออกเสียจากหมู่พวกเจ้า>>
โยชูวา 7:1-13 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แต่ชนอิสราเอลไม่ซื่อสัตย์เกี่ยวกับของที่ต้องอุทิศถวาย อาคานบุตรคารมีผู้เป็นบุตรของศิมรี ผู้เป็นบุตรของเศราห์เผ่ายูดาห์ได้แอบเก็บบางสิ่งไว้ ดังนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงพระพิโรธอิสราเอล ครั้งนั้นโยชูวาส่งคนจากเมืองเยรีโคไปเมืองอัยซึ่งอยู่ใกล้เบธอาเวนทางทิศตะวันออกของเบธเอล และสั่งพวกเขาว่า “จงไปสืบดูสภาพแถบนั้น” ดังนั้นพวกเขาจึงไปสำรวจดูเมืองอัย พวกเขากลับมารายงานโยชูวาว่า “ไม่ต้องนำพลทั้งหมดไปรบกับอัย ส่งเพียงสองหรือสามพันคนไปยึดก็พอ ไม่ต้องให้ประชากรทั้งหมดเหนื่อยยาก เพราะที่นั่นมีเพียงไม่กี่คน” ดังนั้นจึงมีทหารออกไปราวสามพันคน แต่ต้องแตกพ่ายหนีจากชาวเมืองอัย คนอิสราเอลราว 36 คนถูกฆ่าตายขณะบุกเข้าตีเมือง และอีกจำนวนมากถูกชาวเมืองอัยไล่ฆ่าฟันจากประตูเมืองถึงเหมืองหิน ประชาชนอิสราเอลก็ระทดท้อขวัญเสียไป โยชูวาจึงฉีกเสี้อผ้าหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นด้านหน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจนถึงเวลาเย็น บรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลก็ทำเช่นเดียวกัน และโปรยฝุ่นใส่ศีรษะของตน โยชูวากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต เหตุใดจึงทรงนำเหล่าประชากรนี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมาสู่เงื้อมมือชาวอาโมไรต์ให้เขาทำลายเรา? พวกข้าพระองค์น่าจะพอใจที่จะอาศัยฝั่งข้างโน้นของแม่น้ำจอร์แดน ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะพูดอย่างไรดี ในเมื่ออิสราเอลพ่ายแพ้ศัตรูมาเช่นนี้? ชาวคานาอันและชนชาติใกล้เคียงได้ยินเรื่องนี้ ก็จะมารุมล้อมกวาดล้างข้าพระองค์ทั้งหลายให้สิ้นชื่อไปจากแผ่นดิน และจะเกิดอะไรขึ้นกับพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์?” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “จงลุกขึ้น! เจ้าหมอบกราบซบหน้าลงกับพื้นทำไม? อิสราเอลได้ทำบาป ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเราซึ่งบัญชาให้เขาปฏิบัติ พวกเขาซุกซ่อนของที่ต้องอุทิศถวาย เขาขโมยและโกหก เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้กับทรัพย์สินส่วนตัว ด้วยเหตุนี้เองชนชาติอิสราเอลจึงไม่สามารถต่อสู้กับศัตรู แต่ต้องพ่ายแพ้เพราะถูกกำหนดไว้ให้พินาศ เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นแต่ว่าเจ้าทั้งหลายได้ทำลายของที่ต้องอุทิศถวายซึ่งเราสั่งให้ทำลายไปเสียก่อน “ไปเถิด ไปชำระเหล่าประชากรให้บริสุทธิ์ และสั่งพวกเขาว่า ‘จงชำระตนให้บริสุทธิ์ เตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า มีสิ่งที่ต้องอุทิศถวายอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า อิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูจนกว่าจะได้กำจัดสิ่งนั้นไป
โยชูวา 7:1-13 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
แต่ชาวอิสราเอลไม่ซื่อตรงเรื่องสิ่งที่ถวายแล้ว เนื่องจากอาคานบุตรคาร์มี ผู้เป็นบุตรศับดี ผู้เป็นบุตรเศรัคจากเผ่ายูดาห์ ได้ยักยอกสิ่งที่ถวายแล้ว พระผู้เป็นเจ้าจึงกริ้วชาวอิสราเอลมาก โยชูวาให้ชายบางคนไปเมืองอัย ซึ่งอยู่ใกล้เบธอาเวน ทางด้านตะวันออกของเบธเอล โดยสั่งว่า “ขึ้นไปสืบความในแผ่นดินที่นั่น” ชายเหล่านั้นก็ขึ้นไปสืบความในเมืองอัย เมื่อกลับมาก็บอกโยชูวาว่า “ไม่ต้องให้ทุกคนขึ้นไปที่นั่น แค่ให้ชายสองหรือสามพันคนขึ้นไปโจมตีเมืองอัย อย่าให้ทุกคนต้องไปลำบาก เพราะที่เมืองนั้นมีคนไม่มาก” ดังนั้นชายประมาณ 3,000 คนได้ขึ้นไป และกลับต้องเตลิดหนีไปต่อหน้าต่อตาพวกผู้ชายชาวเมืองอัย ผู้ชายชาวเมืองอัยได้วิ่งไล่ชายอิสราเอลไปจากประตูเมืองจนถึงเหมืองหิน และได้ฆ่าชายประมาณ 36 คน โดยฟันพวกเขาจนถึงแก่ความตายที่บริเวณทางลาด และประชาชนต่างพากันขวัญเสียจนตั้งตัวไม่ติด โยชูวาจึงฉีกเสื้อผ้าของตนและซบหน้าลงกับพื้น ณ เบื้องหน้าหีบของพระผู้เป็นเจ้าจนกระทั่งตกเย็น บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลกระทำเช่นเดียวกัน และต่างก็ซัดฝุ่นผงลงบนหัวของตน โยชูวาพูดว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ทำไมพระองค์จึงต้องนำชนชาตินี้ข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา เพื่อให้พวกเราตกอยู่ในมือของชาวอาโมร์เพื่อทำลายพวกเราอย่างนั้นหรือ ถ้าพวกเราพอใจจะอยู่ต่อที่อีกฟากของแม่น้ำจอร์แดนได้ก็คงดีไปแล้ว โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะว่าอย่างไรได้เล่า เมื่ออิสราเอลหันหลังให้เหล่าศัตรูเสียแล้ว ชาวคานาอันและผู้อาศัยทุกคนในแผ่นดินจะได้ยินเรื่องนี้ แล้วพวกเขาก็จะล้อมพวกเรา และลบชื่อของเราไปเสียจากโลกนี้ แล้วพระองค์จะทำอะไรเพื่อพระนามอันยิ่งใหญ่ของพระองค์” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโยชูวาว่า “ลุกขึ้นเถิด ทำไมเจ้าจึงซบหน้าลงกับพื้นอย่างนี้ อิสราเอลกระทำบาป พวกเขาละเมิดพันธสัญญาของเราที่เราบัญชาไว้ พวกเขาได้ยักยอกบางสิ่งที่ถวายแล้ว เขาทั้งขโมยและโกหก และเก็บรวบรวมไว้กับของส่วนตัวของเขา ฉะนั้นชาวอิสราเอลจึงไม่สามารถยืนต่อต้านศัตรูได้ พวกเขาหันหลังให้เหล่าศัตรูของเขาเอง เพราะพวกเขาถูกกำหนดให้พินาศแล้ว เราจะไม่อยู่กับพวกเจ้าอีกต่อไป เว้นเสียแต่ว่าพวกเจ้าจะทำลายสิ่งที่ถูกกำหนดให้พินาศไปเสียจากท่ามกลางพวกเจ้า จงลุกขึ้น จงชำระตัวประชาชนให้บริสุทธิ์ และจงพูดว่า ‘จงชำระตัวให้บริสุทธิ์สำหรับพรุ่งนี้ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า “มีสิ่งที่ถูกถวายแล้วอยู่ท่ามกลางพวกเจ้า โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าไม่สามารถยืนต่อต้านศัตรูของเจ้าได้ จนกว่าจะเอาสิ่งที่ถูกถวายที่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้าออกไปเสีย”