โยชูวา 2:1-14
โยชูวา 2:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ต่อมาโยชูวาลูกชายของนูน จึงแอบส่งชายสองคน ที่เป็นชาวเมืองชิทธิม เข้าไปสอดแนม พร้อมกำชับว่า “เข้าไปสำรวจแผ่นดินนั้นให้ทั่ว โดยเฉพาะเมืองเยริโค” แล้วสองคนนั้นก็ไป และได้เข้าไปในบ้านของหญิงโสเภณีชื่อราหับ และค้างคืนที่นั่น มีคนไปแจ้งกับกษัตริย์เมืองเยริโคว่า “มีชายอิสราเอลบางคนได้เข้ามาในเมืองคืนนี้ เพื่อสอดแนมแผ่นดินนี้” กษัตริย์เมืองเยริโคได้ส่งข้อความนี้ไปถึงราหับว่า “ให้ส่งชายพวกนั้นที่มาหาเจ้าที่อยู่บ้านเจ้าออกมา เพราะพวกมันมาสอดแนมแผ่นดินนี้” แต่ราหับได้พาชายสองคนนั้นเข้าไปข้างใน และซ่อนพวกเขาไว้ นางพูดว่า “ใช่แล้วค่ะ ชายพวกนั้นได้มาหาฉันจริง แต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขามาจากไหน และในตอนกลางคืนเมื่อถึงเวลาปิดประตูเมือง พวกเขาก็ออกไป ฉันไม่รู้ว่าชายพวกนั้นไปไหนกัน รีบๆตามพวกเขาไปเถอะ อาจจะไปทันจับพวกเขาก็ได้” (นางได้พาชายทั้งสองขึ้นไปบนดาดฟ้า และให้ซ่อนอยู่ใต้ต้นป่าน ที่นางได้ตัดเอามาตากเรียงกันไว้บนดาดฟ้านั้น) ดังนั้น พวกคนของกษัตริย์แห่งเยริโคก็ได้ไปไล่ตามคนสอดแนมชาวอิสราเอลสองคนนั้นตามถนน จนไปถึงบริเวณที่ตื้นเขินของแม่น้ำจอร์แดนที่สามารถลุยข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ เมื่อพวกคนที่ไล่ล่าออกไป ประตูเมืองก็ปิดลงทันที ก่อนที่ชายชาวอิสราเอลสองคนนั้นจะนอน นางราหับได้ขึ้นไปหาพวกเขาที่บนดาดฟ้า นางพูดกับพวกเขาว่า “ฉันรู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ยกแผ่นดินนี้ให้กับพวกท่าน พวกเราต่างก็พากันหวาดกลัวท่าน และทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินต่างก็อ่อนปวกเปียกไปเพราะพวกท่าน เพราะพวกเราเคยได้ยินมาว่า ตอนที่พวกท่านออกมาจากประเทศอียิปต์นั้น พระยาห์เวห์ได้ทำให้น้ำในทะเลแดงเหือดแห้งไปต่อหน้าพวกท่าน และได้ยินเรื่องที่พวกท่านได้ทำต่อกษัตริย์สององค์ของชาวอาโมไรต์คือ กษัตริย์สิโหนและกษัตริย์โอก ที่พวกท่านได้ทำลายจนราบคาบ ที่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนโน้น เมื่อพวกเราได้ยินข่าวพวกนี้ พวกเราต่างก็ขวัญหนีดีฝ่อ ไม่มีความกล้าหลงเหลืออยู่ในพวกเราเลยสักคน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านองค์นี้นี่แหละที่เป็นพระเจ้าในสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินโลกเบื้องล่าง ดังนั้นตอนนี้ให้สาบานกับฉันต่อหน้าพระยาห์เวห์ว่า พวกท่านจะมีน้ำใจต่อครอบครัวของฉันอย่างที่ฉันมีน้ำใจต่อพวกท่าน ขอให้ปฏิญาณกับฉันว่า พวกท่านจะไว้ชีวิต พ่อแม่ พี่น้องทั้งหลายของฉัน รวมทั้งทุกคนที่เป็นของพวกเขา และช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากความตายด้วย” ชายทั้งสองนั้นได้ตอบนางว่า “ขอให้พระเจ้าฆ่าพวกเรา ถ้ามีคนหนึ่งในพวกท่านเป็นอะไรไป ถ้าท่านไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ เราจะเมตตาและซื่อสัตย์กับท่านตอนที่พระเจ้ามอบแผ่นดินนี้ให้กับพวกเรา”
โยชูวา 2:1-14 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ต่อมาโยชูวาบุตรนูนส่งชายสองคนจากเมืองชิทธีมเป็นการลับไปสอดแนม กล่าวว่า “จงไปตรวจดูแผ่นดินนั้น โดยเฉพาะเมืองเยรีโค” เขาทั้งสองก็ไป เข้าไปในบ้านของหญิงโสเภณีคนหนึ่งชื่อราหับ และพักอยู่ที่นั่น มีคนทูลกษัตริย์แห่งเยรีโคว่า “นี่แน่ะ มีชายอิสราเอลบางคนเข้ามาคืนนี้ เพื่อจะสอดแนมดูแผ่นดิน” กษัตริย์แห่งเยรีโคจึงใช้คนไปสั่งราหับว่า “จงส่งคนเหล่านั้นซึ่งมาหาเจ้าในบ้านของเจ้าออกมาให้เรา เพราะพวกเขามาเพื่อจะสอดแนมดูทั่วแผ่นดินนี้” แต่หญิงนั้นได้ซ่อนชายทั้งสองเสียแล้วจึงกล่าวว่า “มีผู้ชายมาหาข้าพเจ้าจริง แต่พวกเขามาจากไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ เมื่อจะปิดประตูเมืองในเวลาพลบค่ำ คนเหล่านั้นก็ออกไปแล้ว เขาไปทางไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ จงรีบตามเขาไปเถิด คงทันเขา” แต่หญิงนั้นได้พาคนทั้งสองขึ้นไปบนดาดฟ้า แล้วซ่อนตัวเขาไว้ใต้ต้นป่านซึ่งวางเรียงกันตากไว้บนดาดฟ้านั้น พวกผู้ชายก็ไล่ตามคนทั้งสองไปทางแม่น้ำจอร์แดนจนถึงท่าข้าม พอคนที่ไล่ตามนั้นออกไปแล้วพวกเขาก็ปิดประตูเมือง เมื่อชายทั้งสองคนยังไม่นอน หญิงนั้นก็ขึ้นไปหาพวกเขาบนดาดฟ้า กล่าวแก่ชายเหล่านั้นว่า “ดิฉันทราบแล้วว่า พระยาห์เวห์ประทานแผ่นดินนี้แก่พวกท่าน ความกลัวพวกท่านครอบงำเรา และบรรดาชาวแผ่นดินก็หวาดกลัวพวกท่าน เพราะพวกเราได้ยินเรื่องที่พระยาห์เวห์ทรงทำให้ทะเลแดงแห้งไปต่อหน้าท่าน เมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเรื่องการที่ท่านได้ทำต่อกษัตริย์ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนและโอก ผู้ซึ่งพวกท่านได้ทำลายเสีย เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอพวกเราได้ยินข่าวนี้ เราก็ใจเสีย ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง บัดนี้ขอท่านสาบานให้ดิฉันในพระนามพระยาห์เวห์ว่า ในเมื่อดิฉันได้แสดงความเมตตาต่อท่านแล้ว ท่านจะแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของดิฉันด้วย และให้มีหมายสำคัญอันแน่นอนต่อกัน และขอไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง และทุกคนที่เป็นของวงศ์ญาตินี้” ชายนั้นจึงตอบนางว่า “ชีวิตของเราเพื่อชีวิตของพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าไม่เปิดเผยภารกิจนี้ของเรากับใคร เราจะมีความเมตตาและซื่อสัตย์ต่อเจ้า เมื่อพระยาห์เวห์ประทานแผ่นดินนี้แก่เรา”
โยชูวา 2:1-14 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ต่อมาโยชูวาบุตรชายนูนได้ใช้ชายสองคนจากเมืองชิทธิมเป็นการลับให้ไปสอดแนม กล่าวว่า “จงไปตรวจดูแผ่นดินนั้น และเมืองเยรีโคด้วย” คนทั้งสองก็ไป เข้าไปในเรือนของหญิงโสเภณีคนหนึ่งชื่อราหับ และพักอยู่ที่นั่น มีคนทูลกษัตริย์เมืองเยรีโคว่า “ดูเถิด มีชายอิสราเอลบางคนเข้ามาคืนนี้ เพื่อจะสอดแนมดูแผ่นดิน” ฝ่ายกษัตริย์เมืองเยรีโคจึงใช้คนไปสั่งราหับว่า “จงส่งคนเหล่านั้นซึ่งมาหาเจ้าในบ้านของเจ้าออกมาให้เรา เพราะเขามาเพื่อจะสอดแนมดูทั่วแผ่นดินของเรา” แต่หญิงนั้นได้ซ่อนชายทั้งสองเสียแล้วจึงกล่าวว่า “มีผู้ชายมาหาข้าพเจ้าจริง แต่เขามาจากไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ ต่อมาเมื่อจะปิดประตูเมืองในเวลาพลบค่ำ คนเหล่านั้นก็ออกไปแล้ว เขาไปทางไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ จงรีบตามเขาไปเถิด คงทันเขา” แต่หญิงนั้นได้พาคนทั้งสองขึ้นบนหลังคาแล้วซ่อนตัวเขาไว้ใต้ต้นป่านซึ่งวางลำดับตากไว้ที่ดาดฟ้าบนหลังคานั้น เขาทั้งหลายก็ไล่ตามคนทั้งสองไปทางแม่น้ำจอร์แดนจนถึงท่าข้าม พอคนที่ไล่ตามนั้นออกไปแล้วเขาก็ปิดประตูเมือง เมื่อชายทั้งสองคนยังไม่นอนหญิงนั้นก็ขึ้นไปหาเขาบนหลังคา กล่าวแก่ชายนั้นว่า “ดิฉันทราบแล้วว่า พระเยโฮวาห์ประทานแผ่นดินนี้แก่พวกท่าน ความคร้ามกลัวต่อท่านได้ตกอยู่บนเราทั้งหลาย และบรรดาชาวแผ่นดินก็ครั่นคร้ามต่อท่าน เพราะเราทั้งหลายได้ยินเรื่องที่พระเยโฮวาห์ทรงกระทำให้ทะเลแดงแห้งไปต่อหน้าท่านเมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเรื่องการที่ท่านได้กระทำแก่กษัตริย์ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ฟากแม่น้ำจอร์แดนข้างโน้น คือกษัตริย์สิโหนและโอก ผู้ซึ่งท่านทั้งหลายได้ทำลายเสียสิ้น เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอเราได้ยินข่าวนี้ จิตใจของเราก็ละลายไป ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง ฉะนั้นบัดนี้ขอท่านปฏิญาณให้ดิฉันในพระนามพระเยโฮวาห์ว่า เมื่อดิฉันได้สำแดงความเมตตาต่อท่านแล้ว ท่านจะแสดงความเมตตาต่อเรือนบิดาของดิฉันและให้มีหมายสำคัญอันแน่นอนต่อกัน และขอไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง และทุกคนที่เป็นของวงศ์ญาตินี้ ให้ชีวิตเรารอดจากตาย” ชายนั้นจึงตอบนางว่า “ชีวิตของเราเพื่อชีวิตของเจ้าน่ะหรือ ถ้าเจ้าไม่แพร่งพรายธุรกิจนี้แก่ผู้ใด เราจะมีความเมตตาและจริงใจต่อเจ้า เมื่อพระเยโฮวาห์ประทานแผ่นดินนี้แก่เรา”
โยชูวา 2:1-14 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ต่อมาโยชูวาบุตรนูนได้ใช้ชายสองคนจากเมืองชิทธีม เป็นการลับให้ไปสอดแนม กล่าวว่า <<จงไปตรวจดูแผ่นดินนั้น และเมืองเยรีโคด้วย>> คนทั้งสองก็ไป เข้าไปในเรือนของหญิงโสเภณีคนหนึ่งชื่อ ราหับและพักอยู่ที่นั่น มีคนทูลกษัตริย์เมืองเยรีโคว่า <<ดูเถิด มีชายอิสราเอลบางคนเข้ามาคืนนี้ เพื่อจะสอดแนมดูแผ่นดิน>> ฝ่ายกษัตริย์เมืองเยรีโคจึงใช้คนไปสั่งราหับว่า <<จงส่งคนเหล่านั้นซึ่งมาหาเจ้าในบ้านของเจ้า ออกมาให้เรา เพราะเขามาเพื่อจะสอดแนมดูทั่วแผ่นดินของเรา>> แต่หญิงนั้นได้ซ่อนชายทั้งสองเสียแล้วจึงกล่าวว่า <<มีผู้ชายมาหาข้าพเจ้าจริง แต่เขามาจากไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ เมื่อจะปิดประตูเมืองในเวลาพลบค่ำ คนเหล่านั้นก็ออกไปแล้ว เขาไปทางไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ จงรีบตามเขาไปเถิด คงทันเขา>> แต่หญิงนั้นได้พาคนทั้งสองขึ้นบนหลังคา แล้วซ่อนตัวเขาไว้ใต้ต้นป่านซึ่งวางลำดับ ตากไว้ที่ดาดฟ้าบนหลังคานั้น เขาทั้งหลายก็ไล่ตามคนทั้งสองไปทางแม่น้ำจอร์แดนจนถึงท่าข้าม พอคนที่ไล่ตามนั้นออกไปแล้วเขาก็ปิดประตูเมือง เมื่อชายทั้งสองคนยังไม่นอนหญิงนั้นก็ขึ้นไปหา เขาบนหลังคา กล่าวแก่ชายนั้นว่า <<ดิฉันทราบแล้วว่า พระเจ้าประทานแผ่นดินนี้แก่พวกท่าน ความคร้ามกลัวต่อท่านได้ตกอยู่บนเราทั้งหลาย และบรรดาชาวแผ่นดินก็ครั่นคร้ามต่อท่าน เพราะเราทั้งหลาย ได้ยินเรื่องที่พระเจ้าทรงกระทำให้ทะเล แดงแห้งไปต่อหน้าท่านเมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเรื่องการที่ท่านได้กระทำแก่กษัตริย์ ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนและโอก ผู้ซึ่งท่านทั้งหลายได้ทำลายเสียสิ้น เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอเราได้ยินข่าวนี้ เราก็กลัวลานทีเดียว ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็น พระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง บัดนี้ขอท่านสาบานให้ดิฉันในพระนามพระเจ้าว่า เมื่อดิฉันได้สำแดงความเมตตาต่อท่านแล้ว ท่านจะแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของดิฉัน และให้มีหมายสำคัญอันแน่นอนต่อกัน และขอไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง และทุกคนที่เป็นของวงศ์ญาตินี้>> ชายนั้นจึงตอบนางว่า <<ชีวิตของเราเพื่อชีวิตของเจ้าน่ะหรือ ถ้าพวกเจ้าไม่แพร่งพรายธุรกิจนี้แก่ผู้ใด เราจะมีความเมตตาและซื่อสัตย์ต่อเจ้า เมื่อพระเจ้าประทานแผ่นดินนี้แก่เรา>>
โยชูวา 2:1-14 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วโยชูวาบุตรนูนส่งสายสืบสองคนไปจากชิทธีมอย่างลับๆ และสั่งว่า “จงไปสืบดูสภาพดินแดนนั้น โดยเฉพาะที่เมืองเยรีโค” คนทั้งสองเข้าไปถึงบ้านของหญิงโสเภณีชื่อราหับและพักอยู่ที่นั่น มีคนไปบอกกษัตริย์เยรีโคว่า “ดูเถิด! มีชาวอิสราเอลบางคนเข้ามาเมื่อคืนเพื่อมาสืบดูดินแดนนี้” ดังนั้นกษัตริย์เยรีโคจึงส่งคนมาสั่งนางราหับว่า “จงนำตัวคนที่มาพักในบ้านของเจ้าออกมา เพราะพวกเขาเป็นสายสืบมาสืบดูทั่วทั้งดินแดนของเรา” แต่นางได้ซ่อนตัวคนทั้งสองไว้แล้ว นางจึงเรียนว่า “พวกเขามาที่นี่ แต่ดิฉันไม่ทราบว่าเขามาจากไหน เขาออกจากเมืองไปตอนพลบค่ำ ใกล้เวลาปิดประตูเมือง ดิฉันไม่ทราบว่าเขาไปทางไหน ถ้าพวกท่านรีบตามไปอาจจะทัน” (ที่จริงนางพาคนทั้งสองขึ้นไปบนดาดฟ้า และให้ซ่อนตัวอยู่ใต้กองเส้นป่านที่ผึ่งอยู่) คนที่กษัตริย์ใช้มาจึงไล่ตามสายสืบไปตามถนนที่ทอดไปยังท่าข้ามแม่น้ำจอร์แดน และทันทีที่ผู้ติดตามออกไป เขาก็ปิดประตูเมือง ราหับขึ้นไปพบคนทั้งสองก่อนที่พวกเขาจะเข้านอน นางกล่าวกับเขาว่า “ดิฉันทราบดีว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยกดินแดนนี้ให้ท่าน และเราทุกคนกลัวท่านมาก ดังนั้นทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้จึงตกอยู่ในความกลัวเพราะท่าน เราได้ยินเรื่องที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ทะเลแดงแห้งเป็นทางผ่านแก่พวกท่าน ตอนที่ท่านออกมาจากอียิปต์ และเราได้ยินถึงสิ่งที่ท่านทำกับสิโหนและโอก กษัตริย์ทั้งสองของชาวอาโมไรต์ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนซึ่งท่านทำลายล้างหมดสิ้น เมื่อได้ฟังแล้วเราทุกคนก็หวาดกลัวขวัญกระเจิง เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์เบื้องบนและแผ่นดินโลกเบื้องล่าง บัดนี้ขอท่านโปรดสาบานในพระนามพระยาห์เวห์ว่า ท่านจะแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของดิฉันเพราะดิฉันได้เมตตาต่อท่าน โปรดให้เครื่องหมายที่ชัดเจนอย่างหนึ่งไว้ ว่าท่านจะไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิงของดิฉันกับคนทั้งหมดของพวกเขา และว่าท่านจะช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากความตาย” คนทั้งสองให้ความมั่นใจแก่นางว่า “ชีวิตแลกด้วยชีวิต หากเจ้าไม่แพร่งพรายสิ่งที่เราทำอยู่ เราจะซื่อสัตย์และกรุณาเจ้าเมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานดินแดนนี้แก่เรา”
โยชูวา 2:1-14 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
โยชูวาบุตรของนูนได้ส่งชาย 2 คนจากค่ายชิทธีมไปเป็นสายสืบอย่างลับๆ โดยกล่าวว่า “จงไปสืบความในแผ่นดินโน้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองเยรีโค” เขาทั้งสองก็ไป เมื่อมาถึงบ้านของหญิงแพศยาคนหนึ่งชื่อราหับ เขาก็ค้างแรมที่นั่น มีคนไปบอกให้กษัตริย์แห่งเยรีโคทราบว่า “ดูเถิด คืนนี้มีชาวอิสราเอลเข้ามาถึงที่นี่เพื่อสืบความลับในแผ่นดิน” แล้วกษัตริย์เมืองเยรีโคให้คนไปบอกราหับว่า “จงพาตัวชายที่มาหาเจ้า และก็ได้เข้าไปในบ้านเจ้าออกมา เพราะพวกเขามาเพื่อสอดแนมทั่วทั้งแผ่นดิน” แต่หญิงผู้นั้นซ่อนตัวชายทั้งสองไว้ และนางตอบว่า “เป็นความจริงที่ชายทั้งสองมาหาข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเขามาจากไหน เมื่อใกล้เวลาปิดประตูเมืองตอนพลบค่ำ พวกเขาก็จากไปแล้ว ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าเขาไปไหน รีบตามไปเถิด ท่านอาจจะตามตัวพวกเขาทัน” แต่นางพาพวกเขาขึ้นไปที่หลังคาก่อนหน้านั้นแล้ว และซ่อนตัวพวกเขาไว้ใต้ป่านกลีบที่นางวางเรียงบนหลังคา ดังนั้นชายพวกนั้นจึงรีบไล่ตามสายสืบไป ตามทางไปแม่น้ำจอร์แดน ไกลถึงลำน้ำที่ลุยข้ามได้ ทันทีที่ผู้ไล่ตามออกไป ประตูเมืองก็ปิด ก่อนที่ชายทั้งสองจะเอนกายลง นางก็ขึ้นไปที่หลังคา และพูดกับเขาว่า “เราทราบแล้วว่า พระผู้เป็นเจ้าได้มอบแผ่นดินนี้ให้แก่พวกท่าน ซึ่งทำให้พวกเราหวาดกลัวท่านนัก และทำให้ผู้อยู่อาศัยทุกคนในแผ่นดินตกใจกลัวต่อหน้าท่าน พวกเราได้ยินมาว่าพระผู้เป็นเจ้าทำให้น้ำในทะเลแดงแห้งเหือดต่อหน้าท่านอย่างไรเมื่อท่านออกจากประเทศอียิปต์ และสิ่งที่ท่านกระทำต่อสิโหนและโอกกษัตริย์ทั้งสองของชาวอาโมร์ที่โพ้นแม่น้ำจอร์แดน คือท่านได้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำลายล้างทุกชีวิตของพวกเขา ทันทีที่พวกเราได้ยินเรื่องราวเหล่านั้น เราก็ตกใจกลัว และเป็นเพราะท่าน ความกล้าของพวกเราทุกคนจึงหายไปสิ้น เพราะว่า พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พระองค์เป็นพระเจ้าของฟ้าสวรรค์เบื้องบนและบนโลกเบื้องล่าง ฉะนั้นบัดนี้ โปรดสาบานต่อข้าพเจ้าในพระนามพระผู้เป็นเจ้าว่า ท่านจะแสดงความกรุณาต่อตระกูลของข้าพเจ้า อย่างที่ข้าพเจ้าได้แสดงความกรุณาต่อท่าน และข้าพเจ้าขอหลักประกันที่แน่ชัดว่า พวกท่านจะไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิงของข้าพเจ้า และทุกคนที่เกี่ยวดองกับพวกเขา และพวกท่านจะช่วยเราทั้งหลายให้พ้นจากความตาย” และชายทั้งสองพูดกับนางว่า “ชีวิตของเราเพื่อชีวิตของเจ้า แม้จะถึงแก่ความตาย ถ้าเจ้าไม่บอกเรื่องของเราให้ใครฟัง เมื่อพระผู้เป็นเจ้ามอบแผ่นดินนี้ให้แก่พวกเรา เราจะแสดงความกรุณาและความสัตย์ต่อเจ้า”