โยบ 20:1-29
โยบ 20:1-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แล้วโศฟาร์ชาวนาอามาห์ตอบว่า “เรื่องนี้รบกวนใจเหลือเกิน ความคิดของข้าบีบให้ข้าต้องโต้ตอบออกมา ข้าต้องทนฟังคำว่ากล่าวตักเตือนที่ดูถูกข้า ความเข้าใจของข้าดลใจให้ข้าต้องตอบท่านไป ตั้งแต่สมัยโบราณมา ตั้งแต่เมื่อครั้งที่มนุษย์ถูกวางไว้บนแผ่นดินโลก ท่านไม่รู้หรือว่า เสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนชั่วอยู่ไม่นาน ความยินดีของคนไม่นับถือพระเจ้าก็อยู่แค่ประเดี๋ยวเดียว แม้ความเย่อหยิ่งของเขาสูงเสียดฟ้า และหัวของเขาขึ้นไปถึงหมู่เมฆ แต่เขาจะหายไปตลอดกาลอย่างกับขี้ของเขาเอง คนที่เคยเห็นเขาจะพูดว่า ‘พวกนั้นอยู่ไหนแล้ว’ พวกเขาจะบินไปเหมือนกับความฝันและจะไม่มีใครพบเขาอีกแล้ว เขาจะถูกไล่ไปเหมือนกับภาพฝันในยามค่ำคืน ดวงตาที่เคยเห็นพวกเขา จะไม่เห็นพวกเขาอีก ที่ที่พวกเขาอยู่จะไม่เห็นพวกเขาอีก เมื่อมือของคนชั่วเหล่านั้นจะต้องคืนความร่ำรวยที่โกงมากลับไป ลูกๆของพวกเขาจะต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากคนยากจน ในขณะที่พวกเขายังเป็นหนุ่มและแข็งแรง พวกเขาจะต้องนอนตายลงในผงคลีดิน แม้ความชั่วร้ายจะหอมหวานในปากของพวกเขา แม้พวกเขาจะให้มันละลายอยู่ใต้ลิ้น แม้พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยมันไป และอมไว้ในปาก แต่อาหารประเภทนั้นจะกลับบูดเปรี้ยวในท้องของพวกเขา มันจะเป็นเหมือนพิษงูในร่างกายของพวกเขา ความมั่งคั่งที่พวกเขากลืนเข้าไปนั้น พวกเขาจะต้องอ้วกออกมา พระเจ้าจะโยนมันออกมาจากท้องของพวกเขา พวกเขาจะดูดดื่มพิษงู เขี้ยวของงูพิษจะฆ่าพวกเขาเสีย พวกเขาจะไม่ได้เห็นธารน้ำมันมะกอก และธารน้ำเชื่อมผลไม้ พวกเขาจะต้องคืนสิ่งที่เขาโกงมา เขาจะไม่สามารถกลืนมันลงไปได้ พวกเขาจะไม่ได้สนุกสนานกับผลกำไรจากการค้าของเขา เพราะพวกเขาได้กดขี่และทอดทิ้งคนยากจน พวกเขาได้ยึดบ้านที่เขาไม่ได้สร้างขึ้นมา พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้สิ่งที่พวกเขาอยากได้หลุดลอยไป เพราะท้องของเขาร้องหิวตลอดเวลา พวกเขากินอย่างตะกละตะกลามจนไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นความเจริญรุ่งเรืองของเขาจะไม่ยั่งยืน ในยามที่คนชั่วอิ่มหนำสำราญนั้น ความทุกข์ยากจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ความเดือดร้อนจะถาโถมเข้าใส่พวกเขาอย่างสุดฤทธิ์ พระเจ้าจะยัดเยียดความเกรี้ยวโกรธของพระองค์ให้กับคนชั่วเหล่านั้นจนอิ่มแปล้ พระองค์จะเทความเกรี้ยวโกรธอย่างฝนให้เป็นอาหารพวกเขา คนชั่วจะวิ่งหนีอาวุธเหล็ก แต่ลูกธนูทองสัมฤทธิ์จะแทงทะลุตัวเขา เขาจะดึงลูกธนูออกจากแผ่นหลัง เขาดึงหัวลูกธนูที่อาบเลือดมันวับออกจากถุงน้ำดีของเขา แล้วเรื่องน่าสะพรึงกลัวทั้งหลายตกลงบนพวกเขา แดนมืดมิดนั้นได้สำรองที่ไว้แล้วสำหรับทรัพย์สมบัติของเขา ไฟที่ไม่ต้องโหมพัดโดยมนุษย์ จะเผาผลาญพวกเขาไป ไฟจะเผาผลาญทุกสิ่งที่เหลืออยู่ในเต็นท์ของเขา ฟ้าสวรรค์จะเปิดเผยความชั่วร้ายของพวกเขา และแผ่นดินโลกจะลุกขึ้นต่อต้านเขา กระแสน้ำท่วมจะกวาดบ้านเขาไป น้ำจะลากมันไปในวันที่พระเจ้าเกรี้ยวโกรธ นี่คือส่วนแบ่งที่พระเจ้าให้กับคนชั่ว นี่คือมรดกที่พระองค์กำหนดไว้ให้กับพวกเขา”
โยบ 20:1-29 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
แล้วโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ตอบว่า “ฉะนั้นความคิดของข้าเร้าให้ข้าตอบ เนื่องด้วยอารมณ์ปั่นป่วนภายในข้า ข้าได้ยินคำตำหนิที่สบประมาทข้า แต่ความเข้าใจของข้าดลใจให้ข้าตอบ ท่านไม่ทราบเรื่องนี้หรือว่า ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มา ตั้งแต่มนุษย์ถูกวางไว้บนแผ่นดินโลก เสียงไชโยของคนอธรรมนั้นสั้น และความชื่นบานของคนที่ไม่นับถือพระเจ้านั้นเป็นแต่ครู่เดียว แม้ตัวเขาสูงขึ้นถึงฟ้าสวรรค์ และศีรษะของเขาไปถึงหมู่เมฆ เขาจะพินาศเป็นนิตย์อย่างอุจจาระของตัวเอง บรรดาคนที่เคยเห็นเขาจะพูดว่า ‘เขาอยู่ที่ไหนนะ?’ เขาจะบินไปเสียเหมือนความฝันและจะไม่มีผู้ใดพบอีก เขาจะถูกไล่ไปเสียอย่างนิมิตยามค่ำคืน ดวงตาที่เคยจ้องมองเขาจะไม่เห็นเขาอีก และสถานที่ของเขาจะไม่เห็นเขาอีกเลย ลูกหลานของเขาจะขอความช่วยเหลือจากคนยากจน และมือของเขาจะคืนทรัพย์สมบัติของเขา กระดูกของเขาเคยเต็มด้วยเรี่ยวแรงของคนหนุ่ม แต่เรี่ยวแรงนั้นจะนอนลงกับเขาในผงคลีดิน “แม้ว่าความชั่วร้ายจะหวานอยู่ในปากของเขา แม้เขาซ่อนมันไว้ใต้ลิ้นของเขา แม้เขาไม่อยากจะปล่อยมันไป และอมไว้ในปากของเขา อาหารในกระเพาะของเขากลับกลายเป็น พิษงูเห่าในตัวเขา เขากลืนทรัพย์สมบัติลงไป แต่จะอาเจียนมันออกมาอีก พระเจ้าทรงขับมันออกมาจากท้องเขา เขาจะดูดพิษงูเห่า ลิ้นของงูกะปะจะฆ่าเขา เขาจะไม่ได้ชื่นชมลำน้ำ คือลำธารที่มีน้ำผึ้งและนมข้นไหลอยู่ เขาจะคืนผลงานของเขา และจะไม่กลืนกินมันเสีย เขาจะไม่ได้ความชื่นบานเลย จากกำไรแห่งการค้าของเขา เพราะเขาได้ขยี้และทอดทิ้งคนจน เขาได้ยึดบ้านที่เขาไม่ได้สร้าง “เพราะความโลภของเขาไม่รู้จักพอ เขาจะไม่ปล่อยสิ่งที่เขาปรารถนาไปเลย เมื่อเขากินแล้วก็ไม่มีอะไรเหลือ เหตุฉะนั้น ความเจริญของเขาจะไม่ถาวร ในขณะที่เขาอิ่มหนำสำราญ เขาจะตกในสภาพขัดสน ฤทธิ์เดชของความทุกข์ยากจะมาถึงเขา เพื่อเติมท้องของเขาให้เต็ม พระองค์จะทรงส่งพระพิโรธอันดุเดือดมายังเขา และทรงหลั่งลงมาบนเขาให้เป็นอาหารของเขา แม้เขาจะหนีจากอาวุธเหล็ก ธนูทองสัมฤทธิ์ก็จะแทงเขาทะลุ เขาถอนมันออกจากร่างกาย เออ ปลายอันวับแวบออกมาจากถุงน้ำดี ความน่าหวาดเสียวมาถึงเขา ความมืดมิดได้สะสมไว้แก่ทรัพย์สมบัติของเขา ไฟที่ไม่ต้องกระพือจะกลืนเขาเสีย สิ่งใดที่เหลืออยู่ในเต็นท์ของเขาจะถูกเผาผลาญ ฟ้าสวรรค์จะสำแดงความบาปชั่วของเขา และแผ่นดินโลกจะลุกขึ้นปรักปรำเขา ข้าวของแห่งครัวเรือนของเขาจะถูกนำไปเสีย ถูกกวาดไปในวันแห่งพระพิโรธของพระองค์ นี่เป็นส่วนของคนอธรรมจากพระเจ้า และเป็นมรดกที่พระเจ้าทรงกำหนดให้เขา”
โยบ 20:1-29 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
แล้วโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ตอบว่า “เพราะฉะนั้นเพราะเหตุความคิดของข้าๆจึงต้องตอบด้วยความเร่งร้อน ข้าได้ฟังคำติเตียนที่สบประมาทแล้ว เพราะเหตุจิตใจข้ารู้เรื่องข้าจึงต้องตอบ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มา ตั้งแต่มนุษย์ถูกวางไว้บนแผ่นดินโลก ท่านไม่ทราบหรือว่า เสียงไชโยของคนชั่วนั้นสั้น และความชื่นบานของคนหน้าซื่อใจคดนั้นเป็นแต่ครู่เดียว แม้ความสูงของเขาเด่นขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และศีรษะของเขาไปถึงหมู่เมฆ เขาจะพินาศเป็นนิตย์อย่างอุจจาระของเขาเอง บรรดาคนที่เคยเห็นเขาจะพูดว่า ‘เขาอยู่ที่ไหน’ เขาจะบินไปเสียเหมือนความฝัน และจะไม่มีใครพบอีก เขาจะถูกไล่ไปเสียอย่างนิมิตในกลางคืน นัยน์ตาซึ่งได้เห็นเขาจะไม่เห็นเขาอีก หรือที่ของเขาจะไม่เห็นเขาอีกเลย ลูกหลานของเขาจะเสาะหาเป็นที่โปรดปรานของคนยากจน และมือของเขาจะคืนทรัพย์สมบัติของเขา กระดูกของเขาเต็มไปด้วยความบาปของคนหนุ่มซึ่งจะนอนลงกับเขาในผงคลีดิน แม้ว่าความชั่วจะหวานอยู่ในปากของเขา แม้เขาซ่อนไว้ใต้ลิ้นของเขา แม้เขาไม่อยากจะปล่อยและไม่ละทิ้ง แต่อมไว้ในปากของเขา อาหารของเขายังเปลี่ยนในท้องของเขา เหมือนพิษของงูเห่าในตัวเขา เขากลืนทรัพย์สมบัติลงไป แต่จะอาเจียนมันออกมาอีก พระเจ้าจะเหวี่ยงมันออกมาจากท้องของเขา เขาจะดูดพิษของงูเห่า ลิ้นของงูร้ายจะฆ่าเขา เขาจะไม่ได้เห็นแม่น้ำลำธาร หรือน้ำเอ่อล้น คือลำธารที่มีน้ำผึ้งและนมข้นไหลอยู่ เขาจะคืนผลงานของเขา และจะไม่กลืนกินเสีย เขาได้กำไรเท่าไหร่ เขาจะต้องคืนให้เท่านั้น และเขาจะไม่ได้ความชื่นบานในสิ่งนั้นเลย เพราะเขาได้ขยี้และทอดทิ้งคนยากจน เขาได้ชิงบ้านซึ่งเขาไม่ได้สร้าง แน่นอนเขาจะไม่รู้สึกสงบใจ เขาจะเก็บสิ่งที่เขาปรารถนาไม่ได้เลย อาหารของเขาจะไม่มีอะไรเหลือ เหตุฉะนั้นไม่มีใครเสาะหาทรัพย์สมบัติของเขา ในขณะที่เขาอิ่มหนำสำราญ เขาจะตกในสภาพขัดสน มือของคนชั่วทั้งปวงจะมายังเขา เมื่อกำลังจะเติมท้องของเขาให้เต็ม พระเจ้าจะทรงส่งความพิโรธอันดุเดือดมาถึงเขา และหลั่งลงมาบนเขาเมื่อเขารับประทานอาหารอยู่ เขาจะลี้จากอาวุธเหล็ก คันธนูเหล็กกล้าจะแทงเขาทะลุ เขาดึงมันออก และมันออกมาจากร่างกายของเขา เออ กระบี่อันวาววับออกมาจากน้ำดีของเขา ความน่าหวาดเสียวมายังเขา ความมืดทั้งปวงจะซ่อนไว้ในที่ลึกลับของเขา ไฟที่ไม่ต้องเป่าจะกลืนเขาเสีย สิ่งใดที่เหลืออยู่ในเต็นท์ของเขาจะถูกเผาผลาญ ฟ้าสวรรค์จะสำแดงความชั่วช้าของเขา และแผ่นดินโลกจะลุกขึ้นปรักปรำเขา ผลกำไรแห่งครัวเรือนของเขาจะถูกนำไปเสีย ทรัพย์สมบัติของเขาจะถูกกวาดไปในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า นี่เป็นส่วนของคนชั่วจากพระเจ้า และเป็นมรดกที่พระเจ้าทรงกำหนดให้เขา”
โยบ 20:1-29 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
แล้วโศฟาร์ชาวนาอาเมห์ตอบว่า <<เพราะฉะนั้นความคิดของข้าตอบข้า เหตุด้วยอารมณ์ภายในข้า ข้าต้องฟังคำติเตียนที่สบประมาท และท่านตอบข้าอย่างลมๆแล้งๆ ปราศจากความเข้าใจ ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มา ตั้งแต่มนุษย์ถูกวางไว้บนแผ่นดินโลก ท่านไม่ทราบหรือว่า เสียงไชโยของคนอธรรมนั้นสั้น และความชื่นบานของคนที่ไม่นับถือพระเจ้านั้นเป็นแต่ครู่เดียว แม้ความสูงของเขาเด่นขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และศีรษะของเขาไปถึงหมู่เมฆ เขาจะพินาศเป็นนิตย์อย่างอุจจาระของเขาเอง บรรดาคนที่เคยเห็นเขา จะพูดว่า <เขาอยู่ที่ไหน> เขาจะบินไปเสียเหมือนความฝันและจะไม่มีใครพบอีก เขาจะถูกไล่ไปเสียอย่างนิมิต ในกลางคืน นัยน์ตาซึ่งได้เห็นเขาจะไม่เห็นเขาอีก หรือที่ของเขาจะไม่เห็นเขาอีกเลย ลูกหลานของเขาจะเสาะหาความช่วยเหลือจากคนยากจน และมือของเขาจะคืนทรัพย์สมบัติของเขา กระดูกของเขาเต็มไปด้วยเรี่ยวแรงของคนหนุ่ม แต่เรี่ยวแรงนั้นจะนอนลงกับเขาในผงคลีดิน <<แม้ว่าความอธรรมจะหวานอยู่ในปากของเขา แม้เขาซ่อนไว้ใต้ลิ้นของเขา แม้เขาไม่อยากจะปล่อย และอมไว้ในปากของเขา อาหารของเขายังเปลี่ยนในท้องของเขา เหมือนพิษของงูเห่าในตัวเขา เขากลืนทรัพย์สมบัติลงไป แต่จะอาเจียนมันออกมาอีก พระเจ้าทรงเหวี่ยงมันออกมาจากท้องของเขา เขาจะดูดพิษของงูเห่า ลิ้นของงูปากกะบะจะฆ่าเขา เขาจะไม่มองชมลำน้ำ คือลำธารที่มีน้ำผึ้งและนมข้นไหลอยู่ เขาจะคืนผลงานของเขา และจะไม่กลืนกินเสีย เขาจะไม่ได้ความชื่นบานเลย จากกำไรแห่งการค้าของเขา เพราะเขาได้ขยี้และทอดทิ้งคนจน เขาได้ชิงบ้านซึ่งเขาไม่ได้สร้าง <<เพราะความโลภของเขาไม่รู้จักหยุดยั้ง เขาจะเก็บสิ่งที่เขาพอใจไว้ไม่ได้เลย เมื่อเขากินแล้วก็ไม่มีอะไรเหลือ เหตุฉะนั้นความเจริญของเขาจะไม่ถาวร ในขณะที่เขาอิ่มหนำสำราญ เขาจะตกในสภาพขัดสน ฤทธิ์เดชของความทุกข์ยากจะมายังเขา เพื่อเติมท้องของเขาให้เต็ม พระเจ้าจะทรงส่งความพิโรธ อันดุเดือดมาถึงเขา และหลั่งลงมาบนเขาให้เป็นอาหารของเขา เขาจะลี้จากอาวุธเหล็ก ธนูทองสัมฤทธิ์จะแทงเขาทะลุ เขาดึงมันออก และมันออกมาจากร่างกายของเขา เออ ปลายอันวับแวบออกมาจากน้ำดีของเขา ความน่าหวาดเสียวมายังเขา ความมืดมนอันเหลือล้นได้สะสมไว้เป็นทรัพย์ศฤงคารของเขา ไฟที่ไม่ต้องเป่าจะกลืนเขาเสีย สิ่งใดที่เหลืออยู่ในเต็นท์ของเขาจะถูกเผาผลาญ ฟ้าสวรรค์จะสำแดงความผิดบาปของเขา และแผ่นดินโลกจะลุกขึ้นปรักปรำเขา ข้าวของแห่งครัวเรือนของเขาจะถูกนำไปเสีย ถูกกวาดไปในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า นี่เป็นส่วนของคนอธรรมจากพระเจ้า และเป็นมรดกที่พระเจ้าทรงกำหนดให้เขา>>
โยบ 20:1-29 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แล้วโศฟาร์ชาวนาอามาห์ตอบว่า “ความคิดว้าวุ่นของข้าทำให้ข้าไม่สบายใจอย่างยิ่ง มันเร่งเร้าให้ข้าตอบท่าน ข้าได้ฟังคำติเตียนซึ่งสบประมาทข้า และความเข้าใจดลใจให้ข้าตอบ “ท่านย่อมรู้ว่าเป็นมาอย่างไรตั้งแต่เก่าก่อน เมื่อมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาในโลก คือความเบิกบานใจของคนชั่วร้ายนั้นสั้น ความชื่นชมยินดีของคนอธรรมนั้นคงอยู่ชั่วครู่เดียว แม้ความอหังการของเขาจะขึ้นไปถึงฟ้าสวรรค์ และหัวของเขาสูงจรดเมฆ เขาก็จะพินาศไปนิรันดร์เหมือนอุจจาระของเขาเอง ผู้ที่เคยเห็นเขาจะฉงนว่า ‘เขาไปไหนแล้ว?’ เขาลับหายไปเหมือนความฝัน ไม่มีใครพบเห็นอีก ถูกขจัดไปเหมือนนิมิตในยามค่ำคืน ตาที่เคยเห็นเขาจะไม่เห็นเขาอีก ถิ่นของเขาจะไม่พานพบเขาอีกเลย ลูกหลานของเขาจะต้องชดใช้ให้คนยากจน มือของเขาเองต้องคืนทรัพย์สินของตน พลังแห่งวัยฉกรรจ์ซึ่งเต็มล้นในกระดูกของเขา จะนอนลงกับเขาในฝุ่นธุลี “แม้ความชั่วร้ายจะหวานละมุนอยู่ในปาก และเขาอมมันไว้ใต้ลิ้น แม้เขาจะไม่อยากให้มันหมดไป และขออมไว้ในปาก แต่อาหารของเขาจะกลับบูดเปรี้ยวในท้อง กลายเป็นเหมือนพิษงูร้ายในตัวเขา เขาจะคายทรัพย์สมบัติที่เขากลืนลงไป พระเจ้าจะให้ท้องของเขาสำรอกมันออกมา เขาจะดูดพิษงูเห่า และตายด้วยเขี้ยวงู เขาจะไม่ได้ลิ้มรสน้ำผึ้งและน้ำนม ซึ่งหลั่งไหลเหมือนแม่น้ำลำธาร เขาต้องคืนสิ่งที่ตนตรากตรำทำมาทั้งที่ยังไม่ได้กิน เขาจะไม่ได้ชื่นชมผลกำไรจากการค้าของเขา เพราะเขาได้กดขี่ข่มเหงคนยากจนและทำให้พวกเขาหมดเนื้อหมดตัว ทั้งยังยึดบ้านที่ตัวเขาเองไม่ได้ปลูกสร้าง “แน่นอน ไม่ว่าเขาจะมีมากเท่าใด เขาก็จะละโมบไม่มีที่สิ้นสุด ทรัพย์สมบัติช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย ไม่มีอะไรเหลือให้เขากลืนกินอีก ความมั่งคั่งของเขาจะไม่จีรังยั่งยืน แม้ขณะที่มีพร้อมทุกสิ่ง ความทุกข์ก็จู่โจมเขา ความลำเค็ญเหลือแสนจะเล่นงานเขา เมื่อเขากินจนเต็มท้อง พระเจ้าจะส่งพระพิโรธมาเผาผลาญเขา และฟาดกระหน่ำเขา แม้เขาจะหลบหลีกจากอาวุธเหล็ก ก็จะถูกทิ่มแทงด้วยลูกศรทองสัมฤทธิ์ เขาจะกระชากลูกศรออกจากหลัง ดึงปลายศรคมกริบจากตับของเขา ความหวาดหวั่นขวัญผวาจะเกิดแก่เขา ทรัพย์สมบัติของเขาจะสูญหายไปในความมืด ไฟแผดกล้าจะเผาผลาญเขา ทำลายล้างทุกสิ่งที่เหลืออยู่ในเต็นท์ของเขา ฟ้าสวรรค์จะเปิดโปงความผิดของเขา และโลกจะเป็นพยานปรักปรำเขา ทรัพย์สมบัติในบ้านของเขาจะถูกพัดพาไป ในวันแห่งพระพิโรธของพระเจ้า นี่คือชะตากรรมที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ให้คนชั่วร้าย เป็นมรดกที่พระเจ้าทรงเตรียมไว้สำหรับเขา”
โยบ 20:1-29 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
โศฟาร์ชาวนาอามาธจึงตอบว่า “เหตุฉะนั้น ฉันตอบตามความคิดของฉัน เพราะใจร้อน อยากจะรีบบอก ฉันได้ยินท่านพูดดูหมิ่นฉัน และตามที่ฉันเข้าใจ ฉันจะตอบท่านได้ ท่านไม่ทราบเรื่องนี้หรือว่า ในสมัยดึกดำบรรพ์ ตั้งแต่มนุษย์ถูกกำหนดให้มาอยู่บนแผ่นดินโลก คนชั่วร้ายมีความสุขได้เพียงระยะสั้น และความร่าเริงใจของคนไม่เชื่อในพระเจ้าก็เป็นเพียงชั่วขณะเดียว แม้ว่าเขาจะไปสูงถึงฟ้าสวรรค์ และศีรษะของเขาจะแตะถึงหมู่เมฆ เขาจะตายไปชั่วกาลนานเหมือนฝุ่น บรรดาผู้ที่เคยเห็นเขาจะถามว่า ‘เขาอยู่ไหน’ เขาจะสลายไปเหมือนความฝันที่หาไม่พบอีก เขาจะหายไปเหมือนภาพนิมิตในยามค่ำ ดวงตาที่เคยเห็นเขา ก็จะไม่เห็นเขาอีก คนในครัวเรือนของเขาก็จะไม่เห็นเขาอีกเลย ลูกๆ ของเขาจะต้องหาทางคืนให้กับผู้ยากไร้ และเขาจะต้องให้คืนสิ่งที่ยึดมา กระดูกของเขาแข็งแกร่งด้วยวัยหนุ่ม แต่มันจะตายไปกับเขาในฝุ่น แม้ว่าความชั่วเป็นดั่งความหวานในปากของเขา แม้เขาจะซ่อนมันไว้ใต้ลิ้น แม้เขาจะอม และยังเก็บมันไว้ในปากของเขา แต่อาหารก็ยังไหลลงสู่กระเพาะ มันเป็นพิษงูเห่าที่อยู่ในตัวเขา เขากลืนความมั่งมี และอาเจียนมันขึ้นมาอีก พระเจ้าขับความมั่งมีออกมาจากท้องของเขา เขาจะดูดพิษงูเห่า ลิ้นงูจะฆ่าเขา เขาจะไม่ได้มองดูที่ลำธาร แม่น้ำอันอุดมด้วยน้ำผึ้งและโยเกิร์ต เขาจะต้องคืนผลที่ได้จากแรงงานและจะไม่กลืนมันลงไป เขาจะไม่ได้รับความเพลิดเพลินจากผลกำไรที่หามาได้ เพราะเขาเอาเปรียบและทอดทิ้งคนยากไร้ เขาริบบ้านเรือนที่เขาไม่ได้สร้าง เพราะเขาไม่รู้จักพอ สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดจะไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ เขาโลภสวาปามจนกระทั่งไม่มีสิ่งใดเหลือ ฉะนั้นความมั่งมีของเขาจะอยู่ได้ไม่นาน เมื่อความเพียงพอของเขาถึงขีดสุด เขาก็เป็นทุกข์ ความทุกข์แสนสาหัสจะเป็นภัยต่อเขา พระเจ้าจะโกรธเขามาก และจะกระหน่ำความโกรธลงมาเป็นดั่งอาหารของเขา เพื่อให้เขารับจนเต็มท้อง เขาจะหนีจากอาวุธเหล็ก แต่ลูกธนูทองสัมฤทธิ์จะทิ่มทะลุตัวเขา มันถูกกระชากออกมาจากตัวเขา ปลายที่แวบวาบออกจากถุงน้ำดีของเขา ทำให้เขาตกใจกลัว ความมืดสนิทถูกเตรียมไว้เป็นสมบัติของเขา ไฟที่ไม่ถูกพัดให้กระพือจะกลืนกินเขา สิ่งใดที่เหลือในกระโจมของเขาจะถูกเผาผลาญ ฟ้าสวรรค์จะเผยความชั่วของเขา และแผ่นดินโลกจะเป็นพยานต่อต้านเขา น้ำจะท่วมและพัดพังบ้านของเขา มันจะถูกลากออกไปในวันลงโทษของพระเจ้า นี่แหละเป็นส่วนที่คนชั่วได้รับจากพระเจ้า เป็นมรดกที่พวกเขารับจากพระเจ้า”