เยเรมีย์ 38:1-28

เยเรมีย์ 38:1-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ฝ่ายเชฟาทิยาห์บุตรมัทธาน เกดาลิยาห์บุตรปาชเฮอร์ เยฮูคัลบุตรเชเลมิยาห์ และปาชเฮอร์บุตรมัลคียาห์ ได้ยินถ้อยคำที่เยเรมีย์กล่าวแก่ประชากรทั้งปวงว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ใครก็ตามที่ยังคงอยู่ในเยรูซาเล็มจะตายเพราะสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด แต่ใครก็ตามที่ยอมแพ้แก่ชาวบาบิโลนจะรอดชีวิต เขาจะมีชีวิตอยู่’ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เราจะยกเมืองนี้ให้กองทัพของกษัตริย์บาบิโลนอย่างแน่นอนและเขาจะยึดเมืองได้’ ” ขุนนางเหล่านี้ก็มาทูลกษัตริย์ว่า “ชายคนนี้สมควรตาย เขาพูดทำลายขวัญของทหารซึ่งยังเหลืออยู่ในกรุงนี้ตลอดจนประชาชนทั้งปวง ชายคนนี้ไม่ได้คิดถึงประโยชน์สุขของประชาชน แต่บ่อนทำลาย” เศเดคียาห์ตรัสตอบว่า “เขาอยู่ในมือของเจ้าแล้ว กษัตริย์ไม่อาจทำอะไรที่ขัดพวกเจ้าได้” พวกเขาจึงจับตัวเยเรมีย์ ใช้เชือกหย่อนลงในบ่อซึ่งอยู่ในลานทหารรักษาพระองค์ เป็นบ่อของมัลคียาห์ซึ่งเป็นโอรสกษัตริย์ บ่อนั้นไม่มีน้ำ มีแต่โคลน เยเรมีย์ก็จมลงในโคลน เมื่อเอเบดเมเลคชาวคูชเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของราชวังได้ยินว่าเยเรมีย์ถูกหย่อนลงในบ่อ ในขณะที่กษัตริย์ประทับอยู่ที่ประตูเบนยามิน เอเบดเมเลคได้ออกจากวังมากราบทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า คนเหล่านี้ทำสิ่งเลวร้ายต่อผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ พวกเขาทิ้งเยเรมีย์ไว้ในบ่อ เขาจะต้องอดตายเมื่อไม่มีขนมปังเหลืออยู่ในกรุงนี้อีก” กษัตริย์จึงตรัสสั่งเอเบดเมเลคชาวคูชว่า “ให้นำคนสามสิบคนไปช่วยกันดึงเยเรมีย์ขึ้นมาจากบ่อก่อนที่จะตาย” ดังนั้นเอเบดเมเลคก็นำคนไปยังห้องหนึ่งใต้คลังของพระราชวัง เอาผ้าขี้ริ้วและเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาจากที่นั่น และผูกเชือกหย่อนลงไปให้เยเรมีย์ในบ่อ เอเบดเมเลคบอกเยเรมีย์ว่า “เอาผ้าขี้ริ้วกับเสื้อผ้าเก่านี้รองใต้รักแร้กันเชือกบาด” เยเรมีย์ก็ทำตาม แล้วพวกเขาก็ดึงเยเรมีย์ขึ้นมา และพากลับไปที่ลานทหารรักษาพระองค์ เขาก็ถูกคุมตัวไว้ที่นั่น ต่อมากษัตริย์เศเดคียาห์ให้คนไปนำตัวผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์มาเข้าเฝ้าตรงประตูที่สามของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์ตรัสว่า “เราอยากถามอะไรเจ้า อย่าปิดบังสิ่งใดจากเราเลย” เยเรมีย์ทูลว่า “หากข้าพระบาทตอบฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทจะไม่ฆ่าข้าพระบาทหรือ? ถึงแม้ข้าพระบาทให้คำปรึกษาหารือ ฝ่าพระบาทก็จะไม่ฟังข้าพระบาท” แต่กษัตริย์เศเดคียาห์ก็สาบานเป็นการลับกับเยเรมีย์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานลมหายใจแก่พวกเรานั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ฆ่าเจ้าหรือมอบตัวเจ้าแก่ผู้หมายเอาชีวิตของเจ้าเลยฉันนั้น” เยเรมีย์จึงทูลเศเดคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘หากเจ้ายอมแพ้ทหารของกษัตริย์บาบิโลน ทั้งเจ้ากับครอบครัวจะรอดชีวิตและกรุงนี้จะไม่ถูกเผา แต่หากเจ้าไม่ยอมแพ้ทหารของกษัตริย์บาบิโลน กรุงนี้จะถูกมอบแก่ชาวบาบิโลนและพวกเขาจะเผามันทิ้ง ตัวเจ้าเองก็จะไม่รอดจากเงื้อมมือของพวกเขา’” เศเดคียาห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า “เรากลัวชาวยิวซึ่งเอาใจออกห่างและไปเข้ากับพวกบาบิโลน ชาวบาบิโลนอาจมอบเราไว้ในมือของคนเหล่านั้น และเขาจะปฏิบัติต่อเราอย่างทารุณ” เยเรมีย์ตอบว่า “เขาจะไม่มอบฝ่าพระบาทหรอก จงเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยทำตามที่ข้าพระบาททูล แล้วจะเป็นผลดีแก่ฝ่าพระบาทและฝ่าพระบาทจะรอดชีวิต แต่หากฝ่าพระบาทไม่ยอมแพ้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพระบาทไว้แล้วดังนี้ ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในวังของกษัตริย์ยูดาห์จะถูกนำตัวออกมาให้เจ้านายของกษัตริย์บาบิโลน ผู้หญิงเหล่านั้นจะกล่าวแก่ฝ่าพระบาทว่า “ ‘เหล่าสหายที่ฝ่าพระบาทไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ลวงฝ่าพระบาทให้หลงและเอาชนะฝ่าพระบาท เมื่อพระบาทจมลงในโคลน เหล่าสหายก็ทิ้งฝ่าพระบาทไปหมด’ “ส่วนมเหสีและโอรสธิดาทั้งปวงของฝ่าพระบาทจะถูกนำออกมาให้ชาวบาบิโลน ฝ่าพระบาทเองจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขา แต่จะถูกกษัตริย์บาบิโลนคุมตัวไว้และกรุงนี้จะถูกเผา” เศเดคียาห์จึงตรัสกับเยเรมีย์ว่า “อย่าแพร่งพรายสิ่งที่เราพูดกันนี้เป็นอันขาด มิฉะนั้นเจ้าอาจต้องตาย ถ้าพวกข้าราชการได้ยินว่าเราได้พูดกับท่านและพวกเขามาหาและกล่าวกับท่านว่า ‘จงบอกเราว่าเจ้าพูดอะไรกับกษัตริย์และพระองค์ตรัสอะไรกับเจ้า อย่าปิดบังอะไรเราเลย มิฉะนั้นเราจะฆ่าเจ้า’ จงบอกแต่เพียงว่า ‘เราอ้อนวอนกษัตริย์ไม่ให้ส่งเรากลับไปตายที่บ้านของโยนาธาน’ ” แล้วบรรดาข้าราชบริพารก็มาไต่ถามเยเรมีย์จริงๆ และเขาก็บอกคนเหล่านั้นตามที่กษัตริย์ตรัสสั่งไว้ทุกอย่าง คนเหล่านั้นจึงไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก เพราะไม่มีใครได้ยินถ้อยคำที่เขากับกษัตริย์สนทนากัน และเยเรมีย์ก็ยังคงถูกคุมตัวอยู่ในลานทหารรักษาพระองค์จวบจนวันที่เยรูซาเล็มถูกยึด

เยเรมีย์ 38:1-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

เชฟาทิยาห์​ลูกชาย​ของ​มัทธาน เกดาลิยาห์​ลูกชาย​ของ​ปาชเฮอร์ ยูคาล​ลูกชาย​ของ​เชเลมิยาห์ และ​ปาชเฮอร์​ลูกชาย​ของ​มัลคียาห์ ได้ยิน​สิ่ง​ต่างๆ​ที่​เยเรมียาห์​พูด​กับ​ทุกๆ​คน​ว่า “พระยาห์เวห์​พูด​ว่า ‘คน​ที่​อยู่​ใน​เมืองนี้ จะ​ต้อง​ตาย​จาก​คม​ดาบ ความ​อดอยาก หรือ​ไม่​ก็​โรคร้าย แต่​คน​ที่​ออกไป​มอบ​ตัว​กับ​พวก​บาบิโลน​จะ​รอดชีวิต จะ​ได้​ชีวิต​ตัวเอง​เหมือน​ของ​ที่​ยึด​มาได้​จาก​สงคราม’ พระยาห์เวห์​บอก​ว่า ‘เมืองนี้​จะ​ต้อง​ตก​ไป​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​กองทัพ​ของ​กษัตริย์​บาบิโลน​และ​จะ​ต้อง​ถูก​ยึด​อย่าง​แน่นอน’” พวก​เจ้านาย​ก็​เลย​บอก​กับ​กษัตริย์​ว่า “น่า​จะ​ฆ่า​ชาย​คนนี้​เสีย เพราะ​เมื่อ​เขา​พูด​สิ่ง​เหล่านี้ เขา​ก็​ได้​ทำลาย​ขวัญ​และ​กำลังใจ​ของ​ทหาร​และ​ประชาชน​ที่​ยังคง​หลงเหลือ​อยู่​ใน​เมืองนี้ อันที่จริง ชาย​คนนี้​ไม่ได้​กะ​จะ​ให้​สิ่ง​ที่​ดีๆ​เกิดขึ้น​กับ​คน​เหล่านี้​หรอก แต่​เขา​กะ​จะ​ให้​เรื่อง​เลวร้าย​เกิดขึ้น” แล้ว​กษัตริย์​เศเดคียาห์​ก็​พูด​ว่า “เขา​อยู่​ใน​กำมือ​ของ​เจ้า​แล้ว เพราะ​เรา​ก็​ห้าม​อะไร​พวกเจ้า​ไม่ได้” พวกเขา​ก็​เลย​ไป​เอา​ตัว​เยเรมียาห์ แล้ว​โยน​เขา​ลงไป​ใน​บ่อ​เก็บน้ำ​แห้ง​ของ​มัลคียาห์ ที่​อยู่​ใน​ลาน​ของ​ทหาร​ยาม พวกเขา​ใช้​เชือก​หย่อน​ตัว​เยเรมียาห์​ลงไป ใน​บ่อ​ที่​ไม่มี​น้ำ​นั้น มี​แต่​โคลน เยเรมียาห์​ก็​จม​ลง​ใน​โคลน แล้ว​เอเบดเมเลค​ชาว​เอธิโอเปีย ที่​เป็น​ขันที​ที่​ทำงาน​อยู่​ใน​วัง ได้ยิน​ว่า​เยเรมียาห์​ถูก​หย่อน​ลงไป​ใน​บ่อ​ที่​ไม่มี​น้ำ และ​เขา​รู้​ว่า​กษัตริย์​นั่ง​อยู่​ที่​ประตู​เบนยามิน เอเบดเมเลค​จึง​ออก​ไป​จาก​วังไป​พูด​กับ​กษัตริย์​ว่า “ข้าแต่​กษัตริย์​ของ​ข้าพเจ้า คน​พวกนี้​ทำ​ผิด​ต่อ​เยเรมียาห์​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ใน​ทุกเรื่อง พวกเขา​ผิด​ที่​โยน​ท่าน​ลงไป​ใน​บ่อ​เก็บน้ำ​แห้ง​นั้น ท่าน​จะ​หิวตาย​อยู่​ใต้นั้น​แน่​เพราะ​มัน​ไม่มี​ขนมปัง​หลงเหลือ​อยู่​ใน​เมือง​อีกแล้ว” กษัตริย์​จึง​สั่ง​เอเบดเมเลค​ชาว​เอธิโอเปีย​ว่า “ให้​เอา​ลูกน้อง​ของเจ้า​สามคน ไป​ดึง​เยเรมียาห์​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ขึ้น​มา​จาก​บ่อ​เก็บน้ำ​นั้น​ก่อน​ที่​เขา​จะ​ตาย” เอเบดเมเลค​จึง​นำ​ลูกน้อง​ไป เขา​เข้าไป​ในวัง​ใต้​ห้อง​เก็บของ เขา​เอา​ผ้าขี้ริ้ว​และ​เสื้อ​เก่าๆ​จาก​ที่นั่น เอา​เชือก​มัด​พวกมัน​หย่อนลง​ไป​ให้​เยเรมียาห์ แล้ว​เอเบดเมเลค​ชาว​เอธิโอเปีย​ก็​บอก​กับ​เยเรมียาห์​ว่า “คล้อง​ผ้าขี้ริ้ว​ขาดๆ​และ​เศษ​เสื้อผ้า​พวกนี้​ไว้​ใต้​รักแร้​ของท่าน ตรง​ที่​อยู่​ระหว่าง​เชือก​กับ​ตัวท่าน​เถิด” เยเรมียาห์​ก็​ทำ​ตาม​ที่​เขา​บอก พวกเขา​จึง​ดึง​เยเรมียาห์​ขึ้น​มา​ด้วย​เชือก และ​นำ​เขา​ขึ้นมา​จาก​บ่อ​เก็บน้ำ​แห้ง​ได้ แล้ว​เยเรมียาห์​ก็​อยู่​ใน​ลาน​ของ​ทหาร​ยาม​ต่อไป กษัตริย์​เศเดคียาห์ ส่ง​คน​ไป​นำ​ตัว​เยเรมียาห์​ผู้พูดแทนพระเจ้า​มา​พบ​พระองค์ ที่​ตรง​ประตู​ที่​สาม​ซึ่ง​อยู่​ใน​วิหาร​ของ​พระยาห์เวห์ แล้ว​พระองค์​ก็​พูด​กับ​เยเรมียาห์​ว่า “เรา​จะ​ถาม​เจ้า​บาง​อย่าง อย่า​ได้​ปิดบัง​อะไร​จาก​เรา​ละ” เยเรมียาห์​จึง​บอก​กับ​กษัตริย์​เศเดคียาห์​ว่า “ถ้า​ข้าพเจ้า​บอก​พระองค์ พระองค์​จะ​ไม่ฆ่า​ข้าพเจ้า​หรือ และ​ถ้า​ข้าพเจ้า​ให้​คำแนะนำ​กับ​พระองค์ พระองค์​ก็​จะ​ไม่ฟัง​ข้าพเจ้า​หรอก” ดังนั้น​กษัตริย์​เศเดคียาห์​จึง​สาบาน​กับ​เยเรมียาห์​อย่าง​ลับๆ​ว่า “เรา​ขอ​สาบาน​ต่อ​พระยาห์เวห์​ผู้สร้าง​พวกเรา​และ​ประทาน​ชีวิต​ให้​พวกเรา​ว่า เรา​จะ​ไม่​ฆ่าเจ้า และ​จะ​ไม่​มอบ​ตัวเจ้า​ให้​กับ​คน​พวกนี้​ที่​อยาก​จะ​ฆ่าเจ้า” เยเรมียาห์​จึง​บอก​กับ​เศเดคียาห์​ว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้า​ผู้​มี​ฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​พูด​ว่า ‘ถ้า​เจ้า​ยอม​ออก​ไป​มอบตัว​กับ​เจ้าหน้าที่​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน​จริงๆ​เจ้า​ก็​จะ​รอดชีวิต และ​เมืองนี้​ก็​จะ​ไม่​ถูก​ไฟเผา เจ้า​และ​ครอบครัว​ของเจ้า​ก็​จะ​รอด​ชีวิต แต่​ถ้า​เจ้า​ไม่​ออก​ไป​มอบตัว​กับ​เจ้าหน้าที่​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน เมืองนี้​ก็​จะ​ตก​ไป​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​ชาว​บาบิโลน แล้ว​พวกเขา​ก็​จะ​จุดไฟ​เผา​เมือง แล้ว​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​รอดพ้น​เงื้อมมือ​พวกเขา’” แล้ว​กษัตริย์​เศเดคียาห์​ก็​พูด​กับ​เยเรมียาห์​ว่า “เรา​กลัว​พวกยิว​ที่​ทิ้ง​เมือง​ไปหา​พวก​บาบิโลน กลัว​ว่า​เราจะ​ถูก​ส่ง​ไปให้​พวกมัน​ทำร้าย​เอา” เยเรมียาห์​จึง​พูด​ว่า “พวกเขา​จะ​ไม่​ส่ง​พระองค์​ไป​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​คน​พวกนั้น​หรอก โปรด​ฟัง​เสียง​ของ​พระยาห์เวห์​ผู้ที่​ข้าพเจ้า​กำลัง​พูด​แทน​อยู่เถิด และ​ทุกอย่าง​ก็​จะ​เป็น​ไป​ด้วยดี​สำหรับ​พระองค์ และ​พระองค์​ก็​จะ​รอด​ชีวิต แต่​พระยาห์เวห์​ได้​แสดง​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​ว่า​สิ่ง​ต่างๆ​เหล่านี้​จะ​เกิดขึ้น ถ้า​พระองค์​ไม่ยอม​ออก​ไป​มอบตัว คือ​ผู้หญิง​ทุกคน​ที่เหลือ​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์​จะ​ถูก​จับ​ไปให้​กับ​พวก​เจ้าหน้าที่​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน แล้ว​พวกเขา​ก็​จะ​พูด​ว่า ‘พันธมิตร​ของ​แก​หักหลัง​แก​แล้ว พวกเขา​ชนะ​แก เท้า​ของ​แก​จม​โคลน​แล้ว และ​พวกเขา​ก็​ทอดทิ้ง​แก​ไป’ พวกเมีย​และ​ลูก​ทุกคน​ของ​พระองค์​จะ​ต้อง​ไปหา​ชาว​บาบิโลน และ​พระองค์​ก็​จะ​หนี​ไม่​พ้น​เงื้อมมือ​ของ​พวกเขา​ไปได้ เพราะ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน​จะ​จับกุม​พระองค์​และ​เอา​ไฟเผา​เมืองนี้” แล้ว​กษัตริย์​เศเดคียาห์​ก็​พูด​กับ​เยเรมียาห์​ว่า “ถ้า​เจ้า​ไม่​บอก​ให้​ใครรู้ ถึง​เรื่อง​ที่​เรา​ได้​พูดคุย​กัน​ใน​วันนี้ เจ้า​ก็​จะ​ไม่​ตาย ถ้า​พวกเจ้า​นาย​รู้​ว่า​เรา​พูด​กับเจ้า แล้ว​พวกเขา​มา​ถาม​เจ้า​ว่า ‘ช่วย​บอก​พวกเรา​หน่อย​ว่า เจ้า​ได้​พูด​อะไร​กับ​กษัตริย์ และ​กษัตริย์​ได้​พูด​อะไร​กับ​เจ้า​บ้าง ถ้า​เจ้า​บอก​เรา​ทุกอย่าง เรา​จะ​ไม่​ฆ่า​เจ้า’ เจ้า​ก็​ต้อง​บอก​พวกเขา​ว่า ‘ผม​ได้​ขอร้อง​พระองค์ ว่า​อย่า​ได้​ส่ง​ผม​กลับ​ไป​ตาย​ที่บ้าน​ของ​โยนาธาน​เลย’” แล้ว​พวกเจ้า​นาย​ทั้งหมด​ก็​ตรง​เข้า​มา​ถาม​เยเรมียาห์ เขา​ก็​ตอบ​ไป​ตาม​ที่​กษัตริย์​สั่ง ดังนั้น​พวกเขา​จึง​เลิก​ถาม​เพราะ​พวกเขา​เอง​ก็​ไม่​ได้ยิน​การ​พูดคุย แล้ว​เยเรมียาห์​ก็​อยู่​ใน​ลาน​ของ​ทหาร​ยาม จนถึง​วัน​ที่​บาบิโลน​ยึด​เมือง​เยรูซาเล็ม​ได้

เยเรมีย์ 38:1-28 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

เชฟาทิยาห์บุตรมัทธาน เกดาลิยาห์บุตรปาชเฮอร์ และยูคาลบุตรเชเลมิยาห์ และปาชเฮอร์บุตรมัลคียาห์ได้ยินถ้อยคำของเยเรมีย์ที่กล่าวแก่ประชาชนว่า “พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘คนที่ยังคงอยู่ในกรุงจะต้องตายด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหาร และด้วยภัยพิบัติ แต่คนที่ออกไปหาคนเคลเดียจะมีชีวิตอยู่ เขาจะมีชีวิตเป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม และยังมีชีวิตอยู่’ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า ‘กรุงนี้จะถูกมอบไว้ในมือของกองทัพของกษัตริย์แห่งบาบิโลนและท่านจะยึดไว้’ ” และบรรดาเจ้านายจึงทูลกษัตริย์ว่า “ขอทรงประหารชายคนนี้เสีย เพราะเขาทำให้มือของทหารซึ่งเหลืออยู่ในเมืองนี้อ่อนลง ทั้งมือของประชาชนทั้งหมดด้วย โดยพูดถ้อยคำเช่นนี้แก่พวกเขา เพราะว่าชายคนนี้ไม่ได้แสวงหาสวัสดิภาพแก่ชนชาตินี้ แต่หาความหายนะ” กษัตริย์เศเดคียาห์ตรัสว่า “นี่แน่ะ ชายคนนี้อยู่ในมือของพวกท่านแล้ว เพราะกษัตริย์ไม่สามารถขัดอะไรพวกท่านได้” เขาจึงจับเยเรมีย์หย่อนลงไปในที่ขังน้ำของมัลคียาห์โอรสของกษัตริย์ ซึ่งอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์ เขาเอาเชือกหย่อนเยเรมีย์ลงไป ในที่ขังน้ำนั้นไม่มีน้ำ มีแต่โคลน และเยเรมีย์ก็จมลงไปในโคลน เมื่อเอเบดเมเลคคนคูช ข้าราชสำนักในพระราชวังได้ยินว่าเขาหย่อนเยเรมีย์ลงไปในที่ขังน้ำนั้น (ส่วนกษัตริย์ประทับอยู่ที่ประตูเบนยามิน) เอเบดเมเลคก็ออกไปจากพระราชวังและทูลกษัตริย์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพระบาท คนเหล่านี้ได้ทำการชั่วร้ายทุกอย่างต่อเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ โดยทิ้งท่านลงไปในที่ขังน้ำ ท่านคงหิวตายที่นั่น เพราะในกรุงนี้ไม่มีขนมปังเหลืออยู่เลย” แล้วกษัตริย์มีรับสั่งแก่เอเบดเมเลคคนคูชว่า “จงเอาคนไปจากที่นี่กับเจ้า 30 คน แล้วฉุดเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะออกมาจากที่ขังน้ำก่อนเขาตาย” เอเบดเมเลคจึงนำคนไปที่พระราชวังไปยังตู้เสื้อผ้าในโรงพัสดุเพื่อเอาผ้าเก่าๆ และเสื้อผ้าขาดๆ และเขาเอาเชือกผูกหย่อนลงไปให้เยเรมีย์ในที่ขังน้ำ แล้วเอเบดเมเลคคนคูชพูดกับเยเรมีย์ว่า “ท่านจงคล้องผ้าและเสื้อเก่านั้นไว้ใต้รักแร้รองเชือกไว้” เยเรมีย์ก็ทำตาม แล้วเขาก็ฉุดเยเรมีย์ขึ้นมาด้วยเชือกและยกท่านขึ้นมาจากที่ขังน้ำ และเยเรมีย์ก็ค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์ กษัตริย์เศเดคียาห์ทรงใช้คนไปนำเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะมาที่ทางเข้าช่องที่สามของพระวิหารแห่งพระยาห์เวห์ และกษัตริย์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า “เราจะถามท่านสักข้อหนึ่ง ขออย่าปิดบังเราเลย” เยเรมีย์จึงทูลเศเดคียาห์ว่า “ถ้าข้าพระบาทจะทูลฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทก็จะทรงประหารข้าพระบาทแน่ไม่ใช่หรือ? แต่ถ้าข้าพระบาทจะถวายคำปรึกษา ฝ่าพระบาทก็จะไม่ทรงฟังข้าพระบาท” แล้วกษัตริย์เศเดคียาห์ก็ทรงสาบานแก่เยเรมีย์เป็นการลับว่า “พระยาห์เวห์ผู้ทรงสร้างชีวิตของเราทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ประหารท่านหรือมอบท่านไว้ในมือของคนเหล่านี้ที่แสวงเอาชีวิตของท่าน” แล้วเยเรมีย์ทูลเศเดคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ถ้าฝ่าพระบาทจะยอมมอบตัวแก่เจ้านายของกษัตริย์บาบิโลนแล้ว ฝ่าพระบาทจะรอดชีวิต และกรุงนี้จะไม่ต้องถูกไฟเผา ฝ่าพระบาทและวงศ์วานของฝ่าพระบาทจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าฝ่าพระบาทไม่ยอมมอบตัวแก่เจ้านายของกษัตริย์บาบิโลนแล้ว กรุงนี้จะต้องถูกมอบไว้ในมือของคนเคลเดีย และพวกเขาจะเอาไฟเผาเสีย และฝ่าพระบาทจะหนีไม่รอดจากมือของพวกเขา” กษัตริย์เศเดคียาห์จึงตรัสกับเยเรมีย์ว่า “เรากลัวพวกคนยูดาห์ซึ่งเล็ดลอดไปหาคนเคลเดีย เกรงว่าเราจะถูกมอบให้แก่พวกเหล่านั้น และพวกเขาจะทำความอัปยศแก่เรา” เยเรมีย์ทูลว่า “พวกเขาจะไม่มอบฝ่าพระบาทไว้ ขอฝ่าพระบาทเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์ ตามที่ข้าพระบาทได้ทูลฝ่าพระบาท จะเป็นการดีต่อฝ่าพระบาท และฝ่าพระบาทจะทรงพระชนม์อยู่ แต่ถ้าฝ่าพระบาทไม่ยอมมอบตัว นี่คือสิ่งซึ่งพระยาห์เวห์ทรงสำแดงต่อข้าพระบาท นี่แน่ะ ผู้หญิงทุกคนที่เหลืออยู่ในวังของกษัตริย์แห่งยูดาห์จะถูกนำออกไปให้เจ้านายของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และพวกนางจะกล่าวว่า ‘พระสหายที่ฝ่าพระบาทไว้วางพระทัยได้หลอกลวงฝ่าพระบาท และได้ชนะฝ่าพระบาทแล้ว เมื่อพระบาทของฝ่าพระบาทจมลงในโคลน เขาทั้งหลายก็หันไปจากฝ่าพระบาท’ เขาจะพาบรรดาสนม มเหสี และบรรดาโอรสของฝ่าพระบาทไปให้คนเคลเดีย และฝ่าพระบาทเองก็จะไม่ทรงรอดไปจากมือของพวกเขา แต่ฝ่าพระบาทจะถูกกษัตริย์แห่งบาบิโลนจับได้ และกรุงนี้จะถูกเผาเสียด้วยไฟ” แล้วเศเดคียาห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า “อย่าให้ใครรู้ถ้อยคำเหล่านี้ และท่านจะไม่ตาย ถ้าพวกเจ้านายได้ยินว่าเราพูดกับท่านและมาหาท่าน กล่าวว่า ‘จงบอกมาว่าเจ้าทูลอะไรกับกษัตริย์ และกษัตริย์ตรัสอะไรกับเจ้า อย่าปิดบังเราเลย และเราจะไม่ฆ่าเจ้า’ ท่านจงบอกพวกเขาว่า ‘ข้าพเจ้าได้ทูลขอต่อกษัตริย์ไม่ให้พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ากลับไปที่บ้านของโยนาธานเพื่อให้ตายเสียที่นั่น’ ” และเจ้านายทั้งปวงก็มาหาเยเรมีย์และซักถามท่าน และท่านก็ตอบเขาตามที่กษัตริย์ทรงแนะนำท่าน พวกเขาจึงหยุดถามท่านเพราะการสนทนานั้นไม่มีใครได้ยิน และเยเรมีย์ก็ค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์จนถึงวันที่เยรูซาเล็มถูกยึด

เยเรมีย์ 38:1-28 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

ฝ่ายเชฟาทิยาห์​บุ​ตรชายมัทธาน เกดาลิยาห์​บุ​ตรชายปาชเฮอร์ และยูคาลบุตรชายเชเลมิยาห์ และปาชเฮอร์​บุ​ตรชายมัลคิยาห์​ได้​ยินถ้อยคำของเยเรมีย์​ที่​กล​่าวแก่ประชาชนทุกคนว่า “พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า ผู้​ใดอยู่ในกรุงนี้จะต้องตายด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหาร และด้วยโรคระบาด แต่​ผู้​ใดที่ออกไปหาคนเคลเดียจะมี​ชี​วิตอยู่ เขาจะมี​ชี​วิตเป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม และยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่ พระเยโฮวาห์ตรั​สด​ังนี้​ว่า แน่​นอนกรุงนี้จะต้องมอบไว้ในมือของกองทัพของกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนและท่านจะยึดไว้” และบรรดาเจ้านายจึงทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า “ขอประหารชายคนนี้​เสีย เพราะเขากระทำให้มือของทหารซึ่งเหลืออยู่ในเมืองนี้อ่อนลง ทั้​งม​ือของประชาชนทั้งหมดด้วย โดยพูดถ้อยคำเช่นนี้​แก่​เขาทั้งหลาย เพราะว่าชายคนนี้​มิได้​แสวงหาความอยู่เย็นเป็นสุขของชนชาติ​นี้ แต่​หาความทุกข์​ยากลำบาก​” กษัตริย์​เศเดคียาห์ตรั​สว​่า “​ดู​เถิด ชายคนนี้​อยู่​ในมือของท่านทั้งหลายแล้ว เพราะกษั​ตริ​ย์จะทำอะไรขัดท่านทั้งหลายได้​เล่า​” เขาจึงจับเยเรมีย์หย่อนลงไปในคุกใต้​ดิ​นของมัลคิยาห์​บุ​ตรชายฮามเมเลคซึ่งอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์ เขาเอาเชือกหย่อนเยเรมีย์ลงไป ในคุกใต้​ดิ​นนั้นไม่​มีน​้ำ มี​แต่​โคลน และเยเรมีย์​ก็​จมลงไปในโคลน เมื่อเอเบดเมเลคคนเอธิโอเปียขั​นที​คนหนึ่งในพระราชวังได้ยิ​นว​่า เขาหย่อนเยเรมีย์ลงไปในคุกใต้​ดิ​นนั้น ฝ่ายกษั​ตริ​ย์ประทั​บอย​ู่​ที่​ประตู​เบนยามิน เอเบดเมเลคก็ออกไปจากพระราชวังและทูลกษั​ตริ​ย์​ว่า “ข้าแต่​กษัตริย์​ผู้​เป็นเจ้านายของข้าพระองค์ คนเหล่านี้​ได้​กระทำความชั่วร้ายในบรรดาการที่เขาได้กระทำต่อเยเรมีย์​ผู้​พยากรณ์ โดยที่​ได้​ทิ้งท่านลงไปในคุกใต้​ดิน ท่านคงหิวตายที่​นั่น เพราะในกรุงนี้​ไม่มี​ขนมปังเหลืออยู่​เลย​” แล​้วกษั​ตริ​ย์​มี​รับสั่งให้เอเบดเมเลคคนเอธิโอเปียว่า “จงเอาคนไปจากที่​นี่​กับเจ้าสามสิบคน แล​้วฉุดเยเรมีย์​ผู้​พยากรณ์​ออกมาจากคุกใต้​ดิ​นก​่อนเขาตาย” เอเบดเมเลคจึงเอาคนไปด้วยและไปที่พระราชวังไปยังเรือนพั​สด​ุเพื่อเอาผ้าเก่าๆและเสื้อผ้าขาดๆ ซึ่งเขาเอาเชือกผูกหย่อนลงไปให้เยเรมีย์​ที่​ในคุกใต้​ดิน แล​้วเอเบดเมเลคคนเอธิโอเปียพู​ดก​ับเยเรมีย์​ว่า “ท่านจงคล้องผ้าและเสื้อเก่านั้นไว้​ใต้​รักแร้​และเชื​อก​” เยเรมีย์กระทำตาม แล​้วเขาก็​ฉุ​ดเยเรมีย์ขึ้นมาด้วยเชื​อก และยกท่านขึ้นมาจากคุกใต้​ดิน และเยเรมีย์​ก็​ยังค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์ กษัตริย์​เศเดคียาห์ทรงใช้คนไปนำเยเรมีย์​ผู้​พยากรณ์​มาที่ทางเข้าพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ช่องที่​สาม กษัตริย์​ตรัสกับเยเรมีย์​ว่า “เราจะถามท่านสักข้อหนึ่ง ขออย่าปิดบังไว้จากเราเลย” เยเรมีย์จึงทูลเศเดคียาห์​ว่า “ถ้าข้าพระองค์จะทูลพระองค์ พระองค์​จะประหารข้าพระองค์​แน่​มิใช่​หรือ และถ้าข้าพระองค์จะถวายคำปรึกษา พระองค์​จะไม่ฟังข้าพระองค์​มิใช่​หรือ​” แล​้วกษั​ตริ​ย์เศเดคียาห์​ก็​ทรงปฏิญาณแก่เยเรมีย์เป็นการลับว่า “พระเยโฮวาห์​ผู้​ทรงสร้างวิญญาณของเราทรงพระชนม์​อยู่​แน่​ฉันใด เราจะไม่ประหารท่านหรือมอบท่านไว้ในมือของคนเหล่านี้​ที่​แสวงหาชีวิตของท่านฉันนั้น” แล​้วเยเรมีย์ทูลเศเดคียาห์​ว่า “พระเยโฮวาห์ พระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่​งอ​ิสราเอลตรั​สด​ังนี้​ว่า ถ้าพระองค์จะยอมมอบตัวแก่พวกเจ้านายแห่งกษั​ตริ​ย์บาบิโลนแล้ว เขาจะไว้​ชี​วิตของพระองค์ และกรุงนี้จะไม่ต้องถูกไฟเผา พระองค์​และวงศ์วานของพระองค์จะมี​ชี​วิตอยู่​ได้ แต่​ถ้าพระองค์​ไม่​ยอมมอบตัวแก่พวกเจ้านายแห่งกษั​ตริ​ย์ของบาบิโลนแล้ว กรุ​งนี้จะต้องถูกมอบไว้ในมือของชนเคลเดีย และเขาทั้งหลายจะเอาไฟเผาเสีย และพระองค์จะหนี​ไม่​รอดไปจากมือของเขาทั้งหลาย” กษัตริย์​เศเดคียาห์จึงตรัสกับเยเรมีย์​ว่า “เรากลัวพวกยิวซึ่งเล็ดลอดไปหาคนเคลเดีย เกรงว่าเราจะถูกมอบไว้ในมือของพวกเหล่านั้น และเขาทั้งหลายจะกระทำความอัปยศแก่​เรา​” เยเรมีย์ทูลว่า “เขาจะไม่มอบพระองค์​ไว้ ขอพระองค์เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์ตามสิ่งซึ่งข้าพระองค์​ได้​ทูลพระองค์ และพระองค์​ก็​จะเป็นสุข และเขาก็จะไว้​พระชนม์​ของพระองค์ แต่​ถ้าพระองค์​ไม่​ยอมมอบตัว ต่อไปนี้​เป็นพระวจนะซึ่งพระเยโฮวาห์ทรงสำแดงต่อข้าพระองค์ ดู​เถิด บรรดาผู้หญิงที่​เหลืออยู่​ในวังของกษั​ตริ​ย์​แห่​งยูดาห์จะได้​ถู​กนำออกไปให้พวกเจ้านายของกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิ​โลน และผู้หญิงเหล่านั้นจะว่า ‘เพื่อนทั้งหลายของพระองค์​ได้​หลอกลวงพระองค์ และได้ชนะพระองค์​แล้ว พระบาทของพระองค์จมลงในโคลนแล้ว และเขาทั้งหลายก็หันไปจากพระองค์’ เขาจะพาบรรดาสนมและมเหสีและบุตรของพระองค์ไปให้คนเคลเดีย และพระองค์เองก็จะไม่ทรงรอดไปจากมือของเขาทั้งหลาย แต่​พระองค์​จะถูกกษั​ตริ​ย์​แห่​งบาบิโลนจับได้ และพระองค์จะเป็นเหตุ​ที่​พวกเขาเผากรุงนี้​เสียด​้วยไฟ” แล​้วเศเดคียาห์ตรัสกับเยเรมีย์​ว่า “อย่าให้​ผู้​ใดรู้ถ้อยคำเหล่านี้ และท่านจะไม่​ตาย แต่​ถ้าพวกเจ้านายได้ยิ​นว​่าเราได้​พู​ดก​ั​บท​่าน และมาหาท่านพูดว่า ‘จงบอกมาว่าเจ้าพูดอะไรกับกษั​ตริ​ย์ และกษั​ตริ​ย์ตรัสอะไรกับเจ้า อย่าซ่อนอะไรจากเราเลย และเราจะไม่ฆ่าเจ้า’ ท่านจงบอกเขาทั้งหลายว่า ‘ข้าพเจ้าได้ทูลขอต่อพระพักตร์​กษัตริย์​มิ​ให้​พระองค์​ทรงส่งข้าพเจ้ากลับไปที่เรือนของโยนาธานเพื่อให้ตายเสียที่​นั่น​’” และเจ้านายทั้งปวงก็มาหาเยเรมีย์และซักถามท่าน และท่านก็ตอบเขาตามบรรดาถ้อยคำเหล่านี้​ที่​กษัตริย์​ทรงรับสั่งท่าน เขาทั้งหลายจึงหยุดถามท่าน เพราะการสนทนานั้นไม่​มี​ใครได้​ยิน และเยเรมีย์​ก็​ค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์จนถึงวั​นที​่เยรูซาเล็มถูกยึด ท่านอยู่ในที่นั่นเมื่อเยรูซาเล็มถูกยึด

เยเรมีย์ 38:1-28 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

ฝ่ายเชฟาทิยาห์บุตรมัทธาน เกดาลิยาห์บุตรปาชเฮอร์ และยูคาลบุตรเชเลมิยาห์ และปาชเฮอร์บุตรมัลคียาห์ ได้ยินถ้อยคำของเยเรมีย์ที่กล่าวแก่ประชาชนว่า <<พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ผู้ใดอยู่ในกรุงจะต้องตายด้วยดาบ ด้วยการกันดารอาหาร และด้วยภัยพิบัติ แต่ผู้ใดที่ออกไปหาคนเคลเดียจะมีชีวิตอยู่ เขาจะมีชีวิตเป็นบำเหน็จแห่งการสงคราม และยังมีชีวิตอยู่ พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า กรุงนี้จะต้องมอบไว้ในมือของกองทัพของกษัตริย์ แห่งบาบิโลนและท่านจะยึดไว้>> และบรรดาเจ้านายจึงทูลพระราชาว่า <<ขอประหารชายคนนี้เสีย เพราะเขากระทำให้มือของทหารซึ่งเหลืออยู่ในเมืองนี้อ่อนลง ทั้งมือของประชาชนทั้งหมดด้วย โดยพูดถ้อยคำเช่นนี้แก่เขาทั้งหลาย เพราะว่าชายคนนี้มิได้แสวงหาความอยู่เย็นเป็นสุข ของชนชาตินี้ แต่หาความทุกข์ยากลำบาก>> กษัตริย์เศเดคียาห์ตรัสว่า <<ดูเถิด ชายคนนี้อยู่ในมือของท่านทั้งหลายแล้ว เพราะกษัตริย์จะทำอะไรขัดท่านทั้งหลายได้เล่า>> เขาจึงจับเยเรมีย์หย่อนลงไปในที่ขังน้ำของ มัลคียาห์ราชโอรส ซึ่งอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์เขาเอา เชือกหย่อนเยเรมีย์ลงไป ในที่ขังน้ำนั้นไม่มีน้ำ มีแต่โคลน และเยเรมีย์ก็จมลงไปในโคลน เมื่อเอเบดเมเลคคนเอธิโอเปีย ขันทีในพระราชวังได้ยินว่าเขาหย่อนเยเรมีย์ลงไปในที่ขังน้ำนั้น (ฝ่ายพระราชาประทับอยู่ที่ประตูเบนยามิน) เอเบดเมเลคก็ออกไปจากพระราชวัง และทูลพระราชาว่า <<ข้าแต่พระราชาของข้าพระบาท คนเหล่านี้ได้กระทำความชั่วร้ายใน บรรดาการที่เขาได้กระทำต่อเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะ โดยที่ได้ทิ้งท่านลงไปในที่ขังน้ำ ท่านคงหิวตายที่นั่น เพราะในกรุงนี้ไม่มีขนมปังเหลืออยู่เลย>> แล้วพระราชามีรับสั่งให้เอเบดเมเลค คนเอธิโอเปียว่า <<จงเอาคนไปจากที่นี่กับเจ้าสามสิบคน แล้วฉุดเยเรมีย์ผู้เผยพระวจนะออกมา จากที่ขังน้ำก่อนเขาตาย>> เอเบดเมเลคจึงเอาคนไปด้วยและไปที่ พระราชวังไปยังตู้เสื้อผ้าที่ในเรือนพัสดุเพื่อเอาผ้าเก่าๆ และเสื้อผ้าขาดๆ ซึ่งเขาเอาเชือกผูกหย่อนลงไปให้เยเรมีย์ที่ในที่ขังน้ำ แล้วเอเบดเมเลคคนเอธิโอเปียพูดกับเยเรมีย์ว่า <<ท่านจงคล้องผ้าและเสื้อเก่านั้นไว้ใต้รักแร้และเชือก>> เยเรมีย์กระทำตาม แล้วเขาก็ฉุดเยเรมีย์ขึ้นมาด้วยเชือกและยกท่านขึ้น มาจากที่ขังน้ำ และเยเรมีย์ก็ยังค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์ กษัตริย์เศเดคียาห์ทรงใช้คนไปนำเยเรมีย์ผู้เผย พระวจนะมาที่ทางเข้าพระวิหารของพระเจ้าช่องที่สาม พระราชาตรัสกับเยเรมีย์ว่า <<เราจะถามท่านสักข้อหนึ่ง ขออย่าปิดบังไว้จากเราเลย>> เยเรมีย์จึงทูลเศเดคียาห์ว่า <<ถ้าข้าพระบาทจะทูลฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทคงจะประหารข้าพระบาทแน่มิใช่หรือ แต่ถ้าข้าพระบาทจะถวายคำปรึกษา ฝ่าพระบาทก็จะไม่ฟังข้าพระบาท>> แล้วกษัตริย์เศเดคียาห์ก็ทรงสาบานแก่เยเรมีย์เป็น การลับว่า <<พระเจ้าผู้ทรงสร้างวิญญาณของเราทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ประหารท่านหรือมอบท่านไว้ในมือของ คนเหล่านี้ที่แสวงหาชีวิตของท่านฉันนั้น>> แล้วเยเรมีย์ทูลเศเดคียาห์ว่า <<พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ถ้าฝ่าพระบาทจะยอมมอบตัวแก่เจ้านาย แห่งพระราชาบาบิโลนแล้ว เขาจะไว้ชีวิตของฝ่าพระบาท และกรุงนี้จะไม่ต้องถูกไฟเผา ฝ่าพระบาทและวงศ์วานของฝ่าพระบาทจะมีชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าฝ่าพระบาทไม่ยอมมอบตัวแก่เจ้านาย แห่งพระราชาของบาบิโลนแล้ว กรุงนี้จะต้องถูกมอบไว้ในมือของชนเคลเดีย และเขาทั้งหลายจะเอาไฟเผาเสีย และฝ่าพระบาทจะหนีไม่รอดไปจากมือของเขาทั้งหลาย>> กษัตริย์เศเดคียาห์จึงตรัสกับเยเรมีย์ว่า <<เรากลัวพวกยิวซึ่งเล็ดลอดไปหาคนเคลเดีย เกรงว่าเราจะถูกมอบให้แก่พวกเหล่านั้น และเขาทั้งหลายจะกระทำความอัปยศแก่เรา>> เยเรมีย์ทูลว่า <<เขาจะไม่มอบฝ่าพระบาทไว้ ขอฝ่าพระบาทเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า ตามสิ่งซึ่งข้าพระบาทได้ทูลฝ่าพระบาท และฝ่าพระบาทก็จะเป็นสุข และเขาก็จะไว้พระชนม์ของฝ่าพระบาท แต่ถ้าฝ่าพระบาทไม่ยอมมอบตัว ต่อไปนี้เป็นนิมิตซึ่งพระเจ้าทรงสำแดงต่อข้าพระบาท ดูเถิด บรรดาผู้หญิงที่เหลืออยู่ในวังของกษัตริย์ แห่งยูดาห์ได้ถูกนำออกไปให้เจ้านายของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และว่า <เพื่อนที่พระองค์ไว้วางใจได้หลอกลวงพระองค์ และได้ชนะพระองค์แล้ว เมื่อพระบาท ของพระองค์จมลงในโคลนแล้ว เขาทั้งหลายก็หันไปจากพระองค์> เขาจะพาบรรดาสนมและมเหสี และบุตรของฝ่าพระบาทไปให้คนเคลเดีย และฝ่าพระบาทเองก็จะไม่ทรงรอดไปจากมือ ของเขาทั้งหลาย แต่ฝ่าพระบาทจะถูกกษัตริย์แห่งบาบิโลนจับได้ และเขาจะเผากรุงนี้เสียด้วยไฟ>> แล้วเศเดคียาห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า <<อย่าให้ผู้ใดรู้ถ้อยคำเหล่านี้ และท่านจะไม่ตาย ถ้าพวกเจ้านายได้ยินว่าเราได้พูดกับท่าน และมาหาท่านพูดว่า <จงบอกมาว่าเจ้าพูดอะไรกับพระราชา และพระราชาตรัสอะไรกับเจ้า อย่าซ่อนอะไรจากเราเลย และเราจะไม่ฆ่าเจ้า> ท่านจงบอกเขาทั้งหลายว่า ข้าพเจ้าได้ทูลขอต่อพระราชามิให้พระองค์ทรงส่ง ข้าพเจ้ากลับไปที่เรือนของโยนาธานเพื่อให้ตายเสียที่นั่น>> และเจ้านายทั้งปวงก็มาหาเยเรมีย์และซักถามท่าน และท่านก็ตอบเขาตามที่พระราชาทรงแนะนำท่าน เขาทั้งหลายจึงหยุดถามท่านเพราะการสนทนานั้นไม่มีใครได้ยิน และเยเรมีย์ก็ค้างอยู่ในบริเวณทหารรักษาพระองค์ จนถึงวันที่เยรูซาเล็มถูกยึด

เยเรมีย์ 38:1-28 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ฝ่ายเชฟาทิยาห์บุตรมัทธาน เกดาลิยาห์บุตรปาชเฮอร์ เยฮูคัลบุตรเชเลมิยาห์ และปาชเฮอร์บุตรมัลคียาห์ ได้ยินถ้อยคำที่เยเรมีย์กล่าวแก่ประชากรทั้งปวงว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘ใครก็ตามที่ยังคงอยู่ในเยรูซาเล็มจะตายเพราะสงคราม การกันดารอาหาร และโรคระบาด แต่ใครก็ตามที่ยอมแพ้แก่ชาวบาบิโลนจะรอดชีวิต เขาจะมีชีวิตอยู่’ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า ‘เราจะยกเมืองนี้ให้กองทัพของกษัตริย์บาบิโลนอย่างแน่นอนและเขาจะยึดเมืองได้’ ” ขุนนางเหล่านี้ก็มาทูลกษัตริย์ว่า “ชายคนนี้สมควรตาย เขาพูดทำลายขวัญของทหารซึ่งยังเหลืออยู่ในกรุงนี้ตลอดจนประชาชนทั้งปวง ชายคนนี้ไม่ได้คิดถึงประโยชน์สุขของประชาชน แต่บ่อนทำลาย” เศเดคียาห์ตรัสตอบว่า “เขาอยู่ในมือของเจ้าแล้ว กษัตริย์ไม่อาจทำอะไรที่ขัดพวกเจ้าได้” พวกเขาจึงจับตัวเยเรมีย์ ใช้เชือกหย่อนลงในบ่อซึ่งอยู่ในลานทหารรักษาพระองค์ เป็นบ่อของมัลคียาห์ซึ่งเป็นโอรสกษัตริย์ บ่อนั้นไม่มีน้ำ มีแต่โคลน เยเรมีย์ก็จมลงในโคลน เมื่อเอเบดเมเลคชาวคูชเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของราชวังได้ยินว่าเยเรมีย์ถูกหย่อนลงในบ่อ ในขณะที่กษัตริย์ประทับอยู่ที่ประตูเบนยามิน เอเบดเมเลคได้ออกจากวังมากราบทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้า คนเหล่านี้ทำสิ่งเลวร้ายต่อผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ พวกเขาทิ้งเยเรมีย์ไว้ในบ่อ เขาจะต้องอดตายเมื่อไม่มีขนมปังเหลืออยู่ในกรุงนี้อีก” กษัตริย์จึงตรัสสั่งเอเบดเมเลคชาวคูชว่า “ให้นำคนสามสิบคนไปช่วยกันดึงเยเรมีย์ขึ้นมาจากบ่อก่อนที่จะตาย” ดังนั้นเอเบดเมเลคก็นำคนไปยังห้องหนึ่งใต้คลังของพระราชวัง เอาผ้าขี้ริ้วและเสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาจากที่นั่น และผูกเชือกหย่อนลงไปให้เยเรมีย์ในบ่อ เอเบดเมเลคบอกเยเรมีย์ว่า “เอาผ้าขี้ริ้วกับเสื้อผ้าเก่านี้รองใต้รักแร้กันเชือกบาด” เยเรมีย์ก็ทำตาม แล้วพวกเขาก็ดึงเยเรมีย์ขึ้นมา และพากลับไปที่ลานทหารรักษาพระองค์ เขาก็ถูกคุมตัวไว้ที่นั่น ต่อมากษัตริย์เศเดคียาห์ให้คนไปนำตัวผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์มาเข้าเฝ้าตรงประตูที่สามของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์ตรัสว่า “เราอยากถามอะไรเจ้า อย่าปิดบังสิ่งใดจากเราเลย” เยเรมีย์ทูลว่า “หากข้าพระบาทตอบฝ่าพระบาท ฝ่าพระบาทจะไม่ฆ่าข้าพระบาทหรือ? ถึงแม้ข้าพระบาทให้คำปรึกษาหารือ ฝ่าพระบาทก็จะไม่ฟังข้าพระบาท” แต่กษัตริย์เศเดคียาห์ก็สาบานเป็นการลับกับเยเรมีย์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานลมหายใจแก่พวกเรานั้นทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด เราจะไม่ฆ่าเจ้าหรือมอบตัวเจ้าแก่ผู้หมายเอาชีวิตของเจ้าเลยฉันนั้น” เยเรมีย์จึงทูลเศเดคียาห์ว่า “พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสว่า ‘หากเจ้ายอมแพ้ทหารของกษัตริย์บาบิโลน ทั้งเจ้ากับครอบครัวจะรอดชีวิตและกรุงนี้จะไม่ถูกเผา แต่หากเจ้าไม่ยอมแพ้ทหารของกษัตริย์บาบิโลน กรุงนี้จะถูกมอบแก่ชาวบาบิโลนและพวกเขาจะเผามันทิ้ง ตัวเจ้าเองก็จะไม่รอดจากเงื้อมมือของพวกเขา’” เศเดคียาห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า “เรากลัวชาวยิวซึ่งเอาใจออกห่างและไปเข้ากับพวกบาบิโลน ชาวบาบิโลนอาจมอบเราไว้ในมือของคนเหล่านั้น และเขาจะปฏิบัติต่อเราอย่างทารุณ” เยเรมีย์ตอบว่า “เขาจะไม่มอบฝ่าพระบาทหรอก จงเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าโดยทำตามที่ข้าพระบาททูล แล้วจะเป็นผลดีแก่ฝ่าพระบาทและฝ่าพระบาทจะรอดชีวิต แต่หากฝ่าพระบาทไม่ยอมแพ้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงแก่ข้าพระบาทไว้แล้วดังนี้ ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในวังของกษัตริย์ยูดาห์จะถูกนำตัวออกมาให้เจ้านายของกษัตริย์บาบิโลน ผู้หญิงเหล่านั้นจะกล่าวแก่ฝ่าพระบาทว่า “ ‘เหล่าสหายที่ฝ่าพระบาทไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ลวงฝ่าพระบาทให้หลงและเอาชนะฝ่าพระบาท เมื่อพระบาทจมลงในโคลน เหล่าสหายก็ทิ้งฝ่าพระบาทไปหมด’ “ส่วนมเหสีและโอรสธิดาทั้งปวงของฝ่าพระบาทจะถูกนำออกมาให้ชาวบาบิโลน ฝ่าพระบาทเองจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของพวกเขา แต่จะถูกกษัตริย์บาบิโลนคุมตัวไว้และกรุงนี้จะถูกเผา” เศเดคียาห์จึงตรัสกับเยเรมีย์ว่า “อย่าแพร่งพรายสิ่งที่เราพูดกันนี้เป็นอันขาด มิฉะนั้นเจ้าอาจต้องตาย ถ้าพวกข้าราชการได้ยินว่าเราได้พูดกับท่านและพวกเขามาหาและกล่าวกับท่านว่า ‘จงบอกเราว่าเจ้าพูดอะไรกับกษัตริย์และพระองค์ตรัสอะไรกับเจ้า อย่าปิดบังอะไรเราเลย มิฉะนั้นเราจะฆ่าเจ้า’ จงบอกแต่เพียงว่า ‘เราอ้อนวอนกษัตริย์ไม่ให้ส่งเรากลับไปตายที่บ้านของโยนาธาน’ ” แล้วบรรดาข้าราชบริพารก็มาไต่ถามเยเรมีย์จริงๆ และเขาก็บอกคนเหล่านั้นตามที่กษัตริย์ตรัสสั่งไว้ทุกอย่าง คนเหล่านั้นจึงไม่ได้พูดอะไรกับเขาอีก เพราะไม่มีใครได้ยินถ้อยคำที่เขากับกษัตริย์สนทนากัน และเยเรมีย์ก็ยังคงถูกคุมตัวอยู่ในลานทหารรักษาพระองค์จวบจนวันที่เยรูซาเล็มถูกยึด

เยเรมีย์ 38:1-28 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

เชฟาทิยาห์​บุตร​มัทธาน เก-ดาลิยาห์​บุตร​ปาชเฮอร์ ยูคาล​บุตร​เชเลมิยาห์ และ​ปาชเฮอร์​บุตร​มัลคิยาห์​ทราบ​มา​ว่า เยเรมีย์​กำลัง​พูด​กับ​ประชาชน​ทั้ง​ปวง​ดัง​นี้ “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ดัง​นี้​ว่า ‘ผู้​ที่​อยู่​ใน​เมือง​นี้​จะ​ตาย​ด้วย​การ​ต่อสู้ การ​อดอยาก และ​ด้วย​โรค​ระบาด แต่​ผู้​ที่​ออก​ไป​พบ​กับ​พวก​ชาว​เคลเดีย​จะ​มี​ชีวิต​คง​อยู่ และ​จะ​เอา​ชีวิต​หนี​รอด​ไป​ได้ และ​มี​ชีวิต​อยู่ พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​กล่าว​ว่า เมือง​นี้​จะ​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​กอง​ทัพ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน และ​จะ​ถูก​ยึด​ไป’” บรรดา​ผู้​นำ​พูด​กับ​กษัตริย์​ดัง​นี้​ว่า “ฆ่า​ชาย​ผู้​นี้​เถิด เพราะ​เขา​กำลัง​ทำลาย​กำลัง​ใจ​เหล่า​ทหาร​ที่​ยัง​เหลือ​อยู่​ใน​เมือง​นี้​และ​ประชาชน​ทั้ง​ปวง ด้วย​การ​พูด​สิ่ง​เหล่า​นี้​กับ​พวก​เขา เพราะ​ชาย​ผู้​นี้​ไม่​หวัง​ดี​ต่อ​ประชาชน​เลย แต่​กลับ​หวัง​ร้าย​ต่อ​พวก​เขา” กษัตริย์​เศเดคียาห์​ตอบ​ว่า “ดู​เถิด เขา​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​พวก​ท่าน กษัตริย์​ไม่​สามารถ​จะ​ขัดขวาง​พวก​ท่าน​ได้” ดังนั้น พวก​เขา​จึง​จับ​เยเรมีย์​ไป และ​ใช้​เชือก​หย่อน​ท่าน​ลง​ใน​บ่อ​เก็บ​น้ำ​ของ​มัลคิยาห์​บุตร​ของ​กษัตริย์ บ่อ​นั้น​อยู่​ที่​ลาน​ทหาร​ยาม เป็น​บ่อ​น้ำ​แห้ง​ซึ่ง​มี​แต่​โคลน เยเรมีย์​จึง​จม​ลง​ใน​โคลน เมื่อ​เอเบดเมเลค​ขันที​ชาว​คูช​ผู้​อยู่​ใน​วัง​กษัตริย์ ทราบ​ว่า​เยเรมีย์​ถูก​บังคับ​ให้​อยู่​ใน​บ่อ​น้ำ ขณะ​นั้น​กษัตริย์​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​ประตู​เบนยามิน เอเบดเมเลค​ออก​ไป​จาก​วัง​ของ​กษัตริย์ และ​พูด​กับ​กษัตริย์​ว่า “เจ้านาย​ผู้​เป็น​กษัตริย์ ชาย​เหล่า​นี้​ได้​ทำ​สิ่ง​ชั่วร้าย​ต่อ​เยเรมีย์​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ใน​ทุก​เรื่อง เขา​ให้​เยเรมีย์​ลง​ไป​อยู่​ใน​บ่อ​เก็บ​น้ำ ท่าน​จะ​ต้อง​หิว​ตาย​ที่​นั่น เพราะ​ไม่​มี​อาหาร​เหลือ​อยู่​ใน​เมือง​แล้ว” กษัตริย์​จึง​สั่ง​เอเบดเมเลค​ชาว​คูช​ว่า “พา​ชาย 30 คน​จาก​ที่​นี่​ไป​กับ​เจ้า และ​ช่วย​ดึง​เยเรมีย์​ผู้​เผย​คำ​กล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ออก​จาก​บ่อ​เก็บ​น้ำ​ก่อน​ที่​เขา​จะ​ตาย” ดังนั้น เอเบดเมเลค​จึง​พา​พวก​ผู้​ชาย​ไป​ยัง​วัง​ของ​กษัตริย์​กับ​เขา เขา​เอา​เศษ​ผ้า​และ​เสื้อ​เก่า​จาก​ห้อง​ใต้​คลัง พร้อม​กับ​หย่อน​เชือก​ลง​ใน​บ่อ​เก็บ​น้ำ​ให้​เยเรมีย์ เอเบดเมเลค​ชาว​คูช​บอก​เยเรมีย์​ว่า “ใช้​เศษ​ผ้า​หนุน​ระหว่าง​ใต้​รักแร้​กับ​เชือก” เยเรมีย์​ก็​ทำ​ตาม แล้ว​พวก​เขา​ก็​ใช้​เชือก​ดึง​เยเรมีย์​ขึ้น​ออก​จาก​บ่อ​น้ำ เยเรมีย์​อยู่​ที่​ลาน​ทหาร​ยาม​ต่อ​ไป กษัตริย์​เศเดคียาห์​ให้​คน​ไป​ตาม​เยเรมีย์​มา​พบ​ท่าน​ที่​ทาง​เข้า​ที่​สาม​ของ​พระ​ตำหนัก​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า กษัตริย์​กล่าว​กับ​เยเรมีย์​ดัง​นี้ “เรา​มี​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​อยาก​จะ​ถาม​ท่าน ท่าน​อย่า​ปกปิด​เรา” เยเรมีย์​ตอบ​เศเดคียาห์​ดัง​นี้ “ถ้า​ข้าพเจ้า​บอก​ท่าน แล้ว​ท่าน​จะ​ไม่​ฆ่า​ข้าพเจ้า​หรือ ถึง​แม้​ว่า​ข้าพเจ้า​ให้​คำ​แนะนำ ท่าน​ก็​จะ​ไม่​ฟัง​ข้าพเจ้า” กษัตริย์​เศเดคียาห์​สาบาน​กับ​เยเรมีย์​เป็น​การ​ส่วนตัว​ดัง​นี้ “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​ให้​ชีวิต​แก่​พวก​เรา ตราบ​ที่​พระ​องค์​มี​ชีวิต​อยู่​ฉันใด เรา​จะ​ไม่​ฆ่า​ท่าน​และ​ไม่​มอบ​ท่าน​ไว้​ใน​มือ​ของ​บรรดา​ผู้​ที่​ต้องการ​จะ​ฆ่า​ท่าน” เยเรมีย์​จึง​ตอบ​เศเดคียาห์​ดัง​นี้ “พระ​ผู้​เป็น​เจ้า พระ​เจ้า​จอม​โยธา พระ​เจ้า​ของ​อิสราเอล​กล่าว​ว่า ถ้า​ท่าน​ยอม​จำนน​ต่อ​บรรดา​ผู้​นำ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน ท่าน​ก็​จะ​ไม่​ถูก​ฆ่า และ​เมือง​นี้​จะ​ไม่​ถูก​ไฟ​เผา ทั้ง​ตัว​ท่าน​และ​ครอบครัว​ก็​จะ​รอด​ชีวิต แต่​ถ้า​ท่าน​ไม่​ยอม​จำนน​ต่อ​บรรดา​ผู้​นำ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน เมือง​นี้​ก็​จะ​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​ของ​ชาว​เคลเดีย และ​พวก​เขา​จะ​เผา​เมือง และ​ท่าน​จะ​ไม่​รอด​จาก​มือ​ของ​พวก​เขา” กษัตริย์​เศเดคียาห์​บอก​เยเรมีย์​ว่า “เรา​กลัว​ชาว​ยูดาห์​ที่​ได้​ยอม​จำนน​แก่​ชาว​เคลเดีย เรา​กลัว​ว่า​เรา​จะ​ถูก​มอบ​ตัว​ให้​แก่​พวก​เขา และ​จะ​ถูก​ทำ​ร้าย” เยเรมีย์​ตอบ​ว่า “ท่าน​จะ​ไม่​ถูก​มอบ​ตัว​ให้​แก่​พวก​เขา เวลา​นี้​ท่าน​จง​เชื่อ​ฟัง​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ใน​สิ่ง​ที่​ข้าพเจ้า​บอก​ท่าน และ​ทุก​สิ่ง​จะ​เป็น​ไป​ด้วย​ดี​กับ​ท่าน และ​ท่าน​จะ​รอด​ชีวิต แต่​ถ้า​ท่าน​ไม่​ยอม​จำนน ภาพ​นิมิต​ที่​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ให้​ข้าพเจ้า​เห็น​ก็​คือ ดู​เถิด ผู้​หญิง​ทุก​คน​ที่​เหลือ​อยู่​ใน​วัง​ของ​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์​กำลัง​ถูก​นำ​ตัว​ออก​ไป​ยัง​บรรดา​ผู้​นำ​ของ​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน พวก​เขา​พูด​ถึง​ท่าน​ดัง​นี้​ว่า ‘เพื่อน​ทั้ง​หลาย​ของ​ท่าน​ที่​ท่าน​ไว้​วางใจ​ได้​หลอกลวง​ท่าน และ​ทำ​ตาม​ที่​พวก​เขา​ต้องการ เท้า​ของ​ท่าน​จม​อยู่​ใน​โคลน พวก​เขา​ทอดทิ้ง​ท่าน​ไป’ บรรดา​ภรรยา​และ​บุตร​ชาย​ของ​ท่าน​จะ​ถูก​นำ​ออก​ไป​มอบ​แก่​ชาว​เคลเดีย และ​ท่าน​เอง​จะ​หนี​ไม่​รอด​จาก​มือ​ของ​พวก​เขา แต่​จะ​ถูก​กษัตริย์​แห่ง​บาบิโลน​จับ​กุม และ​เมือง​นี้​จะ​ถูก​ไฟ​ไหม้” แล้ว​เศเดคียาห์​พูด​กับ​เยเรมีย์​ว่า “อย่า​ให้​ใคร​รู้​เรื่อง​นี้ แล้ว​ท่าน​จะ​ไม่​ตาย ถ้า​บรรดา​ผู้​นำ​ทราบ​ว่า​เรา​ได้​พูด​กับ​ท่าน และ​พวก​เขา​มา​หา​ท่าน​เพื่อ​ถาม​ท่าน​ว่า ‘บอก​พวก​เรา​เถิด​ว่า ท่าน​พูด​อะไร​กับ​กษัตริย์ และ​กษัตริย์​พูด​อะไร​กับ​ท่าน​บ้าง อย่า​ปกปิด​พวก​เรา และ​พวก​เรา​จะ​ไม่​ฆ่า​ท่าน’ ท่าน​จง​บอก​พวก​เขา​ว่า ‘ข้าพเจ้า​น้อม​ตัว​ลง​ด้วย​คำ​ขอร้อง​ต่อ​กษัตริย์​ว่า ท่าน​จะ​ไม่​ส่ง​ข้าพเจ้า​กลับ​ไป​ที่​บ้าน​ของ​โยนาธาน​ให้​ไป​ตาย​ที่​นั่น’” แล้ว​ผู้​นำ​ทั้ง​ปวง​มา​หา​เยเรมีย์ และ​ถาม​ท่าน ท่าน​ก็​ตอบ​พวก​เขา​ตาม​ที่​กษัตริย์​สั่ง ดัง​นั้น พวก​เขา​จึง​ไม่​พูด​กับ​ท่าน​อีก เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ทราบ​ว่า​ท่าน​พูด​สิ่งใด​กับ​กษัตริย์ เยเรมีย์​จึง​อยู่​ที่​ลาน​ทหาร​ยาม​ต่อ​ไป​จน​ถึง​วัน​ที่​เยรูซาเล็ม​ถูก​ยึด