ปฐมกาล 21:1-21

ปฐมกาล 21:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

แล้ว​พระยาห์เวห์​ได้​แสดง​ความกรุณา​ต่อ​ซาราห์​ตาม​ที่​พระองค์​ได้​พูด​ไว้ พระองค์​ทำ​กับ​ซาราห์​ตาม​ที่​พระองค์​สัญญา​ไว้ ซาราห์​ได้​ตั้งท้อง​และ​คลอด​ลูกชาย​ให้​กับ​อับราฮัม​ตอน​ที่​เขา​แก่​มาก​แล้ว ตรง​ตาม​เวลา​ที่​พระเจ้า​ได้​บอก​นาง​ไว้ อับราฮัม​ตั้งชื่อ​ลูกชาย​ของเขา​ว่า​อิสอัค เป็น​ลูก​ที่​ซาราห์​ได้​คลอด​ให้​กับ​เขา อับราฮัม​ได้​ขลิบ​ให้​อิสอัค​ลูกชาย​เขา เมื่อ​อิสอัค​มี​อายุ​ได้​แปด​วัน ตาม​ที่​พระเจ้า​ได้​สั่ง​เขา​ไว้ เมื่อ​อิสอัค​ลูกชาย​ของเขา​เกิด​มา อับราฮัม​มี​อายุ​หนึ่งร้อย​ปี ซาราห์​พูด​ว่า “พระเจ้า​ทำ​ให้​ฉัน​หัวเราะ​ดีใจ ทุกๆคน​ที่​ได้ยิน​เรื่อง​นี้​จะ​หัวเราะ​ดีใจ​กับ​ฉัน” แล้ว​ซาราห์​พูด​ว่า “ไม่มี​ใคร​เคย​คิด​ว่า​จะได้​พูด​กับ​อับราฮัม​ว่า ‘ซาราห์​จะ​ให้​นม​ลูก’ แต่​ฉัน​ได้​คลอด​ลูกชาย​ให้​กับ​เขา ตอนที่​เขา​แก่​แล้ว” อิสอัค​โตขึ้น​จน​หย่านม​ได้แล้ว อับราฮัม​จัด​งานเลี้ยงฉลอง​ใหญ่โต​ใน​วันที่​เขา​หย่านมนั้น ซาราห์​เห็น​อิชมาเอล​ลูกชาย​ของ​ฮาการ์​ชาว​อียิปต์ ที่​นาง​ได้​คลอด​ให้​กับ​อับราฮัม อิชมาเอล​กำลัง​เล่น​อยู่​กับ​อิสอัค​ลูกชาย​ของนาง นาง​ซาราห์​จึง​พูด​กับ​อับราฮัม​ว่า “ไล่​ทาส​คนนี้​ไป​พร้อมกับ​ลูกชาย​ของ​นาง เพื่อ​ลูกทาส​นี้​จะ​ไม่ต้อง​มา​แบ่ง​มรดก​กับ​อิสอัค​ลูกชาย​ของฉัน” เรื่องนี้​ทำให้​อับราฮัม​เครียด​มาก เพราะ​เป็น​ห่วง​อิชมาเอล​ลูกชาย​ของเขา แต่​พระเจ้า​บอก​อับราฮัม​ว่า “เจ้า​ไม่ต้อง​เครียด​กับ​เรื่อง​ลูก​ของเจ้า​กับ​นางทาส​นั้น ให้​ทำ​ทุกอย่าง​ตาม​ที่​ซาราห์​บอก​กับ​เจ้า​เถอะ เพราะ​คนที่​จะ​สืบเชื้อสาย​ให้​กับ​เจ้านั้น​มา​จาก​ลูกหลาน​ของ​อิสอัค ส่วน​ลูกชาย​ที่​เกิด​จาก​ทาส​คนนี้ เรา​จะ​ทำ​ให้​เขา​เป็น​ชนชาติ​หนึ่ง​ด้วย เพราะ​เขา​ก็​เป็น​ลูก​ของเจ้า​เหมือนกัน” แล้ว​อับราฮัม​ก็​ตื่น​แต่​เช้าตรู่ เขา​เอา​อาหาร​และ​ถุงน้ำ​มา​ให้​ฮาการ์ เขา​เอา​ของ​พวกนั้น​วางไว้​บน​บ่า​ของนาง​พร้อมกับ​เด็กนั้น แล้ว​เขา​ก็​ส่ง​นาง​ไป นาง​ก็​จาก​ไป และ​เดิน​เร่ร่อน​ไป​ใน​ทะเลทราย​เบเออร์เชบา เมื่อ​น้ำ​ใน​ถุง​หมด ฮาการ์​จึง​วาง​ลูก​ลง​ใต้​พุ่มไม้ และ​นาง​เดิน​ไป​นั่ง​อยู่​ห่างๆ​เท่ากับ​ระยะทาง​ลูกศร​ยิง​ถึง นาง​พูด​ว่า “อย่า​ให้​ฉัน​ต้อง​เฝ้าดู​ลูก​ของฉัน​ตาย​เลย” แล้ว​นาง​นั่ง​อยู่​ห่างๆ​และ​เริ่ม​ร้องไห้ แต่​พระเจ้า​ได้ยิน​เสียงร้อง​ของเด็ก และ​ทูต​ของ​พระเจ้า​ได้​เรียก​ฮาการ์​จาก​สวรรค์ ทูตสวรรค์​พูด​กับ​นาง​ว่า “ฮาการ์ เป็น​อะไร​ไป ไม่ต้อง​กลัว เพราะ​พระเจ้า​ได้ยิน​เสียงร้อง​ของเด็ก​ที่นั่น ลุกขึ้น ยก​เด็ก​ขึ้น​มา​กอด​ไว้​ให้​แน่น เพราะ​เรา​จะ​ทำให้​เขา​เป็น​ชนชาติ​ที่​ยิ่งใหญ่” จากนั้น​พระเจ้า​ทำ​ให้​นาง​เห็น​บ่อน้ำ นาง​จึง​ไป​ที่​บ่อน้ำ​และ​เติม​น้ำ​จน​เต็ม​ถุง แล้ว​เอา​น้ำ​ให้​เด็ก​ดื่ม พระเจ้า​อยู่​กับ​เด็กชาย​คนนั้น และ​เขา​ได้​เติบโต​ขึ้น เขา​อาศัย​อยู่​ใน​ทะเลทราย และ​โต​ขึ้น​เป็น​นักยิงธนู อิชมาเอล​อาศัย​อยู่​ใน​ทะเลทราย​ปาราน แม่​ของเขา​หา​เมีย​ชาวอียิปต์​ให้​กับเขา

ปฐมกาล 21:1-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

พระยาห์เวห์ทรงเยี่ยมซาราห์ตามที่พระองค์ตรัสไว้ และพระยาห์เวห์ทรงทำแก่ซาราห์ ดังที่พระองค์ทรงปฏิญาณไว้ ซาราห์ก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้อับราฮัมเมื่อท่านชรา ตามเวลาซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับท่าน อับราฮัมตั้งชื่อบุตรชายที่เกิดมา ผู้ซึ่งซาราห์คลอดให้ท่านนั้นว่า อิสอัค แล้วอับราฮัมทำพิธีเข้าสุหนัตให้แก่อิสอัคบุตรชายของท่านเมื่อมีอายุแปดวัน ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่ท่าน อับราฮัมมีอายุ 100 ปี เมื่ออิสอัคบุตรชายเกิดแก่ท่าน นางซาราห์กล่าวว่า “พระเจ้าทรงทำให้ฉันหัวเราะ ทุกคนที่ฟังจะพลอยหัวเราะด้วย” นางกล่าวอีกว่า “ใครจะพูดกับอับราฮัมได้ว่า ‘ซาราห์จะให้ลูกกินนม’ แต่ฉันก็ได้คลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่านเมื่อท่านชราแล้ว” เด็กนั้นก็เติบโตขึ้นและหย่านม อับราฮัมจัดงานเลี้ยงใหญ่ในวันนั้นเมื่ออิสอัคหย่านม แต่ซาราห์เห็นบุตรชายของฮาการ์คนอียิปต์ซึ่งนางคลอดให้อับราฮัม กำลังเล่นกับอิสอัคบุตรชาย นางจึงพูดกับอับราฮัมว่า “ไล่ทาสหญิงคนนี้กับลูกชายของนางไป เพราะว่าลูกชายของทาสหญิงคนนี้จะเป็นทายาทมรดกร่วมกับอิสอัคลูกชายของฉันไม่ได้” อับราฮัมกลุ้มใจมากเรื่องบุตรชายของท่าน แต่พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “อย่ากลุ้มใจเพราะเรื่องเด็กนั้นและทาสหญิงของเจ้า ทุกสิ่งที่ซาราห์ขอก็จงทำตามที่นางขอ เพราะชื่อของเจ้าจะสืบต่อไปทางเชื้อสายของอิสอัค ส่วนบุตรชายของทาสหญิงนั้น เราจะทำให้เป็นชนชาติหนึ่งด้วย เพราะเขาเป็นเชื้อสายของเจ้า” อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด เอาขนมปังและน้ำหนึ่งถุงหนังให้แก่ฮาการ์ ใส่บ่านางไปพร้อมกับเด็กนั้น แล้วให้นางออกจากบ้านไป นางก็ไปและพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารแห่งเบเออร์เชบา เมื่อน้ำในถุงหนังนั้นหมดแล้ว นางก็ทิ้งเด็กนั้นไว้ใต้พุ่มไม้แห่งหนึ่ง แล้วนางก็ไปนั่งตรงข้ามห่างออกไป ประมาณระยะลูกธนูตก เพราะนางพูดว่า “อย่าให้ฉันเห็นความตายของลูกเลย” ขณะที่นางนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม นางก็ร้องไห้เสียงดัง พระเจ้าทรงสดับเสียงร้องของเด็กนั้น และทูตของพระเจ้าจึงเรียกฮาการ์จากฟ้า กล่าวกับนางว่า “ฮาการ์ เจ้าเป็นอะไรไป อย่ากลัวเลยเพราะว่าพระเจ้าทรงสดับเสียงของเด็ก ณ ที่เขาอยู่นั้นแล้ว ลุกขึ้นพยุงเด็กนั้นขึ้น เอามือจับเขาไว้ให้แน่น เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชนชาติใหญ่ชาติหนึ่ง” แล้วพระเจ้าทรงเปิดตาของนาง นางก็เห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงไปเติมน้ำเต็มถุงหนัง และให้เด็กนั้นดื่ม พระเจ้าทรงอยู่กับเด็กนั้น เขาเติบโตขึ้น อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และเป็นนักธนู เขาอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งปาราน มารดาก็หาภรรยาคนหนึ่งจากแผ่นดินอียิปต์ให้เขา

ปฐมกาล 21:1-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

พระเยโฮวาห์ทรงเยี่ยมซาราห์เหมือนที่​พระองค์​ตรัสไว้ และพระเยโฮวาห์ทรงกระทำแก่ซาราห์​ดังที่​พระองค์​ทรงตรัสไว้ เพราะซาราห์​ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้อับราฮัมเมื่อท่านชรา ตามเวลาซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกั​บท​่าน อับราฮัมตั้งชื่​อบ​ุตรชายที่​เก​ิดแก่​ท่าน ผู้​ซึ่งซาราห์คลอดให้ท่านนั้​นว​่า อิสอัค แล​้​วอ​ับราฮัมทำพิธี​เข​้าสุ​หน​ัตให้​แก่​อิสอั​คบ​ุตรชายของตนเมื่​อม​ี​อายุ​แปดวัน ดังที่​พระเจ้าทรงบัญชาแก่​ท่าน อับราฮัมมี​อายุ​หน​ึ่งร้อยปีเมื่​ออ​ิสอั​คบ​ุตรชายเกิดแก่​ท่าน นางซาราห์​กล่าวว่า “พระเจ้าทรงกระทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะ ดังนั้นทุกคนที่​ได้​ฟังจะพลอยหัวเราะกับข้าพเจ้า” นางกล่าวอี​กว่า “ใครจะพู​ดก​ับอับราฮัมได้ว่าซาราห์จะให้ลู​กอ​่อนกินนม เพราะข้าพเจ้าก็​ได้​คลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่านเมื่อท่านชราแล้ว” เด็กนั้​นก​็เติบโตขึ้นและหย่านมและอับราฮัมจัดการเลี้ยงใหญ่ในวันนั้นเมื่​ออ​ิสอัคหย่านม แต่​ซาราห์​เห​็นบุตรชายของฮาการ์คนอียิปต์ซึ่งนางคลอดให้​อับราฮัม กำลังหัวเราะเล่นอยู่ นางจึงพู​ดก​ับอับราฮัมว่า “​ไล่​ทาสหญิงคนนี้กับบุตรชายของนางไปเสียเถิด เพราะว่าบุตรชายของทาสหญิงคนนี้จะเป็นผู้รับมรดกร่วมกับอิสอั​คบ​ุตรชายของข้าพเจ้าไม่​ได้​” อับราฮัมกลุ้มใจมาก เพราะเรื่องบุตรชายของท่าน แต่​พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “​เจ้​าอย่าโศกเศร้าในสายตาของเจ้าเพราะเรื่องเด็กนั้น และเพราะทาสหญิงของเจ้าเลย ทุ​กสิ่งที่ซาราห์​กล​่าวกับเจ้า เจ้​าก็จงฟังเสียงของนางเถิด เพราะเขาจะเรียกเชื้อสายของเจ้าทางสายอิสอัค ส่วนบุตรชายของทาสหญิงนั้น เราจะกระทำให้เป็นชนชาติ​หน​ึ่​งด​้วย เพราะเขาเป็นเชื้อสายของเจ้า” อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่​เช้ามืด ให้​ขนมปังและน้ำหนึ่งถุงหนังแก่ฮาการ์ ใส่​บ่าให้นางพร้อมกับเด็กนั้นแล้วส่งนางออกไป นางก็จากไปและพเนจรไปในถิ่นทุ​รก​ันดารแห่งเบเออร์เชบา และน้ำในถุงหนังนั้​นก​็หมดไป นางก็วางเด็กนั้นไว้​ใต้​พุ่มไม้​แห่งหน​ึ่ง แล​้วนางก็ไปนั่งลงห่างออกไปตรงหน้าเด็กนั้น ประมาณเท่ากับระยะลูกธนู​ตก เพราะนางพูดว่า “อย่าให้ข้าเห็นความตายของเด็กนั้นเลย” นางก็นั่งอยู่ตรงหน้าเด็กนั้นแล้วตะเบ็งเสียงร้องไห้ พระเจ้าทรงสดับเสียงร้องของเด็กนั้น และทูตสวรรค์ของพระเจ้าจึงเรียกฮาการ์จากฟ้าสวรรค์​กล​่าวกับนางว่า “ฮาการ์ เจ้​าเป็นอะไรไป อย่ากลัวเลย เพราะว่าพระเจ้าทรงสดับเสียงของเด็ก ณ ที่​ที่​เขาอยู่นั้นแล้ว ลุ​กขึ้​นอ​ุ้มเด็กนั้น เอามือจับเขาไว้​ให้​แน่น เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชาติ​ใหญ่​ชาติ​หนึ่ง​” แล​้วพระเจ้าทรงเบิกตาของนาง นางก็​เห​็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงไปเติ​มน​้ำเต็มถุงหนังและให้เด็กนั้นดื่ม พระเจ้าทรงสถิ​ตก​ับเด็กนั้น เขาเติบโตขึ้น อาศัยอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดาร และเป็นนักธนู เขาอาศัยอยู่ในถิ่นทุ​รก​ันดารแห่งปาราน มารดาก็หาภรรยาคนหนึ่งจากประเทศอียิปต์​ให้​เขา

ปฐมกาล 21:1-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

พระเจ้าทรงเยี่ยมซาราห์ตามที่พระองค์ตรัสไว้ และพระเจ้าทรงกระทำแก่ซาราห์ ดังที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ ซาราห์ก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้อับราฮัม เมื่อท่านชราตามเวลาซึ่งพระเจ้าได้ตรัสกับท่าน อับราฮัมตั้งชื่อบุตรชายที่เกิด ผู้ซึ่งซาราห์คลอดให้ท่านนั้นว่า อิสอัค แล้วอับราฮัมทำพิธีเข้าสุหนัต ให้แก่อิสอัคบุตรชายนั้นเมื่อมีอายุแปดวัน ดังที่พระเจ้าทรงบัญชาแก่ท่าน อับราฮัมมีอายุหนึ่งร้อยปีเมื่ออิสอัคบุตรชายเกิดแก่ท่าน นางซาราห์กล่าวว่า <<พระเจ้าทรงกระทำให้ข้าพเจ้าหัวเราะ ทุกคนที่ได้ฟังจะพลอยหัวเราะด้วย>> นางกล่าวอีกว่า <<ใครจะพูดกับอับราฮัมได้ว่าซาราห์จะให้เด็กกินนม แต่ดิฉันก็ได้คลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่านเมื่อท่านชราแล้ว>> เด็กนั้นก็เติบโตขึ้นและหย่านมและ อับราฮัมจัดการเลี้ยงใหญ่ในวันนั้นเมื่ออิสอัคหย่านม แต่ซาราห์เห็นบุตรชายของฮาการ์คนอียิปต์ ซึ่งนางคลอดให้อับราฮัม กำลังเล่นอยู่กับอิสอัคบุตรชาย นางจึงพูดกับอับราฮัมว่า <<ไล่ทาสหญิงคนนี้กับบุตรชายของนางไปเสียเถิด เพราะว่าบุตรชายของทาสหญิงคนนี้จะเป็นผู้รับ มรดกร่วมกับอิสอัคบุตรชายของฉันไม่ได้>> อับราฮัมกลุ้มใจ เพราะเรื่องบุตรชายของท่าน แต่พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า <<อย่ากลุ้มใจเพราะเรื่องเด็กนั้น และทาสหญิงของเจ้า ซาราห์ขออะไรก็จงยอมตามที่นางขอเถิด เพราะชื่อของเจ้าจะสืบต่อไปทางเชื้อสาย อิสอัค ส่วนบุตรชายของทาสหญิงนั้น เราจะกระทำให้เป็นชนชาติหนึ่งด้วย เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์ของเจ้า>> อับราฮัมจึงลุกขึ้นแต่เช้ามืด ให้ขนมปังและน้ำหนึ่งถุงหนังแก่ฮาการ์ ใส่บ่าให้นางพร้อมกับเด็กนั้นแล้วให้ออกจากบ้านไป นางก็จากไปและพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารแห่งเบเออร์เชบา เมื่อน้ำในถุงหนังนั้นหมดแล้วนางก็วางเด็กนั้นไว้ ใต้พุ่มไม้แห่งหนึ่ง แล้วนางก็ไปนั่งอยู่ห่างออกไป ประมาณเท่ากับระยะลูกธนูตก เพราะนางพูดว่า <<อย่าให้ข้าเห็นความตายของลูกเลย>> ขณะที่นางนั่งอยู่แต่ไกล เด็กนั้นก็ตะเบ็งเสียงร้องไห้ พระเจ้าทรงสดับเสียงร้องของเด็กนั้น และทูตของพระเจ้าจึงเรียกฮาการ์จากฟ้า กล่าวกับนางว่า <<ฮาการ์ เจ้าเป็นอะไรไป อย่ากลัวเลยเพราะว่าพระเจ้าทรงสดับเสียงของเด็ก ณ ที่ที่เขาอยู่นั้นแล้ว ลุกขึ้นอุ้มเด็กนั้น เอามือจับเขาไว้ให้แน่น เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชาติใหญ่ชาติหนึ่ง>> แล้วพระเจ้าทรงเบิกตาของนาง นางก็เห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงไปเติมน้ำเต็มถุงหนัง และให้เด็กนั้นดื่ม พระเจ้าทรงสถิตกับเด็กนั้น เขาเติบโตขึ้น อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร และเป็นนักธนู เขาอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งปาราน มารดาก็หาภรรยาคนหนึ่งจากประเทศอียิปต์ให้เขา

ปฐมกาล 21:1-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเสด็จมาโปรดซาราห์ตามที่ตรัสไว้ และองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำตามสัญญาที่ให้แก่ซาราห์ไว้ ซาราห์ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายแก่อับราฮัมเมื่อเขาชราแล้ว ตรงตามเวลาที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับเขา อับราฮัมตั้งชื่อบุตรที่ซาราห์คลอดให้ว่าอิสอัค เมื่ออิสอัคบุตรของเขาอายุครบแปดวัน อับราฮัมให้เขาเข้าสุหนัตตามที่พระเจ้าทรงบัญชาไว้ เมื่ออิสอัคบุตรของเขาเกิดมา อับราฮัมอายุได้หนึ่งร้อยปี ซาราห์กล่าวว่า “พระเจ้าทรงทำให้ฉันหัวเราะ ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้จะพลอยหัวเราะไปกับฉันด้วย” และนางกล่าวอีกว่า “ใครจะคิดว่าซาราห์จะมีลูกให้กับอับราฮัม? แต่ฉันก็ได้คลอดลูกชายให้เขาเมื่อเขาชราแล้ว” เด็กนั้นก็เติบโตขึ้นและหย่านม ในวันที่อิสอัคหย่านม อับราฮัมจัดงานเลี้ยงใหญ่ แต่ซาราห์เห็นบุตรของนางฮาการ์ชาวอียิปต์ที่เกิดแก่อับราฮัมกำลังหัวเราะเยาะ นางจึงพูดกับอับราฮัมว่า “จงไล่เมียทาสกับลูกของนางไปเถิด เพราะลูกของเมียทาสคนนั้นจะไม่มีวันมีส่วนร่วมในกองมรดกกับอิสอัคลูกชายของฉัน” เรื่องนี้ทำให้อับราฮัมทุกข์ใจมากเพราะเกี่ยวข้องกับบุตรชายของเขา แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “อย่าทุกข์ใจเรื่องเด็กคนนั้นกับเมียทาสของเจ้าเลย จงทำตามที่ซาราห์บอก เพราะเชื้อสายของเจ้าจะนับทางอิสอัค และเราจะให้ชนชาติหนึ่งสืบเชื้อสายจากลูกของเมียทาสคนนี้ด้วย เพราะเขาก็เป็นเชื้อสายของเจ้าเหมือนกัน” เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นอับราฮัมก็เอาอาหารและน้ำหนึ่งถุงหนังใส่บ่าของฮาการ์ แล้วส่งนางออกไปพร้อมกับบุตรชาย นางก็ระเหเร่ร่อนเข้าไปในถิ่นกันดารเบเออร์เชบา เมื่อน้ำในถุงหนังหมดแล้ว นางจึงทิ้งลูกชายไว้ใต้พุ่มไม้ แล้วเดินหนีไปนั่งอยู่ไม่ไกล ห่างออกไปประมาณระยะยิงธนูตก เพราะนางคิดว่า “ฉันไม่อาจทนดูลูกตายไป” และขณะนั่งอยู่ที่นั่น นางก็เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น พระเจ้าทรงได้ยินเสียงร้องของเด็กหนุ่ม ทูตของพระเจ้าเรียกฮาการ์จากฟ้าสวรรค์และพูดกับนางว่า “ฮาการ์เอ๋ย มีเรื่องอะไรหรือ? อย่ากลัวเลย พระเจ้าทรงได้ยินเสียงร้องของเด็กที่นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว จงไปประคองเขาขึ้นและจูงมือเขาไป เพราะเราจะทำให้เขาเป็นชาติใหญ่ชาติหนึ่ง” แล้วพระเจ้าทรงเบิกตาของนาง นางก็เห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงไปเติมน้ำเต็มถุงหนังและให้เด็กหนุ่มนั้นดื่ม พระเจ้าสถิตกับเด็กหนุ่มคนนั้น ขณะที่เขาเติบโตขึ้น เขาอาศัยในถิ่นกันดารและกลายเป็นนักยิงธนู ขณะเขาอาศัยในถิ่นกันดารแห่งปาราน มารดาได้หาหญิงสาวจากอียิปต์มาเป็นภรรยาของเขา

YouVersion ใช้คุกกี้สำหรับการปรับแต่งการใช้งาน และประสบการณ์ของคุณ การที่คุณได้ใช้เว็บไซต์ของเรา ถือเป็นการที่คุณยอมรับวัตถุประสงค์ของการใช้คุกกี้ ซึ่งมีคำอธิบายอยู่ในนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา