เอเสเคียล 33:30-33

เอเสเคียล 33:30-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

ส่วน​เจ้า เจ้า​ลูก​มนุษย์ คน​ของเจ้า​กำลัง​พูด​ถึง​เจ้า​ตาม​กำแพง​และ​ประตู​บ้าน​ว่า ‘ไป ไป​ฟัง​ถ้อยคำ​ของ​พระยาห์เวห์​กัน​เถอะ’ ประชาชน​ของเรา​มา​พบ​เจ้า​อย่าง​ที่​เคย​ทำ​มา และ​มา​นั่ง​อยู่​ต่อหน้า​เจ้า เพื่อ​ที่​จะ​ฟัง​คำพูด​ของเจ้า แต่​พวกเขา​ไม่​ทำ​ตาม คำพูด​กระตุ้น​ราคะ​อยู่​ที่​ริมฝีปาก​พวกเขา และ​ใจ​ของ​พวกเขา​ละโมบ​เอา​แต่​ได้ ใน​สายตา​พวกเขา เจ้า​ก็​เป็น​แค่​นักร้อง​ที่​ร้องเพลง​กระตุ้น​ราคะ ด้วย​เสียง​อัน​ไพเราะ และ​เล่น​ดนตรี​เก่ง​เท่านั้น​เอง พวกเขา​ฟัง​คำพูด​ของเจ้า​แต่​ไม่ได้​เอา​ไป​ทำ​ตาม เมื่อ​สิ่ง​ต่างๆ​เหล่านี้​เกิดขึ้น (ซึ่ง​มัน​จะ​เป็น​ไป​ตามนั้น​อย่าง​แน่นอน​อยู่แล้ว) พวกเขา​จะได้​รู้​ว่า​มี​ผู้พูดแทนพระเจ้า​ได้​มา​อยู่​ท่ามกลาง​พวกเขา​จริง”

เอเสเคียล 33:30-33 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

“เจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย ชนชาติของเจ้าที่พูดเรื่องเจ้าที่ข้างกำแพงและตามประตูบ้าน เขาพูดต่อกันและกัน แต่ละคนพูดกับพี่น้องของตนว่า ‘มาเถิด มาฟังพระวจนะซึ่งออกมาจากพระยาห์เวห์’ และพวกเขามาหาเจ้าอย่างที่คนทั้งหลายมา และเขามานั่งข้างหน้าเจ้าอย่างประชากรของเรา พวกเขาจะฟังสิ่งที่เจ้าพูด แต่เขาไม่ยอมทำตาม เพราะว่าเขาแสดงความรักด้วยปากของเขา แต่จิตใจของเขามุ่งอยู่ที่ผลกำไรมิชอบของเขา และ ดูสิ เจ้าเป็นเหมือนคนร้องเพลงรักแก่พวกเขา มีเสียงไพเราะและเล่นดนตรีได้เก่ง เพราะว่าพวกเขาจะฟังสิ่งที่เจ้าพูด แต่เขาจะไม่ทำตาม และเมื่อสิ่งนี้มาถึง (ดูสิ ก็มาแล้ว) เขาทั้งหลายจะรู้ว่ามีผู้เผยพระวจนะอยู่ในหมู่พวกเขา”

เอเสเคียล 33:30-33 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

เจ้า บุ​ตรแห่งมนุษย์​เอ๋ย ชนชาติ​ของเจ้าที่​พู​ดเรื่องเจ้าข้างกำแพงเมืองและตามประตู​บ้าน พู​ดต่​อก​ันและกั​นก​ับพี่น้องของตนว่า ‘มาเถิด มาฟังเสียงพระวจนะซึ่งออกมาจากพระเยโฮวาห์’ และเข้ามาหาเจ้าอย่างที่ชาวตลาดมา และเขามานั่งข้างหน้าเจ้าอย่างประชาชนของเรา เขาฟังคำพูดของเจ้า แต่​เขาไม่ยอมกระทำตาม เพราะว่าเขาแสดงความรักมากด้วยปากของเขา แต่​จิ​ตใจของเขามุ่งอยู่ตามความโลภของเขา และ ดู​เถิด เจ้​าเป็นเหมือนคนร้องเพลงรักแก่​เขา มี​เสียงไพเราะและเล่นดนตรี​เก่ง เพราะเขาฟังคำพูดของเจ้า แต่​เขาไม่ยอมกระทำตาม และเมื่อการเช่นนี้​เป็นมา (​ดู​เถิด ก็​จะมา) เขาทั้งหลายจะทราบว่ามี​ผู้​พยากรณ์​อยู่​ในหมู่​พวกเขา​”

เอเสเคียล 33:30-33 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

<<เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ชนชาติของเจ้าที่พูดเรื่องเจ้าข้าง กำแพงเมืองและตามประตูบ้าน พูดต่อกันและกันกับพี่น้องของตนว่า <มาเถิด มาฟังเสียงพระวจนะซึ่งออกมาจากพระเจ้า> และเข้ามาหาเจ้าอย่างที่ชาวตลาดมา และเขามานั่งข้างหน้าเจ้าอย่างประชากรของเรา เขาฟังสิ่งที่เจ้าพูด แต่เขาไม่ยอมกระทำตาม เพราะว่าเขาแสดงความรักมากด้วยปากของเขา แต่จิตใจของเขามุ่งอยู่ที่ผลกำไรของเขา และ นี่แน่ะ เจ้าเป็นเหมือนคนร้องเพลงรักแก่เขา มีเสียงไพเราะและเล่นดนตรีเก่ง เพราะเขาฟังสิ่งที่เจ้าพูดแต่เขาไม่ยอมกระทำตาม และเมื่อการเช่นนี้เป็นมา (ดูเถิด ก็มาแล้ว) เขาทั้งหลายจะทราบว่ามีผู้เผยพระวจนะอยู่ในหมู่พวกเขา>>

เอเสเคียล 33:30-33 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

“ส่วนเจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย พี่น้องร่วมชาติของเจ้าพูดคุยกันถึงเจ้าอยู่ข้างกำแพงและที่ประตูบ้าน เขาพูดกันว่า ‘มาเถิด มาฟังพระดำรัสซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า’ ประชากรของเรามาหาเจ้าอย่างที่พวกเขามักจะทำ มานั่งอยู่ตรงหน้าเพื่อฟังคำพูดของเจ้า แต่ไม่เคยนำไปปฏิบัติ เขาแสดงความจงรักภักดีด้วยริมฝีปาก แต่จิตใจโลภหวังผลกำไรอธรรม แท้จริง สำหรับเขา เจ้าก็เป็นแค่คนที่ร้องเพลงรักด้วยเสียงไพเราะและเล่นดนตรีเก่งเท่านั้น เพราะเขาฟังคำพูดของเจ้า แต่ไม่ยอมนำไปปฏิบัติ “เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เป็นจริง ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นแน่นอน เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่ามีผู้เผยพระวจนะในหมู่พวกเขา”

เอเสเคียล 33:30-33 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ส่วน​เจ้า​เอง บุตร​มนุษย์​เอ๋ย ชน​ร่วม​ชาติ​ของ​เจ้า​ที่​พูด​กัน​ถึง​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​เจ้า​ที่​ข้าง​กำแพง​และ​ที่​ประตู​บ้าน ต่าง​ก็​พูด​ต่อ​กัน​และ​กัน​ว่า ‘มา​เถิด มา​ฟัง​คำกล่าว​ที่​มา​จาก​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า’ และ​พวก​เขา​มา​หา​เจ้า​อย่าง​ฝูง​ชน พวก​เขา​นั่ง​ตรง​หน้า​เจ้า​อย่าง​เป็น​ชน​ชาติ​ของ​เรา พวก​เขา​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​เจ้า​พูด​แต่​กลับ​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม พวก​เขา​กระทำ​ตาม​ปาก​ที่​ตน​พูด​ซึ่ง​เต็ม​ด้วย​ตัณหา ใจ​ของ​พวก​เขา​มุ่งมั่น​ใน​สิน​บน ดู​เถิด พวก​เขา​เห็น​ว่า​เจ้า​เป็น​เพียง​คน​ร้อง​เพลง​ใน​แนว​ตัณหา มี​เสียง​ไพเราะ​และ​เล่น​ดนตรี​เก่ง ด้วย​ว่า​พวก​เขา​ได้ยิน​สิ่ง​ที่​เจ้า​พูด​แต่​กลับ​ไม่​ปฏิบัติ​ตาม เมื่อ​สิ่ง​นี้​มา​ถึง และ​มัน​จะ​มา​ถึง​อย่าง​แน่​นอน พวก​เขา​จะ​รู้​ว่า​ผู้เผย​คำกล่าว​ของ​พระ​เจ้า​ผู้​หนึ่ง​อยู่​ท่าม​กลาง​พวก​เขา”