เฉลยธรรมบัญญัติ 31:16-21
เฉลยธรรมบัญญัติ 31:16-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
แล้วพระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “อีกไม่นานเจ้าก็จะตาย และอีกไม่ช้าคนพวกนี้จะไม่ซื่อสัตย์กับเรา และไปบูชาพระอื่นในแผ่นดินที่พวกเขากำลังจะเข้าไป พวกเขาจะทิ้งเรา พวกเขาจะผิดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเขา ในเวลานั้นเราจะโกรธพวกเขามาก เราจะทอดทิ้งพวกเขา เราจะหลบหน้าไปจากพวกเขา พวกเขาจะถูกกลืนกิน ความหายนะล่มจม และความทุกข์ยากลำบากต่างๆจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ในวันนั้นพวกเขาจะพูดว่า ‘ความหายนะล่มจมทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับเรา ก็เพราะพระเจ้าไม่ได้อยู่กับเรา’ ในวันนั้นเราจะหลบหน้าไปจากพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะความชั่วช้าที่พวกเขาได้ทำ ที่หันหน้าไปหาพระอื่นๆ ตอนนี้ให้เขียนบทเพลงนี้ลงไป และให้สอนมันกับชาวอิสราเอล ให้พวกเขาร้องจนขึ้นใจ เพื่อว่าเพลงนี้จะได้เป็นพยานให้กับเราต่อว่าคนอิสราเอล เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ และเขาก็กินทุกอย่างที่อยากกินจนอ้วน แล้วพวกเขาก็จะหันไปหาพระอื่นและรับใช้พระพวกนั้น พวกเขาจะปฏิเสธเรา และผิดสัญญาที่เราได้ทำไว้กับพวกเขา แล้วเมื่อความหายนะล่มจมและความยากลำบากเกิดขึ้นกับพวกเขา ในเวลานั้นลูกหลานของพวกเขาก็ยังไม่ลืมเพลงนี้ เพลงนี้จึงทำให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาเป็นคนผิด แม้แต่เดี๋ยวนี้ ก่อนที่เราจะพาพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินที่เราสัญญาไว้กับพวกเขา เราก็รู้แล้วว่าเขามีแนวโน้มที่จะทิ้งเรา”
เฉลยธรรมบัญญัติ 31:16-21 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
และพระยาห์เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “นี่แน่ะ เจ้าจะต้องหลับอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า และชนชาตินี้จะลุกขึ้นและเล่นชู้กับพระของคนต่างชาติในแผ่นดินที่เขาไปอยู่ท่ามกลางนั้น พวกเขาจะทอดทิ้งเราและหักพันธสัญญาซึ่งเราได้ทำไว้กับเขา แล้วในวันนั้นเราจะกริ้วต่อเขา และจะทอดทิ้งเขาและซ่อนหน้าของเราจากเขา พวกเขาจะถูกกลืน และเผชิญสิ่งร้ายและความลำบากมากมาย ในวันนั้นเขาจะกล่าวว่า ‘เราเผชิญสิ่งร้ายเหล่านี้ เพราะพระเจ้าไม่สถิตท่ามกลางเราไม่ใช่หรือ?’ ในวันนั้นเราจะซ่อนหน้าของเราเป็นแน่ เนื่องจากความชั่วที่เขาทำเพราะเขาได้หันไปหาพระอื่น ดังนั้นพวกเจ้าจงเขียนบทเพลงนี้ และสอนคนอิสราเอลให้ร้องจนติดปาก เพื่อบทเพลงนี้จะเป็นพยานของเราปรักปรำคนอิสราเอล เพราะเมื่อเรานำเขาเข้ามาในแผ่นดินซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ ซึ่งเราได้ปฏิญาณจะให้แก่บรรพบุรุษของเขา และเขาได้รับประทานอิ่มหนำและอ้วนพี เขาจะหันไปปรนนิบัติพระอื่น และหมิ่นประมาทเราและผิดพันธสัญญาของเรา และเมื่อเขาเผชิญสิ่งร้ายและความลำบากมากมายแล้ว เพลงบทนี้จะเป็นพยานต่อหน้าเขา (เพราะว่าเพลงนี้จะติดปากลูกหลานของเขาไม่รู้ลืม) เพราะเรารู้ถึงความมุ่งหมายที่เขาจะทำ ก่อนที่เราจะนำเขาเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้นั้น”
เฉลยธรรมบัญญัติ 31:16-21 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “ดูเถิด ตัวเจ้าจวนจะต้องหลับอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว และชนชาตินี้จะลุกขึ้นและเล่นชู้กับพระของคนต่างด้าวแห่งแผ่นดินนี้ ในที่ที่เขาไปอยู่ท่ามกลางนั้น เขาทั้งหลายจะทอดทิ้งเราเสียและหักพันธสัญญาซึ่งเราได้กระทำไว้กับเขา แล้วในวันนั้นเราจะกริ้วต่อเขา และเราจะทอดทิ้งเขาเสียและซ่อนหน้าของเราเสียจากเขา เขาทั้งหลายจะถูกกลืน และสิ่งร้ายกับความลำบากเป็นอันมากจะมาถึงเขา ในวันนั้นเขาจึงจะกล่าวว่า ‘สิ่งร้ายเหล่านี้ตกแก่เรา เพราะพระเจ้าไม่ทรงสถิตท่ามกลางเราไม่ใช่หรือ’ ในวันนั้นเราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเขาเป็นแน่ ด้วยเหตุความชั่วทั้งหลายซึ่งเขาได้กระทำ เพราะเขาได้หันไปหาพระอื่น เพราะฉะนั้นบัดนี้เจ้าทั้งสองจงเขียนบทเพลงนี้ และสอนคนอิสราเอลให้ร้องจนติดปาก เพื่อบทเพลงนี้จะเป็นพยานของเราปรักปรำคนอิสราเอล เพราะว่าเมื่อเราจะได้นำเขาเข้ามาในแผ่นดินซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ ซึ่งเราได้ปฏิญาณแก่บรรพบุรุษของเขา และเขาได้รับประทานอิ่มหนำและอ้วนพี เขาจะหันไปปรนนิบัติพระอื่น และหมิ่นประมาทเรา และผิดพันธสัญญาของเรา และต่อมาเมื่อสิ่งร้ายและความลำบากหลายอย่างมาถึงเขาแล้ว เพลงบทนี้จะเผชิญหน้าเป็นพยาน เพราะว่าเพลงนี้จะอยู่ที่ปากเชื้อสายของเขาไม่มีวันลืม เพราะแม้แต่เวลานี้เองเรารู้ถึงความมุ่งหมายที่เขากำลังจะก่อขึ้นมาแล้ว ก่อนที่เราจะนำเขาเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้นั้น”
เฉลยธรรมบัญญัติ 31:16-21 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
และพระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า <<ดูเถิด ตัวเจ้าจวนจะต้องหลับอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว และชนชาตินี้จะลุกขึ้นและเล่นชู้กับพระแปลกๆของแผ่นดินนี้ ในที่ที่เขาไปอยู่ท่ามกลางนั้น เขาทั้งหลายจะทอดทิ้งเราเสียและหักพันธสัญญาซึ่งเราได้ กระทำไว้กับเขา แล้วในวันนั้นเราจะกริ้วต่อเขา และเราจะทอดทิ้งเขาเสียและซ่อนหน้าของเราเสียจากเขา เขาทั้งหลายจะถูกกลืน และสิ่งร้ายกับความลำบากเป็นอันมากจะมาถึงเขา ในวันนั้นเขาจึงจะกล่าวว่า <สิ่งร้ายเหล่านี้ตกแก่เรา เพราะพระเจ้าไม่ทรงสถิตท่ามกลางเราไม่ใช่หรือ> ในวันนั้นเราจะซ่อนหน้าของเราเสียจากเขาเป็นแน่ ด้วยเหตุความชั่วซึ่งเขาได้กระทำเพราะเขาได้หัน ไปหาพระอื่น เหตุฉะนี้เจ้าทั้งสองจงเขียนบทเพลงนี้ และสอนคนอิสราเอลให้ร้องจนติดปาก เพื่อบทเพลงนี้จะเป็นพยานของเราปรักปรำคนอิสราเอล เพราะว่าเมื่อเราจะได้นำเขาเข้ามาในแผ่นดิน ซึ่งมีน้ำนมและน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ ซึ่งเราได้ปฏิญาณจะประทานแก่บรรพบุรุษของเขา และเขาได้รับประทานอิ่มหนำและอ้วนพี เขาจะหันไปปรนนิบัติพระอื่น และหมิ่นประมาท เราและผิดพันธสัญญาของเรา และเมื่อสิ่งร้ายและความลำบากหลายอย่างมาถึงเขาแล้ว เพลงบทนี้จะเผชิญหน้าเป็นพยาน (เพราะว่าเพลงนี้จะอยู่ที่ปากลูกหลานของเขาไม่มีวันลืม) เพราะเรารู้ถึงความมุ่งหมายที่เขากำลังจะก่อขึ้นมาแล้ว ก่อนที่เราจะนำเขาเข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราปฏิญาณไว้นั้น>>
เฉลยธรรมบัญญัติ 31:16-21 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
และองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “เจ้าจะล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า แล้วไม่นานประชากรเหล่านี้จะขายตัวให้พระของคนต่างชาติในดินแดนที่เขาจะเข้าไป เขาจะทิ้งเราและละเมิดพันธสัญญาที่เราทำไว้กับพวกเขา ในวันนั้นเราจะโกรธพวกเขาและละทิ้งพวกเขา เราจะซ่อนหน้าจากพวกเขาและพวกเขาจะถูกทำลาย ภัยพิบัติและความยุ่งยากนานัปการจะเกิดกับพวกเขาจนพวกเขาพูดว่า ‘ภัยพิบัติเหล่านี้เกิดกับเราเพราะพระเจ้าของเราไม่ได้อยู่กับเราแล้วไม่ใช่หรือ?’ และในวันนั้นเราจะซ่อนหน้าจากพวกเขาอย่างแน่นอน เพราะความชั่วช้าทั้งปวงของพวกเขาที่หันไปหาพระอื่นๆ “บัดนี้เจ้าทั้งสองจงเขียนบทเพลงนี้และสอนประชากรอิสราเอลให้ขับร้อง เพื่อเป็นพยานฝ่ายเราต่อสู้พวกเขา เมื่อเรานำพวกเขาเข้าสู่ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งที่เราสัญญาด้วยคำปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา เมื่อพวกเขาอิ่มหมีพีมันและรุ่งเรือง พวกเขาจะหันไปนมัสการพระอื่นแล้วละทิ้งเราและละเมิดพันธสัญญาของเรา เมื่อภัยพิบัติและความยุ่งยากนานัปการเกิดกับพวกเขา บทเพลงนี้จะเป็นพยานต่อสู้พวกเขา เพราะลูกหลานของพวกเขาจะไม่ลืมบทเพลงนี้ เรารู้อยู่แล้วว่าพวกเขามีแนวโน้มจะทำอะไรตั้งแต่ก่อนที่เราจะนำพวกเขาเข้าไปในดินแดนซึ่งเราสัญญาด้วยคำปฏิญาณกับพวกเขา”