ดาเนียล 5:1-31
ดาเนียล 5:1-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ในช่วงที่กษัตริย์เบลชัสซาร์ขึ้นครองราชย์นั้น พระองค์ได้จัดงานเลี้ยงใหญ่สำหรับข้าราชสำนักหนึ่งพันคน แล้วพระองค์ก็ดื่มเหล้าองุ่นอยู่ต่อหน้าพวกเขา ด้วยความมึนเมา พระองค์จึงสั่งให้คนไปเอาถ้วยทอง ถ้วยเงินต่างๆที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ พ่อของพระองค์ได้ยึดเอามาจากวิหารในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อพระองค์เองจะได้เอามาใช้ดื่ม ร่วมกันกับพวกขุนนาง พวกภรรยาของพระองค์และพวกนางสนม เมื่อพวกเขาเอาถ้วยพวกนั้นมา เป็นเหยือกที่ได้เอามาจากวิหารของพระเจ้าในเมืองเยรูซาเล็ม กษัตริย์ก็ได้ใช้ถ้วยพวกนั้นดื่มร่วมกันกับเหล่าขุนนาง พวกภรรยาของพระองค์และพวกนางสนม ในขณะที่ดื่มเหล้าองุ่นกันอยู่นั้น พวกเขาก็สรรเสริญพวกเทพเจ้าของพวกเขาไปด้วย มีทั้งเทพเจ้าของทอง เงิน ทองแดง เหล็ก ไม้ และหิน จู่ๆก็มีนิ้วมือของมนุษย์ปรากฏขึ้น และได้ขีดเขียนข้อความลงบนผนังปูนของวังที่อยู่ตรงข้ามตะเกียงที่มีขาตั้ง เพื่อว่ากษัตริย์จะได้มองเห็นมือที่กำลังขีดเขียนอยู่นั้น กษัตริย์กลัวจนหน้าซีดเผือด พระองค์กลัวมาก ถึงกับตัวอ่อนปวกเปียก เข่าก็สั่นกระทบกัน กษัตริย์ตะโกนสั่งให้พาพวกทำสะเดาะเคราะห์ พวกคาสดิม และพวกโหรมาหา แล้วบอกกับผู้รู้ของบาบิโลนพวกนั้นว่า ถ้าใครสามารถอ่านและแปลความหมายของข้อความนั้นได้ คนนั้นจะได้รับเสื้อสีม่วง สร้อยคอทองคำ และมีอำนาจใหญ่เป็นอันดับสามของอาณาจักรนี้ แล้วผู้รู้ทั้งหลายก็มาหากษัตริย์ แต่ก็ไม่มีใครสามารถอ่านหรืออธิบายข้อความนั้นให้พระองค์ฟังได้เลย กษัตริย์เบลชัสซาร์ก็ยิ่งตกใจกลัวและใบหน้าของพระองค์ก็ยิ่งซีดลง และพวกขุนนางของพระองค์ก็เริ่มหวาดวิตก แม่ของกษัตริย์ได้ยินเสียงของพระองค์และพวกขุนนางก็เลยเข้ามาที่ห้องงานเลี้ยง และบอกกษัตริย์ว่า “ขอให้ลูกแม่อายุมั่นขวัญยืน อย่าได้ตกใจจนหน้าซีดอย่างนี้ ในอาณาจักรของลูกมีชายคนหนึ่งที่มีพระวิญญาณของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ ในสมัยที่พ่อของลูกปกครองบ้านเมือง คนคนนี้เป็นคนที่รู้แจ้งเห็นจริง เฉลียวฉลาด และรอบรู้มาก มีสติปัญญาเหมือนกับพวกเทพเจ้าเลย กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์พ่อของลูก เคยตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าของพวกหมอดู พวกผู้สะเดาะเคราะห์ พวกคาสดิม และพวกโหรมาแล้ว ในเมื่อดาเนียล (คนที่พ่อของเจ้าเรียกว่า เบลเทชัสซาร์) เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมมาก มีความรอบรู้ และความเข้าใจ มากมายถึงขนาดทำนายฝัน แก้ไขปริศนา และแก้ปัญหาต่างๆได้ ส่งคนไปตามเขามาสิ เพื่ออธิบายลายนิ้วมือนั้นให้ลูกฟัง” เขาจึงพาดาเนียลมาเฝ้ากษัตริย์ กษัตริย์พูดกับดาเนียลว่า “เจ้าก็คงเป็นดาเนียล คนหนึ่งในพวกเชลยชาวยูดาห์ ที่พ่อของข้า กษัตริย์องค์ก่อน พาตัวมาจากยูดาห์สินะ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นคนที่มีพระวิญญาณของเหล่าเทพผู้ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว เป็นคนที่รอบรู้ มีไหวพริบ และเฉลียวฉลาดมาก ข้าให้คนไปพาพวกผู้รู้ อย่างพวกทำสะเดาะเคราะห์มาหาข้า เพื่อพวกเขาจะได้มาอ่านลายนิ้วมือบนผนังนี้ และอธิบายให้ข้าฟัง แต่พวกเขาก็อ่านไม่ออกสักตัว ข้าได้ยินมาว่า เจ้าสามารถอธิบายความหมายของเรื่องแบบนี้และแก้ไขปริศนาได้ ฟังนะ ถ้าเจ้าอ่านข้อความนี้ออกและอธิบายให้ข้าฟังได้ ข้าก็จะให้เสื้อสีม่วงและสร้อยคอทองคำกับเจ้า และเจ้าก็จะมีอำนาจใหญ่เป็นอันดับสามของอาณาจักรนี้” แล้วดาเนียลก็ตอบว่า “ขอให้พระองค์เก็บของขวัญพวกนั้นไว้สำหรับพระองค์เองเถิด หรือไม่ก็ให้รางวัลเหล่านั้นกับคนอื่นๆเถิด แต่ข้าพเจ้าจะอ่านข้อความนั้นและตีความมันให้พระองค์ฟัง ข้าแต่กษัตริย์ พระเจ้าสูงสุดได้ให้อาณาจักรนี้ อำนาจ ความยิ่งใหญ่ และเกียรติยศกับกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์พ่อของท่าน เพราะพระเจ้าให้พลังอำนาจกับพ่อของท่าน บรรดาเชื้อชาติต่างๆ รวมทั้งทุกชนชาติทุกภาษา ถึงได้เกรงกลัวจนตัวสั่นงันงก เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อของท่าน เพราะพระองค์ได้ฆ่าคนที่อยากฆ่า ไว้ชีวิตคนที่อยากไว้ชีวิต ยกย่องคนที่อยากยกย่อง และทำลายคนที่อยากทำลาย แต่เมื่อพ่อของท่านกลายเป็นคนหยิ่งยโสและดื้อรั้น พระองค์ก็ถูกขับออกจากบัลลังก์และหมดศักดิ์ศรีเกียรติยศไป พระองค์ถูกขับไล่ออกไปจากสังคมมนุษย์ จิตใจของพระองค์ได้กลายเป็นเหมือนใจสัตว์ และเขาได้อาศัยอยู่กับลาป่าในทะเลทราย กินหญ้าเหมือนวัวและเนื้อตัวก็เปียกโชกไปด้วยน้ำค้างที่ตกจากฟ้า จนกว่าพระองค์รู้สำนึกว่าพระเจ้าสูงสุดเป็นผู้ปกครองอาณาจักรทั้งหลายของมนุษย์และจะตั้งใครก็ได้ที่พระองค์เลือกให้มาครอบครองเหนืออาณาจักร ข้าแต่กษัตริย์เบลชัสซาร์ พระองค์เป็นลูก และรู้เรื่องสิ่งเหล่านี้ดี แต่พระองค์กลับทำเหมือนกับพ่อของพระองค์ พระองค์ไม่ยอมถ่อมใจ พระองค์ยกตัวเองขึ้น ต่อต้านองค์เจ้าชีวิตแห่งสวรรค์ และสั่งให้คนไปเอาสิ่งของเครื่องใช้จากวิหารของพระเจ้ามาไว้ต่อหน้าพระองค์ หลังจากนั้นพระองค์ พร้อมทั้งขุนนาง พวกภรรยา และพวกนางสนมของพระองค์ ก็ดื่มเหล้าองุ่นจากเหยือกพวกนั้น แล้วสรรเสริญเทพเจ้าของเงิน ทอง ทองแดง เหล็ก ไม้และหิน ซึ่งรูปปั้นพวกนี้มองไม่เห็น ฟังไม่ได้ยิน และไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่พระองค์กลับไม่ยอมสรรเสริญพระเจ้าที่แท้จริง ผู้ซึ่งมีอำนาจเหนือลมหายใจและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับพระองค์ นั่นเป็นเหตุที่พระเจ้าถึงได้ส่งมือมาเขียนข้อความนี้บนฝาผนัง ข้อความนั้นเขียนว่าอย่างนี้คือ เมเน เมเน เทเคล และ ปารสิน ความหมายของคำเหล่านี้คือ เมเน หมายถึง พระเจ้าได้นับวันเวลาครองราชย์ของท่านไว้แล้ว และพระองค์กำลังจะทำให้จบลงแล้ว เทเคล หมายถึง พระเจ้าได้ชั่งน้ำหนักของท่าน และพบว่าน้ำหนักของท่านขาดไป ไม่สมควรจะได้ครองราชย์ ปารสิน หมายถึง อาณาจักรของท่านจะถูกแบ่งให้กับคนมีเดียและคนเปอร์เซีย” แล้วกษัตริย์เบลชัสซาร์ก็สั่งให้เอาเสื้อสีม่วงมาสวมให้กับดาเนียล และเอาสร้อยทองคำมาสวมคอให้เขา พร้อมกับประกาศว่าดาเนียลมีอำนาจใหญ่เป็นอันดับสามของอาณาจักรนี้ และในคืนนั้นเองเบลชัสซาร์ กษัตริย์ชาวคาสดิมก็ถูกฆ่า แล้วดาริอัสชาวมีเดีย ก็ได้ยึดเอาอาณาจักรนี้มา ตอนที่เขามีอายุหกสิบสองปี
ดาเนียล 5:1-31 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
กษัตริย์เบลชัสซาร์ได้ทรงจัดงานเลี้ยงใหญ่แก่เจ้านายหนึ่งพันคน และเสวยเหล้าองุ่นท่ามกลางคนหนึ่งพันนั้น เมื่อเบลชัสซาร์เสวยเหล้าองุ่นแล้ว จึงทรงบัญชาให้นำภาชนะทองคำและเงิน ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาได้ทรงกวาดมาจากพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ออกมาให้พระราชาและบรรดาเจ้านายของพระองค์ทั้งมเหสีและนางสนม เพื่อใช้ใส่เหล้าองุ่นดื่ม เขาทั้งหลายจึงนำภาชนะทองคำซึ่งยึดมาจากพระวิหารคือพระนิเวศของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็มออกมา และพระราชาและบรรดาเจ้านายของพระองค์ทั้งมเหสีและนางสนมก็ได้ดื่มจากภาชนะเหล่านั้น เขาทั้งหลายดื่มเหล้าองุ่นและสรรเสริญพระที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ในทันใดนั้น นิ้วมือคนได้ปรากฏขึ้นและเขียนลงที่ผนังพระราชวังของกษัตริย์หน้าคันประทีป และกษัตริย์ก็ทอดพระเนตรมือที่เขียนนั้น แล้วพระพักตร์ของกษัตริย์ก็ซีดไป พระองค์ตกพระทัย จนกระทั่งพระเพลาก็อ่อนเปลี้ย พระชานุก็สั่น กษัตริย์มีรับสั่งเสียงดังให้นำหมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม เข้ามาเฝ้า และกษัตริย์ตรัสกับพวกนักปราชญ์ของบาบิโลนว่า “ผู้อ่านข้อเขียนนี้และแปลความให้เราได้ เราจะให้ผู้นั้นสวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และเราจะตั้งให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักรของเรา” แล้วพวกนักปราชญ์ของกษัตริย์ก็เข้ามาทั้งหมด แต่พวกเขาอ่านข้อเขียน หรือแปลความหมายให้กษัตริย์ไม่ได้ แล้วกษัตริย์เบลชัสซาร์ก็ตกพระทัยมาก และพระพักตร์ของพระองค์ก็ซีดไป และเจ้านายทั้งหลายของพระองค์ก็สนเท่ห์ พระราชินีเสด็จเข้ามาในการเลี้ยง เพราะได้ยินถ้อยคำของกษัตริย์และเจ้านายทั้งหลาย และพระราชินีตรัสว่า “ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอฝ่าพระบาทอย่าได้ตกพระทัย หรือให้พระพักตร์ของพระองค์ซีดไป ในราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทมีชายคนหนึ่งมีวิญญาณของบรรดาพระผู้บริสุทธิ์ในตัวเขา ในสมัยรัชกาลของพระราชบิดา ความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญาเหมือนปัญญาของบรรดาพระทั้งหลายได้มีประจำอยู่ที่ชายคนนี้ และพระราชาเนบูคัดเนสซาร์ พระราชบิดาของฝ่าพระบาท ได้ทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นหัวหน้าของพวกโหร หมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม เขาคือดาเนียล ซึ่งพระราชาประทานนามว่าเบลเทชัสซาร์ เขามีวิญญาณเลิศ มีความรู้และความเข้าใจที่จะแก้ความฝัน แก้ปริศนาและแก้ปัญหาต่างๆ ขอทรงเรียกดาเนียลให้เข้ามาเฝ้าเดี๋ยวนี้ แล้วเขาจะแปลความหมายถวายฝ่าพระบาท” ดาเนียลจึงถูกเรียกให้เข้าเฝ้าพระราชา พระราชาตรัสถามดาเนียลว่า “ท่านคือดาเนียลคนนั้นในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยมาจากยูดาห์ ที่พระราชาเสด็จพ่อของเรานำมาจากยูดาห์หรือ? เราได้ยินว่าท่านมีวิญญาณของบรรดาพระในตัวท่าน และท่านมีความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญาเลิศประจำตัว พวกนักปราชญ์และพวกหมอดูถูกเรียกมาให้อ่านข้อความนี้ และแปลความหมายให้เรา แต่เขาแปลความหมายของเรื่องราวนี้ไม่ได้ “แต่เราได้ยินว่าท่านสามารถแปลและแก้ปัญหาได้ บัดนี้ถ้าท่านอ่านข้อความและแปลความหมายให้ได้ ท่านจะได้สวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และเป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร” แล้วดาเนียลทูลพระราชาว่า “ขอทรงเก็บของพระราชทานไว้เป็นของฝ่าพระบาทเถิด และขอประทานรางวัลแก่ผู้อื่น ส่วนข้าพระบาทจะขออ่านข้อเขียนถวายพระราชาและถวายคำแปลความหมายให้ฝ่าพระบาททรงทราบ ข้าแต่พระราชา พระเจ้าสูงสุดได้ประทานราชอาณาจักร ความยิ่งใหญ่ ศักดิ์ศรี และบารมีแก่เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของฝ่าพระบาท และเพราะความยิ่งใหญ่ซึ่งพระองค์ประทานแก่เนบูคัดเนสซาร์ ชนทุกชาติทุกเผ่าทุกภาษาจึงสั่นสะท้านและเกรงขามพระราชา พระองค์จะทรงประหารผู้ใดก็ทรงประหารเสีย จะทรงให้ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ก็ทรงให้ดำรงชีวิต จะทรงแต่งตั้งผู้ใดก็ทรงแต่งตั้ง จะทรงทำให้ผู้ใดต่ำต้อยลงก็ทรงทำ แต่เมื่อพระทัยของราชบิดาผยองขึ้น จิตวิญญาณของพระองค์ก็แข็งกระด้างไป จึงทรงประกอบกิจด้วยความเห่อเหิม พระเจ้าทรงถอดพระองค์จากราชบัลลังก์ และทรงริบศักดิ์ศรีของพระองค์ไปเสีย พระเจ้าทรงขับไล่เนบูคัดเนสซาร์ไปจากท่ามกลางมนุษย์ และทรงทำให้พระทัยเป็นเหมือนใจสัตว์ป่า และทรงให้อยู่กับลาป่า ทรงให้เสวยหญ้าเหมือนโค และพระกายก็เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จนกว่าจะทรงสำนึกว่าพระเจ้าสูงสุดทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และทรงแต่งตั้งผู้ที่พระองค์จะทรงแต่งตั้งให้ปกครอง ข้าแต่เบลชัสซาร์ ฝ่าพระบาทเป็นราชโอรส แม้ฝ่าพระบาททรงทราบสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ได้ถ่อมพระทัย แต่กลับทรงยกองค์ขึ้นสู้กับองค์เจ้านายแห่งสวรรค์ และทรงให้นำภาชนะแห่งพระนิเวศของพระองค์มาต่อพระพักตร์ฝ่าพระบาท แล้วฝ่าพระบาท พวกเจ้านายของฝ่าพระบาท ทั้งมเหสี และนางสนมของฝ่าบาทก็ดื่มเหล้าองุ่นจากภาชนะเหล่านั้น และฝ่าพระบาททรงสรรเสริญพระที่ทำด้วยเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งจะดูหรือฟังหรือเข้าใจก็ไม่ได้ แต่ฝ่าพระบาทไม่ได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ผู้ซึ่งลมปราณของฝ่าพระบาทอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทางทั้งสิ้นของฝ่าพระบาทก็ขึ้นอยู่กับพระองค์ “ฉะนั้นจึงมีมือซึ่งรับใช้มาจากพระเจ้าได้จารึกข้อเขียนนี้ลงไว้ ต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่จารึกไว้คือ เมเน เมเน เทเคล และ ฟารสิน ต่อไปนี้เป็นคำแปลข้อความนั้น เมเน พระเจ้าได้ทรงคำนวณวาระแห่งราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทไว้แล้ว และทรงนำราชอาณาจักรนั้นมาถึงที่สิ้นสุด เทเคล ฝ่าพระบาทได้ถูกชั่งในตราชู ทรงเห็นว่ายังขาดอยู่ เปเรส ราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทถูกแบ่งออกให้แก่คนมีเดียและคนเปอร์เซีย” แล้วเบลชัสซาร์ก็ทรงบัญชาให้ดาเนียลสวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และทรงให้ประกาศเกี่ยวกับท่านว่า ท่านได้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร ในคืนวันนั้นเอง เบลชัสซาร์พระราชาคนเคลเดียทรงถูกสังหาร และดาริอัสชาวมีเดียก็ทรงรับราชอาณาจักร เมื่อมีพระชนมายุ 62 พรรษา
ดาเนียล 5:1-31 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
กษัตริย์เบลชัสซาร์ได้ทรงจัดการเลี้ยงใหญ่แก่เจ้านายหนึ่งพันคน และเสวยเหล้าองุ่นต่อหน้าคนหนึ่งพันนั้น เมื่อเบลชัสซาร์ทรงลิ้มรสเหล้าองุ่นแล้ว จึงมีพระบัญชาให้นำภาชนะทองคำและเงินซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาได้ทรงกวาดมาจากพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ออกมาให้กษัตริย์และเจ้านายของพระองค์ ทั้งพระสนมและนางห้ามจะได้ใช้ใส่เหล้าดื่ม เขาทั้งหลายจึงนำภาชนะทองคำซึ่งได้กวาดมาจากพระวิหาร คือพระนิเวศของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม และกษัตริย์และเจ้านายของพระองค์ ทั้งพระสนมและนางห้ามก็ได้ดื่มจากภาชนะเหล่านั้น เขาทั้งหลายดื่มเหล้าองุ่นและสรรเสริญพระที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้และหิน ในทันใดนั้น นิ้วมือคนได้ปรากฏขึ้น และเขียนลงที่ผนังของพระราชวังของกษัตริย์ตรงข้ามกับคันประทีป และกษัตริย์ก็ทอดพระเนตรมือที่เขียนนั้น แล้วสีพระพักตร์ของกษัตริย์ก็เปลี่ยนไป พระดำริของพระองค์กระทำให้พระองค์ตกพระทัย พระเพลาก็อ่อนเปลี้ย พระชานุก็กระทบกัน กษัตริย์รับสั่งเสียงดัง ให้นำหมอดูและคนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยามเข้ามาเฝ้า และกษัตริย์ตรัสกับพวกนักปราชญ์กรุงบาบิโลนว่า “ผู้ใดที่อ่านข้อเขียนนี้และแปลความให้เราได้ เราจะให้ผู้นั้นสวมเสื้อสีม่วง และสวมสร้อยคอทองคำ และเราจะตั้งให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักรของเรา” แล้วพวกนักปราชญ์ของกษัตริย์ก็เข้ามาทั้งหมด แต่เขาทั้งหลายอ่านข้อเขียน หรือแปลความหมายให้กษัตริย์ทรงทราบหาได้ไม่ แล้วกษัตริย์เบลชัสซาร์ก็ตกพระทัยมาก และสีพระพักตร์ของพระองค์ก็เปลี่ยนไป และเจ้านายทั้งหลายของพระองค์ก็สนเท่ห์ ด้วยเหตุพระวาทะของกษัตริย์และเจ้านายทั้งหลาย พระราชินีก็เสด็จเข้ามาในท้องพระโรงการเลี้ยง และพระราชินีทรงมีพระเสาวนีย์ว่า “โอ ข้าแต่กษัตริย์ ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอพระองค์อย่าได้ตกพระทัย หรือให้สีพระพักตร์ของพระองค์เปลี่ยนไป ในราชอาณาจักรของพระองค์มีชายคนหนึ่ง มีวิญญาณของพระผู้บริสุทธิ์ในตัว ในครั้งรัชกาลของพระชนก ความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญา เหมือนปัญญาของพระ ได้มีประจำอยู่ที่ชายคนนี้ และกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์พระชนกของพระองค์ คือกษัตริย์พระชนกของพระองค์ ได้ทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นประธานใหญ่ของพวกโหร หมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม เพราะว่าดาเนียล ซึ่งกษัตริย์ประทานนามว่า เบลเทชัสซาร์ มีวิญญาณเลิศ มีความรู้และความเข้าใจที่จะแก้ความฝัน แก้ปริศนาและแก้ปัญหาต่างๆ บัดนี้ทรงเรียกดาเนียลให้เข้ามาเฝ้า แล้วเขาก็จะแปลความหมายถวายพระองค์” เขาจึงนำดาเนียลเข้ามาเฝ้ากษัตริย์ กษัตริย์ตรัสถามดาเนียลว่า “ท่านคือดาเนียลคนนั้นในพวกที่ถูกกวาดเป็นเชลยมาจากประเทศยูดาห์ ที่กษัตริย์เสด็จพ่อของเรานำมาจากยูดาห์หรือ เราได้ยินว่าท่านมีวิญญาณของพระในตัว และท่านมีความสว่าง ความเข้าใจและปัญญาเลิศประจำตัว บัดนี้ เราให้พวกนักปราชญ์ พวกหมอดูมาเข้าเฝ้า เพื่อให้อ่านข้อความนี้ และแปลความหมายให้เรา แต่เขาแปลความหมายของเรื่องราวนี้ไม่ได้ แต่เราได้ยินว่าท่านให้คำแปลและแก้ปัญหาได้ บัดนี้ถ้าท่านอ่านข้อความและแปลความหมายให้ได้ จะให้ท่านสวมเสื้อสีม่วง และสวมสร้อยคอทองคำ และจะตั้งท่านให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร” แล้วดาเนียลกราบทูลต่อพระพักตร์กษัตริย์ว่า “ขอทรงเก็บของพระราชทานไว้กับพระองค์เถิด และขอทรงพระราชทานรางวัลแก่ผู้อื่น ฝ่ายข้าพระองค์จะขออ่านข้อเขียนถวายกษัตริย์ และถวายคำแปลความหมายให้พระองค์ทรงทราบ โอ ข้าแต่กษัตริย์ พระเจ้าสูงสุดได้ทรงประทานพระราชอาณาจักร ความยิ่งใหญ่และสง่าราศี และเกียรติยศแด่เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของพระองค์ และเพราะความยิ่งใหญ่ซึ่งพระองค์ประทานแก่เนบูคัดเนสซาร์ บรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวง และภาษาทั้งหลายจึงได้สั่นสะท้านและเกรงขามต่อพระพักตร์พระราชบิดา พระองค์จะทรงประหารผู้ใดก็ทรงประหารเสีย หรือทรงให้ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ก็ทรงให้ดำรงชีวิต พระองค์จะทรงแต่งตั้งผู้ใดก็ทรงแต่งตั้ง พระองค์จะทรงกระทำให้ผู้ใดด้อยลงพระองค์ก็ทรงกระทำ แต่เมื่อพระทัยของพระบิดาผยองขึ้น ฝ่ายจิตวิญญาณของพระองค์ก็แข็งกระด้างไป จึงทรงประกอบกิจด้วยความเห่อเหิม พระเจ้าทรงถอดพระองค์จากราชบัลลังก์ และทรงริบสง่าราศีของพระองค์ไปเสีย พระเจ้าทรงขับไล่เนบูคัดเนสซาร์ไปจากบุตรทั้งหลายของมนุษย์ และทรงกระทำให้พระทัยของพระองค์ท่านเป็นเหมือนใจสัตว์ป่า และทรงให้อยู่กับลาป่า ทรงให้หญ้าเสวยเหมือนวัว และพระกายของพระองค์ท่านก็เปียกน้ำค้างจากฟ้าสวรรค์ จนกว่าพระองค์รู้ว่าพระเจ้าสูงสุดทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และทรงแต่งตั้งผู้ที่พระองค์จะทรงปรารถนาให้ปกครอง โอ ข้าแต่เบลชัสซาร์ พระองค์เป็นราชโอรส แม้พระองค์ทรงทราบเช่นนี้ทั้งสิ้นแล้วก็มิได้ถ่อมพระทัย แต่ทรงยกองค์พระองค์ขึ้นสู้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ และทรงให้นำภาชนะแห่งพระนิเวศของพระองค์มาต่อพระพักตร์พระองค์ แล้วพระองค์ พวกเจ้านายของพระองค์ พระสนม และนางห้ามของพระองค์ก็ดื่มเหล้าองุ่นจากภาชนะเหล่านั้น และพระองค์ทรงสรรเสริญพระที่ทำด้วยเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งจะดูหรือฟัง หรือรู้เรื่องก็ไม่ได้ แต่พระองค์มิได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าซึ่งลมปราณของพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทางทั้งสิ้นของพระองค์ก็ขึ้นอยู่กับพระองค์ จึงมีมือซึ่งรับใช้มาจากพระพักตร์ได้จารึกข้อเขียนนี้ลงไว้ ต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่จารึกไว้ คือ เมเน เมเน เทเคล และ ฟารสิน ต่อไปนี้เป็นคำไขเรื่องราวนั้น เมเน พระเจ้าได้ทรงคำนวณวาระแห่งราชอาณาจักรของพระองค์ไว้แล้ว และทรงนำราชอาณาจักรนั้นมาถึงสิ้นสุด เทเคล พระองค์ได้ถูกชั่งในตราชู ทรงเห็นว่ายังขาดอยู่ เปเรส ราชอาณาจักรของพระองค์ถูกแบ่งออกให้แก่คนมีเดีย และคนเปอร์เซีย” แล้วเบลชัสซาร์ก็ทรงบัญชาและเขาได้ให้ดาเนียลสวมเสื้อสีม่วง และให้สวมสร้อยคอทองคำ และทรงให้ประกาศเกี่ยวกับเรื่องของท่านว่า ท่านได้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร ในคืนวันนั้นเอง เบลชัสซาร์กษัตริย์คนเคลเดียก็ทรงถูกประหาร และดาริอัสคนมีเดียก็ทรงรับราชอาณาจักร มีพระชนมายุหกสิบสองพรรษา
ดาเนียล 5:1-31 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
กษัตริย์เบลชัสซาร์ได้ทรงจัดการ เลี้ยงใหญ่แก่เจ้านายหนึ่งพันคน และเสวยน้ำจัณฑ์ต่อหน้าคนหนึ่งพันนั้น เมื่อเบลชัสซาร์ทรงลิ้มรสน้ำจัณฑ์แล้ว จึงมีพระบัญชาให้นำภาชนะทองคำและเงิน ซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาได้ทรงกวาดมา จากพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ออกมาให้พระราชาและเจ้านายของพระองค์ ทั้งพระสนมและนางห้ามจะได้ใช้ใส่เหล้าดื่ม เขาทั้งหลายจึงนำภาชนะทองคำและเงิน ซึ่งได้กวาดมาจากพระวิหาร คือพระนิเวศของพระเจ้าในกรุงเยรูซาเล็ม และพระราชาและเจ้านายของพระองค์ทั้ง พระสนมและนางห้ามก็ได้ดื่มจากภาชนะเหล่านั้น เขาทั้งหลายดื่มเหล้าองุ่นและสรรเสริญพระที่ทำด้วยทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้และหิน ในทันใดนั้น นิ้วมือคนได้ปรากฏขึ้นและเขียนลงที่ผนังของพระราชวัง ของพระราชา ตรงข้ามกับคันประทีป และพระราชาก็ทอดพระเนตรมือที่เขียนนั้น แล้วพระพักตร์ของพระราชาก็ซีดไป พระดำริของพระองค์กระทำให้พระองค์ตกพระทัย พระเพลาก็อ่อนเปลี้ย พระชานุก็กระทบกัน พระราชารับสั่งเสียงดัง ให้นำหมอดูและคนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม เข้ามาเฝ้า และพระราชาตรัสกับพวกนักปราชญ์กรุงบาบิโลนว่า <<ผู้ที่อ่านข้อเขียนนี้และแปลความให้เราได้ เราจะให้ผู้นั้นสวมเสื้อสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ และเราจะตั้งให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักรของเรา แล้วพวกนักปราชญ์ของพระราชาก็เข้ามาทั้งหมด แต่เขาทั้งหลายอ่านข้อเขียน หรือแปลความหมายให้พระราชาทรงทราบหาได้ไม่ แล้วกษัตริย์เบลชัสซาร์ก็ตกพระทัยมาก และพระพักตร์ของพระองค์ก็ซีดไป และเจ้านายทั้งหลายของพระองค์ก็สนเท่ห์ ด้วยเหตุพระวาทะของพระราชาและเจ้านายทั้งหลาย พระราชินีก็เสด็จเข้ามาในท้องพระโรงการเลี้ยง และพระราชินีทรงมีพระเสาวนีย์ว่า <<ข้าแต่พระราชา ขอทรงพระเจริญเป็นนิตย์ ขอฝ่าพระบาทอย่าได้ตกพระทัย หรือให้พระพักตร์ของพระองค์ซีดไป ในราชอาณาจักรของฝ่าบาท มีชายคนหนึ่งมีวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ในตัว ในครั้งรัชกาลของพระชนก ความสว่าง ความเข้าใจ และปัญญา เหมือนปัญญาของพระ ได้มีประจำอยู่ที่ชายคนนี้ และพระราชาเนบูคัดเนสซาร์ พระชนกของฝ่าพระบาท ได้ทรงแต่งตั้งให้เขาเป็นประธานใหญ่ของพวกโหร หมอดู คนเคลเดีย และหมอดูฤกษ์ยาม เพราะว่าดาเนียล ซึ่งพระราชาประทานนามว่าเบลเทชัสซาร์มีวิญญาณเลิศ มีความรู้และความเข้าใจที่จะแก้ความฝัน แก้ปริศนาและแก้ปัญหาต่างๆ บัดนี้ขอทรงเรียกดาเนียลให้เข้ามาเฝ้า แล้วเขาก็จะแปลความหมายถวายฝ่าพระบาท>> เขาจึงนำดาเนียลเข้ามาเฝ้าพระราชา พระราชาตรัสถามดาเนียลว่า <<ท่านคือดาเนียลคนนั้นในพวกที่ถูกกวาดเป็น เชลยมาจากประเทศยูดาห์ ที่พระราชาเสด็จพ่อของเรานำมาจากยูดาห์หรือ เราได้ยินว่าท่านมีวิญญาณของพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ในตัว และท่านมีความสว่าง ความเข้าใจและปัญญาเลิศประจำตัว บัดนี้ เราให้พวกนักปราชญ์ พวกหมอดูมาอ่านข้อความนี้ และแปลความหมายให้เรา แต่เขาแปลความหมายของเรื่องราวนี้ไม่ได้ แต่เราได้ยินว่าท่านให้คำแปลและแก้ปัญหาได้ บัดนี้ถ้าท่านอ่านข้อความและแปลความหมายให้ได้ จะให้ท่านสวมเสื้อสีม่วง และสวมสร้อยคอทองคำ และจะตั้งท่านให้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร>> แล้วดาเนียลกราบทูลพระราชาว่า <<ขอทรงเก็บของพระราชทานไว้กับฝ่าพระบาทเถิด และขอทรงพระราชทานรางวัลแก่ผู้อื่น ฝ่ายข้าพระบาทจะขออ่านข้อเขียนถวาย พระราชาและถวายคำแปลความหมายให้ฝ่าพระบาททรงทราบ ข้าแต่พระราชา พระเจ้าสูงสุดได้ทรงประทานพระราชอาณาจักร ความยิ่งใหญ่ และศักดิ์ศรีและความสูงส่งแด่เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของฝ่าพระบาท และเพราะความยิ่งใหญ่ซึ่ง พระองค์ประทานแก่เนบูคัดเนสซาร์ บรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวง และภาษาทั้งหลายจึงได้สั่นสะท้าน และเกรงขามพระราชบิดา พระองค์จะทรงประหารผู้ใดก็ทรงประหารเสีย หรือทรงให้ผู้ใดดำรงชีวิตอยู่ก็ทรงให้ดำรงชีวิต พระองค์จะทรงแต่งตั้งผู้ใดก็ทรงแต่งตั้ง พระองค์จะทรงกระทำให้ผู้ใดด้อยลงพระองค์ก็ทรงกระทำ แต่เมื่อพระทัยของพระบิดาผยองขึ้น ฝ่ายจิตวิญญาณของพระองค์ก็แข็งกระด้างไป จึงทรงประกอบกิจด้วยความเห่อเหิม พระเจ้าทรงถอดพระองค์จากราชบัลลังก์ และทรงริบศักดิ์ศรีของพระองค์ไปเสีย พระเจ้าทรงขับไล่เนบูคัดเนสซาร์ไปจากมนุษย์ และทรงกระทำให้พระทัยของพระองค์ท่านเป็นเหมือนใจสัตว์ป่า และทรงให้อยู่กับลาป่า ทรงให้หญ้าเสวยเหมือนโค และพระกายของพระองค์ท่านก็เปียกน้ำค้างจากสวรรค์ จนกว่าพระองค์จะรู้สึกว่าพระเจ้าสูงสุด ทรงปกครองราชอาณาจักรของมนุษย์ และทรงแต่งตั้งผู้ที่พระองค์จะทรงแต่งตั้งให้ปกครอง ข้าแต่เบลชัสซาร์ ฝ่าพระบาทเป็นราชโอรส แม้ฝ่าพระบาททรงทราบเช่นนี้แล้วก็มิได้ถ่อมพระทัย แต่ทรงยกองค์ฝ่าพระบาทขึ้นสู้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ และทรงให้นำภาชนะแห่งพระนิเวศของพระองค์มาต่อพระพักตร์ฝ่าพระบาท แล้วฝ่าพระบาท พวกเจ้านายของฝ่าพระบาท พระสนม และนางห้ามของฝ่าบาทก็ดื่มเหล้าองุ่น จากภาชนะเหล่านั้น และฝ่าพระบาททรงสรรเสริญพระที่ทำด้วยเงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งจะดูหรือฟังหรือรู้เรื่องก็ไม่ได้ แต่ฝ่าพระบาทมิได้ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ซึ่งลมปราณของฝ่าพระบาทอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ และทางทั้งสิ้นของฝ่าพระบาทก็ขึ้นอยู่กับพระองค์ <<จึงมีมือซึ่งรับใช้มาจากพระพักตร์ ได้จารึกข้อเขียนนี้ลงไว้ ต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่จารึกไว้ คือ เมเน เมเน เทเคล และ ฟารสิน ต่อไปนี้เป็นคำไขเรื่องราวนั้น เมเน พระเจ้าได้ทรงคำนวณวาระแห่งราชอาณาจักร ของพระองค์ไว้แล้ว และทรงนำราชอาณาจักรนั้นมาถึงสิ้นสุด เทเคล ฝ่าพระบาทได้ถูกชั่งในตราชู ทรงเห็นว่ายังขาดอยู่ เปเรส ราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทถูกแบ่งออกให้แก่คนมีเดีย และคนเปอร์เซีย>> แล้วเบลชัสซาร์ก็ทรงบัญชาและเขาได้ให้ ดาเนียลสวมเสื้อสีม่วง และให้สวมสร้อยคอทองคำ และทรงให้ประกาศเกี่ยวกับเรื่องของท่านว่า ท่านได้เป็นอุปราชตรีในราชอาณาจักร ในคืนวันนั้นเอง เบลชัสซาร์ พระราชาคนเคลเดียก็ทรงถูกประหาร และดาริอัสคนมีเดียก็ทรงรับราชอาณาจักร มีพระชนมายุหกสิบสองพรรษา
ดาเนียล 5:1-31 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
กษัตริย์เบลชัสซาร์ทรงจัดงานเลี้ยงใหญ่ประทานแก่ขุนนางผู้ใหญ่หนึ่งพันคน และทรงเสวยเหล้าองุ่นร่วมกับเขา ขณะเสวยอยู่ก็รับสั่งให้นำภาชนะเงินและทองคำซึ่งเนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาได้ยึดมาจากพระวิหารในเยรูซาเล็มนั้นมาให้กษัตริย์ ขุนนาง มเหสี และเหล่านางสนมใส่เหล้าองุ่น พวกเขาจึงนำภาชนะทองคำซึ่งริบมาจากพระวิหารของพระเจ้าในเยรูซาเล็มมาให้กษัตริย์ ขุนนาง มเหสี และเหล่านางสนมใส่เหล้าองุ่นดื่ม พวกเขาดื่มพร้อมทั้งสรรเสริญเทพเจ้าที่ทำจากทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ทันใดนั้นมีนิ้วมือมนุษย์ปรากฏขึ้นและเขียนบนผนังใกล้คันประทีปในพระราชวัง กษัตริย์ทอดพระเนตรดูมือนั้นเขียนไป พระพักตร์ของพระองค์ก็ซีดเผือด ทรงตกพระทัยจนเข่าสั่นกระทบกัน แข้งขาอ่อนหมดเรี่ยวหมดแรง พระองค์ตรัสเรียกให้นำตัวนักเวทมนตร์ โหราจารย์ และหมอดูฤกษ์ยามทั้งหลายมา และตรัสแก่ปราชญ์ของบาบิโลนเหล่านี้ว่า “ผู้ใดก็ตามอ่านข้อความนี้แล้วบอกเราได้ว่ามีความหมายว่าอะไร เราจะให้ผู้นั้นสวมชุดสีม่วงกับสร้อยคอทองคำ และให้ครองอำนาจเป็นที่สามในราชอาณาจักร” แล้วปราชญ์ทั้งปวงของกษัตริย์ก็มาเข้าเฝ้า แต่ไม่มีใครสามารถอ่านข้อความที่เขียนไว้ หรือทูลให้กษัตริย์ทรงทราบว่าหมายความว่าอะไร ดังนั้นกษัตริย์เบลชัสซาร์จึงยิ่งตกพระทัย และพระพักตร์ยิ่งขาวซีด ขุนนางทั้งปวงก็ว้าวุ่นใจ พระราชินีทรงได้ยินพระสุรเสียงของกษัตริย์และเสียงเหล่าขุนนาง ก็เสด็จเข้ามาในท้องพระโรงซึ่งมีงานเลี้ยงนั้น พระนางตรัสว่า “ข้าแต่กษัตริย์ ขอจงทรงพระเจริญ! อย่าตกพระทัยจนพระพักตร์ซีดเลย! มีชายผู้หนึ่งในราชอาณาจักรซึ่งมีวิญญาณของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์สถิตด้วยในรัชสมัยของพระราชบิดา เราพบว่าชายคนนี้มีสติปัญญา ไหวพริบ และความหยั่งรู้เสมอเหมือนเทพเจ้า กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของพระองค์จึงทรงแต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้านักเล่นอาคม นักเวทมนตร์ โหราจารย์ และหมอดูฤกษ์ยามทั้งปวง ดาเนียลผู้นี้ซึ่งกษัตริย์ตรัสเรียกว่าเบลเทชัสซาร์เป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลม มีความรู้ความเข้าใจ และยังสามารถทำนายฝันแก้ปริศนาและปัญหายุ่งยากทั้งหลาย ขอให้ตามตัวดาเนียลมาเถิด เขาจะสามารถกราบทูลว่าข้อความนี้หมายความว่าอะไร” ดาเนียลจึงถูกนำตัวมาเข้าเฝ้า กษัตริย์ตรัสกับเขาว่า “เจ้าคือดาเนียลเชลยที่ราชบิดาของเรานำตัวมาจากยูดาห์หรือ? เราได้ยินมาว่าวิญญาณของเทพเจ้าอยู่ในตัวเจ้า และเจ้ามีความหยั่งรู้ ไหวพริบ และสติปัญญาล้ำเลิศ เราได้เรียกบรรดาปราชญ์และนักเล่นอาคมให้มาอ่านข้อความนี้และแจ้งความหมายแก่เรา แต่พวกเขาอธิบายความไม่ได้ เราได้ยินมาว่าเจ้าสามารถอธิบายความและแก้ปริศนาอันซับซ้อนซ่อนเงื่อนได้ หากเจ้าสามารถอ่านข้อความนี้และบอกความหมายแก่เราได้ เราจะให้เจ้าสวมชุดสีม่วงและสวมสร้อยคอทองคำ แล้วแต่งตั้งให้เจ้าครองอำนาจเป็นที่สามในราชอาณาจักร” ดาเนียลจึงทูลกษัตริย์ว่า “ขอทรงเก็บของประทานไว้และปูนบำเหน็จแก่ผู้อื่นเถิด อย่างไรก็ดีข้าพระบาทจะอ่านข้อความถวายฝ่าพระบาทและทูลความหมายให้ทรงทราบ “ข้าแต่กษัตริย์ พระเจ้าสูงสุดได้ประทานราชอำนาจ ความยิ่งใหญ่ และเกียรติบารมีแก่เนบูคัดเนสซาร์ราชบิดาของฝ่าพระบาท เนื่องจากฐานะสูงส่งที่พระเจ้าประทานให้พระองค์ มวลประชาชาติและคนทุกภาษาจึงยำเกรงครั่นคร้ามพระองค์ ผู้ที่กษัตริย์ประสงค์ให้ประหารก็จะถูกประหาร ผู้ที่ทรงประสงค์ให้ไว้ชีวิตก็จะรอดชีวิต ทรงให้ยศถาบรรดาศักดิ์หรือถอดถอนผู้ใดตามแต่ชอบพระทัย แต่เมื่อพระทัยของพระองค์เย่อหยิ่งและกำเริบเสิบสาน พระเจ้าจึงทรงปลดพระองค์ออกจากราชบัลลังก์และริบเอาเกียรติบารมีของพระองค์ไป พระองค์ทรงถูกขับไล่จากมวลมนุษย์และได้รับความคิดจิตใจแบบสัตว์ ทรงใช้ชีวิตอยู่กับลาป่า กินหญ้าเหมือนวัว กายตากน้ำค้าง จนกระทั่งทรงเรียนรู้ว่าพระเจ้าสูงสุดทรงครอบครองเหนืออาณาจักรของมนุษย์ทั้งปวง และทรงตั้งผู้ใดก็ได้ตามแต่ชอบพระทัยให้ครองอาณาจักร “ข้าแต่เบลชัสซาร์ แต่ฝ่าพระบาทผู้เป็นโอรสทรงทราบเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ก็ไม่ได้ถ่อมพระทัยลง กลับยกองค์ลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ทรงให้นำภาชนะจากพระวิหารของพระเจ้ามาให้ฝ่าพระบาท ขุนนาง มเหสี และเหล่านางสนมใส่เหล้าองุ่นดื่ม ทรงยกย่องสรรเสริญเทพเจ้าที่ทำจากเงิน ทอง ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก ไม้ และหิน ซึ่งมองอะไรไม่เห็น ฟังอะไรไม่ได้ยิน และไม่เข้าใจ ฝ่าพระบาทไม่ได้เทิดพระเกียรติพระเจ้าผู้กุมชีวิตและวิถีทางทั้งปวงของฝ่าพระบาทไว้ในพระหัตถ์ ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงส่งมือมาเขียนข้อความนั้น “ข้อความนั้นเขียนไว้ว่า เมเน เมเน เทเคล ปาร์ซิน “ความหมายนั้นก็คือ เมเน หมายความว่า พระเจ้าได้ทรงนับวันเวลาแห่งรัชกาลของฝ่าพระบาทไว้และนำมาถึงจุดจบ เทเคล หมายความว่า ฝ่าพระบาทถูกชั่งบนตราชั่งและเบากว่าที่กำหนด เปเรส หมายความว่า ราชอาณาจักรของฝ่าพระบาทถูกแบ่งแยก และยกให้ชาวมีเดียและเปอร์เซีย” แล้วเบลชัสซาร์รับสั่งให้ดาเนียลสวมชุดสีม่วงและสร้อยคอทองคำ แล้วแต่งตั้งให้เป็นผู้ครอบครองอันดับที่สามของราชอาณาจักร ในคืนวันนั้นเองกษัตริย์เบลชัสซาร์ของชาวบาบิโลนก็ถูกปลงพระชนม์ และดาริอัสแห่งมีเดียทรงยึดอาณาจักรบาบิโลนได้ ขณะนั้นดาริอัสทรงมีพระชนมายุ 62 พรรษา