กิจการ 9:18-43

กิจการ 9:18-43 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)

มี​บาง​สิ่ง​ดู​เหมือน​กับ​เกล็ด​ตก​ลง​มา​จาก​ตา​ของ​เซาโล​ทันที และ​เขา​ก็​มอง​เห็น​ได้​อีก​ครั้ง จาก​นั้น​เขา​ก็​ลุก​ขึ้น​มา​เข้า​พิธี​จุ่มน้ำ หลังจาก​กิน​อาหาร​แล้ว เขา​ก็​รู้สึก​ดี​ขึ้น เซาโล​พัก​อยู่​กับ​พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู​ใน​เมือง​ดามัสกัส​หลาย​วัน แล้ว​เขา​ก็​ตรง​รี่​ไป​ที่​ประชุม​ชาว​ยิว เริ่ม​ประกาศ​เรื่อง​ของ​พระเยซู เขา​บอก​ว่า “พระเยซู​เป็น​พระบุตร​ของ​พระเจ้า” ทุก​คน​ที่​ได้ยิน​เซาโล​พูด​อย่าง​นั้น ก็​แปลกใจ​และ​พูด​กัน​ว่า “ไอ้​หมอ​นี่​ไม่​ใช่​หรือ ที่​พยายาม​จะ​ทำลาย​คน​ที่​เชื่อ​เยซู​ที่​เมือง​เยรูซาเล็ม แล้ว​ที่​เขา​มา​ที่​นี่ ก็​เพราะ​ตั้งใจ​จะ​มา​จับ​คน​พวก​นั้น​กลับ​ไป​ให้​กับ​พวก​ผู้นำ​นักบวช​ไม่​ใช่​หรือ” เซาโล​เทศนา​อย่าง​มี​พลัง​มาก​ยิ่ง​ขึ้น​ว่า​พระเยซู​คือ​กษัตริย์​ผู้ยิ่งใหญ่ จน​ทำ​ให้​คน​ยิว​ใน​เมือง​ดามัสกัส​ถึง​กับ​เถียง​ไม่​ออก ต่อมา​หลาย​วัน พวก​ยิว​วางแผน​ที่​จะ​ฆ่า​เซาโล แต่​เซาโล​รู้​แผน​นั้น​เสีย​ก่อน พวก​นั้น​คอย​เฝ้า​อยู่​ที่​ประตู​เมือง​ทั้ง​กลาง​วัน​กลาง​คืน​เพื่อ​จะ​ฆ่า​เซาโล แต่​พวก​ศิษย์​บาง​คน​ที่​เซาโล​เคย​สอน​ได้​พา​เขา​หนี​ไป​ตอน​กลาง​คืน โดย​ให้​เขา​นั่ง​ใน​เข่ง แล้ว​ค่อยๆ​หย่อน​เข่ง​นั้น​ผ่าน​ช่อง​กำแพง​เมือง​ลง​ไป​ข้าง​ล่าง เมื่อ​เซาโล​กลับ​มา​ถึง​เมือง​เยรูซาเล็ม เขา​พยายาม​จะ​เข้า​ร่วม​กับ​พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู แต่​พวก​นั้น​ต่าง​หวาดกลัว เพราะ​ไม่​เชื่อ​ว่า​เซาโล​เป็น​ศิษย์​ของ​พระเยซู​จริง แต่​บารนาบัส​พา​เขา​ไป​พบ​พวก​ศิษย์​เอก และ​อธิบาย​ให้​ฟัง​ว่า ใน​ระหว่าง​ทาง​เซาโล​เจอ​องค์​เจ้า​ชีวิต​ได้​อย่าง​ไร แล้ว​พระองค์​พูด​อะไร​กับ​เซาโล​บ้าง บารนาบัส​ยัง​เล่า​อีก​ว่า ตอน​อยู่​ที่​เมือง​ดามัสกัส​นั้น เซาโล​สอน​เรื่อง​ของ​พระเยซู​ด้วย​ความ​กล้า​ขนาด​ไหน พวก​ศิษย์​ก็​เลย​ยอมรับ​เซาโล​มา​อยู่​ด้วย เขา​ไป​ไหน​มา​ไหน​อย่าง​อิสระ​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม และ​สอน​เรื่อง​ของ​องค์​เจ้า​ชีวิต​อย่าง​กล้าหาญ เขา​พูด​โต้แย้ง​กับ​พวก​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก แต่​พวก​นั้น​กลับ​พยายาม​ที่​จะ​ฆ่า​เขา เมื่อ​พวก​พี่น้อง​รู้​เรื่องนี้​เข้า​ก็​พา​เซาโล​ลง​ไป​ที่​เมือง​ซีซารียา และ​ส่ง​เขา​ต่อ​ไป​ที่​เมือง​ทาร์ซัส จาก​นั้น​หมู่​ประชุม​ของ​พระเจ้า​ทั่ว​ทั้ง​แคว้น​ยูเดีย กาลิลี​และ​สะมาเรีย ก็​อยู่​ใน​ช่วง​เวลา​ที่​สงบสุข และ​มี​กำลัง​เข้มแข็ง​ขึ้น เพราะ​หมู่​ประชุม​ของ​พระเจ้า​มี​ความ​เคารพ​ยำเกรง​องค์​เจ้า​ชีวิต และ​ได้รับ​กำลัง​ใจ​จาก​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์ จึง​ทำ​ให้​มี​คน​ที่​เชื่อ​ใน​พระเยซู​เพิ่ม​มาก​ขึ้น เมื่อ​เปโตร​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​ทุก​หน​ทุก​แห่ง​แล้ว เขา​ได้​ไป​เยี่ยม​คน​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​ที่​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา ที่นั่น​เขา​พบ​ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ไอเนอัส ซึ่ง​เป็น​อัมพาต​นอน​อยู่​บน​ที่นอน​มา​แปด​ปี​แล้ว เปโตร​พูด​กับ​เขา​ว่า “ไอเนอัส พระเยซู​ผู้​เป็น​พระคริสต์​ได้​รักษา​คุณ​แล้ว ลุก​ขึ้น​มา​เก็บ​ที่​นอน​เถอะ” แล้ว​ไอเนอัส​ก็​ลุก​ขึ้น​มา​ทันที เมื่อ​ทุก​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา​และ​เมือง​ชาโรน​เห็น​ไอเนอัส พวก​เขา​ก็​หัน​มา​ติดตาม​องค์​เจ้า​ชีวิต ที่​เมือง​ยัฟฟา มี​ศิษย์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ทาบิธา ตาม​ภาษา​กรีก​เรียกว่า “โดรคัส” เธอ​หมั่น​ทำ​ความ​ดี​อยู่​เสมอ​และ​ให้​ทาน​กับ​คน​ยากจน ใน​ช่วง​นั้น เธอ​ไม่​สบาย​และ​ตาย​ไป พวก​เขา​จึง​อาบน้ำ​ศพ และ​วาง​ร่าง​เธอ​ไว้​ใน​ห้องชั้น​บน​เพื่อ​รอ​จะ​เอา​ไป​ฝัง เมือง​ลิดดา​อยู่​ใกล้​กับ​เมือง​ยัฟฟา เมื่อ​พวก​ศิษย์​ของ​พระเยซู​ได้ยิน​ว่า​เปโตร​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา พวก​เขา​ก็​ส่ง​ชาย​สอง​คน​ไป​อ้อนวอน​เขา​ว่า “ช่วย​มา​กับ​เรา​เร็วๆ​ด้วย​เถิด” เปโตร​จึง​จัด​ของ​และ​เดินทาง​ไป​กับ​พวก​เขา เมื่อ​ไป​ถึง พวก​เขา​ก็​พา​เปโตร​ขึ้น​ไป​ที่​ห้อง​ชั้นบน มี​พวก​แม่ม่าย​ยืน​ร้องไห้​รอบๆ​เปโตร​อยู่ และ​ชี้​ให้​เปโตร​ดู​เสื้อคลุม​และ​เสื้อผ้า​ต่างๆ​ที่​โดรคัส​ทำ​ไว้​ตอน​ที่​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ เปโตร​จึง​ให้​ทุก​คน​ออก​ไป​นอก​ห้อง แล้ว​เขา​ก็​คุก​เข่า​ลง​อธิษฐาน โดย​หัน​หน้า​ไป​ที่​ศพ​แล้ว​พูด​ว่า “ทาบิธา ลุก​ขึ้น” เธอ​ก็​ลืม​ตา​ขึ้น​มา​ทันที และ​เมื่อ​เห็น​เปโตร​เธอ​ก็​ลุก​ขึ้น​นั่ง เปโตร​จึง​ยื่น​มือ​ช่วย​พยุง​เธอ​ลุก​ขึ้น​ยืน จาก​นั้น​ก็​เรียก​พวก​คน​ที่​เป็น​ของ​พระเจ้า​และ​พวก​แม่ม่าย​เข้า​มา และ​ให้​พวก​เขา​เห็น​ว่า​โดรคัส​ฟื้น​จาก​ความตาย​แล้ว เรื่องนี้​รู้​กัน​ไป​ทั่ว​เมือง​ยัฟฟา​ทำ​ให้​มี​คน​มา​ไว้วางใจ​ใน​องค์​เจ้า​ชีวิต​เป็น​จำนวน​มาก เปโตร​อยู่​บ้าน​ของ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง​ใน​เมือง​ยัฟฟา​ต่อ​ไป​อีก​หลาย​วัน

กิจการ 9:18-43 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)

ทันใดนั้นมีอะไรเหมือนเกล็ดหลุดจากตาของเซาโล แล้วท่านก็เห็นได้อีก ท่านจึงลุกขึ้นรับบัพติศมา พอรับประทานอาหารแล้วก็มีกำลังขึ้น เซาโลพักอยู่กับพวกสาวกในเมืองดามัสกัสหลายวัน และท่านก็ไม่ได้รีรอ ท่านเริ่มประกาศเรื่องพระเยซูตามธรรมศาลาต่างๆ ว่า “พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า” คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ประหลาดใจพูดกันว่า “คนนี้ไม่ใช่หรือที่ทำร้ายผู้คนในกรุงเยรูซาเล็มที่อธิษฐานออกพระนามนี้? และเขามาที่นี่ก็เพื่อจับพวกนั้นส่งให้พวกหัวหน้าปุโรหิตไม่ใช่หรือ?” แต่เซาโลยิ่งมีกำลังมากขึ้น และทำให้พวกยิวในเมืองดามัสกัสงงงันด้วยการพิสูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ หลังจากนั้นอีกหลายวัน พวกยิวก็ปรึกษากันว่าจะฆ่าเซาโล แต่แผนการของพวกเขารู้ไปถึงหูของเซาโล พวกเขาคอยเฝ้าที่ประตูเมืองทั้งกลางวันและกลางคืนเพื่อดักฆ่าเซาโล แต่พวกสาวกเอาเซาโลนั่งลงในกระบุงใบใหญ่ตอนกลางคืนแล้วหย่อนท่านลงจากกำแพงเมือง เมื่อเซาโลไปถึงกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ท่านพยายามจะเข้าร่วมกับพวกสาวก แต่เขาทั้งหลายกลัว เพราะไม่เชื่อว่าเซาโลเป็นสาวก แต่บารนาบัสพาท่านไปหาพวกอัครทูต และเล่าให้พวกเขาฟังว่าเซาโลเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ที่ตรัสกับท่านระหว่างทางอย่างไร และท่านประกาศออกพระนามพระเยซูด้วยใจกล้าหาญในเมืองดามัสกัสอย่างไร แล้วเซาโลจึงได้เข้านอกออกในอยู่กับพวกอัครทูตในกรุงเยรูซาเล็ม ประกาศออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจกล้าหาญ ท่านพูดและโต้แย้งกับพวกยิวที่พูดกรีก แต่พวกนั้นพยายามหาทางฆ่าท่านเสีย เมื่อพี่น้องรู้เรื่องนี้ ก็พาท่านลงไปยังเมืองซีซารียา แล้วส่งต่อไปยังเมืองทาร์ซัส เพราะฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรียก็เกิดความสงบสุขและเจริญเติบโต ต่างประพฤติตนด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับการหนุนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกจึงยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะที่เปโตรเดินทางไปๆ มาๆ ทั่วทุกแห่งนั้น ท่านก็ลงไปหาพวกธรรมิกชนที่อาศัยอยู่ในเมืองลิดดาด้วย เปโตรพบคนหนึ่งชื่อไอเนอัสที่นั่น เขาเป็นอัมพาตต้องนอนอยู่บนเตียงมาแปดปีแล้ว เปโตรกล่าวกับเขาว่า “ไอเนอัส พระเยซูคริสต์ทรงให้ท่านหายโรค จงลุกขึ้นเก็บที่นอนของท่านเถิด” ทันใดนั้นไอเนอัสก็ลุกขึ้น เมื่อคนทั้งหลายที่อยู่ในเมืองลิดดาและที่ราบชาโรนเห็นแล้วก็กลับใจมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ในเมืองยัฟฟามีหญิงคนหนึ่งที่เป็นสาวกชื่อทาบิธา ตามภาษากรีกว่าโดรคัส หญิงคนนี้เคยทำคุณประโยชน์และสงเคราะห์คนจนมากมาย เวลานั้นหญิงคนนี้ป่วยจนถึงแก่ความตาย พวกเขาจึงอาบน้ำศพและตั้งไว้ในห้องชั้นบน เมืองลิดดานั้นอยู่ใกล้กับเมืองยัฟฟา เมื่อพวกสาวกได้ยินว่าเปโตรอยู่ที่นั่น จึงใช้คนสองคนไปขอร้องท่านว่า “เชิญมาหาโดยด่วน” เปโตรจึงลุกขึ้นไปกับเขาทั้งสอง เมื่อถึงแล้วพวกเขาก็พาท่านขึ้นไปที่ห้องชั้นบน พวกหญิงม่ายก็ยืนร้องไห้อยู่ข้างๆ ท่านและชี้ให้ท่านดูเสื้อผ้าต่างๆ ที่โดรคัสทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่ เปโตรจึงให้คนทั้งหลายออกไปข้างนอก และคุกเข่าลงอธิษฐาน แล้วหันมายังศพนั้นกล่าวว่า “ทาบิธา จงลุกขึ้น” ทาบิธาก็ลืมตา เมื่อเห็นเปโตรจึงลุกขึ้นนั่ง เปโตรยื่นมือออกมาพยุงเธอ แล้วเรียกพวกธรรมิกชนกับบรรดาแม่ม่ายเข้ามา แล้วมอบหญิงที่มีชีวิตนั้นให้กับพวกเขา เหตุการณ์นั้นลือไปตลอดทั่วเมืองยัฟฟา คนจำนวนมากก็พากันมาเชื่อถือองค์พระผู้เป็นเจ้า เปโตรอาศัยอยู่ในเมืองยัฟฟาหลายวัน โดยพักอยู่กับซีโมนที่เป็นช่างฟอกหนัง

กิจการ 9:18-43 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)

และในทันใดนั้​นม​ีอะไรเหมือนเกล็ดตกจากตาของเซาโล แล้วก็​เห​็นได้​อีก ท่านจึงลุกขึ้​นร​ับบัพติศมา พอรับประทานอาหารแล้​วก​็​มี​กำลังขึ้น เซาโลพักอยู่กับพวกศิษย์ในเมืองดามัสกัสหลายวัน ท่านไม่​ได้​รี​รอท่านประกาศตามธรรมศาลา กล​่าวเรื่องพระคริสต์​ว่า พระองค์​ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า คนทั้งหลายที่​ได้​ยิ​นก​็พากันประหลาดใจแล้​วว​่า “คนนี้​มิใช่​หรือที่​ได้​ทำลายคนในกรุงเยรูซาเล็​มท​ี่ร้องออกพระนามนี้ และเขามาที่​นี่​หวังจะผูกมัดพวกนั้นส่งให้พวกปุโรหิตใหญ่” แต่​เซาโลยิ่​งม​ีกำลังทวี​ขึ้น และทำให้พวกยิวในเมืองดามัสกั​สน​ิ่​งอ​ึ้งอยู่ โดยพิสู​จน​์​ให้​เขาเห็​นว​่า พระเยซู​ทรงเป็นพระคริสต์ ครั้นต่อมาอีกหลายวันพวกยิวได้ปรึกษากันจะฆ่าเซาโลเสีย แต่​เรื่องการปองร้ายของเขารู้ถึงเซาโล เขาทั้งหลายได้เฝ้าประตู​เมือง คอยฆ่าเซาโลทั้งกลางวันกลางคืน แต่​เหล่​าสาวกได้​ให้​เซาโลนั่งในเข่งใหญ่ แล​้วหย่อนลงจากกำแพงเมืองในเวลากลางคืน ครั้นเซาโลไปถึงกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ท่านใคร่จะคบให้​สน​ิทกับพวกสาวก แต่​เขาทั้งหลายกลัว เพราะไม่เชื่อว่าเซาโลเป็นสาวก แต่​บารนาบัสได้​พาท​่านไปหาพวกอัครสาวก แล​้วเล่าให้เขาฟังว่าเซาโลได้​เห​็นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่​กลางทาง และพระองค์ตรัสแก่​ท่าน ท่านจึงประกาศออกพระนามพระเยซูโดยใจกล้าหาญในเมืองดามัสกัส แล​้วเซาโลเข้านอกออกในอยู่กับพวกอัครสาวกในกรุงเยรูซาเล็ม ประกาศออกพระนามของพระเยซู​เจ้​าด้วยใจกล้าหาญ ท่านพูดไล่เลียงกับพวกกรีก แต่​พวกนั้นหาช่องที่จะฆ่าท่านเสีย เมื่อพี่น้องรู้อย่างนั้นจึงพาท่านไปยังเมืองซีซารี​ยา แล​้วส่งไปยังเมืองทาร์ซัส เหตุ​ฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาล​ิลี และสะมาเรีย จึ​งม​ีความสงบสุขและเจริญขึ้น ดำเนินชีวิ​ตด​้วยใจยำเกรงองค์​พระผู้เป็นเจ้า และได้รับความปลอบประโลมใจจากพระวิญญาณบริ​สุทธิ​์ คริสตสมาชิ​กก​็ยิ่งทวี​มากขึ้น ต่อมาเมื่อเปโตรเที่ยวไปตลอดทุกแห่งแล้ว ก็​ลงมาหาพวกวิ​สุทธิ​ชนซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองลิดดาด้วย เปโตรพบชายคนหนึ่งชื่อไอเนอัสที่​นั่น เขาเป็​นอ​ัมพาตอยู่กั​บท​ี่นอนแปดปีมาแล้ว เปโตรจึงกล่าวแก่เขาว่า “ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซู​คริสต์​ทรงโปรดท่านให้หายโรค จงลุกขึ้นเก็​บท​ี่นอนของท่านเถิด” ในทันใดนั้นไอเนอัสได้​ลุกขึ้น ฝ่ายคนทั้งปวงที่​อยู่​ในเมืองลิดดา และที่ราบชาโรนได้​เห​็นแล้วจึงกลับใจมาหาองค์​พระผู้เป็นเจ้า ในเมืองยัฟฟามีหญิงคนหนึ่งเป็นศิษย์ชื่อทาบิธา ซึ่งแปลว่าโดรคัส หญิงคนนี้เคยกระทำการอันเป็นคุณประโยชน์และให้ทานมากมาย ต่อมาระหว่างนั้นหญิงคนนี้​ก็​ป่วยลงจนถึงแก่​ความตาย เขาจึงอาบน้ำศพวางไว้ในห้องชั้นบน เมืองลิดดาอยู่​ใกล้​กับเมืองยัฟฟา พวกสาวกได้ยิ​นว​่าเปโตรอยู่​ที่นั่น จึงใช้ชายสองคนไปหาท่าน เชิญท่านมาหาเขาโดยเร็ว ฝ่ายเปโตรจึงลุกขึ้นไปกับเขา เมื่อถึงแล้วเขาพาท่านขึ้นไปในห้องชั้นบน และบรรดาหญิ​งม​่ายได้ยืนอยู่กั​บท​่านพากั​นร​้องไห้และชี้​ให้​ท่านดูเสื้อคลุมกับเสื้อผ้าต่างๆซึ่งโดรคัสทำเมื่อยั​งม​ี​ชี​วิตอยู่ ฝ่ายเปโตรให้คนทั้งปวงออกไปข้างนอก และได้​คุ​กเข่าลงอธิษฐาน แล​้วหันมายังศพนั้นกล่าวว่า “​ทาบ​ิธาเอ๋ย จงลุกขึ้น” ทาบ​ิธาก็​ลืมตา เมื่อเห็นเปโตรจึงลุกขึ้นนั่ง ฝ่ายเปโตรยื่​นม​ือออกพยุงเธอขึ้น จึงเรียกวิ​สุทธิ​ชนทั้งหลายกับพวกแม่ม่ายเข้ามา แล​้วมอบหญิงที่เป็นขึ้นนั้นให้กับเขาทั้งหลาย เหตุการณ์​นั้นลือไปตลอดทั่วเมืองยัฟฟา คนเป็​นอ​ันมากมาเชื่อถือองค์​พระผู้เป็นเจ้า ต่อมาฝ่ายเปโตรอาศัยอยู่ในเมืองยัฟฟาหลายวัน อยู่​กับคนหนึ่งชื่อซีโมนเป็นช่างฟอกหนัง

กิจการ 9:18-43 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)

และในทันใดนั้นมีอะไรเหมือนเกล็ดตกจากตาของเซาโล แล้วก็เห็นได้อีก ท่านจึงลุกขึ้นรับบัพติศมา พอรับประทานอาหารแล้วก็มีกำลังขึ้น เซาโลพักอยู่กับพวกศิษย์ในเมืองดามัสกัสหลายวัน ท่านไม่ได้รีรอ ท่านประกาศตามธรรมศาลา กล่าวเรื่องพระเยซูว่า <<พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า>> คนทั้งหลายที่ได้ยินก็พากันประหลาดใจ แล้วว่า <<คนนี้มิใช่หรือที่ได้ทำร้ายคนในกรุงเยรูซาเล็ม ที่อธิษฐานออกพระนามนี้ และเขามาที่นี่หวังจะผูกมัดพวกนั้นส่งให้พวกมหาปุโรหิต>> แต่เซาโลยิ่งมีกำลังทวีขึ้น และทำให้พวกยิวในเมืองดามัสกัสนิ่งอั้นอยู่ โดยพิสูจน์ให้เขาเห็นแน่ว่า พระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ ครั้นต่อมาอีกหลายวัน พวกยิวได้ปรึกษากันจะฆ่าเซาโลเสีย แต่เรื่องการปองร้ายของเขารู้ถึงเซาโล เขาทั้งหลายได้เฝ้าประตูเมือง คอยฆ่าเซาโลทั้งกลางวันกลางคืน แต่เหล่าสาวกได้ให้เซาโลนั่งในเข่งใหญ่ แล้วหย่อนลงจากกำแพงเมืองในเวลากลางคืน ครั้นเซาโลไปถึงกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ท่านใคร่จะคบให้สนิทกับพวกสาวก แต่เขาทั้งหลายกลัว เพราะไม่เชื่อว่าเซาโลเป็นสาวก แต่บารนาบัสได้พาท่านไปหาพวกอัครทูต และเล่าให้เขาฟังว่า เซาโลได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าที่กลางทาง และพระองค์ตรัสแก่ท่าน ท่านจึงประกาศออกพระนามพระเยซู ด้วยใจกล้าหาญในเมืองดามัสกัส แล้วเซาโลเข้านอกออกใน อยู่กับพวกอัครทูตในกรุงเยรูซาเล็ม ประกาศออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยใจกล้าหาญ ท่านพูดและไล่เลียงกับพวกที่นิยมกรีก แต่พวกนั้นหาช่องที่จะฆ่าท่านเสีย เมื่อพี่น้องรู้อย่างนั้น จึงพาท่านไปยังเมืองซีซารียา แล้วส่งไปยังเมืองทาร์ซัส เหตุฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรียจึงมีความสงบสุขและเจริญขึ้น ประพฤติตนด้วยใจยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า และด้วยรับความหนุนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกก็ยิ่งทวีมากขึ้น เมื่อเปโตรเที่ยวไปตลอดทุกแห่งแล้ว ก็ลงมาหาพวกวิสุทธิชนซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองลิดดาด้วย เปโตรพบคนหนึ่งชื่อไอเนอัสที่นั่น เขาเป็นอัมพาตนอนอยู่กับที่นอนแปดปีมาแล้ว เปโตรจึงกล่าวแก่เขาว่า <<ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซูคริสต์ทรงโปรดท่านให้หายโรคได้ จงลุกขึ้นเก็บที่นอนของท่านเถิด>> ในทันใดนั้นไอเนอัสได้ลุกขึ้น ฝ่ายคนทั้งปวงที่อยู่ในเมืองลิดดาและที่ราบชาโรน เห็นแล้วจึงกลับใจมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ในเมืองยัฟฟามีหญิงคนหนึ่งเป็นศิษย์ ชื่อทาบิธา ตามภาษากรีกว่าโดรคัสแปลว่าเนื้อสมัน หญิงคนนี้เคยกระทำการอันเป็นคุณประโยชน์และให้ทานมามากแล้ว ระหว่างนั้นหญิงคนนี้ก็ป่วยลงจนถึงแก่ความตาย เขาจึงอาบน้ำศพวางไว้ในห้องชั้นบน เมืองลิดดาอยู่ใกล้กับเมืองยัฟฟา พวกสาวกได้ยินว่าเปโตรอยู่ที่นั่น จึงใช้คนสองคนไปเชิญชวนว่า <<เชิญมาหาโดยเร็ว>> ฝ่ายเปโตรจึงลุกขึ้นไปกับเขา เมื่อถึงแล้วเขาพาท่านขึ้นไปในห้องชั้นบน และบรรดาหญิงม่ายได้ยืนอยู่กับท่านพากันร้องไห้ และชี้ให้ท่านดูเสื้อผ้าต่างๆซึ่งโดรคัสทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ฝ่ายเปโตรให้คนทั้งปวงออกไปข้างนอก และได้คุกเข่าลงอธิษฐาน แล้วหันมายังศพนั้นกล่าวว่า <<ทาบิธาเอ๋ย จงลุกขึ้น>> ทาบิธาก็ลืมตา เมื่อเห็นเปโตรจึงลุกขึ้นนั่ง ฝ่ายเปโตรยื่นมือออกพยุงเธอขึ้น จึงเรียกวิสุทธิชนทั้งหลาย กับพวกแม่ม่ายเข้ามา แล้วมอบหญิงที่เป็นขึ้นนั้นให้กับเขาทั้งหลาย เหตุการณ์นั้นลือไปตลอดทั่วเมืองยัฟฟา คนเป็นอันมากพากันมาเชื่อถือองค์พระผู้เป็นเจ้า ฝ่ายเปโตรอาศัยอยู่ในเมืองยัฟฟาหลายวัน อยู่กับคนหนึ่งชื่อซีโมนเป็นช่างฟอกหนัง

กิจการ 9:18-43 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

ทันใดนั้นมีบางอย่างเหมือนเกล็ดหล่นจากตาของเซาโลและเขาก็มองเห็นได้อีก เขาจึงลุกขึ้นและรับบัพติศมา หลังจากรับประทานอาหารแล้วเขาก็กลับมีกำลังขึ้น เซาโลพักอยู่กับพวกสาวกในเมืองดามัสกัสหลายวัน เขาเริ่มเทศนาในธรรมศาลาต่างๆ ทันทีว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ทุกคนที่ได้ยินก็ประหลาดใจและพูดกันว่า “ชายคนนี้ไม่ใช่หรือที่ทำลายล้างบรรดาผู้ที่ร้องออกพระนามนี้ในกรุงเยรูซาเล็ม? และเขามาที่นี่ก็เพื่อจับคนพวกนั้นเป็นนักโทษส่งให้หัวหน้าปุโรหิตไม่ใช่หรือ?” กระนั้นเซาโลก็ยิ่งเข้มแข็งขึ้นและทำให้ชาวยิวในเมืองดามัสกัสจนปัญญาโดยพิสูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ หลายวันผ่านไปพวกยิวคบคิดกันจะฆ่าเขา แต่เซาโลล่วงรู้แผนการของพวกเขา พวกยิวเฝ้าอยู่ที่ประตูเมืองทั้งวันทั้งคืนเพื่อจะฆ่าเขา แต่ศิษย์ของเซาโลพาเขาออกมาตอนกลางคืนโดยให้เขาซุกตัวในเข่งแล้วหย่อนลงมาจากช่องกำแพงเมือง เมื่อเซาโลมาถึงเยรูซาเล็มก็พยายามเข้าร่วมกับเหล่าสาวกแต่เขาเหล่านั้นล้วนกลัวเซาโลไม่เชื่อว่าเขาเป็นสาวกจริงๆ แต่บารนาบัสพาเขาไปพบเหล่าอัครทูตและเล่าให้ฟังว่าที่กลางทางเซาโลได้เห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ตรัสกับเขาอย่างไร และเขาได้เทศนาที่เมืองดามัสกัสในพระนามของพระเยซูโดยไม่เกรงกลัวอย่างไรบ้าง ดังนั้นเซาโลจึงได้พักกับพวกเขาและเข้านอกออกในอย่างอิสระในกรุงเยรูซาเล็มและกล่าวในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความอาจหาญ เขาพูดและโต้แย้งกับพวกยิวผู้ถือธรรมเนียมกรีกแต่พวกนั้นพยายามจะฆ่าเขา เมื่อพวกพี่น้องทราบเรื่องจึงพาเซาโลมายังเมืองซีซารียาและส่งไปเมืองทาร์ซัส จากนั้นคริสตจักรทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรียจึงมีสันติสุข คริสตจักรได้รับการเสริมสร้างขึ้นและเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาดำเนินชีวิตด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและได้รับการปลอบโยนโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขณะเปโตรเดินทางไปยังที่ต่างๆ เขาได้ไปเยี่ยมประชากรของพระเจ้าในเมืองลิดดา ที่นั่นเขาพบชายคนหนึ่งชื่อไอเนอัสนอนเป็นอัมพาตมาแปดปี เปโตรกล่าวกับเขาว่า “ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซูคริสต์ทรงรักษาท่าน จงลุกขึ้นเก็บที่นอนเถิด” ทันใดนั้นไอเนอัสก็ลุกขึ้น คนทั้งปวงในเมืองลิดดาและในที่ราบชาโรนเห็นแล้วก็กลับใจมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า ในเมืองยัฟฟามีสาวกคนหนึ่งชื่อทาบิธา (ซึ่งแปลว่า โดรคัส) ซึ่งประกอบคุณงามความดีและช่วยเหลือผู้ยากไร้อยู่เสมอ ระหว่างนั้นนางล้มป่วยและเสียชีวิต ร่างของนางได้รับการชำระและวางอยู่ในห้องชั้นบน เมืองลิดดาอยู่ใกล้กับเมืองยัฟฟา ฉะนั้นเมื่อพวกสาวกได้ข่าวว่าเปโตรอยู่ในเมืองลิดดาจึงส่งชายสองคนมาหาเขาและรบเร้าว่า “ขอโปรดมาในทันที!” เปโตรมากับคนทั้งสอง เมื่อมาถึงพวกเขาก็พาเปโตรขึ้นไปยังห้องชั้นบนนั้น บรรดาหญิงม่ายมาห้อมล้อมเปโตร ร้องไห้ และให้เขาดูเสื้อผ้าต่างๆ ที่โดรคัสทำให้ขณะยังมีชีวิตอยู่ เปโตรให้คนทั้งปวงออกไปจากห้องแล้วคุกเข่าลงอธิษฐาน เขาหันมาทางหญิงผู้ตายและกล่าวว่า “ทาบิธาเอ๋ย ลุกขึ้นเถิด” นางก็ลืมตา เมื่อเห็นเปโตรนางก็ลุกขึ้นนั่ง เขาจึงจับมือนางพยุงให้ยืนขึ้นแล้วเรียกบรรดาผู้เชื่อและพวกหญิงม่ายนั้นมามอบหญิงซึ่งเป็นขึ้นนั้นให้พวกเขา เรื่องนี้แพร่ไปทั่วเมืองยัฟฟาและคนเป็นอันมากได้มาเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า เปโตรพักอยู่กับซีโมนช่างฟอกหนังในเมืองยัฟฟาระยะหนึ่ง

กิจการ 9:18-43 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)

ใน​ทันใด​นั้น มี​สิ่ง​หนึ่ง​คล้าย​เกล็ด​หลุด​จาก​ตา​ของ​เซาโล จึง​ทำ​ให้​ท่าน​สามารถ​มอง​เห็น​ได้​อีก เซาโล​จึง​ลุก​ขึ้น​และ​รับ​บัพติศมา และ​หลัง​จาก​ที่​ได้​รับ​ประทาน​อาหาร​แล้ว​ท่าน​ก็​มี​กำลัง​ขึ้น เซาโล​อยู่​กับ​พวก​สาวก​ใน​เมือง​ดามัสกัส​เป็น​เวลา​หลาย​วัน ท่าน​ประกาศ​ที่​ศาลา​ที่​ประชุม​ต่างๆ ทันที​ว่า พระ​เยซู​เป็น​พระ​บุตร​ของ​พระ​เจ้า ทุก​คน​ที่​ได้ยิน​พา​กัน​ประหลาด​ใจ​และ​ถาม​ว่า “ชาย​คน​นี้​พยายาม​ทำลาย​คน​ที่​ร้อง​เรียก​นาม​นี้​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม​มิ​ใช่​หรือ และ​มา​ที่​นี่​เพื่อ​จับ​กุม​คน​ไป​ให้​พวก​มหา​ปุโรหิต​มิ​ใช่​หรือ” อย่างไร​ก็​ดี การ​ประกาศ​ของ​เซาโล​เป็น​ที่​น่า​เชื่อ​ยิ่ง​ขึ้น จน​ชาว​ยิว​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​ดามัสกัส​ฉงน​ใจ ด้วย​การ​พิสูจน์​ที่​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​คริสต์ หลาย​วัน​ต่อ​มา ชาว​ยิว​จึง​คบคิด​กัน​จะ​ฆ่า​เซาโล แต่​ว่า​เซาโล​กลับ​ทราบ​ถึง​แผน​การ​นั้น ตลอด​ทั้ง​วัน​ทั้ง​คืน​ที่​คน​เหล่า​นั้น​คอย​เฝ้า​ดู​ตาม​ประตู​เมือง​เพื่อ​หา​โอกาส​ฆ่า​เซาโล แต่​เหล่า​สาวก​พา​ท่าน​ไป​นั่ง​ลง​ใน​เข่ง แล้ว​หย่อน​ลง​ออก​ทาง​ช่อง​กำแพง​เมือง​ใน​เวลา​กลาง​คืน เมื่อ​ท่าน​มา​ถึง​เมือง​เยรูซาเล็ม​ก็​พยายาม​ที่​จะ​สมาคม​กับ​พวก​สาวก แต่​พวก​เขา​หวาด​กลัว​และ​ไม่​เชื่อ​ว่า​ท่าน​เป็น​สาวก​ที่​แท้​จริง บาร์นาบัส​จึง​พา​เซาโล​ไป​หา​พวก​อัครทูต แล้ว​เล่า​เรื่อง​ของ​ท่าน​ว่า ระหว่าง​ทาง​ที่​เซาโล​ไป​ยัง​เมือง​ดามัสกัส ก็​เห็น​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​และ​พระ​องค์​ได้​กล่าว​กับ​ท่าน และ​ท่าน​ได้​ประกาศ​ใน​พระ​นาม​ของ​พระ​เยซู​ด้วย​ใจ​กล้าหาญ​ใน​เมือง​ดามัสกัส ดังนั้น​เซาโล​จึง​เข้า​นอก​ออก​ใน​อยู่​กับ​พวก​เขา​ใน​เมือง​เยรูซาเล็ม ได้​พูด​ด้วย​ใจ​กล้าหาญ​โดย​อ้าง​พระ​นาม​ของ​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ท่าน​สนทนา​และ​โต้​ตอบ​กับ​กลุ่ม​ชาว​ยิว​ที่​พูด​ภาษา​กรีก แม้​กระนั้น​พวก​เขา​ก็​พยายาม​จะ​ฆ่า​ท่าน เมื่อ​พวก​พี่​น้อง​ทราบ​เรื่อง​นี้​ก็​ได้​พา​ท่าน​ลง​ไป​ยัง​เมือง​ซีซารียา เพื่อ​ให้​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป​ยัง​เมือง​ทาร์ซัส จาก​นั้น​คริสตจักร​ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย กาลิลี​และ​สะมาเรีย​ก็​สงบ​สุข​ขึ้น เพราะ​ได้​รับ​กำลัง​ใจ​และ​การ​ปลอบ​ประโลม​โดย​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ ผู้​ที่​เชื่อ​มี​จำนวน​เพิ่ม​มาก​ขึ้น และ​คริสตจักร​อยู่​กัน​ด้วย​ความ​เกรง​กลัว​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ขณะ​ที่​เปโตร​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​แคว้น​นั้น ก็​ได้​ไป​เยี่ยม​เยียน​บรรดา​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระ​เจ้า​ใน​เมือง​ลิดดา​ด้วย และ​ที่​นั่น​เอง​ท่าน​ได้​พบ​ไอเนอัส​ชาย​อัมพาต​ที่​นอน​อยู่​เป็น​เวลา 8 ปี เปโตร​พูด​กับ​เขา​ว่า “ไอเนอัส​เอ๋ย พระ​เยซู​คริสต์​เป็น​ผู้​ที่​รักษา​ท่าน​ให้​หาย​ขาด จง​ลุก​ขึ้น​เก็บ​เสื่อ​ของ​ท่าน​เถิด” ทันใด​นั้น​ไอเนอัส​ก็​ลุก​ขึ้น ทุก​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา​และ​ที่​ราบ​ชาโรน​เห็น​เขา​แล้ว ก็​หัน​มา​เชื่อ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า ใน​เมือง​ยัฟฟา​มี​สาวก​ผู้​หนึ่ง​ชื่อ​ทาบิธา ใน​ภาษา​กรีก​เรียก​ว่า​โดรคัส เธอ​มัก​จะ​ประกอบ​คุณ​งาม​ความ​ดี​และ​ช่วยเหลือ​คน​จน​เสมอ ใน​เวลา​นั้น​เธอ​ล้ม​เจ็บ​และ​เสีย​ชีวิต​ไป ร่าง​ของ​เธอ​ได้​รับ​การ​ชำระ​ล้าง​และ​วาง​ไว้​ใน​ห้อง​ชั้น​บน เนื่อง​จาก​เมือง​ลิดดา​อยู่​ใกล้​กับ​เมือง​ยัฟฟา เมื่อ​พวก​สาวก​ทราบ​ว่า​เปโตร​อยู่​ใน​เมือง​ลิดดา​จึง​ส่ง​ชาย 2 คน​ไป​อ้อนวอน​ว่า “โปรด​มา​โดย​เร็ว” เปโตร​จึง​มา​กับ​ชาย 2 คน​นั้น​ซึ่ง​พา​ท่าน​ขึ้น​ไป​ที่​ห้อง​ชั้น​บน บรรดา​หญิง​ม่าย​ได้​มา​ยืน​ร้องไห้​อยู่​ข้างๆ ท่าน ให้​ท่าน​ดู​เสื้อ​คลุม​และ​เสื้อ​ผ้า​ที่​โดรคัส​ได้​ทำ​ไว้​เมื่อ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่ เปโตร​ให้​ทุก​คน​ออก​ไป​จาก​ห้อง​แล้ว ท่าน​ก็​คุกเข่า​ลง​อธิษฐาน ครั้น​แล้ว​ก็​หัน​ไป​ทาง​หญิง​ผู้​ตาย​และ​พูด​ว่า “ทาบิธา​เอ๋ย จง​ลุก​ขึ้น​เถิด” เธอ​ลืม​ตา​ขึ้น​เห็น​เปโตร​แล้ว​ก็​ลุก​ขึ้น​นั่ง ท่าน​ช่วย​พยุง​เธอ​ให้​ลุก​ขึ้น เรียก​ผู้​ที่​เชื่อ​และ​พวก​หญิง​ม่าย​มา เพื่อ​มอบ​ทาบิธา​ที่​ฟื้น​ขึ้น​มา​ให้​กับ​พวก​เขา เรื่อง​นี้​ได้​เป็น​ที่​เล่าลือ​กัน​ไป​ทั่ว​เมือง​ยัฟฟา ผู้​คน​จำนวน​มาก​ได้​เชื่อ​ใน​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า เปโตร​ได้​พัก​อยู่​กับ​ซีโมน​ช่าง​ฟอก​หนัง​ใน​เมือง​ยัฟฟา​ชั่ว​ระยะ​หนึ่ง