2 เธสะโลนิกา 3:7-9
2 เธสะโลนิกา 3:7-9 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
เพราะพวกคุณก็รู้ว่าควรจะทำตามเรา ตอนที่อยู่กับคุณเราไม่ได้ขี้เกียจหลังยาวเลย เราไม่เคยกินของใครฟรีๆ เราได้ทำงานหนัก อาบเหงื่อต่างน้ำทั้งวันทั้งคืน เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระให้กับใคร จริงๆแล้วเรามีสิทธิ์ที่จะขอความช่วยเหลือจากพวกคุณ แต่เราอยากจะทำตัวเป็นแบบอย่างให้คุณทำตาม
2 เธสะโลนิกา 3:7-9 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
เพราะตัวท่านเองก็รู้อยู่ว่า ควรจะเอาอย่างเรา เราไม่ได้เกียจคร้านเลยเมื่ออยู่ท่ามกลางพวกท่าน และเราไม่เคยกินอาหารของใครโดยไม่จ่ายเงิน แต่เราได้ทำงานหนักด้วยความพากเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อจะไม่เป็นภาระแก่ใครในพวกท่าน ไม่ใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ์ แต่เพื่อทำตัวเป็นแบบอย่างให้ท่านทำตาม
2 เธสะโลนิกา 3:7-9 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
เพราะว่าตัวท่านเองก็รู้อยู่ว่าท่านควรจะทำตามเราอย่างไร เพราะเรามิได้ประพฤติเกะกะเลยเมื่อเราอยู่ในหมู่พวกท่าน และเรามิได้ทานอาหารผู้ใดเปล่าๆ แต่เราได้ทำการหนักด้วยความพากเพียรทั้งกลางคืนและกลางวัน เพื่อเราจะไม่เป็นภาระแก่คนหนึ่งคนใดในพวกท่าน มิใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ์ แต่ว่าเพื่อทำตัวเป็นแบบอย่างให้ท่านทั้งหลายทำตามเรา
2 เธสะโลนิกา 3:7-9 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
เพราะว่าตัวท่านเองก็รู้อยู่ว่า ท่านควรจะเอาอย่างเรา เรามิได้เกียจคร้านเลยเมื่อเราอยู่ในหมู่พวกท่าน และเรามิได้รับอาหารจากมือผู้ใดเป็นของกำนัล แต่เราได้ทำการหนักด้วยความพากเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อจะไม่เป็นภาระแก่คนหนึ่งคนใดในพวกท่าน มิใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ์ แต่ว่าเพื่อทำตัวเป็นแบบอย่างให้ท่านทั้งหลายทำตาม
2 เธสะโลนิกา 3:7-9 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
เพราะท่านเองย่อมทราบว่าควรทำตามแบบอย่างของเรา เมื่อเราอยู่กับท่านเราไม่ได้เกียจคร้านเลย ทั้งไม่ได้รับเลี้ยงจากใครโดยไม่ตอบแทน ในทางตรงกันข้ามเราทำงานหามรุ่งหามค่ำ ลงแรงตรากตรำเพื่อจะไม่เป็นภาระแก่ใครๆ ในพวกท่าน ที่เราทำไปเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือเหล่านั้น แต่เพื่อทำตนเป็นแบบอย่างให้ท่านปฏิบัติตาม