1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51
1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51 พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย (THA-ERV)
ซาโลมอนได้ใช้เวลาถึงสิบสามปีในการสร้างวังของเขา เขายังได้สร้างตึกที่มีชื่อเรียกว่า “ป่าของเลบานอน” ขึ้นมา ตึกแห่งนี้มีความยาวหนึ่งร้อยศอก กว้างห้าสิบศอก และสูงสามสิบศอก โดยมีเสา ที่ทำจากไม้สนซีดาร์สี่แถว ที่ปลายเสาแต่ละต้น จะมียอดเสาที่ทำจากไม้สนซีดาร์รองรับเพดานอยู่ มีคานที่ทำจากไม้สนซีดาร์พาดขวางอยู่ เสาแต่ละแถวมีคานพาดอยู่สิบห้าต้น รวมทั้งหมดสี่สิบห้าต้น บนคานพวกนี้ มีกระดานไม้สนซีดาร์มุงเป็นหลังคาอยู่ ที่ผนังด้านข้างของทั้งสองด้าน มีหน้าต่างเรียงกันอยู่สามแถว ตั้งอยู่ตรงข้ามกันพอดี ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ต่างก็มีสามประตู และมีกรอบประตูเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้านเท่า ซาโลมอนได้สร้างระเบียงที่เรียกว่า “ระเบียงเสา” มีความยาวห้าสิบศอก กว้างสามสิบศอก ที่ด้านหน้าของระเบียงมีหลังคาปิด ซึ่งมีพวกเสารองรับอยู่ พระองค์ได้สร้างห้องบัลลังก์ที่พระองค์จะใช้ในการตัดสินคดี ห้องนั้นเรียกว่า “หอพิพากษา” ห้องนั้นบุไปด้วยไม้สนซีดาร์ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน หลังหอพิพากษานี้ก็มีลาน วังที่ซาโลมอนพักอยู่สร้างล้อมรอบลานนั้น ลักษณะของวังนั้นจะเหมือนกับหอพิพากษา เขายังสร้างวังอย่างเดียวกันนี้ให้กับภรรยาของเขาที่เป็นลูกสาวของกษัตริย์ฟาโรห์แห่งอียิปต์ด้วย ตึกทั้งหมดเหล่านี้สร้างด้วยหินราคาแพง หินเหล่านี้ถูกตัดตามขนาดที่ต้องการด้วยเลื่อยและทำให้เรียบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หินราคาแพงเหล่านี้ใช้ทำตั้งแต่ฐานรากขึ้นไปจนถึงยอดของกำแพง สิ่งก่อสร้างทั้งหมดเหล่านี้ จากข้างนอกเข้าไปจนถึงลานใหญ่และจากฐานขึ้นไปจนถึงหลังคา แม้แต่กำแพงรอบๆลานก็สร้างขึ้นด้วยหินราคาแพงเหล่านี้ พวกฐานรากทั้งหลายถูกสร้างขึ้นด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ราคาแพง บางก้อนมีขนาดยาวถึงสิบศอก และบางก้อนก็มีขนาดยาวถึงแปดศอก แล้วบนหินเหล่านั้นก็ยังมีหินอื่นๆที่มีราคาแพงและไม้คานที่ทำจากไม้สนซีดาร์ด้วย มีพวกกำแพงล้อมรอบลานของวัง ของวิหารและระเบียงของวิหาร กำแพงเหล่านี้ สร้างด้วยหินสองชั้น และท่อนไม้สนซีดาร์อีกหนึ่งชั้น กษัตริย์ซาโลมอนได้ส่งคนไปที่เมืองไทระ เพื่อไปนำตัวชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าฮูราม มาที่เมืองเยรูซาเล็ม แม่ของฮูราม เป็นชาวอิสราเอลจากเผ่านัฟทาลี พ่อของเขาที่ตายไปแล้วมาจากเมืองไทระ ฮูรามเป็นช่างทองสัมฤทธิ์ ฮูรามมีความเชี่ยวชาญมากและมีประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวกับทองสัมฤทธิ์ทุกประเภท เขาได้มาหากษัตริย์ซาโลมอนและได้ทำงานทั้งหมดตามที่ได้รับมอบหมายมา เขาหล่อเสาทองสัมฤทธิ์ขึ้นสองต้นสำหรับระเบียง แต่ละต้นสูงสิบแปดศอก และมีขนาดโดยรอบสิบสองศอก เสานี้กลวง และมีเนื้อเหล็กหนาหนึ่งฝ่ามือ เขายังได้ทำหัวเสาทองสัมฤทธิ์สองอัน เพื่อไปวางไว้บนยอดเสาสองต้นนั้น หัวเสาแต่ละอันสูงห้าศอก มีตาข่ายที่ทำขึ้นจากโซ่ผูกห้อยบนหัวเสาทั้งสองต้น เขาได้หล่อลูกทับทิมขึ้นเป็นแถวสองแถวล้อมรอบหัวเสานั้น เขาเอาลูกทับทิมทองสัมฤทธิ์เหล่านั้นทับตาข่ายแต่ละอัน เพื่อปิดหัวเสาที่อยู่บนยอดเสาแต่ละต้น หัวเสาที่อยู่บนยอดเสาทำขึ้นเป็นรูปดอกไม้ หัวเสาที่อยู่บนยอดเสาเหนือตาข่ายที่ห้อยลงมาเป็นรูปชาม ลูกทับทิมสองร้อยลูกห้อยอยู่เป็นแถวล้อมรอบหัวเสา ฮูรามตั้งเสาทองสัมฤทธิ์คู่นั้นไว้ที่หน้าระเบียงของวิหาร เขาตั้งชื่อเสาที่ตั้งอยู่ทางด้านซ้าย ว่ายาคีนและตั้งชื่อเสาที่ตั้งอยู่ทางด้านขวา ว่าโบอาส หัวเสาที่อยู่บนยอดของเสาเหล่านั้นมีรูปร่างเหมือนดอกไม้ แล้วงานก่อสร้างเสาเหล่านั้นก็ได้เสร็จสิ้นลง ฮูรามได้หล่อขันทะเล ขึ้นจากเหล็กหล่อ มีรูปร่างเป็นวงกลมวัดความกว้างจากขอบด้านหนึ่งไปถึงอีกด้านหนึ่งได้สิบศอก และสูงห้าศอก มีความยาวโดยรอบสามสิบศอก ที่ใต้ขอบของขันทะเลนั้น ฮูรามได้หล่อน้ำเต้าขึ้นสองแถวล้อมรอบขันทะเลนั้น หล่อเป็นเนื้อเดียวกันกับขันทะเลนั้น ขันทะเลนั้นตั้งอยู่บนวัวตัวผู้สิบสองตัว มีสามตัวหันหน้าไปทางทิศเหนือ สามตัวหันหน้าไปทางทิศตะวันตก อีกสามตัวหันไปทางทิศใต้และสามตัวที่เหลือหันไปทางทิศตะวันออก ขันทะเลนั้นวางอยู่บนตัวพวกมัน ส่วนหางของพวกมันหันเข้าหากันอยู่ด้านใน ขันทะเลนี้มีความหนาหนึ่งฝ่ามือ และที่ขอบของมันมีลักษณะเหมือนขอบของถ้วยน้ำคือเป็นเหมือนดอกลิลลี่ที่บานออก ขันนี้สามารถเก็บน้ำได้สี่หมื่นสี่พันลิตร เขายังได้สร้างรถเข็นสิบคันจากทองสัมฤทธิ์ แต่ละคันยาวสี่ศอก กว้างสี่ศอกและสูงสามศอก ต่อไปนี้คือวิธีสร้างรถเข็นเหล่านั้น พวกมันมีแผงสี่เหลี่ยมด้านเท่าฝังอยู่ในโครง บนแผงและโครงเหล่านั้นมีพวกรูปสิงห์ พวกรูปวัวตัวผู้ และรูปทูตสวรรค์มีปีก แกะสลักอยู่ ทั้งด้านบนและด้านล่างของบรรดารูปสิงห์และรูปวัวตัวผู้เหล่านั้นมีลายมาลัยดอกไม้ที่ใช้ค้อนทำขึ้น รถเข็นแต่ละคันมีล้อสี่ล้อ ทั้งล้อและเพลาทำขึ้นจากทองสัมฤทธิ์ และบนรถเข็นจะมีอ่างน้ำหนึ่งใบวางอยู่บนที่รองรับตรงมุมทั้งสี่ ที่รองรับแต่ละอันทำจากทองสัมฤทธิ์ และมีลวดลายมาลัยดอกไม้ตอกอยู่ มีโครงด้านบน ซึ่งมีช่องสำหรับชามใหญ่ โครงนั้นสูงหนึ่งศอก ช่องเปิดนี้มีลักษณะกลม วัดขนาดที่ฐานได้กว้างหนึ่งศอกครึ่ง และมีการแกะสลักลวดลายไว้โดยรอบช่องเปิดนั้น โครงนั้นสี่เหลี่ยมไม่กลม มีล้อสี่ล้ออยู่ใต้โครงนั้น และเพลาของล้อเหล่านั้นเชื่อมติดเข้ากับแท่น ล้อแต่ละล้อมีเส้นผ่าศูนย์กลางหนึ่งศอกครึ่ง ลักษณะของล้อเหมือนกับล้อของรถรบ ทั้งเพลา วงล้อ ซี่ล้อและดุมล้อ ล้วนหล่อขึ้นจากเหล็กสัมฤทธิ์ รถเข็นแต่ละคันมีที่รองรับอยู่ตรงมุมทั้งสี่ ที่รองรับนี้เป็นเนื้อเดียวกันกับรถเข็นนั้น ด้านบนของรถเข็นมีขอบทองสัมฤทธิ์สูงครึ่งศอกล้อมรอบเป็นเนื้อเดียวกันกับรถเข็น ฮูรามได้แกะสลักลายพวกทูตสวรรค์มีปีก พวกสิงห์และพวกต้นปาล์มมากมายลงบนพื้นผิวของที่รองรับและบนแผงเหล่านั้น ที่ไหนมีช่องว่างเขาก็จะแกะลายพวงมาลัยไว้จนทั่ว นี่คือวิธีที่เขาสร้างรถเข็นทั้งสิบคัน รถเข็นเหล่านี้หล่อขึ้นจากแม่พิมพ์อันเดียวกันจึงมีรูปร่างและขนาดเหมือนกันหมด แล้วฮูรามก็ได้ทำอ่างน้ำทองสัมฤทธิ์ขึ้นสิบอ่าง แต่ละอ่างจุน้ำได้แปดร้อยแปดสิบลิตร แต่ละอ่างกว้างสี่ศอก วางอยู่บนรถเข็น รถเข็นละหนึ่งใบ เขาวางรถเข็นห้าคันไว้ทางด้านใต้ของวิหารและอีกห้าคันไว้ทางด้านเหนือ เขาวางขันทะเลไว้ทางด้านใต้ที่มุมทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวิหาร เขายังได้ทำหม้ออีกหลายใบ รวมทั้งทัพพีและชามประพรม แล้วฮูรามก็ได้ทำงานทุกอย่างภายในวิหารของพระยาห์เวห์ที่กษัตริย์ได้สั่งเขาไว้จนเสร็จสิ้นลง นั่นก็คือ เสาสองต้น หัวเสาสองอันที่มีรูปร่างเหมือนอ่างเพื่อวางไว้บนยอดเสา ตาข่ายสองชุดที่ใช้สำหรับประดับบนหัวเสารูปอ่างที่อยู่บนยอดเสาสองต้นนั้น ทับทิมสี่ร้อยลูกสำหรับตาข่ายสองชุด (ตาข่ายแต่ละชุดมีทับทิมอยู่สองร้อยลูกไว้สำหรับประดับหัวเสารูปชามที่อยู่บนเสาทั้งสองต้น) รถเข็นสิบคันพร้อมกับอ่างน้ำสิบอ่าง ขันทะเลและวัวตัวผู้สิบสองตัวที่ฐานรองของมัน หม้อ ทัพพี ชามประพรม และพวกจานทั้งหมด สำหรับวิหารของพระยาห์เวห์ ของต่างๆที่ฮูรามได้ทำขึ้นให้กับกษัตริย์ซาโลมอนสำหรับวิหารของพระยาห์เวห์ล้วนทำขึ้นจากทองสัมฤทธิ์ขัดมัน กษัตริย์สั่งให้หล่อของเหล่านี้ด้วยแม่พิมพ์ดินเหนียวที่นำมาจากแม่น้ำจอร์แดนที่อยู่ระหว่างสุคคทและศาเรธาน ซาโลมอนไม่เคยชั่งน้ำหนักของเหล่านี้เพราะมีมากเกินไป จึงไม่สามารถบอกน้ำหนักของทองสัมฤทธิ์ทั้งหมดที่ใช้ไป ซาโลมอนยังทำข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่อยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์อีกด้วย ประกอบไปด้วย แท่นบูชาทองคำ โต๊ะทองคำสำหรับใช้วางขนมปังไว้ต่อหน้าพระยาห์เวห์ โคมไฟยืนที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ (ซึ่งตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ทั้งทางขวาและทางซ้ายมีอยู่ข้างละห้าโคม) บรรดาดอกไม้ประดิษฐ์ทองคำและตะเกียงรวมทั้งคีมคีบ พวกถ้วย กรรไกรตัดไส้ตะเกียง ชามประพรม พวกจานสำหรับใส่เครื่องหอม และกระถางไฟ ที่ทำจากทองคำ บานพับทองคำสำหรับประตูของห้องชั้นในสุดคือห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และสำหรับประตูทุกประตูที่ห้องโถงใหญ่ของวิหาร เมื่องานทุกอย่างที่กษัตริย์ซาโลมอนได้ทำให้กับวิหารของพระยาห์เวห์เสร็จสิ้นลง เขาได้นำของต่างๆที่ดาวิดพ่อของเขาได้อุทิศไว้ ทั้งเงินและทองและเครื่องใช้ทุกอย่าง นำมาวางไว้ในคลังสมบัติของวิหารของพระยาห์เวห์
1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51 ฉบับมาตรฐาน (THSV11)
ซาโลมอนทรงใช้เวลาสิบสามปี สร้างพระราชวังของพระองค์จนเสร็จสิ้น พระองค์ทรงสร้างพระตำหนักพนาเลบานอน ยาว 44 เมตร กว้าง 22 เมตร และสูง 13.5 เมตร อยู่บนเสาไม้สนสีดาร์สี่แถว มีคานไม้สนสีดาร์อยู่บนเสา มุงด้วยไม้สนสีดาร์ บนคานซึ่งอยู่บนเสา 45 ต้น แถวละ 15 ต้น มีกรอบหน้าต่างสามแถว หน้าต่างอยู่ตรงข้ามกันทั้งสามแถว ประตูและวงกบทั้งหมดเป็นรูปสี่เหลี่ยม และหน้าต่างอยู่ตรงข้ามกันทั้งสามแถว และพระองค์ทรงสร้างท้องพระโรงเสาหาน ยาว 22 เมตรและกว้าง 13.5 เมตร มีเฉลียงด้านหน้ารองรับด้วยเสาหาน และมีหลังคาด้านหน้า และพระองค์ทรงสร้างท้องพระโรงพระที่นั่ง เป็นที่ซึ่งพระองค์ทรงให้คำพิพากษา คือท้องพระโรงวินิจฉัย ซึ่งปิดด้วยไม้สนสีดาร์ ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน พระราชวังของพระองค์ที่พระองค์จะประทับนั้น อยู่ที่ลานอีกแห่งหนึ่งหลังท้องพระโรง ก็เป็นฝีมือช่างอย่างเดียวกัน ซาโลมอนยังทรงสร้างวังเหมือนท้องพระโรงนี้สำหรับพระราชธิดาของฟาโรห์ ซึ่งพระองค์ทรงได้มาเป็นมเหสี สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดสร้างด้วยหินอันมีค่าที่สกัดออกมาตามขนาด ใช้เลื่อยเลื่อยทั้งด้านในและด้านนอก ตั้งแต่ฐานถึงด้านบนสุด และมีตั้งแต่ข้างนอกถึงลานใหญ่ ฐานนั้นทำด้วยหินมีค่า หินก้อนมหึมา หินบางก้อนยาว 4 เมตรและบางก้อน 3.5 เมตร ข้างบนก็เป็นหินมีค่า สกัดออกมาตามขนาด และไม้สนสีดาร์ ลานใหญ่มีหินสกัดโดยรอบสามชั้นและไม้สนสีดาร์หนึ่งชั้น เหมือนอย่างลานชั้นในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ และเฉลียงพระนิเวศ พระราชาซาโลมอนทรงใช้คนไปนำฮูรามมาจากเมืองไทระ ฮูรามเป็นบุตรชายของหญิงม่ายเผ่านัฟทาลี และบิดาของเขาเป็นชาวเมืองไทระ และเป็นช่างทองสัมฤทธิ์ ฮูรามเต็มเปี่ยมด้วยสติปัญญา ความเข้าใจ และฝีมือที่จะทำงานทองสัมฤทธิ์ทุกอย่าง เขามาเฝ้าพระราชาซาโลมอนและทำงานทั้งสิ้นของพระองค์ ฮูรามทำเสาทองสัมฤทธิ์สองเสา เสาต้นแรกสูง 8 เมตร เสาต้นที่สองวัดเส้นรอบวงได้ 5.3 เมตร ท่านทำบัวหัวเสาสองอันด้วยทองสัมฤทธิ์หล่อ เพื่อจะวางไว้บนยอดเสา บัวหัวเสาแต่ละอันสูง 2.2 เมตร แล้วมีตาข่ายเป็นตาหมากรุก พร้อมด้วยมาลัยโซ่สำหรับบัวที่อยู่บนหัวเสา เจ็ดอันสำหรับบัวหัวเสาแต่ละอัน ท่านทำลูกทับทิมสองแถวล้อมทับตาข่ายผืนหนึ่ง เพื่อคลุมบัวที่อยู่บนยอดเสา และท่านก็ทำแบบเดียวกันสำหรับบัวอีกอันหนึ่ง ส่วนบัวซึ่งอยู่บนยอดเสาที่อยู่ในเฉลียงนั้นเป็นดอกพลับพลึง สูง 1.8 เมตร บัวอยู่บนเสาสองต้นนั้น และอยู่เหนือคิ้วซึ่งอยู่ถัดตาข่ายด้วย มีลูกทับทิมสองร้อยลูกอยู่ล้อมรอบเป็นสองแถว บัวหัวเสาอีกอันหนึ่งก็มีเหมือนกัน ท่านตั้งเสาไว้ที่เฉลียงพระวิหาร ท่านตั้งเสาข้างขวาไว้ และเรียกชื่อว่ายาคีน และท่านตั้งเสาข้างซ้ายไว้ เรียกชื่อว่าโบอัส และบนยอดเสาเหล่านั้นเป็นลายดอกพลับพลึง ดังนั้นงานสร้างเสาก็เสร็จสมบูรณ์ แล้วฮูรามได้หล่ออ่างสาคร วัดจากขอบหนึ่งไปถึงอีกขอบหนึ่งได้ 4.5 เมตร สูง 2.25 เมตร และวัดโดยรอบได้ 13.5 เมตร ใต้ขอบได้หล่อเป็นรูปน้ำเต้าสิบลูกทุก 45 เซนติเมตรอยู่รอบอ่างสาคร รูปน้ำเต้ามีสองแถวและหล่อเป็นชิ้นเดียวกันกับอ่าง อ่างสาครนั้นตั้งอยู่บนวัวสิบสองตัว โดยสามตัวหันหน้าไปทิศเหนือ สามตัวหันหน้าไปทิศตะวันตก สามตัวหันหน้าไปทิศใต้ และสามตัวหันหน้าไปทิศตะวันออก เขาวางอ่างสาครบนวัว โดยให้ส่วนหลังของวัวทุกตัวอยู่ด้านใน อ่างหนา 7.5 เซนติเมตร ที่ขอบอ่างทำเหมือนขอบถ้วยเหมือนดอกพลับพลึงกำลังบาน อ่างมีความจุสี่หมื่นลิตร ฮูรามทำแท่นทองสัมฤทธิ์สิบแท่น แต่ละแท่นยาว 1.8 เมตร กว้าง 1.8 เมตร สูง 1.3 เมตร ลักษณะของแท่นเป็นอย่างนี้ แท่นมีแผง แผงนี้ฝังอยู่ในกรอบ บนแผงที่ฝังอยู่ในกรอบนั้นมีรูปสิงโต วัว และเครูบ บนกรอบที่อยู่บนและล่างสิงโตและวัว มีฐานที่ลวดลายเป็นมาลัยย้อย แท่นแต่ละแท่นมีล้อทองสัมฤทธิ์สี่ล้อกับเพลาทองสัมฤทธิ์ ที่มุมทั้งสี่มีที่รองรับอ่างเล็ก ที่รองรับนั้นถูกหล่อโดยมีมาลัยห้อยทุกข้าง ช่องเปิดอยู่ในบัวหงาย ซึ่งยื่นขึ้นไป 45 เซนติเมตร ช่องเปิดนั้นกลมอย่างที่เขาทำฐาน กว้าง 66 เซนติเมตร ตรงช่องเปิดมีลายสลัก และแผงนั้นเป็นสี่เหลี่ยมไม่กลม ล้อทั้งสี่อยู่ใต้แผง เพลาล้อนั้นติดกับแท่นล้ออันหนึ่งสูง 66 เซนติเมตร ล้อนั้นเขาทำเหมือนล้อรถรบ ทั้งเพลา ขอบล้อ ซี่ล้อ และดุมล้อก็หล่อออกมาทั้งสิ้น แต่ละแท่นมีที่รองรับอยู่ที่มุมทั้งสี่ ที่รองรับนั้นหล่อเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ที่บนยอดแท่นมีแถบกลมสูง 22 เซนติเมตร และบนยอดแท่นนั้นมีกรอบและแผงติดเป็นอันเดียวกับแท่น ที่พื้นกรอบ และพื้นแผง ท่านสลักเป็นรูปเครูบ สิงโต และต้นอินทผลัม ตามที่ว่างของแต่ละสิ่งมีลายมาลัยอยู่รอบๆ ท่านได้ทำแท่นสิบแท่นตามอย่างนี้ หล่อเหมือนกันหมดทุกอัน ขนาดเดียวกัน และรูปเดียวกัน ฮูรามทำอ่างเล็กด้วยทองสัมฤทธิ์สิบใบ อ่างแต่ละใบจุ 800 ลิตร และมีขนาด 1.8 เมตร มีอ่างเล็กอยู่บนแท่นทั้งสิบแท่น แท่นละใบ ท่านวางแท่นไว้ด้านขวาของพระนิเวศห้าแท่น และทางด้านซ้ายห้าแท่น และท่านวางอ่างสาครไว้ที่ด้านขวาของพระนิเวศทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฮูรามได้ทำหม้อ ทัพพี และชามด้วย ดังนั้นฮูรามก็เสร็จงานทั้งสิ้น ที่ท่านต้องทำถวายพระราชาซาโลมอน สำหรับพระนิเวศของพระยาห์เวห์ เสาสองต้น คิ้วของบัวที่อยู่บนหัวเสาและตาข่ายสองผืน ซึ่งคลุมคิ้วทั้งสองของบัวที่อยู่บนหัวเสา และลูกทับทิมสี่ร้อยลูกสำหรับตาข่ายสองผืน ตาข่ายผืนหนึ่งมีลูกทับทิมสองแถว เพื่อคลุมคิ้วทั้งสองของบัวซึ่งอยู่บนเสา แท่นสิบแท่นและอ่างเล็กสิบใบซึ่งอยู่บนแท่นเหล่านั้น และอ่างสาครใบหนึ่ง และวัวสิบสองตัวที่อยู่ใต้อ่างสาครนั้น หม้อ ทัพพีและชาม ภาชนะทั้งสิ้นเหล่านี้ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดมัน ฮูรามได้ทำถวายพระราชาซาโลมอน สำหรับพระนิเวศของพระยาห์เวห์ พระราชาทรงหล่อสิ่งเหล่านี้ในที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดน และในที่ดินเหนียวระหว่างเมืองสุคคท และเมืองศาเรธาน ซาโลมอนไม่ได้ทรงชั่งเครื่องใช้ทั้งหมดนี้ เพราะมีมากเหลือเกิน จึงไม่ได้หาน้ำหนักของทองสัมฤทธิ์ ซาโลมอนทรงทำเครื่องใช้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระยาห์เวห์ คือแท่นบูชาทองคำ และโต๊ะทองคำที่ใช้วางขนมปังเฉพาะพระพักตร์ คันประทีปทองคำบริสุทธิ์อยู่หน้าห้องชั้นในสุด ด้านขวาห้าอัน ด้านซ้ายห้าอัน ดอกไม้ ตะเกียง และคีม ล้วนทำด้วยทองคำ ถ้วย ตะไกรตัดไส้ตะเกียง ชาม ชามเล็กและกระถางไฟ ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ และบานพับทองคำสำหรับประตูของส่วนชั้นในพระนิเวศ คืออภิสุทธิสถานและสำหรับประตูห้องโถงของพระวิหาร งานทุกอย่างที่พระราชาซาโลมอนทรงทำ เกี่ยวกับพระนิเวศของพระยาห์เวห์ก็ได้สำเร็จลง และซาโลมอนทรงนำสิ่งของซึ่งดาวิดพระราชบิดาทรงถวายไว้เข้ามา คือเครื่องเงิน เครื่องทองคำ และเครื่องใช้ต่างๆ และทรงเก็บไว้ในคลังพระนิเวศของพระยาห์เวห์
1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51 พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับ KJV (KJV)
ซาโลมอนทรงสร้างพระราชวังของพระองค์สิบสามปี และพระองค์ทรงให้พระราชวังของพระองค์สำเร็จทั้งสิ้น พระองค์ทรงสร้างพระตำหนักพนาเลบานอน ยาวหนึ่งร้อยศอก กว้างห้าสิบศอกและสูงสามสิบศอก อยู่บนเสาไม้สนสีดาร์สี่แถว มีคานไม้สนสีดาร์อยู่บนเสา ชั้นบนมุงด้วยไม้สนสีดาร์บนห้อง ซึ่งอยู่บนเสาสี่สิบห้าห้อง แถวละสิบห้าห้อง มีกรอบหน้าต่างสามแถบ หน้าต่างอยู่ตรงข้ามหน้าต่างทั้งสามแถว ประตูและหน้าต่างทั้งหมดมีกรอบสี่เหลี่ยม และหน้าต่างก็อยู่ตรงข้ามหน้าต่างทั้งสามแถว และพระองค์ทรงสร้างท้องพระโรงเสา ยาวห้าสิบศอกและกว้างสามสิบศอก มีมุขด้านหน้า และมีเสากับหลังคาข้างหน้า และพระองค์ทรงสร้างท้องพระโรงพระที่นั่ง เป็นที่ซึ่งพระองค์ทรงให้คำพิพากษา คือท้องพระโรงพินิศจัย ก็ทำทั้งห้องสำเร็จด้วยไม้สนสีดาร์ด้วย พระราชวังของพระองค์ซึ่งพระองค์จะทรงประทับอยู่นั้นมีลานอีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ภายในท้องพระโรง ก็กระทำด้วยฝีมือช่างอย่างเดียวกัน ซาโลมอนได้ทรงสร้างวังเหมือนท้องพระโรงนี้สำหรับราชธิดาของฟาโรห์ ซึ่งพระองค์ทรงได้มาเป็นมเหสี ทั้งสิ้นเหล่านี้สร้างด้วยหินอันมีค่า สกัดออกมาตามขนาด ใช้เลื่อย เลื่อยทั้งด้านหลังและด้านหน้า ตั้งแต่ฐานถึงยอดผนัง และมีตั้งแต่ข้างนอกถึงลานใหญ่ ฐานนั้นทำด้วยหินมีค่า หินก้อนมหึมา หินขนาดแปดและสิบศอก ข้างบนก็เป็นหินมีค่า สกัดออกมาตามขนาด และไม้สนสีดาร์ กำแพงลานใหญ่มีหินสกัดสามชั้นโดยรอบ และไม้สนสีดาร์ชั้นหนึ่ง ลานชั้นในของพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ก็มีเหมือนกัน ทั้งมุขพระนิเวศด้วย กษัตริย์ซาโลมอนทรงใช้คนให้นำฮีรามมาจากเมืองไทระ ท่านเป็นบุตรชายของหญิงม่ายตระกูลนัฟทาลี และบิดาของท่านเป็นชายชาวเมืองไทระ เป็นช่างทองสัมฤทธิ์ และท่านประกอบด้วยสติปัญญา ความเข้าใจและฝีมือที่จะทำงานทุกอย่างด้วยทองสัมฤทธิ์ ท่านมาเฝ้ากษัตริย์ซาโลมอนและทำงานทั้งสิ้นของพระองค์ ท่านได้ทำเสาทองสัมฤทธิ์สองเสา แต่ละเสาสูงสิบแปดศอก วัดขนาดเส้นรอบแต่ละเสาได้สิบสองศอก ท่านทำบัวคว่ำหัวเสาสองอันด้วยทองสัมฤทธิ์หล่อ เพื่อจะวางไว้บนยอดเสา บัวคว่ำหัวเสาอันหนึ่งสูงห้าศอก และความสูงของบัวคว่ำหัวเสาอีกอันหนึ่งก็ห้าศอก แล้วมีตาข่ายเป็นตาหมากรุกด้วยมาลัยโซ่สำหรับบัวคว่ำที่อยู่บนหัวเสา เจ็ดอันสำหรับบัวคว่ำอันหนึ่ง และเจ็ดอันสำหรับบัวคว่ำอีกอันหนึ่ง ท่านทำเสานั้นพร้อมด้วยลูกทับทิม มีสองแถวล้อมทับตาข่ายผืนหนึ่ง เพื่อคลุมบัวคว่ำที่อยู่ยอดเสา และท่านก็ทำเช่นเดียวกันสำหรับบัวคว่ำอีกอันหนึ่ง ฝ่ายบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสาที่อยู่ในมุขนั้นเป็นดอกบัว ขนาดสี่ศอก บัวคว่ำซึ่งอยู่บนเสาสองต้นนั้นมีลูกทับทิมด้วย และอยู่เหนือคิ้วซึ่งอยู่ถัดตาข่าย มีลูกทับทิมสองร้อยลูกอยู่ล้อมรอบเป็นสองแถว บัวคว่ำอีกอันหนึ่งก็มีเหมือนกัน ท่านตั้งเสาไว้ที่มุขพระวิหาร ท่านตั้งเสาข้างขวาไว้ และเรียกชื่อว่ายาคีน และท่านตั้งเสาข้างซ้ายไว้ เรียกชื่อว่าโบอัส และบนยอดเสานั้นเป็นลายดอกบัว งานของเสาก็สำเร็จดังนี้แหละ แล้วท่านได้หล่อขันสาครเป็นขันกลม วัดจากขอบหนึ่งไปถึงอีกขอบหนึ่งได้สิบศอก สูงห้าศอก และวัดโดยรอบได้สามสิบศอก ใต้ขอบเป็นลูกดอกตูม ในระยะหนึ่งศอกมีลูกดอกตูมสิบลูก อยู่รอบขันสาคร ดอกตูมอยู่สองแถวหล่อพร้อมกับเมื่อหล่อขันสาคร ขันสาครนั้นวางอยู่บนวัวสิบสองตัว หันหน้าไปทิศเหนือสามตัว หันหน้าไปทิศตะวันตกสามตัว หันหน้าไปทิศใต้สามตัว หันหน้าไปทิศตะวันออกสามตัว เขาวางขันสาครอยู่บนวัว ส่วนหลังทั้งหมดของวัวอยู่ด้านใน ขันสาครหนาหนึ่งคืบ ที่ขอบของขันทำเหมือนขอบถ้วยเหมือนอย่างดอกบัว บรรจุได้สองพันบัท ท่านทำแท่นทองสัมฤทธิ์สิบอัน แท่นอันหนึ่งยาวสี่ศอก กว้างสี่ศอก สูงสามศอก ท่านสร้างแท่นอย่างนี้ แท่นนี้มีแผง แผงนี้ฝังอยู่ในกรอบ บนแผงที่ฝังอยู่ในกรอบนั้นมีรูปสิงโต วัว และเครูบ ข้างบนกรอบมีแท่นที่อยู่เหนือ และใต้สิงโตและวัวมีลวดลายเป็นมาลัยฝีค้อน แล้วแท่นหนึ่งๆมีล้อทองสัมฤทธิ์สี่ล้อ และมีเพลาทองสัมฤทธิ์ ที่มุมทั้งสี่มีที่หนุน ขันที่หนุนอันหนึ่งหล่อมีมาลัยห้อยข้างๆทุกข้าง ช่องเปิดอยู่ในบัวคว่ำ ซึ่งยื่นขึ้นไปหนึ่งศอก ช่องเปิดนั้นกลมอย่างที่เขาทำแท่น ลึกหนึ่งศอกคืบ ตรงช่องเปิดมีลายสลัก และแผงนั้นก็สี่เหลี่ยมไม่กลม ล้อทั้งสี่อยู่ใต้แผง เพลาล้อนั้นเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ล้ออันหนึ่งสูงหนึ่งศอกคืบ ล้อนั้นเขาทำเหมือนล้อรถรบ ทั้งเพลา ขอบล้อ ซี่ และดุมก็หล่อ แท่นหนึ่งๆมีที่หนุนอยู่ที่มุมทั้งสี่ ที่หนุนนี้หล่อเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ที่บนยอดแท่นมีแถบกลมยอดสูงคืบหนึ่ง และบนยอดแท่นนั้นมีกรอบและแผงติดเป็นอันเดียวกับแท่น ที่พื้นกรอบและพื้นแผง ท่านสลักเป็นรูปเครูบ สิงโต และต้นอินทผลัม ตามที่ว่างของแต่ละสิ่ง มีลายมาลัยรอบ ท่านได้ทำแท่นสิบแท่นตามอย่างนี้ หล่อเหมือนกันหมดทุกอัน ขนาดเดียวกันและรูปเดียวกัน ท่านทำขันทองสัมฤทธิ์สิบลูก ขันลูกหนึ่งจุสี่สิบบัท ขนาดขันลูกหนึ่งสี่ศอก มีขันแท่นละลูกทั้งสิบแท่น ท่านวางแท่นขันนั้นไว้ทางด้านขวาของพระนิเวศห้าแท่น และทางด้านซ้ายของพระนิเวศห้าแท่น และท่านวางขันสาครไว้ที่ด้านขวาพระนิเวศทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฮีรามได้ทำขัน พลั่วและชามด้วย ดังนั้นฮีรามก็เสร็จงานทั้งสิ้นซึ่งเขาต้องกระทำถวายกษัตริย์ซาโลมอนสำหรับพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ เสาสองต้น คิ้วทั้งสองของบัวคว่ำที่อยู่บนยอดเสา และตาข่ายสองผืน ซึ่งคลุมคิ้วทั้งสองของบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสา และลูกทับทิมสี่ร้อยสำหรับตาข่ายสองผืน ตาข่ายผืนหนึ่งมีลูกทับทิมสองแถว เพื่อคลุมคิ้วทั้งสองของบัวคว่ำซึ่งอยู่บนเสา แท่นสิบแท่น และขันสิบลูกซึ่งอยู่บนแท่น และขันสาครลูกหนึ่ง และวัวสิบสองตัวที่อยู่ใต้ขันสาคร หม้อ พลั่ว และชาม ภาชนะทั้งสิ้นเหล่านี้ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ ซึ่งฮีรามได้ทำถวายกษัตริย์ซาโลมอนเป็นของที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดมัน กษัตริย์ทรงหล่อสิ่งเหล่านี้ในที่ราบลุ่มของแม่น้ำจอร์แดน และในที่ดินโคลนระหว่างเมืองสุคคทและศาเรธาน ซาโลมอนทรงหาได้ชั่งเครื่องใช้ทั้งหมดนี้ไม่ เพราะว่ามีมากด้วยกัน จึงมิได้หาน้ำหนักของทองสัมฤทธิ์ ซาโลมอนได้ทรงกระทำเครื่องใช้ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ คือแท่นบูชาทองคำ และทรงทำโต๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์ด้วยทองคำ เชิงประทีปทำด้วยทองคำบริสุทธิ์อยู่ทางด้านขวาห้าอัน อยู่ทางด้านซ้ายห้าอัน ข้างหน้าห้องหลัง ดอกไม้ ตะเกียง และตะไกรตัดไส้ตะเกียงทำด้วยทองคำ อ่าง ตะไกรตัดไส้ตะเกียง ชาม ช้อน และกระถางไฟทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ และเดือยสำหรับประตูของส่วนชั้นในพระนิเวศ คือที่บริสุทธิ์ที่สุด และสำหรับประตูห้องโถงของพระวิหาร ก็ทำด้วยทองคำ บรรดากิจการซึ่งกษัตริย์ซาโลมอนกระทำเกี่ยวด้วยพระนิเวศของพระเยโฮวาห์ก็ได้สำเร็จดังนี้ และซาโลมอนทรงนำบรรดาสิ่งซึ่งดาวิดราชบิดาทรงถวายไว้เข้ามา คือเครื่องเงิน เครื่องทองคำ และเครื่องใช้ต่างๆ และเก็บไว้ในคลังพระนิเวศของพระเยโฮวาห์
1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51 พระคัมภีร์ไทย ฉบับ 1971 (TH1971)
ซาโลมอนทรงสร้างพระราชวังของพระองค์สิบสามปี และพระองค์ทรงให้พระราชวังของพระองค์สำเร็จทั้งสิ้น พระองค์ทรงสร้างพระตำหนักพนาเลบานอน ยาวหนึ่งร้อยศอกและกว้างห้าสิบศอก และสูงสามสิบศอก อยู่บนเสาไม้สนสีดาร์สี่แถว มีคานไม้สนสีดาร์อยู่บนเสา ชั้นบนมุงด้วยไม้สนสีดาร์ บนห้องซึ่งอยู่บนเสาสี่สิบห้าห้องแถวละสิบห้าห้อง มีกรอบหน้าต่างสามแถบ หน้าต่างอยู่ตรงข้ามหน้าต่างทั้งสามแถว ประตูและหน้าต่างทั้งหมดมีกรอบสี่เหลี่ยม และหน้าต่างก็อยู่ตรงข้ามหน้าต่างทั้งสามแถว และพระองค์ทรงสร้างท้องพระโรงเสาหาน ยาวห้าสิบศอกและกว้างสามสิบศอก มีมุขด้านหน้ากอปรด้วยเสาหาน และมีหลังคาข้างหน้า และพระองค์ทรงสร้างท้องพระโรงพระที่นั่ง เป็นที่ซึ่งพระองค์ทรงให้คำพิพากษา คือท้องพระโรงพินิศจัยก็ทำสำเร็จด้วยไม้สนสีดาร์ด้วย ตั้งแต่พื้นจนถึงไม้คร่าว พระราชวังของพระองค์ ซึ่งพระองค์จะทรงประทับ อยู่ที่ลานอีกแห่งหนึ่งหลังท้องพระโรง ก็กระทำด้วยฝีมือช่างอย่างเดียวกัน ซาโลมอนได้ทรงสร้างวังเหมือนท้องพระโรง นี้สำหรับราชธิดาของฟาโรห์ ซึ่งพระองค์ทรงได้มาเป็นมเหสี ทั้งสิ้นเหล่านี้สร้างด้วยหินอันมีค่าสกัดออกมาตามขนาด ใช้เลื่อยเลื่อยทั้งด้านหลังและด้านหน้าตั้งแต่ฐานถึงยอดผนัง และมีตั้งแต่ข้างนอกถึงลานใหญ่ ฐานนั้นทำด้วยหินมีค่า หินก้อนมหึมาหินขนาดแปดและสิบศอก ข้างบนก็เป็นหินมีค่า สกัดออกมาตามขนาด และไม้สนสีดาร์ กำแพงลานใหญ่มีหินสกัดสามชั้นโดยรอบและไม้สน สีดาร์ชั้นหนึ่ง ลานชั้นในของพระนิเวศของพระเจ้า ก็มีเหมือนกันทั้งมุขพระนิเวศด้วย พระราชาซาโลมอนทรงใช้คนให้นำ ฮีรามมาจากเมืองไทระ ท่านเป็นบุตรชายของหญิงม่ายเผ่านัฟทาลี และบิดาของท่านเป็นชายชาวเมืองไทระ เป็นช่างทองสัมฤทธิ์ และท่านประกอบด้วยสติปัญญา ความเข้าใจ และฝีมือที่จะทำงานทุกอย่างด้วยทองสัมฤทธิ์ ท่านมาเฝ้าพระราชาซาโลมอนและทำงานทั้งสิ้นของพระองค์ ท่านได้ทำเสาหานทองสัมฤทธิ์สองเสา เสาหานต้นหนึ่งสูงสิบแปดศอก วัดขนาดเส้นรอบต้นที่สองได้สิบสองศอก ท่านทำบัวคว่ำหัวเสาสองอันด้วยทองสัมฤทธิ์หล่อ เพื่อจะวางไว้บนยอดเสา บัวคว่ำหัวเสาอันหนึ่งสูงห้าศอก และความสูงของบัวคว่ำหัวเสาอีกอันหนึ่งก็ห้าศอก แล้วมีตาข่ายเป็นตาหมากรุก ด้วยมาลัยโซ่สำหรับบัวคว่ำที่อยู่บนหัวเสา เจ็ดอันสำหรับบัวคว่ำอันหนึ่ง และเจ็ดอันสำหรับบัวคว่ำอีกอันหนึ่ง ท่านทำลูกทับทิมทำนองเดียวกัน มีสองแถวล้อมทับตาข่ายผืนหนึ่ง เพื่อคลุมบัวคว่ำที่อยู่ยอดเสาหาน และท่านก็ทำเช่นเดียวกัน สำหรับบัวคว่ำอีกอันหนึ่ง ฝ่ายบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสาหานที่อยู่ ในมุขนั้นเป็นดอกพลับพลึง ขนาดสี่ศอก บัวคว่ำอยู่บนเสาหานสองต้นนั้น และอยู่เหนือคิ้วซึ่งอยู่ถัดตาข่ายด้วย มีลูกทับทิมสองร้อยลูกอยู่ล้อมรอบเป็นสองแถว บัวคว่ำอีกอันหนึ่งก็มีเหมือนกัน ท่านตั้งเสาไว้ที่มุขพระนิเวศ ท่านตั้งเสาข้างขวาไว้ และเรียกชื่อว่ายาคีน และท่านตั้งเสาข้างซ้ายไว้ เรียกชื่อว่าโบอัส และบนยอดเสานั้นเป็นลายดอกบัว งานของเสาก็สำเร็จดังนี้แหละ แล้วท่านได้หล่อขันสาครเป็นขันกลม วัดจากขอบหนึ่งไปถึงอีกขอบหนึ่งได้สิบศอก สูงห้าศอก และวัดโดยรอบได้สามสิบศอก ใต้ขอบเป็นลูกนางนูนระยะสิบศอก อยู่รอบขันสาครนางนูนอยู่สองแถวหล่อ พร้อมกับเมื่อหล่อขันสาคร ขันสาครนั้นวางอยู่บนวัวสิบสองตัว หันหน้าไปทิศเหนือสามตัวหันหน้าไปทิศตะวันตกสามตัว หันหน้าไปทิศใต้สามตัว หันหน้าไปทิศตะวันออกสามตัวเขาวางขันสาครอยู่บนวัว ส่วนหลังทั้งหมดของวัวอยู่ด้านใน ขันสาครหนาหนึ่งคืบ ที่ขอบของขันทำเหมือนขอบ ถ้วยเหมือนอย่างดอกบัวบรรจุได้สองพันบัท ท่านทำแท่นทองสัมฤทธิ์สิบอัน แท่นอันหนึ่งยาวสี่ศอก กว้างสี่ศอกสูงสามศอก ท่านสร้างแท่นอย่างนี้ แท่นนี้มีแผง แผงนี้ฝังอยู่ในกรอบ บนแผงที่ฝังอยู่ในกรอบนั้นมีรูปสิงห์ วัว และเครูบ ข้างบนกรอบที่อยู่เหนือ และใต้สิงห์และวัว มีลวดลายเป็นมาลัยฝีค้อน ยิ่งกว่านั้นอีก แท่นหนึ่งๆมีล้อทองสัมฤทธิ์สี่ล้อ และมีเพลาทองสัมฤทธิ์ ที่มุมทั้งสี่มีที่หนุน ขันที่หนุนอันหนึ่งหล่อมีมาลัยห้อยข้างๆทุกข้าง ช่องเปิดอยู่ในบัวหงาย ซึ่งยื่นขึ้นไปหนึ่งศอก ช่องเปิดนั้นกลมอย่างที่เขาทำเชิงรอง ลึกหนึ่งศอกคืบ ตรงช่องเปิดมีลายสลัก และแผงนั้นก็สี่เหลี่ยมไม่กลม ล้อทั้งสี่อยู่ใต้แผง เพลาล้อนั้นเป็นชิ้นเดียวกับแท่นล้ออันหนึ่งสูงหนึ่งศอกคืบ ล้อนั้นเขาทำเหมือนล้อรถรบ ทั้งเพลาขอบล้อ กำ และดุมก็หล่อ แท่นหนึ่งๆมีที่หนุนอยู่ที่มุมทั้งสี่ ที่หนุนนี้หล่อเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ที่บนยอดแท่นมีแถบยอดสูงคืบหนึ่ง และบนยอดแท่นนั้นมีกรอบและแผงติดเป็นอันเดียวกับแท่น ที่พื้นกรอบ และพื้นแผง ท่านสลักเป็นรูปเครูบ สิงห์ และต้นอินทผลัม ตามที่ว่างของแต่ละสิ่งมีลายมาลัยรอบ ท่านได้ทำแท่นสิบแท่นตามอย่างนี้ หล่อเหมือนกันหมดทุกอัน ขนาดเดียวกัน และรูปเดียวกัน ท่านทำขันทองสัมฤทธิ์สิบลูก ขันลูกหนึ่งจุสี่สิบบัท ขนาดขันลูกหนึ่งสี่ศอก มีขันแท่นละลูกทั้งสิบแท่น ท่านวางแท่นขันนั้นไว้ ทางด้านขวาของพระนิเวศห้าแท่น และทางด้านซ้ายของพระนิเวศห้าแท่น และท่านวางขันสาครไว้ที่ด้านขวา พระนิเวศทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฮีรามได้ทำหม้อ ทัพพี และชามด้วย ดังนั้นฮีรามก็เสร็จงานทั้งสิ้น ซึ่งเขาต้องกระทำถวายพระราชาซาโลมอน สำหรับพระนิเวศของพระเจ้า เสาหานสองต้น คิ้วทั้งสองของบัวคว่ำที่อยู่บนยอดเสาหานและตาข่ายสองผืน ซึ่งคลุมคิ้วทั้งสองของบัวคว่ำซึ่งอยู่บนยอดเสาหาน และลูกทับทิมสี่ร้อยสำหรับตาข่ายสองผืน ตาข่ายผืนหนึ่งมีลูกทับทิมสองแถว เพื่อคลุมคิ้วทั้งสองของบัวคว่ำซึ่งอยู่บนเสาหาน แท่นสิบแท่นและขันสิบลูกซึ่งอยู่บนแท่น และขันสาครลูกหนึ่ง และวัวสิบสองตัวที่อยู่ใต้ขันสาคร หม้อ ทัพพีและชาม ภาชนะทั้งสิ้นเหล่านี้ในพระนิเวศของพระเจ้า ซึ่งฮีรามได้ทำถวายพระราชาซาโลมอนเป็นของที่ทำ ด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดมัน พระราชาทรงหล่อสิ่งเหล่านี้ในลุ่มแม่น้ำจอร์แดน และในที่ดินโคลนระหว่างเมืองสุคคท และศาเรธาน ซาโลมอนทรงหาได้ชั่งเครื่องใช้ทั้งหมดนี้ไม่ เพราะว่ามีมากด้วยกัน จึงมิได้หาน้ำหนักของทองสัมฤทธิ์ ซาโลมอนได้ทรงกระทำเครื่องใช้ ทั้งสิ้นซึ่งอยู่ในพระนิเวศของพระเจ้า คือแท่นบูชาทองคำ และทรงทำโต๊ะขนมปังหน้าพระพักตร์ด้วยทองคำ เชิงประทีปทองคำบริสุทธิ์อยู่ ทางด้านขวาห้าอัน อยู่ทางด้านซ้ายห้าอัน ข้างหน้าห้องหลัง ดอกไม้ ตะเกียง และคีม ทำด้วยทองคำ ถ้วย ตะไกรตัดไส้ตะเกียง ชาม ช้อนและกระถางไฟ ทำด้วยทองคำ และเดือยสำหรับประตูของส่วนชั้นในพระนิเวศ คืออภิสุทธิสถานและสำหรับประตูห้องโถงของ พระวิหาร ก็ทำด้วยทองคำ บรรดากิจการซึ่งพระราชาซาโลมอนกระทำ เกี่ยวด้วยพระนิเวศของพระเจ้าก็ได้สำเร็จดังนี้ และซาโลมอนทรงนำบรรดาสิ่งซึ่งดาวิดราชบิดา ทรงถวายไว้เข้ามา คือเครื่องเงิน เครื่องทองคำ และเครื่องใช้ต่างๆ และเก็บไว้ในคลังพระนิเวศของ พระเจ้า
1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)
แต่กษัตริย์โซโลมอนทรงใช้เวลาก่อสร้างพระราชวังของพระองค์ทั้งสิ้นสิบสามปี พระองค์ทรงสร้างพระตำหนักพนาเลบานอนยาว 100 ศอก กว้าง 50 ศอก สูง 30 ศอก ใช้เสาไม้สนซีดาร์สี่แถวรองรับคานไม้สนซีดาร์ไว้ ทำหลังคาด้วยคานไม้สนซีดาร์ 45 อัน ซึ่งวางอยู่บนเสา โดยแบ่งวางเป็นแถว แถวละ 15 อัน มีหน้าต่างอยู่ด้านบนเรียงเป็นชุด ชุดละสามช่อง แต่ละชุดหันหน้าเข้าหากัน ประตูทุกบานเป็นกรอบทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า อยู่ด้านหน้าห้องโถงมีสามชุด ชุดละสามบานหันหน้าเข้าหากัน พระองค์ทรงสร้างระเบียงเสาหานยาว 50 ศอกและกว้าง 30 ศอก มีมุขด้านหน้าซึ่งมีเสาหานและหลังคาด้วย ทรงสร้างห้องบัลลังก์หรือท้องพระโรงวินิจฉัยเป็นที่ประทับตัดสินความ กรุด้วยไม้สนซีดาร์ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน ถัดจากท้องพระโรงวินิจฉัยไปด้านหลัง พระองค์ทรงสร้างวังที่ประทับส่วนพระองค์และวังของมเหสีซึ่งเป็นธิดาของฟาโรห์ตามแบบท้องพระโรงวินิจฉัย ตัวอาคารเหล่านี้ทั้งหมดจากด้านนอกถึงลานใหญ่ และจากฐานรากถึงชายคาสร้างด้วยหินอย่างดี ซึ่งวัดให้ได้ขนาดก่อนที่จะสกัด และใช้เลื่อยแต่งทั้งด้านในและด้านนอก ฐานรากเป็นหินก้อนใหญ่คุณภาพดี มีขนาดหน้าตัด 8 ศอกบ้าง และ 10 ศอกบ้าง บนชั้นฐานรากวางด้วยหินอย่างดี ตัดให้ได้ขนาด และสลับด้วยคานไม้สนซีดาร์ ทรงสร้างผนังล้อมรอบลานใหญ่จากหินที่ตัดแต่งไว้แล้วสามชั้น สลับด้วยชั้นคานไม้สนซีดาร์ ตามแบบลานชั้นในและมุขหน้าของพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์โซโลมอนทรงให้นำชายคนหนึ่งชื่อหุรามมาจากเมืองไทระ มารดาของเขาเป็นหญิงม่ายจากเผ่านัฟทาลี ส่วนบิดาเป็นชาวเมืองไทระและเป็นช่างทองสัมฤทธิ์ หุรามเชี่ยวชาญและมีฝีมือในงานทองสัมฤทธิ์ทุกชนิด เขามาเข้าเฝ้าโซโลมอนและทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย หุรามหล่อเสาหานทองสัมฤทธิ์สองต้น แต่ละต้นสูง 18 ศอก เส้นรอบวง 12 ศอก เขาหล่อหัวเสาทองสัมฤทธิ์สูง 5 ศอก เพื่อติดบนยอดเสาหาน มีตาข่ายโซ่ระย้าประดับหัวเสา เสาละเจ็ดสาย เขาทำผลทับทิมสองแถว ติดรอบโซ่ระย้าประดับหัวเสาทั้งสองต้น ส่วนหัวเสาหานที่มุขหน้าตกแต่งเป็นรูปดอกลิลลี่สูง 4 ศอก บนหัวเสาทั้งสองต้น เหนือบัวคว่ำ ถัดจากสร้อยระย้าขึ้นไปเป็นแถวผลทับทิมสองร้อยผลโดยรอบ เขาตั้งเสาหานทั้งสองไว้ที่มุขหน้าของพระวิหาร เสาทางใต้ตั้งชื่อว่ายาคีน เสาทางเหนือตั้งชื่อว่าโบอาส หัวเสามีรูปทรงเป็นดอกลิลลี่ เป็นอันว่างานเสาหานก็เสร็จเรียบร้อย หุรามหล่อขันสาครทรงกลมด้วยโลหะสูง 5 ศอก เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ศอกและเส้นรอบวง 30 ศอก ใต้ขอบขันด้านนอกตกแต่งเป็นลายเครือเถาสองแถว ศอกละสิบรูป หล่อเป็นเนื้อเดียวกันกับขันสาคร ขันสาครนี้ตั้งอยู่บนวัวทองสัมฤทธิ์สิบสองตัว หันหลังเข้าหากันตรงกลาง หันหน้าไปทางทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ทิศละสามตัว ขันสาครหนาหนึ่งฝ่ามือ ปากขันเหมือนขอบถ้วยซึ่งเหมือนกับดอกลิลลี่บาน จุน้ำได้ประมาณ 44 กิโลลิตร หุรามยังทำแท่นเคลื่อนที่ด้วยทองสัมฤทธิ์สิบแท่น แต่ละแท่นกว้างยาว 4 ศอก สูง 3 ศอก แท่นเหล่านี้สร้างขึ้นในลักษณะนี้คือ มีผนังที่ยึดติดอยู่กับกรอบในแนวตั้ง เขาสลักรูปสิงโต วัว และเครูบไว้บนกรอบและบนผนังนั้น ด้านบนและล่างของสิงโตและวัวเป็นลวดลายพวงมาลาที่สลักลายด้วยค้อน แต่ละแท่นมีล้อทองสัมฤทธิ์สี่ล้อและเพลาทองสัมฤทธิ์ แต่ละแท่นรองรับอ่างซึ่งตั้งอยู่บนที่หนุนทั้งสี่ ซึ่งหล่อขึ้นโดยมีพวงมาลาประดับแต่ละด้าน ภายในแท่นนี้มีช่องเปิดเป็นรูปทรงกลมลึก 1 ศอก วัดรอบช่องเปิดทรงกลมรวมฐานได้ 1 ศอกครึ่ง มีลายสลักรอบช่องเปิด ผนังของแท่นตั้งเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ใช่วงกลม ล้อทั้งสี่อยู่ใต้ผนัง และเพลาล้อติดเข้ากับตัวแท่น เส้นผ่าศูนย์กลางของล้อ 1 ศอกครึ่ง ล้อทำขึ้นคล้ายกับล้อรถรบ ทั้งเพลา ซี่ล้อ ขอบและดุมล้อล้วนหล่อขึ้นจากโลหะ แต่ละแท่นมีที่จับที่มุมทั้งสี่ มุมละอัน ยื่นออกมาจากแท่น ที่ด้านบนของแท่นมีปลอกทรงกลมลึกครึ่งศอก ทั้งที่หนุนกับผนังยึดติดเข้ากับด้านบนของแท่น เขาสลักรูปเครูบ สิงโต ต้นอินทผลัม บนพื้นผิวของที่หนุนและบนผนังตลอดจนที่ว่างทุกแห่ง และมีพวงมาลาอยู่โดยรอบ แท่นทั้งสิบสร้างขึ้นตามนี้ โดยมีขนาดและรูปทรงเดียวกัน หล่อจากพิมพ์เดียวกัน จากนั้นเขาทำอ่างทองสัมฤทธิ์สิบใบ เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 ศอก ตั้งไว้บนแท่น แท่นละใบ แต่ละใบจุน้ำได้ประมาณ 880 ลิตร เขาตั้งแท่นเหล่านี้ไว้ที่ด้านใต้ของพระวิหารห้าแท่นและด้านเหนือห้าแท่น ส่วนขันสาครนั้นอยู่ทางด้านใต้ที่มุมด้านตะวันออกเฉียงใต้ของพระวิหาร เขายังได้ทำชาม อ่าง ทัพพี และชามประพรมด้วย ในที่สุดหุรามจึงทำงานทั้งหมดที่กษัตริย์โซโลมอนทรงมอบหมายในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าสำเร็จครบถ้วน ได้แก่ เสาหานสองต้น หัวเสารูปบัวคว่ำสองหัว ตาข่ายประดับหัวเสาสองชุด ทับทิมสี่ร้อยผล สำหรับตาข่ายสองชุด (ตาข่ายแต่ละชุดมีทับทิมสองแถว ประดับอยู่บนหัวเสารูปบัวคว่ำ) แท่นทองสัมฤทธิ์สิบแท่นพร้อมอ่าง ขันสาคร และวัวสิบสองตัวซึ่งรองรับขัน หม้อ ทัพพี และชามประพรม หุรามได้ทำสิ่งเหล่านี้ถวายกษัตริย์โซโลมอนสำหรับพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยใช้ทองสัมฤทธิ์ขัดเงา กษัตริย์ทรงให้หล่อสิ่งเหล่านี้ขึ้นด้วยเบ้าดินเหนียวในที่ราบแห่งแม่น้ำจอร์แดน ระหว่างเมืองสุคคทและเมืองศาเรธาน กษัตริย์โซโลมอนไม่ได้ให้ชั่งน้ำหนักสิ่งเหล่านี้เพราะว่ามีจำนวนมากมาย จึงไม่ทราบน้ำหนักที่แน่นอนของทองสัมฤทธิ์ โซโลมอนยังได้ทรงทำเครื่องใช้ทั้งปวงที่อยู่ในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ได้แก่ แท่นบูชาทองคำ โต๊ะทองคำสำหรับวางขนมปังเบื้องพระพักตร์ คันประทีปทองคำบริสุทธิ์ (วางไว้ด้านหน้าอภิสุทธิสถาน ทั้งด้านซ้ายและขวา ด้านละห้าคัน) ลวดลายดอกไม้ ตะเกียงและคีมทำด้วยทองคำ ขันทองคำบริสุทธิ์ กรรไกรตัดไส้ตะเกียง อ่างประพรม จานชาม และกระถางไฟ เบ้าทองคำของประตูห้องชั้นในสุดคือประตูอภิสุทธิสถาน และของประตูห้องโถงกลางของพระวิหาร เมื่องานทั้งปวงสำหรับพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โซโลมอนทรงนำเงิน ทอง และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ซึ่งดาวิดราชบิดา ถวายไว้เพื่อการนี้มาเก็บไว้ในคลังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
1 พงศ์กษัตริย์ 7:1-51 พระคัมภีร์ ฉบับแปลใหม่ (NTV) (NTV)
การสร้างวังของซาโลมอนใช้เวลา 13 ปีจึงเสร็จบริบูรณ์ ท่านสร้างตำหนักวนาลัยแห่งเลบานอน ยาว 100 ศอก กว้าง 50 ศอก และสูง 30 ศอก วังนี้ใช้เสาหลักไม้ซีดาร์ 4 แถว มีคานไม้ซีดาร์ที่ยอดเสา และมีไม้กระดานซีดาร์วางทับคานไม้ที่อยู่บน 45 เสา คือแถวละ 15 เสา สองกำแพงที่ขนานกันมีช่องหน้าต่างทั้งสามระดับ ประตูและหน้าต่างทุกบานมีขอบตั้งฉาก หน้าต่างแต่ละบานอยู่ในระดับที่ตรงกันทั้งสามชั้น ท่านให้สร้างเฉลียงอันสูงตระหง่าน ซึ่งมีความยาว 50 ศอก กว้าง 30 ศอก ส่วนหนึ่งของเฉลียงเป็นมุขที่ต่อยาวไปถึงด้านหน้า และมีผ้าระบายลงมาจากเสาหลัก และท่านให้สร้างห้องโถงพระที่นั่ง ห้องโถงพิพากษา เพื่อเป็นที่พิพากษาความ ให้กรุไม้ซีดาร์ตั้งแต่พื้นห้องไปจนถึงเพดาน ตำหนักที่ท่านอาศัยอยู่เป็นประจำนั้น สร้างไว้หลังห้องโถงพระที่นั่ง ให้ช่างมีฝีมือสร้างคุณภาพทัดเทียมกัน ซาโลมอนได้สร้างตำหนักอีกแห่งหนึ่งเหมือนกับห้องโถงนี้ สำหรับธิดาของฟาโรห์ ซึ่งท่านได้รับมาเป็นภรรยา สิ่งก่อสร้างเหล่านี้สร้างด้วยหินคุณภาพสูง สกัดตามขนาดที่ต้องการ ใช้เลื่อยตัดให้เรียบทุกด้าน ตั้งแต่ส่วนบนสุดจรดฐานรากของตำหนัก และจากลานตำหนักจรดลานใหญ่ ฐานรากทำด้วยหินคุณภาพสูงก้อนใหญ่มหึมาขนาด 8 และ 10 ศอก เหนือจากฐานรากก็เป็นหินคุณภาพสูงที่ถูกสกัดตามขนาด ประกอบกับไม้ซีดาร์ กำแพงที่ลานรอบนอกลานใหญ่สร้างด้วยหินที่แต่งแล้วก่อขึ้น 3 ขั้นกับคานไม้ซีดาร์ 1 ขั้น เหมือนอย่างลานในที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และมุขพระตำหนัก กษัตริย์ซาโลมอนใช้คนไปขอให้ฮีรามจากเมืองไทระมาเข้าเฝ้า เขาเป็นบุตรของหญิงม่ายจากเผ่านัฟทาลี บิดาเป็นชายชาวเมืองไทระ ซึ่งเป็นช่างฝีมือทองสัมฤทธิ์ ฮีรามเป็นผู้มีสติปัญญา ความเข้าใจ และความชำนาญในงานทองสัมฤทธิ์ เขามาเฝ้ากษัตริย์ซาโลมอน และได้ทำงานของท่านทั้งหมด เขาหล่อเสาหลักด้วยทองสัมฤทธิ์ 2 เสา แต่ละเสาสูง 18 ศอก มีเส้นรอบวง 12 ศอก เป็นเสากลวง หนาเท่าความกว้างของฝ่ามือ เขาหล่อบัว 2 อันด้วยทองสัมฤทธิ์ บัวแต่ละอันสูง 5 ศอกสำหรับตั้งบนยอดเสาทั้งสอง และเขาประดับบัวด้วยโซ่ถักเป็นตาข่ายคลุมยอดเสาทั้งสอง แต่ละเสาใช้โซ่ 7 เส้น และเขาห้อยลูกทับทิม 2 แถวที่รอบตาข่าย เพื่อคลุมบัวที่ยอดเสา โดยทำให้เหมือนกันทั้ง 2 เสา บัวที่ยอดเสาที่อยู่ในมุขเป็นรูปดอกพลับพลึง สูง 4 ศอก นอกจากงานตาข่ายที่คลุมบัวยอดเสาแล้ว ก็ยังมีลูกทับทิม 200 ลูกห้อยเรียงกันที่รอบเสาเหนือส่วนที่นูนออก ทั้ง 2 เสา เขาตั้งเสาหลักที่มุขพระวิหาร เสาหนึ่งตั้งไว้ทางทิศใต้เรียกชื่อว่า ยาคีน อีกเสาตั้งไว้ทางทิศเหนือเรียกชื่อว่า โบอาส บัวยอดเสาหลักเป็นรูปดอกพลับพลึง ดังนั้นงานเสาหลักก็เสร็จสิ้น และเขาหล่อถังเก็บน้ำรูปทรงกลม เส้นศูนย์กลาง 10 ศอก สูง 5 ศอก เส้นรอบวง 30 ศอก ใต้ขอบมีรูปน้ำเต้าเรียงที่รอบถัง 2 รอบๆ ละ 150 ลูก หล่อเป็นเนื้อเดียวกับตัวถัง ถังนี้ตั้งบนหลังโค 12 ตัว ซึ่ง 3 ตัวหันไปทิศเหนือ 3 ตัวหันไปทิศตะวันตก 3 ตัวหันไปทิศใต้ และอีก 3 ตัวหันไปทิศตะวันออก โคทุกตัวหันหางไปทางศูนย์กลาง ถังหนา 1 ฝ่ามือ ขอบถังทำเหมือนขอบถ้วย เหมือนดอกพลับพลึง ถังนี้จุน้ำ 2,000 บัท เขาสร้างแท่นทองสัมฤทธิ์ 10 แท่น แต่ละแท่นยาว 4 ศอก กว้าง 4 ศอก สูง 3 ศอก เขาสร้างแท่นตามนี้คือ เป็นแผ่นกระดานสี่ด้านตั้งอยู่ในกรอบ แผ่นเหล่านี้มีรูปสิงโต โค และเครูบ บนกรอบนี้ทั้งด้านบนและล่างของตัวสิงโตและโค มีรูปมาลัยสลักด้วยค้อน นอกจากนี้ แต่ละแท่นก็ยังมีล้อทองสัมฤทธิ์ 4 ล้อ กับแกนทองสัมฤทธิ์ และที่มุมทั้งสี่มีฐานรองรับอ่าง ซึ่งแต่ละข้างมีรูปมาลัยหล่อติดอยู่ ช่องเปิดตอนบนเป็นรูปทรงกลม สูงจากกรอบ 1 ศอก และลึกลงจากกรอบศอกครึ่ง แผ่นรองรับอ่างที่ช่องเปิดเป็นทรงสี่เหลี่ยม ไม่ใช่ทรงกลม และมีรูปแกะสลัก ล้อทั้งสี่อยู่ใต้แผ่นกระดานข้างต้น แกนล้อเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ล้อสูงศอกครึ่ง ล้อทำเหมือนกับล้อรถศึก ทั้งแกน รอบนอกกงล้อ ซี่ล้อ ดุมล้อ ล้วนหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ทั้งสิ้น แท่นทุกแท่นมีฐานรองรับอยู่ที่มุมทั้งสี่ และฐานรองรับนี้ทำเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ตอนบนสุดของแท่นมีแถบทรงกลมสูงครึ่งศอก ฐานรองรับและแผ่นกระดานเป็นชิ้นเดียวกับแท่น ฐานรองรับบางส่วนที่มองเห็นและแผ่นกระดาน ก็สลักเป็นตัวเครูบ สิงโต และต้นอินทผลัม ตามแต่จะมีที่ว่าง และมีมาลัยอยู่โดยรอบ เขาหล่อแท่นตามรายละเอียดดังกล่าว 10 แท่นให้เหมือนกันหมด ทั้งรูปร่างและขนาด เขาหล่ออ่างทองสัมฤทธิ์สำหรับชำระล้าง 10 ใบสำหรับแท่น 10 แท่น แต่ละอ่างบรรจุได้ 40 บัท วัดเส้นศูนย์กลางได้ 4 ศอก เขาวางแท่น 5 แท่นไว้ที่ด้านใต้ของพระตำหนัก และ 5 แท่นไว้ที่ด้านเหนือของพระตำหนัก และเขาให้ตั้งถังเก็บน้ำไว้ที่มุมด้านตะวันออกเฉียงใต้ของพระตำหนัก ฮีรามหล่อหม้อ ทัพพี และอ่างน้ำ ดังนั้นงานทั้งหมดที่ฮีรามหล่อขึ้นสำหรับพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าให้กษัตริย์ซาโลมอนก็เสร็จสิ้น เสาหลักทั้งสองต้น และบัวรูปทรงกลมที่ปิดยอดเสา และโซ่ถักเป็นตาข่ายคลุมบัวทรงกลมที่ยอดเสา และผลทับทิม 400 ผลที่รอบตาข่ายทั้งสอง ตาข่ายแต่ละผืนมีผลทับทิม 2 แถวสำหรับคลุมบัวรูปทรงกลมทั้งสองที่ยอดเสา แท่น 10 แท่น และอ่างน้ำ 10 ใบบนแท่น ถังเก็บน้ำ 1 ใบ มีรูปโค 12 ตัวอยู่ใต้ถัง ภาชนะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หม้อ ทัพพี และอ่างน้ำ ที่อยู่ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งฮีรามหล่อให้กษัตริย์ซาโลมอน ล้วนแล้วแต่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์อันมันปลาบ กษัตริย์ได้หล่อภาชนะเหล่านี้ในเบ้าดินที่อยู่ระหว่างเมืองสุคคทและศาเรธาน ในที่ราบของแม่น้ำจอร์แดน ซาโลมอนไม่ได้ชั่งน้ำหนักภาชนะเหล่านี้ เพราะว่ามีจำนวนมากมายมหาศาล จึงไม่ได้ชั่งว่าทองสัมฤทธิ์ที่ใช้นั้นมากเพียงไร ซาโลมอนได้สร้างและหล่อภาชนะทุกชิ้นในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า คือแท่นบูชาทองคำ โต๊ะทองคำสำหรับวางขนมปังอันบริสุทธิ์ คันประทีปทองคำบริสุทธิ์ 5 คันที่ด้านใต้ และ 5 คันที่ด้านเหนือ ซึ่งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักชั้นใน ดอกไม้ ดวงประทีปและคีม ล้วนเป็นทองคำ และถ้วย กรรไกรตัดไส้ดวงประทีป อ่าง ภาชนะเครื่องหอม และถาดที่ใช้เก็บถ่านร้อน ซึ่งเป็นทองคำบริสุทธิ์ บานพับทองคำสำหรับประตูชั้นในสุดของพระตำหนัก คืออภิสุทธิสถาน และสำหรับประตูพระตำหนักชั้นนอกของพระวิหาร เมื่องานทั้งสิ้นที่กษัตริย์ซาโลมอนทำสำหรับพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าเสร็จสิ้นลงแล้ว ซาโลมอนก็ได้นำสิ่งที่ดาวิดบิดาของท่านได้ถวาย คือเครื่องเงิน ทองคำ และภาชนะต่างๆ มาเก็บไว้ในคลังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า