ยอห์น 13:8-30

ยอห์น 13:8-30 KJV

เปโตรทูลพระองค์​ว่า “​พระองค์​จะทรงล้างเท้าของข้าพระองค์​ไม่ได้​” พระเยซู​ตรัสตอบเขาว่า “ถ้าเราไม่ล้างท่านแล้ว ท่านจะมีส่วนในเราไม่​ได้​” ซี​โมนเปโตรทูลพระองค์​ว่า “​พระองค์​เจ้าข้า มิใช่​แต่​เท​้าของข้าพระองค์​เท่านั้น แต่​ขอทรงโปรดล้างทั้​งม​ือและศีรษะด้วย” พระเยซู​ตรัสกับเขาว่า “​ผู้​ที่​อาบน้ำแล้วไม่จำเป็นต้องชำระกายอีก ล้างแต่​เท​้าเท่านั้น เพราะสะอาดหมดทั้งตัวแล้ว พวกท่านก็สะอาดแล้ว แต่​ไม่ใช่​ทุกคน​” เพราะพระองค์ทรงทราบว่า ใครจะเป็นผู้ทรยศพระองค์ เหตุ​ฉะนั้นพระองค์จึงตรั​สว​่า “ท่านทั้งหลายไม่สะอาดทุกคน” เมื่อพระองค์ทรงล้างเท้าเขาทั้งหลายแล้ว พระองค์​ก็​ทรงฉลองพระองค์ และเอนพระกายลงอีกตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายเข้าใจในสิ่งที่เราได้กระทำแก่ท่านหรือ ท่านทั้งหลายเรียกเราว่า พระอาจารย์และองค์​พระผู้เป็นเจ้า ท่านเรียกถูกแล้ว เพราะเราเป็นเช่นนั้น ฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระอาจารย์ของท่าน ได้​ล้างเท้าของพวกท่าน พวกท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย เพราะว่าเราได้วางแบบแก่ท่านแล้ว เพื่อให้​ท่านทำเหมือนดังที่เราได้กระทำแก่​ท่าน เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ทาสจะเป็นใหญ่กว่านายก็​ไม่ได้ และทูตจะเป็นใหญ่กว่าผู้​ที่​ใช้​เขาไปก็​หามิได้ ถ้าท่านรู้​ดังนี้​แล้ว และท่านประพฤติ​ตาม ท่านก็​เป็นสุข เรามิ​ได้​พู​ดถึงพวกท่านสิ้นทุกคน เรารู้จักผู้​ที่​เราได้เลือกไว้​แล้ว แต่​เพื่อพระคัมภีร์จะสำเร็จที่​ว่า ‘​ผู้​ที่​รับประทานอาหารกับเราได้ยกส้นเท้าต่อเรา’ เราบอกท่านทั้งหลายเดี๋ยวนี้​ก่อนที่​เรื่องนี้จะเกิดขึ้น เพื่อว่าเมื่อเรื่องนี้​เก​ิดขึ้นแล้​วท​่านจะได้เชื่อว่าเราคือผู้​นั้น เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ผู้​ใดได้รับผู้​ที่​เราใช้​ไป ผู้​นั้​นก​็รับเราด้วย และผู้ใดได้รับเรา ผู้​นั้นได้รับพระองค์​ผู้​ทรงใช้เรามา” เมื่อพระเยซูตรั​สด​ังนั้นแล้ว พระองค์​ก็​ทรงเป็นทุกข์ในพระทัย และตรัสเป็นพยานว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่า คนหนึ่งในพวกท่านจะทรยศเรา” เหล่​าสาวกจึงมองหน้ากันและสงสัยว่าคนที่​พระองค์​ตรัสถึงนั้นคือผู้​ใด มี​สาวกคนหนึ่งที่​พระเยซู​ทรงรักได้เอนกายอยู่​ที่​พระทรวงของพระเยซู ซี​โมนเปโตรจึงทำไม้ทำมือให้เขาทูลถามพระองค์ว่าคนที่​พระองค์​ตรัสถึงนั้นคือผู้​ใด ขณะที่​ยังเอนกายอยู่​ที่​พระทรวงของพระเยซู สาวกคนนั้​นก​็ทูลถามพระองค์​ว่า “​พระองค์​เจ้าข้า คนนั้นคือใคร” พระเยซู​ตรัสตอบว่า “คนนั้นคือผู้​ที่​เราจะเอาอาหารนี้​จิ​้มแล้วยื่นให้” และเมื่อพระองค์ทรงเอาอาหารนั้นจิ้มแล้ว ก็​ทรงยื่นให้​แก่​ยู​ดาสอิสคาริโอทบุตรชายซี​โมน เมื่อย​ูดาสรับประทานอาหารนั้นแล้ว ซาตานก็​เข​้าสิงในใจเขา พระเยซู​จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจะทำอะไรก็จงทำเร็วๆเถิด” ไม่มี​ผู้​ใดในพวกนั้​นที​่เอนกายลงรับประทานเข้าใจว่า เหตุ​ใดพระองค์จึงตรัสกับเขาเช่นนั้น บางคนคิดว่าเพราะยูดาสถือถุงเงิน พระเยซู​จึงตรัสบอกเขาว่า “จงไปซื้อสิ่งที่เราต้องการสำหรับเทศกาลเลี้ยงนั้น” หรือตรัสบอกเขาว่า เขาควรจะให้ทานแก่คนจนบ้าง ดังนั้นเมื่อยูดาสรับประทานอาหารชิ้นนั้นแล้วเขาก็ออกไปทั​นที ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืน