YouVersion လိုဂို
ရွာရန္ အိုင္ကြန္

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลနမူနာ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

365 ၏ ေန႔ 106

การทรงสถิต

ถ้าคุณรักใครสักคน สิ่งที่คุณปรารถนาเหนือสิ่งอื่นใดก็คือการที่ได้อยู่ใกล้กับคน ๆ นั้น ไม่ว่าจะดูภาพถ่าย โทรศัพท์คุยกัน ส่งอีเมล หรือข้อความ หรือไม่ว่าจะ Skype, Zoom และ FaceTime ทั้งหมดนี้คือช่องทาง การติดต่อสื่อสารกัน แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนเทียบได้กับการใช้เวลาด้วยกันแบบตัวต่อตัว สิ่งที่อาดัมและเอวาสูญเสียไปในสวนเอเดนเมื่อพวกเขาทำบาปคือการทรงสถิตของพระเจ้า สำหรับชนชาติอิสราเอลแล้ว สิ่งที่เหนือกว่าการมีกฎหมายหรือธรรมบัญญัติ คือ การที่พระเจ้าทรงสถิตอยู่กับพวกเขา พระวิหารไม่ใช่สถานที่สำหรับถวายเครื่องบูชา แต่เป็นที่ประทับของพระเจ้า การถูกกวาดเป็นเชลยถือเป็นหายนะสำหรับคนของพระเจ้า เพราะพวกเขาจะออกห่างจากการทรงสถิตของพระองค์ พระเจ้าสัญญาว่าจะอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์อีกครั้ง พระสัญญานี้สำเร็จโดยการเสด็จมาของ พระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงสัญญาว่าจะอยู่กับคุณ

สดุดี 46:1-11

‘พระยาห์เวห์จอมทัพสถิตกับเราทั้งหลาย’

การทรงสถิตของพระเจ้าในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมมีความเกี่ยวข้องกับกรุงเยรูซาเล็มอันเป็นเมืองของพระเจ้า ‘พระเจ้าสถิตอยู่ที่นี่’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) โดยเฉพาะอย่างยิ่งมี ความเกี่ยวข้องกับพระวิหาร ‘ที่ประทับบริสุทธิ์ขององค์ผู้สูงสุด’ (ข้อ 4ข) ‘พระเจ้าสถิตกลางพระนคร’ (ข้อ 5ก) ‘พระยาห์เวห์จอมทัพสถิตกับเราทั้งหลาย’ (ข้อ 7, 11)

เมื่อพระเยซูทรงอยู่บนแผ่นดินโลก พระองค์ทรงประกาศว่าพระวรกายของพระองค์เป็นพระวิหารที่พระเจ้า ทรงประทับอยู่ (ดู ยอห์น 2:19–22) ในวันเพ็นเทคอสต์ การทรงสถิตของพระเจ้าลงมาอยู่เหนือประชากรของ พระองค์ผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ คือพระวิญญาณของพระคริสต์ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่การ ทรงสถิตของพระเจ้าไม่ได้อยู่ในพระวิหาร แต่อยู่กับประชากรของพระองค์ ที่เป็น ‘วิหารอันบริสุทธิ์’ (เอเฟซัส 2:19–22)

ในชีวิตประจำวันดูเหมือนมีอะไรมากมายที่ต้องทำอยู่เสมอ และมีการทดลองใจให้อยากกระตือรือร้นและลงมือ ทำมัน แต่พระเจ้าทรงหนุนใจให้คุณ ‘นิ่งเสียและรู้เถิดว่าเราคือพระเจ้า’ (สดุดี 46:10) ถ้าคุณใช้เวลาอยู่นิ่งและ ฟังพระองค์ คุณจะเห็นพระพรบางอย่างที่มาจากการที่ได้รู้ว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่กับคุณเช่นเดียวกับใน พระธรรมสดุดีนี้

  1. สันติสุข
    ‘พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบากฉะนั้นเราจะไม่กลัว’ (ข้อ 1–2ก)

  2. ความชื่นชมยินดี
    ‘มีแม่น้ำสายหนึ่งที่คลองระบายทำให้นครของพระเจ้ายินดี’ (ข้อ 4 ก) พระเยซูทรงตรัสถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ ‘แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิต’ (ยอห์น 7:38) แม่น้ำสายนี้ไม่ได้มีอยู่จริงในเชิงกายภาพ แต่อยู่ในใจคุณ

  3. ความปลอดภัย ‘พระเจ้าสถิตกลางพระนคร นครนั้นจะไม่สั่นคลอน พอรุ่งอรุณพระเจ้าจะทรงช่วยนครนั้นไว้’ (สดุดี 46:5)

  4. การปกป้องคุ้มครอง
    ‘พระยาห์เวห์จอมทัพสถิตกับเราทั้งหลาย พระเจ้าของยาโคบทรงเป็นที่กำบังอันแข็งแกร่งของเรา’ (ข้อ 7, 11) ‘พระเจ้าต่อสู้เพื่อเรา’ และ ‘ปกป้องเรา’ (ข้อ 11, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้ข้าพระองค์ ‘นิ่งเสียและรู้เถิดว่า(พระองค์)คือพระเจ้า’ (ข้อ 10) ข้าพระองค์ขอมอบความกลัว ความวิตก และความกังวลไว้ที่พระองค์ ขอบคุณพระองค์ที่ลูกสามารถไว้วางใจในพระองค์ได้ ขอบคุณการทรงสถิตของพระองค์ ขอบคุณสำหรับสันติสุข ความชื่นชมยินดี ความปลอดภัย และการปกป้องดูแลที่พระองค์ทรงมอบให้

ลูกา 17:11-37

‘แผ่นดินของพระเจ้าอยู่ท่ามกลางคุณ’

ด้วยการเสด็จมาของพระเยซูและแผ่นดินของพระเจ้า พระเจ้าได้เสด็จมาประทับท่ามกลางประชากรของ พระองค์ พระเยซูคือ ‘อิมมานูเอล’ (แปลว่าพระเจ้าสถิตกับเรา) (มัทธิว 1:23) พระเยซูทรงสอนว่าแผ่นดิน ของพระเจ้านั้น ‘มาแล้ว’ และ ‘กำลังจะมา’

  1. การทรงสถิตของพระเจ้า ‘มาแล้ว’
    พวกฟาริสีทูลถามพระเยซูว่าแผ่นดินของพระเจ้าจะมาถึงเมื่อไหร่ พระเยซูตรัสตอบว่า ‘แผ่นดินของ พระเจ้าไม่ได้มาจากการนับวันในปฏิทิน หรือเมื่อมีคนพูดว่า “ดูนี่สิ!” หรือ “นั่นมัน!” และทำไม? เพราะแผ่นดินของพระเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกท่านแล้ว’ (ลูกา 17:20–21, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

แผ่นดินของพระเจ้าคือการปกครองและครอบครองของพระเจ้า พระเยซูทรงเปิดเผยเกี่ยวกับแผ่นดิน ของพระเจ้า โดยการประกาศข่าวประเสริฐและการรักษาคนป่วย (เช่น ข้อ 15–18) และผ่านการสิ้น พระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ ด้วยการเสด็จมาของพระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ อย่างไรก็ตามการทรงสถิตของพระเจ้านั้นไม่ได้ปรากฏให้เห็นด้วยตา และเราไม่สามารถพูดได้ว่า ‘มาดูนี่’ หรือ ‘ไปดูโน่น’ ได้เสมอ (ข้อ 21) แต่เวลานั้นกำลังมา เวลาแห่งการสถิตของพระองค์จะปรากฏขึ้น

  1. การทรงสถิตของพระเจ้า ‘กำลังจะมา’
    ในวันหนึ่งพระเยซูจะเสด็จกลับมา นี่จะเป็นวันที่แผ่นดินของพระเจ้าจะมาตั้งอยู่อย่างสมบูรณ์ แล้วทุกคนจะเห็น ‘เพราะว่าบุตรมนุษย์ ในวันของพระองค์นั้นจะเหมือนอย่างฟ้าแลบ เมื่อแลบออก จากฟ้าข้างหนึ่ง ก็ส่องสว่างไปถึงฟ้าอีกข้างหนึ่ง’ (ข้อ 24)

นี่จะเป็นวันที่บุตรมนุษย์ได้มาปรากฏ และสำแดงพระสิริของพระองค์ (ข้อ 30) และเราจะได้เห็น พระองค์แบบหน้าต่อหน้า (1 โครินธ์ 13:12) และ ‘เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์’ (1 เธสะโลนิกา 4:17) เราจะได้มีประสบการณ์ในการทรงสถิตที่มองเห็นได้ของพระเจ้าตลอดไป

ตอนนี้อาจมองไม่เห็นการสถิตอยู่ของพระเจ้า ผู้คนจึงมุ่งความสนใจไปที่การกิน การดื่ม การสมรส การซื้อ ขาย หว่านปลูก และก่อสร้าง (ดู ลูกา 17:27–28) สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ผิดในตัวเองและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ปัญหาใน สมัยของโนอาห์และของโลทคือคนส่วนใหญ่ไม่ฟังคำเตือน พระเยซูทรงย้ำให้คุณเตรียมพร้อม

สิ่งที่ดูขัดแย้งก็คือ ‘คนที่พยายามเอาชีวิตของตนรอด คนนั้นจะเสียชีวิต แต่คนที่ยอมเสียชีวิต คนนั้นจะได้ ชีวิตรอด’ (ข้อ 33) หากคุณเอาแต่พยายามค้นหาวิธีการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการมีเงินมากที่สุด ตำแหน่งสูงสุด ชื่อเสียงที่ดีที่สุด ความนิยมสูงสุด คุณก็จะพลาด หากคุณได้ตายเพราะการปฏิเสธตัวเอง และรับใช้พระเยซู คุณจะพบชีวิตที่บริบูรณ์อย่างแท้จริง

ในขณะที่คุณมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานี้คือระหว่างการเสด็จมาครั้งแรกและครั้งที่สองของพระเยซู อย่าลืมขอบคุณ พระเจ้าสำหรับพระพรทั้งสิ้นของพระองค์ ในบรรดาคนโรคเรื้อนสิบคนที่พระเยซูทรงรักษา มีเพียงคนเดียวที่กลับมา ‘คนหนึ่งในพวกนั้นเมื่อเห็นว่าตัวเองหายโรคแล้ว จึงกลับมาสรรเสริญพระเจ้าด้วยเสียงดัง และกราบลงที่พระบาทของพระเยซู ขอบพระคุณพระองค์’ (ลูกา 17:15–16)

เป็นเรื่องง่ายที่จะเป็นเหมือนคนโรคเรื้อนทั้งเก้าที่ลืมขอบคุณพระเยซู จงปลูกฝังท่าทีแห่งการขอบพระคุณ ใช้เวลาในการขอบคุณพระเยซูสำหรับสำหรับการที่พระองค์ทรงตอบอธิษฐาน ความรักมั่นคงของพระองค์ การให้อภัย ความเมตตาของพระองค์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพระสัญญาที่ว่าพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับคุณ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ผมกำลังอธิษฐานอยู่ที่ไฮด์ปาร์ค ผมตัดสินใจลองนึกย้อนกลับไปถึงหนึ่งร้อยสิ่ง ที่จะขอบคุณพระเจ้า ผมนึกออกอย่างรวดเร็ว และก็ตระหนักว่าผมแทบจะไม่ได้เขียนพระพรทั้งหมดนั้น เพื่อแสดงความขอบคุณเลย

ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ทรงโปรดอภัยข้าพระองค์ที่หลงลืมที่จะขอบคุณพระองค์อยู่เสมอ ขอบคุณสำหรับการอวยพรของพระองค์

เฉลยธรรมบัญญัติ 26:1-28:14

เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์

ในพระธรรมตอนนี้ เราเห็นเบื้องหลังบางส่วนในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมเกี่ยวกับความเข้าใจเรื่อง ‘เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์’ แผ่นดินที่พระเจ้าประทานให้เป็นมรดกคือที่ซึ่งพระองค์ทรงเลือกให้ ‘พระนามของพระองค์ประทับที่นั่น’ (26:2)

พวกเขากล่าวถึงประวัติศาสตร์ ‘เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขานมัสการ ‘เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ใน ‘เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า’ พวกเขาอธิษฐานขอการอวยพรจากพระองค์ (ข้อ 9-16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขาชื่นชมยินดีใน ‘เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า’ (27:7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเจ้าได้ทรงช่วยคนของพระองค์ให้พ้นจาก ‘ความทุกข์ใจ ความลำบาก และการถูกข่มเหง’ (26:7) นี่เป็นคำอธิบายที่ดีสำหรับชีวิตที่ปราศจากการทรงสถิตของพระเจ้า พระเจ้าทรงเรียกประชากรของพระองค์ว่า ‘เป็นของล้ำค่าของพระองค์’ (ข้อ 18) พระองค์ทรงตรัสสั่งให้พวกเขาให้สร้างแท่นบูชา เพื่อจะเป็นที่ที่พวกเขา จะได้ ‘ยินดีเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์’ (27:7)

บาป คือ สิ่งที่พาเราออกจากการทรงสถิตของพระเจ้า ดังนั้นพระเจ้าจึงเตือนประชากรของพระองค์ให้หลีกเลี่ยง การทำรูปเคารพ การหมิ่นประมาทบิดาและมารดา การฉ้อโกง การทำให้คนตาบอดหลงทาง ความอยุติธรรม การผิดศีลธรรมทางเพศ การฆาตกรรม และการติดสินบน (ข้อ 14–26)

ในทางตรงกันข้าม หากประชากรของพระเจ้าเชื่อฟังพระองค์ พวกเขาจะรับพระพรทั้งสิ้นของพระองค์ (28:1–14) พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะอวยพรบ้านเรือน ครอบครัว งานและกิจกรรมต่าง ๆ ของพวกเขา ดังที่ จอยซ์ ไมเยอร์ เขียนไว้ว่า ‘การเชื่อฟังไม่ควรเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว มันควรจะเป็นวิถีชีวิต มีความแตกต่างกันมากระหว่างคนที่เต็มใจเชื่อฟังพระเจ้าทุกวัน กับคนที่ยอมเชื่อฟังเพียงเพื่อเอาตัวรอดจากปัญหา แต่พระเจ้าทรงเทพระพรของพระองค์ลงมาแก่ผู้ที่ตัดสินใจติดตามพระองค์อย่างสุดหัวใจ และเชื่อฟังพระองค์ในวิถีชีวิตของพวกเขา’

แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อฟังพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์นอกจากองค์พระเยซูคริสต์ แต่โดยการสิ้นพระชนม์และ การฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ทำให้คุณได้รับการอภัยและสามารถชื่นชมยินดีในการทรงสถิตของพระเจ้า คำพยากรณ์ถึงพระสัญญาเกี่ยวกับพระพรของพระเจ้าทั้งหมดที่ปรากฏในพระธรรมตอนนี้ ในวันหนึ่งเมื่อ พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมา คุณจะได้รับประสบการณ์ในความบริบูรณ์ของการทรงสถิตของพระเจ้า ทั้งพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์

ข้าแต่พระบิดา ขอบพระคุณสำหรับพระพรทั้งหมดที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ ขอบพระคุณสำหรับการอภัยที่มีอยู่ในพระเยซูคริสต์ ขอบพระคุณที่ข้าพระองค์ได้สัมผัสถึงพระพรของพระองค์ในชีวิต และในวันหนึ่ง ข้าพระองค์จะได้มีประสบการณ์การเต็มล้นในการทรงสถิตของพระองค์

Pippa Adds

สดุดี 46:1-2ก

‘พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก ฉะนั้นเราจะไม่กลัว’

ฉันรู้สึกดีขึ้นทันทีที่ได้อ่านพระธรรมตอนนี้ ฉันรู้ว่าพระเจ้าอยู่กับฉันในทุกสถานการณ์ ฉันต้องคอยเตือนตัวเอง อยู่เสมอว่าฉันจะ ‘ไม่กลัว’ แม้ว่าจะถูกทดลองก็ตาม ฉันพยายามทำตามที่ข้อ 10 ที่กล่าวว่า ‘จงนิ่งเสีย และรู้เถิดว่าเราคือพระเจ้า’

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

ဤအစီအစဥ္အေၾကာင္း

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More