YouVersion လိုဂို
ရွာရန္ အိုင္ကြန္

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลနမူနာ

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

365 ၏ ေန႔ 104

จะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดแบบเรือไททานิกได้อย่างไร

เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง *ไททานิก* อธิบายถึงเรือไททานิกว่าเป็น ‘อุปมา’ ของชีวิต ‘เราทุกคนอาศัยอยู่บน... เรือไททานิก’ เมื่อเรือไททานิกออกเดินทางในปี ค.ศ. 1912 มีการประกาศว่ามันเป็นเรือที่ ‘ไม่มีวันจม’ เนื่องจากมันถูกสร้างโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเรือแบ่งออกเป็นห้องผนึกน้ำ 16 ห้อง ห้องผนึกน้ำเหล่านี้ได้รับความเสียหายและน้ำท่วมถึง 4 ห้อง แต่เรือก็ยังคงลอยลำอยู่ได้ โศกนาฏกรรมเรือไททานิกจมในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 เวลา 2.20 น. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,513 คน ในเวลานั้นมีความคิดที่ว่ามีห้องผนึกน้ำ 5 ห้องถูกทำลายจากการชนกับภูเขาน้ำแข็ง อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1985 เมื่อพบซากของเรือไททานิกนอนอยู่บนก้นพื้นมหาสมุทร กลับไม่พบร่องรอยของรอยรั่วที่เคยคิดว่าฉีกขาดในตัวเรือเลย สิ่งที่พวกเขาค้นพบก็คือความเสียหายของห้องผนึกน้ำเพียงช่องเดียวที่ส่งผลกระทบถึงส่วนที่เหลือทั้งหมด หลายคนได้ทำความผิดพลาดแบบเรือไททานิก พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถแบ่งชีวิตออกเป็น ‘ส่วน’ ต่าง ๆ และคิดว่าสิ่งที่พวกเขาทำในส่วนหนึ่งจะไม่ส่งผลกระทบถึงส่วนที่เหลือ ริค วอร์เรน (คือคนที่ผมได้นำภาพประกอบนี้มา) กล่าวว่า *‘ชีวิตแห่งความซื่อสัตย์คือชีวิตที่ไม่ได้แบ่งออกเป็นส่วน ๆ’* ดาวิดอธิษฐานเพื่อ *‘ใจเดียว’* (สดุดี 86:11) เขานำประชาชนด้วย *‘ใจเที่ยงธรรม’* (78:72) ยิ่งไปกว่านั้น พระเยซูทรงเป็น *‘คนซื่อสัตย์’* (มัทธิว 22:16; มาระโก 12:14) คุณและผมจะหลีกเลี่ยงความผิดพลาดแบบไททานิกและมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ได้อย่างไร?

สุภาษิต 9:13-18

ซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์ การล่อลวงมากมายและสิ่งล่อใจนั้นมีอิทธิพล ‘หญิงโง่นั้นส่งเสียงเอ็ดอึง’ (ข้อ 13ก) ‘ร้องเรียก’ (ข้อ 15ก) ‘เข้ามาที่นี่!’ (ข้อ 16ก) นางพูดว่า ‘น้ำที่ขโมยมาหวานดี และอาหารที่รับประทานในที่ลับก็อร่อย!’ (ข้อ 17)

และสิ่งเหล่านี้เป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น ทำไมน้ำที่ ‘ขโมย’ มาจึงหวานดี หรืออาหารที่รับประทาน ‘ในที่ลับ’ จึงอร่อย? ในความเป็นจริงแล้ว ความไม่ซื่อสัตย์นำไปสู่จิตวิญญาณที่ตายด้าน ‘แต่เขาไม่ทราบว่าคนตายอยู่ที่นั่น และแขกของนางก็อยู่ในห้วงลึกของแดนคนตาย’ (ข้อ 18)

อัครสาวกเปาโลเขียนไว้ว่า ถ้าคุณเอาใจใส่ต่อสิ่งที่คุณปรารถนาตามธรรมชาติความบาปของคุณ มันจะนำไปสู่ความตาย ‘แต่การเอาใจใส่พระวิญญาณ ก็คือชีวิตและสันติสุข’ (โรม 8:6)

ข้าแต่พระเจ้า โดยพระวิญญาณของพระองค์ ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตที่ซื่อสัตย์ ถอนรากของความบาปที่เป็นความลับ และดำเนินชีวิตที่แท้จริงและน่าเชื่อถือ

ลูกา 16:1-18

ซื่อสัตย์ในเรื่องเงิน

พระเยซูตรัสเกี่ยวกับเงินมากกว่าเรื่องอื่น ๆ (รวมถึงการอธิษฐานและฟ้าสวรรค์) มีอุปมา 12 เรื่องจาก 38 เรื่องที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเงินหรือทรัพย์สมบัติ ดังที่ บิลลี่ เกรแฮม กล่าวว่า ‘ถ้าผู้คนมีทัศนคติเรื่องเงินอย่างตรงไปตรงมา มันจะช่วยให้ชีวิตของพวกเขาตรงไปตรงมาเกือบทุกเรื่อง’

ในบทความวันนี้ พระเยซูทรงสอนเราว่าจะมีมุมมองที่ถูกต้องในเรื่องเงินได้อย่างไร พระองค์ทรงเริ่มต้นด้วยอุปมาที่ค่อนข้างแปลกเกี่ยวกับพ่อบ้านที่ไม่ซื่อสัตย์ ผู้ซึ่งได้รับคำชมเชยในความเฉลียวฉลาดของตน

  1. เงินเป็นเครื่องมือ
    ผู้คนของโลกนี้มักจะมีไหวพริบ รอบคอบ ระมัดระวังและเฉลียวฉลาดมากกว่าคนของพระเจ้าในการใช้เงินเป็นเครื่องมือ พ่อบ้านที่ไม่ซื่อสัตย์ได้รับคำชมเชยในความเฉลียวฉลาดของเขาที่เห็นในเรื่องนี้ ความเป็นจริงคือเงินสามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ที่ไม่สิ้นสุด ‘เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงทำตัวให้มีมิตรสหายด้วยเงินทองอธรรม เพื่อที่ว่าเมื่อสูญเสียมันไปแล้ว เขาจะได้ต้อนรับท่านไว้ในที่อาศัยตลอดไป’ (ข้อ 9)

พระเยซูทรงสอนถึงความอัศจรรย์ของการอยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์ในอุปมาเรื่องงานเลี้ยงใหญ่ (14:15-24) และเรื่องบุตรที่ฟุ่มเฟือย (15:11-32) ณ จุดนี้เราได้รับการเตือนว่าการใช้เงินของเราบนโลกนี้อาจส่งผลชั่วนิรันดร์ สิ่งหนึ่งซึ่งพระเยซูทรงห่วงใยเป็นลำดับแรกคือการได้เห็นข่าวประเสริฐเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าได้รับการประกาศออกไป (16:16) คุณสามารถใช้ทรัพย์ที่มีให้เกิดผลสู่ชีวิตนิรันดร์โดยการขยายแผนงานของพระเจ้าและนำความรอดไปสู่ชีวิตของผู้คนอีกมากมาย

  1. เงินเป็นบททดสอบ
    พระเยซูไม่ชมเชยพ่อบ้านที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ของเขา พระองค์ตรัสต่อไปว่า ‘คนที่ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อยจะซื่อสัตย์ในของมากด้วย และคนที่ไม่ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อย จะไม่ซื่อสัตย์ในของมากเช่นกัน ดังนั้นถ้าพวกท่านยังไม่ซื่อสัตย์ในเงินทองอธรรมแล้ว ใครจะมอบของเที่ยงแท้ให้แก่ท่าน?’ (ข้อ 10-11)

จงเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์และน่าเชื่อถือในทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงมอบให้คุณ รวมถึงเงินของคุณด้วย ยิ่งคุณมีความน่าเชื่อถือในเรื่องเงินมากเท่าไร พระเจ้าจะยิ่งประทาน ‘ความมั่งคั่งที่เที่ยงแท้’ ให้กับคุณมากเท่านั้น

  1. เงินเป็นภัยคุกคาม
    พระเยซูตรัสว่า ‘ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เพราะจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง หรือจะนับถือนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านจะรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้’ (ข้อ 13) ดังที่ ดีทริช บอนโฮฟเฟอร์ กล่าวไว้ว่า ‘หัวใจของเรามีที่ว่างสำหรับการอุทิศตัวให้กับคนเพียงคนเดียว และเราสามารถซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น’

เงินมีเอาไว้ใช้ แต่ไม่ได้มีเอาไว้รัก อย่ารักเงินและหลอกใช้ผู้คน จงรักผู้คนและใช้เงิน

ภัยคุกคามของการรักเงินทองนำไปสู่การเกลียดชังพระเจ้า (ข้อ 13) พวกฟาริสีรักเงินทอง (พวกเขา ‘หลงใหลเรื่องเงินทอง’ พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) และเยาะเย้ยพระเยซู (ข้อ 14) จงมีทัศนคติในทางตรงกันข้ามกับเงิน แต่จง ‘ดูหมิ่น’ เงินทอง (ข้อ 13) กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ให้เราปฏิบัติดูหมิ่นเงินทองโดยการให้ออกไปด้วยใจกว้างขวางและเน้นไปที่ความรักไม่ใช่เงินทอง และมุ่งเน้นไปที่พระเจ้าผู้ซึ่ง ‘ทราบจิตใจของท่าน’ (ข้อ 15)

ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้เป็นผู้รับใช้ที่ดีในทุก ๆ สิ่งที่พระองค์ทรงไว้วางใจข้าพระองค์ ให้ข้าพระองค์เป็นคนซื่อสัตย์ และน่าเชื่อถือ ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะให้ด้วยใจกว้างขวาง และไม่จดจ่อความคิดไปที่เงินทอง แต่มุ่งเน้นไปที่พระองค์

เฉลยธรรมบัญญัติ 21:1-22:30

ซื่อสัตย์ในการดำเนินชีวิต

กฏต่างๆเหล่านี้มีวัตถุประสงค์ชั่วคราว ตัวอย่างเช่น กฏเกี่ยวกับอาหารอาหารและกฏอื่น ๆ เป็นนัยที่ใช้สอนประชาชนของพระเจ้าในเรื่องการแสวงหาความบริสุทธิ์

กฏข้ออื่น ๆ ที่อาจทำให้เราตกใจ เพราะดูจะมาเหนือกาลเวลาอย่างน่าประหลาดใจสำหรับมาตรฐานของยุคนั้น ตัวอย่างเช่น มีข้อปฏิบัติที่จำกัดสำหรับหญิงที่ถูกจับมาเป็นเชลย (21:10-14) เธอต้องไม่ถูกทำให้เสียเกียรติหรือทำให้อับอาย (ข้อ 14)

ต้องมีการให้เกียรติในความสัมพันธ์ทางเพศ พระเจ้าทรงห่วงใยเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน, การสำส่อน (22:21), การล่วงประเวณี (ข้อ 22), การข่มขืน (ข้อ 25-27), และการร่วมประเวณีระหว่างคนในครอบครัวเดียวกัน (ข้อ 30) อย่างที่เราได้เห็นในข้อพระคำในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่สำหรับวันนี้ พระเยซูตรัสอย่างหนักแน่นว่ามีความจำเป็นต้องให้เกียรติกับคำสาบานในงานแต่งงาน (ลูกา 16:18)

พระเจ้าก็ทรงห่วงใยเกี่ยวกับการปกป้องผู้อ่อนแอด้วย การข่มขืนเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงเสมอ แต่ในสังคมยุคโบราณมันสามารถลดโอกาสในการแต่งงานของหญิงนั้นได้เช่นกัน นี่เป็นบริบทที่อยู่เบื้องหลังข้อผูกพันสำหรับผู้ที่ข่มขื่นที่ต้องจ่ายค่าชดเชยและแต่งงานกับหญิงนั้น (เฉลยธรรมบัญญัติ 22:29) อย่างไรก็ตามในพระคัมภีร์ข้อที่เหมือนกันใน อพยพ 22:17 ได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่ากฏข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าหญิงนั้นต้องแต่งงานกับชายที่ข่มขืนนาง กฏหมายนี้ตั้งไว้เพื่อคุ้มครองเหยื่อที่ถูกข่มขืน ไม่ได้มีไว้เพื่อบังคับให้แต่งงานบนความทุกข์ของพวกเขา

จงแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนบ้าน (เฉลยธรรมบัญญัติ 22:1-3) การไม่ทำอันตรายเพื่อนบ้านนั้นยังไม่เพียงพอ จงทำดีต่อพวกเขา การเพิกเฉยต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งผิด ‘อย่าทำเป็นมองไปทางอื่นราวกับว่าท่านไม่ได้พบเห็น’ (ข้อ 3, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เราได้เห็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่กฎหมายของอังกฤษอธิบายว่าเป็น ‘หน้าที่ในการดูแล’ ต่อเพื่อนบ้านของเรา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทรัพย์สินของคุณ (บ้าน รถยนต์ รถจักรยาน และอื่น ๆ) ปลอดภัย และไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อเพื่อนบ้าน จง ‘ทำให้ปลอดภัย’ (ข้อ 8, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ผมพบว่าข้อพระคำทั้งหมดในวันนี้ท้าทายมาก ผมรู้ว่าผมยังบกพร่องในหลาย ๆ ด้าน ผมมักจะผิดพลาด ยังคงมีความหวังอยู่หรือไม่?

ในตอนกลางของกฏทั้งสิ้นนี้ชี้ให้เห็นถึงเบาะแสบางอย่าง ‘ผู้ที่ต้องถูกแขวนไว้บนต้นไม้ก็ถูกสาปแช่งโดยพระเจ้า’ (21:23) เปาโลได้อ้างถึงพระคัมภีร์ข้อนี้ในพระธรรมกาลาเทียและอธิบายถึงความสำคัญของพระคำข้อนี้ให้กับเรา ผู้ที่ไม่ได้ประพฤติตามข้อความทุกข้อที่เขียนไว้ในธรรมบัญญัติของพระเจ้าก็ถูกสาปแช่ง เพราะนี่เป็นคำสาปของธรรมบัญญัติ (กาลาเทีย 3:10) แต่ข่าวดีก็คือ พระเยซูได้แบกรับเอาคำสาปแช่งนั้นด้วยพระองค์เองแทนเราบนไม้กางเขนแล้ว (‘ต้นไม้’)

‘พระองค์ทรงเป็นคำสาปแช่ง และในเวลาเดียวกันพระองค์ทรงยุติคำสาปแช่ง’ (ข้อ 13, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ผลก็คือบัดนี้เราทุกคนจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามพระสัญญาโดยความเชื่อ (ข้อ 14)

การที่ผมล้มเหลวในการดำเนินชีวิตอย่างซื่อสัตย์หมายความว่า ผมผิดพลาดในการรักษาพระบัญญัติ ดังนั้นผมจึงตกอยู่ภายใต้คำสาปแช่งของพระเจ้า แต่พระเยซูทรงแบกรับคำสาปแช่งแทนผมบนไม้กางเขน เมื่อถูกแขวนอยู่บนต้นไม้พระองค์ทรงแบกรับเอาคำสาปแช่งไว้ด้วยพระองค์เองเพื่อคุณและผม ดังนั้นเราจึงได้รับการไถ่ได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระและได้รับพระวิญญาณตามพระสัญญาเพื่อให้เราสามารถเริ่มต้นที่จะนำชีวิตไปสู่การมีชีวิตที่ซื่อสัตย์โดยสมบูรณ์

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อข้าพระองค์ดังนั้นข้าพระองค์จึงได้รับการอภัยและได้รับของขวัญเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ โดยพระวิญญาณของพระองค์โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้ดำเนินชีวิตที่มีใจเที่ยงธรรม

Pippa Adds

เฉลยธรรมบัญญัติ 21:18-21

ฉันพบว่าข้อพระคัมภีร์ตอนนี้ยากมาก ฉันต้องการพระเยซูมากกว่า!

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

ဤအစီအစဥ္အေၾကာင္း

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More