Лого на YouVersion
Икона за пребарување

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลПримерок

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

88 ДЕН ОД 365

จะเป็นผู้มีปัญญาได้อย่างไร

โอปราห์ วินฟรีย์กล่าวว่า ‘ทำตามสัญชาตญาณของคุณ นั่นคือจุดที่แสดงให้เห็นถึงปัญญาที่แท้จริง’ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ปัญญามาจากภายในและเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง เนื่องจากคุณถูกสร้างตามพระฉายาของ พระเจ้าเป็นความจริงในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ดังที่เราจะได้เห็นในบทความของวันนี้คือ ปัญญาที่แท้จริงมาจากพระเจ้าและมาจากความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า ดังที่เราได้เห็นแล้วว่าความรู้เป็นแนวนอน แต่ปัญญาเป็นแนวดิ่ง มันลงมาจากเบื้องบน คุณจะเติบโตขึ้นในปัญญาถ้าคุณเรียนรู้ สะท้อน และใช้ชีวิตในสัมพันธภาพกับพระเจ้า เราทุกคนต้องการสติปัญญา ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมมีพระธรรมหลายเล่มเกี่ยวกับ ‘ปัญญา’ ไม่ว่าจะเป็นพระธรรมสุภาษิต โยบ ปัญญาจารย์ และเพลงซาโลมอน นอกเหนือจากนี้ยังมีงานเขียนต่าง ๆ ทั่วทั้งพระคัมภีร์ซึ่งอาจอธิบายได้อย่างคร่าว ๆ ว่าเป็น ‘บทประพันธ์แห่งปัญญา’ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่หลากหลายเช่น อำนาจของลิ้น พระพรแห่งความซื่อสัตย์ อันตรายของการล่วงประเวณี อันตรายของ การมึนเมา ความไม่เท่าเทียมกันของชีวิต การทนทุกข์ของผู้ชอบธรรม ทักษะของการเป็นผู้นำ และศิลปะของการเป็นบิดามารดา สติปัญญาเป็นสามัญสำนึกที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ มันนำไปสู่การเข้าใจตนเองมากขึ้น และทำให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาในชีวิต ก้าวผ่าน และควบคุมความท้าทายของมันได้ มันเป็นมรดกตกทอดที่พ่อแม่ที่ดีต้องการมอบให้ลูก ๆ ในที่สุดปัญญานั้นพบได้ในพระเยซูคริสต์ผู้เป็น ‘พระปัญญาของพระเจ้า’ (1 โครินธ์ 1:24)

สุภาษิต 8:12-21

แสวงหาพระปัญญาของพระเจ้า

ปัญญามีค่ามหาศาล ‘ผลประโยชน์ของข้าพเจ้ามีค่ามากกว่าเงินเดือนก้อนโต หรือแม้แต่เงินเดือนมหาศาล ผลตอบแทนของข้าพเจ้ามากเกินกว่าโบนัสใด ๆ ที่จะจินตนาการได้’ (ข้อ 18-19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ปัญญามีค่ามากกว่าความมั่งคั่งทางวัตถุทั้งสิ้นในโลกนี้ นอกเหนือจากนี้ปัญญาแตกต่าง จากความมั่งคั่งทางวัตถุ เพราะปัญญาคงอยู่ชั่วนิรันดร์ (ข้อ 18)

ในบทความนี้ เราจะได้เห็นว่าทำไมปัญญาจึงมีค่ามาก และเราจะแสวงหาปัญญานั้นจากพระเจ้าได้อย่างไร:

1. ปัญญามาจากพระเจ้า

ปัญญาเริ่มต้นจากความสัมพันธ์กับพระเจ้าซึ่งเริ่มต้นด้วย ‘ความยำเกรงพระยาห์เวห์’ (ข้อ 13) ‘ยำเกรง’ หมายถึง ‘เคารพ’ และการตระหนักรู้อย่างลึกซึ้งว่าพระเจ้าเป็นรากฐานของปัญญาทั้งสิ้น

2. ปัญญานั้นบริสุทธิ์และงดงาม

ผู้เขียนพระธรรมสุภาษิตกล่าวว่า ‘ความยำเกรงพระยาห์เวห์คือการเกลียดชังความชั่วร้าย ข้าพเจ้าเกลียดความเย่อหยิ่งและความจองหอง และทางของความชั่วร้ายกับวาจาตลบตะแลง... ข้าพเจ้าดำเนินในทางแห่งความชอบธรรม ในท่ามกลางวิถีแห่งความยุติธรรม (ข้อ 13,20) นี่เป็นบททดสอบของสติปัญญาที่แท้จริงที่มาจากพระเจ้า ดังที่อัครสาวกยากอบเขียนไว้ว่า ‘แต่ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข การผ่อนหนักเป็นเบา การยอมรับฟัง การเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาและผลดีต่าง ๆ ไม่มีการลำเอียง ไม่มีการหน้าซื่อใจคด’ (ยากอบ 3:17)

3. ปัญญาช่วยให้คุณเป็นผู้นำที่ดี

ปัญญามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้นำ ถ้าคุณต้องการเป็นผู้นำที่ดี คุณต้องมีสติปัญญาและสามัญสำนึก ‘โดยความช่วยเหลือของข้าพเจ้า ผู้นำจึงได้ปกครอง และผู้บัญญัติกฎหมายออกกฎหมาย อย่างยุติธรรม โดยความช่วยเหลือของข้าพเจ้า ผู้ปกครองจึงครอบครองรวมทั้งผู้มีอำนาจตามกฎหมาย’ (สุภาษิต 8:15-16,พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

4. ปัญญามีไว้สำหรับคุณ

พระเจ้าทรงสัญญาจะประทานสติปัญญาให้กับผู้ที่เสาะแสวงหา ‘ข้าพเจ้ารักคนที่รักข้าพเจ้า และคนที่เสาะหาข้าพเจ้าอย่างตั้งใจก็จะพบข้าพเจ้า’ (ข้อ 17) ดังที่อัครสาวกยากอบได้กล่าวว่า ‘แต่ถ้าใครในพวกท่านขาดสติปัญญา ให้คนนั้นทูลขอจากพระเจ้าผู้ประทานให้กับทุกคนด้วยพระทัย กว้างขวางและไม่ทรงตำหนิ แล้วเขาก็จะได้รับตามที่ทูลขอ’ (ยากอบ 1:5) นี่เป็นคำอธิษฐานที่คุณ สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำตอบ

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ต้องการพระปัญญาของพระองค์เป็นอย่างมากในวันนี้ ขอโปรดทรงประทานสติปัญญาที่บริสุทธิ์ เป็นความสงบสุข การผ่อนหนักเป็นเบา การยอมรับฟัง การเต็มเปี่ยมด้วยเมตตา และผลดีต่าง ๆ ไม่มีการลำเอียง ไม่มีความหน้าซื่อใจคดให้กับข้าพระองค์

ลูกา 7:36-50

มองดูผู้คนด้วยสายตาอันมีปัญญา

คุณเคยตัดสินใครแบบผิด ๆ เพียงแค่มองจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือไม่?

ในพระธรรมวันนี้เราจะเห็นถึงอดีตของหญิงคนหนึ่งซึ่งขายความรักของเธอเป็นชั่วโมงในฐานะที่เป็นโสเภณีในเมือง หญิงนั้นได้ล้างพระบาทพระเยซูด้วยผมของเธอ จูบพระบาทและเทผอบน้ำมันหอมชโลม ปฏิกิริยาตอบสนองของพวกฟาริสีเป็นไปตามธรรมชาติคือ: ‘ถ้าท่านผู้นี้เป็นผู้เผยพระวจนะ ก็น่าจะรู้ว่าผู้หญิงที่แตะต้องตัวของท่านเป็นใครและเป็นคนอย่างไร เพราะนางเป็นคนบาป’ (7:39)

แต่พระเยซูทรง ‘เต็มเปี่ยมด้วยสติปัญญา’ (2:40) ตั้งแต่แรก พระองค์สามารถมองเห็นภายใต้รูปลักษณ์ภายนอก พระองค์ทรงเห็นความจริงว่าหญิงนั้นแสดงออกถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของตนที่มีต่อพระองค์ เพราะเธอรู้ว่าเธอได้รับการอภัยมากมายเพียงใด คุณอาจเคยมีอดีตในด้านลบ แต่คุณสามารถมีอนาคตที่ดี และได้รับพระพรได้

เราได้เห็นพระปัญญาของพระเยซูทั้งในด้านความเข้าใจลึกซึ้งที่มีต่อผู้อื่น และในวิธีที่พระองค์เลือกที่จะสั่งสอน พระองค์กล่าวถึงอุปมาเกี่ยวกับเจ้าหนี้ เขามีลูกหนี้สองคน คนหนึ่งเป็นหนี้ 5,000 ปอนด์ อีกคนหนึ่งเป็นหนี้ 50,000 ปอนด์ เขายกหนี้ทั้งหมดให้ทั้งสองคน ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เป็นเจ้าหนี้จะสามารถทำแบบนั้นได้ แต่นั่นคือความรักของพระเยซูอย่างแท้จริง ความบาปทั้งสิ้นของคุณถูกลบล้าง คุณได้รับการอภัยโดยสิ้นเชิง ยิ่งมีหนี้มากเท่าไร คุณก็จะรู้สึกขอบคุณมากขึ้นเท่านั้นและความรักของคุณที่มีต่อพระเยซูก็จะมากขึ้นเท่านั้นด้วย

คำอุปมานี้ทำให้ซีโมนผู้เป็นฟาริสีตอบข้อสงสัยของตนเองโดยไม่เจตนา (7:43) พระเยซูทรงชี้ให้เห็นอย่างทรงปัญญาและสุภาพว่า ซีโมนไม่ได้ให้การต้อนรับพระองค์อย่างอบอุ่น และไม่แสดงความรักอย่างมาก ปัญหาของซีโมน คือ เขาไม่ตระหนักว่าเขาต้องการการยกโทษมากแค่ไหน

ในทางกลับกัน หญิงผู้นี้รักพระเยซูมากเพราะเธอรู้ว่าเธอได้รับการยกโทษเป็นอย่างมาก (ข้อ 47) เธอเต็มใจที่จะเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธ และมอบตัวเธอเองให้ทั้งหมดทั้งทางปฏิบัติ ทางอารมณ์ และทางการเงิน

เธอร้องไห้มากเสียจนเธอ ‘น้ำตานองเปียกพระบาท’ (ข้อ 38) เพื่อที่จะเช็ดพระบาทของพระองค์ เธอปล่อยผมในที่สาธารณะ (เป็นสิ่งที่ถือว่าน่าอับอาย) เธออยู่ในห้วงอารมณ์ของเธอ และไม่สนใจสิ่งที่คนอื่นคิด เธอไม่หยุดจูบลงที่พระบาทของพระองค์ด้วยความยำเกรงอย่างสุดซึ้ง

จากนั้นเธอเทผอบน้ำมันหอมซึ่งหายากและราคาแพงมา (ปกติแล้วเอาไว้ใช้สำหรับศีรษะ) ลงบนพระบาทของพระองค์ เธอรักพระเยซูด้วยทั้งหมดของหัวใจ พระเยซูทรงมองเห็นหัวใจของคุณมากกว่าอดีตของคุณ พระองค์จึงตรัสกับหญิงคนนั้นว่า ‘ความเชื่อของเธอทำให้เธอรอด จงไปเป็นสุขเถิด’ (ข้อ 50) ความรักของคุณ เป็นผลจากความเชื่อของตัวคุณเอง ดังที่อัครสาวกเปาโลได้เขียนไว้ว่า ‘แต่ความเชื่อซึ่งแสดงออกเป็นการ กระทำด้วยความรักนั้นสำคัญ’ (กาลาเทีย 5:6)

คุณอาจจะไม่ได้มีจุดเริ่มต้นที่ดีในชีวิต แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถมีจุดจบที่ดีได้ ไม่ว่าชีวิตในอดีตของคุณจะเป็นเช่นไร โดยพระเยซูคุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์และมีอนาคตที่ดีได้ คุณไม่จำเป็นต้อง แบกภาระของความผิดพลาดจากความสัมพันธ์ครั้งเก่าหรือจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต ทันทีที่คุณกลับใจ และเชื่อในพระเยซู ความบาปทั้งสิ้นของคุณถูกลบล้างแล้ว สิ่งสำคัญคืออะไรก็ตามที่คุณรู้ด้วยสมองของคุณได้ตกลงมาสู่หัวใจของคุณ

พระเยซูต้องการให้คุณยอมรับว่าคุณเป็นคนบาป คุณไม่สามารถชดใช้หนี้ได้ แต่พระเยซูให้อภัยคุณ ทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะเติมเต็มคุณในวันนี้ด้วยความรักที่เต็มล้นต่อพระเจ้าและความรักต่อผู้อื่น

ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดทรงประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์เหมือนกับพระเยซู เพื่อข้าพระองค์จะไม่ตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่จะมองเห็นลึกถึงหัวใจ ขอโปรดทรงเติมเต็มข้าพระองค์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันนี้ ขอให้ข้าพระองค์เต็มล้นด้วยความรักต่อพระองค์และต่อผู้อื่น

กันดารวิถี 26:12-27:11

แสดงสติปัญญาในการตัดสินใจที่เหมาะสม

โมเสสแสดงให้เห็นถึงปัญญาที่เหมาะสมโดยการจัดสรรขนาดของที่ดินตามขนาดของเผ่า (26:54)

น่าเศร้าที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีปัญญาเหมือนโมเสส เมื่อพวกเขาอยู่ในถิ่นทุรกันดารพวกเขากบฏและบ่นว่าพระเจ้า ผลก็คือพระเจ้าตรัสว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้าในดินแดนแห่งพระสัญญา นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง รายชื่อที่ถูกนับใน ถิ่นทุรกันดารซีนาย ‘ไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียวเหลืออยู่ นอกจากคาเลบบุตรเยฟุนเนห์และโยชูวาบุตรนูน’ (ข้อ 64-65)

มีเพลงเก่าที่ร้องสั้น ๆ ว่า

โยชูวาบุตรนูน
และคาเลบ
บุตรเยฟุนเนห์
เป็นเพียงแค่สองคนเท่านั้น
ที่เคยเข้าไป
ในดินแดนแห่งน้ำนมและน้ำผึ้ง

บุตรหญิงทั้งหลายของเศโลเฟหัดก็ได้แสดงถึงสติปัญญาอันดีเยี่ยมในความกล้าและพูดออกไป พวกนางยืนหยัดเพื่อสิทธิสตรี (27:1-11) ถ้าหญิงเหล่านี้ไม่ได้ทำเช่นนั้น ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างจากนี้มาก พวกนางทำถูกต้องแล้วที่มีความกล้าที่จะพูดออกไป

โมเสสจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาอันยอดเยี่ยม เขาไม่ได้เพียงแค่ทำตามประเพณีในยุคของเขา แต่เปิดใจกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ เขามีสติปัญญาที่จะไม่ตัดสินใจอย่างเร่งรีบด้วยกำลังของเขาเอง หรือทำให้พระ ประสงค์ของพระเจ้าสอดคล้องกับประเพณีโบราณโดยอัตโนมัติ

แต่หัวใจของสติปัญญาของโมเสสอยู่ที่การรับรู้ว่าปัญญาที่แท้จริงมาจากพระเจ้า ครั้งแล้วครั้งเล่าที่โมเสสนำปัญหา และความท้าทายของประชาชนทูลต่อพระเจ้า เขาแสวงหาความช่วยเหลือและการทรงนำจากพระเจ้า และเป็นเพราะสิ่งนี้ที่ทำให้เขามีปัญญา

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ต้องการพระปัญญาของพระองค์ในการตัดสินใจทั้งสิ้นที่ข้าพระองค์ต้องทำในแต่ละวัน ขอโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะไม่มองทุกสิ่งด้วยสัญชาตญาณของข้าพระองค์เอง แต่แสวงหาสติปัญญาที่มาจากเบื้องบน เพื่อทำตามตัวอย่างของพระปัญญาของพระเยซู และได้รับการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงประทานสติปัญญาในหัวใจของข้าพระองค์

Pippa Adds

ลูกา 7:36-50

มันไม่ง่ายที่จะตัดสิน ฉันจำได้ว่าอยู่บนรถไฟใต้ดินลอนดอนกับลูกสาวเมื่อเธอยังเล็กมาก เมื่อเราเดินผ่านที่กั้น ฉันเห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังโต้เถียงกับผู้ตรวจสอบ และฉันก็ได้ตัดสินเธอไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน ฉันได้นำลูกสาวออกจากรถเข็นเพื่อลงบันไดเลื่อน และหญิงสาวคนนั้นก็นำหน้าเราไป ลูกสาวของฉันยืนอยู่บนขั้นบันไดที่ต่ำกว่าฉันและเธอก็ล้มลง ฉันถือรถเข็นและกระเป๋ามากมายในมือ และฉันไม่สามารถจะรับเธอไว้ได้ ด้วยความหวาดกลัวของฉัน ฉันเห็นด้านล่างปรากฏขึ้นลาง ๆ และฉันแน่ใจว่าเธออาจจะเข้าไปติดในกลไกของบันไดเลื่อน

มีคนอื่นอยู่รอบ ๆ แต่เป็นหญิงสาวคนนี้ที่หันวิ่งกลับมาและรับลูกของฉันไว้ก่อนที่เธอจะตกถึงด้านล่าง และนำเธอกลับมาให้ฉันอย่างปลอดภัย ฉันรู้สึกสำนึกผิดอย่างสุดซึ้งต่อทัศนคติที่ฉันมีต่อหญิงสาวคนนี้ ฉันรู้สึกขอบคุณเธอ และขอบคุณพระเจ้าสำหรับการจัดเตรียมคนแปลกหน้าที่ใจดีคนนี้

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

Опис за овој план

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More