Лого на YouVersion
Икона за пребарување

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลПримерок

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

214 ДЕН ОД 365

ฤทธิ์เดชแห่งการทรงสถิตของพระองค์

ครั้งหนึ่ง ดยุคแห่งเวลลิงตันเคยกล่าวถึงนโปเลียนว่า 'เมื่อก่อนข้าพเจ้าเคยพูดถึงนโปเลียนว่า การปรากฏตัวของเขาในสนามรบสร้างความแตกต่างให้กับทหารสี่หมื่นคน’ การปรากฏตัวของผู้นำที่เข้มแข็งนั้นส่งผลกระทบอันทรงพลัง ผลกระทบของฤทธิ์เดชอันน่าทึ่งแห่งการทรงสถิตของพระเจ้าจะยิ่งใหญ่กว่านั้นเพียงใด! มีความหิวกระหายฝ่ายวิญญาณอันล้ำลึกในหัวใจของเราทุกคน ซึ่งสามารถอิ่มใจได้โดยการทรงสถิตขององค์พระเจ้าเท่านั้น อาดัมและเอวาสูญเสียการรับรู้ถึงการทรงสถิตของพระเจ้าไปเนื่องจากความบาปของพวกเขา ภายหลังจากนั้น การทรงสถิตของพระเจ้าก็ไม่ได้ถูกรับรู้อย่างที่เคยเป็นมา พระเจ้าทรงบริสุทธิ์ เราไม่สามารถมองข้ามคุณค่าของการทรงสถิตของพระองค์ ผ่านทางกางเขนและการเป็นขึ้นจากความตายของพระเยซูเท่านั้นที่เป็นหนทางไปสู่การทรงสถิตของพระองค์ และของประทานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ดำรงอยู่ในคุณทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ บัดนี้คุณสามารถรับรู้ได้ถึงฤทธิ์เดชแห่งการทรงสถิตของพระเจ้า

สดุดี 90:1-10

การทรงสถิตของพระองค์เปิดเผยความบาปลับ ๆ ของเรา

ผมจำได้ถึงชายคนหนึ่งในกลุ่มย่อยอัลฟ่าของเราพูดว่า เขาไม่อาจเข้าใจแนวคิดเรื่อง ‘ความบาป' ได้ เพราะว่าเขา ‘ใช้ชีวิตเป็นคนดี และไม่ได้ตระหนักจริง ๆ ว่ามีอะไรบางอย่างผิดพลั้งไปในชีวิตของเขา’ หลายสัปดาห์ต่อมา ในอัลฟ่าสุดสัปดาห์ เขาได้มีประสบการณ์กับพระเยซู และเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาน้ำตาไหลอาบแก้ม และพูดว่า เขาตระหนักแล้วว่าชีวิตเขาเต็มไปด้วยความบาปเพียงไร และเขาได้รับการยกโทษบาปมากเพียงไร

ในแสงสว่างการทรงสถิตของพระเจ้าเปิดเผยจุดที่มืดมนในหัวใจของเรา ความบาปต่าง ๆ ซึ่งเราอาจอยากปกปิดไว้แม้กระทั่งกับตัวเราเอง ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า ‘ข้าแต่องค์เจ้านาย พระองค์ทรงเป็นที่พักพิงของข้าพระองค์ทั้งหลาย...พระองค์ทรงตั้งความชั่วของข้าพระองค์ทั้งหลายไว้ต่อพระพักตร์พระองค์ ทรงตั้งบาปลับๆ ของพวกข้าพระองค์ไว้ในแสงสว่างแห่งพระพักตร์ของพระองค์’ (ข้อ 1ก, 8)

ยิ่งเราใช้เวลาอยู่ในการทรงสถิตของพระเจ้านานเท่าไหร่ แสงสว่างก็ยิ่งส่องสว่างและเน้นความบาปของเรามากขึ้น อัครสาวกเปาโลเริ่มโดยการบรรยายถึงตัวเองว่าเป็น ‘ผู้เล็กน้อยที่สุดในพวกอัครทูต’ (1 โครินธ์ 15:9) ภายหลังเขาเรียกตัวเองว่า ‘คนเล็กน้อยยิ่งกว่าเล็กน้อยที่สุดในพวกธรรมิกชนทั้งหมด’ (เอเฟซัส 3:8) ท้ายที่สุด เขาอธิบายตัวเองว่าเป็นคนบาป ‘ตัวเอ้‘! (1 ทิโมธี 1:16)

ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนที่เลวลงกว่าเดิม แต่เป็นเพราะว่า ผ่านทางฤทธิ์เดชอันน่าทึ่งของการทรงสถิตของพระเจ้า ท่านได้ตระหนักถึงแสงสว่างที่ฉายส่องเข้าไปมากขึ้น และมากขึ้นในหัวใจของเขา นั่นอาจดูเหมือนเป็นในทางลบมาก ๆ แต่ที่จริงแล้วสำหรับอาจารย์เปาโล นี่ออกจะตรงกันข้าม ความรู้สึกท่วมท้นของเขาคือการสำนึกในพระคุณและสรรเสริญ เพราะว่าไม่สำคัญว่าเขาเคยทำพลาดขนาดไหน เขาทราบว่าตนเองได้รับการให้อภัยแล้วและรู้จักความสัมพันธ์กับพระเจ้า

ในฐานะคริสเตียน เราสามารถมองไปยังความสัมพันธ์แบบนั้นซึ่งจะคงอยู่ตลอดกาล พระเจ้าทรงนิจนิรันดร์ ‘พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล’ (สดุดี 90:2ข) กระนั้นเรารู้ดีเหลือเกินว่า ชีวิตมนุษย์เปราะบางเพียงใด ผู้เขียนสดุดีเตือนเราว่า เรากลับเป็นผงคลีดินอย่างมนุษย์ (ข้อ 3) เราเป็นเหมือนหญ้าที่งอกขึ้น และเหี่ยวแห้งและร่วงโรยไปในเวลาเย็น (ข้อ 5–6) และช่วงชีวิตโดยทั่วไปของเราก็เพียงเจ็ดสิบหรือแปดสิบปี (ข้อ 10)

ธรรมชาติอันนิรันดร์กาลของพระเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่พระองค์ทรงเป็น สำหรับเรา ชีวิตนิรันดร์ไม่ใช่เรื่องอัตโนมัติหรือเรื่องธรรมชาติ ‘ค่าจ้างของความบาปคือความตาย’ แต่ของประทานจากพระเจ้าคือ ‘ชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา’ (โรม 6:23)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับพระโลหิตของพระเยซูซึ่งชำระข้าพระองค์จากความบาปและความไม่ชอบธรรมทุกประการ ขอบพระคุณที่โดยทางพระองค์แล้ว ข้าพระองค์สามารถเข้าถึงการทรงสถิตอันน่าทึ่งของพระเจ้าได้

โรม 15:14-33

การทรงสถิตของพระองค์มาโดยฤทธิ์เดชขององค์พระวิญญาณบริสุทธิ์

การทรงสถิตของพระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณ และชีวิตของคนอื่น ๆ อย่างสุดขั้ว พระองค์ทรงให้ฤทธิ์เดชทั้งถ้อยคำของคุณและการกระทำของคุณ พระองค์ทรงทำให้หมายสำคัญและการอัศจรรย์เกิดขึ้นได้ นี่คือลักษณะเด่นของคริสตจักรยุคแรก นี่คือสิ่งที่ควรเป็นลักษณะเด่นของคริสตจักรของเราในปัจจุบัน

ตามที่เปาโลเริ่มต้นนำจดหมายอันยิ่งใหญ่ของท่านที่มีไปถึงชาวโรมเข้าสู่ข้อสรุป เขาพูดถึงการทรงเรียกส่วนตัว ‘การมอบหมายที่ต้องจดจ่ออย่างยิ่งที่พระเจ้าทรงประทานให้ข้าพเจ้า เพื่อให้เป็นผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์ไปยังคนต่างชาติ และทำหน้าที่ปุโรหิตฝ่ายข่าวประเสริฐของพระเจ้า เพื่อคนต่างชาติจะเป็นเครื่องบูชาที่ชอบพระทัย คือเป็นที่ชำระไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ท่ามกลางสิ่งต่าง ๆ ปุโรหิตคือคนที่ไปหาพระเจ้าในฐานะตัวแทนของผู้คน และไปหาผู้คนในฐานะตัวแทนของพระเจ้า ในแง่นี้ ตอนนี้เราทุกคนล้วนเป็นปุโรหิต คุณอยู่ในการรับใช้แบบปุโรหิต เมื่อคุณนำสารจาก พระเจ้าไปสู่โลก และเมื่อคุณไปหาพระเจ้า การวิงวอน การอธิษฐานเผื่อคนที่อยู่ภายนอกคริสตจักรให้มารู้จักกับพระคริสต์ เมื่อพวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขากลายเป็น ‘เครื่องบูชาที่ชอบพระทัย คือเป็นที่ชำระไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 16)

ความทะเยอทะยานของเปาโลคือการเทศนาข่าวประเสริฐ ในที่ซึ่งพระเยซูทรงเป็นที่รู้จัก ดังนั้นเพื่อให้ท่านจะไม่ก่อขึ้นบนรากฐานที่คนอื่นได้วางไว้ก่อนแล้ว (ข้อ 20–21) ท่านทำสิ่งนี้โดย ‘ เพื่อจะให้คนต่างชาติเชื่อฟัง ” (ข้อ 18) ท่าน “จนข้าพเจ้าได้ประกาศข่าวประเสริฐของพระคริสต์อย่างถ้วนถี่’ (ข้อ 19)

การประกาศข่าวประเสริฐของเขานั้นเป็นแบบองค์รวม เหมือนอย่างพระเยซู การเทศนาด้วยถ้อยคำมาพร้อมกับการสาธิตการทะลุทะลวงเข้ามาแห่งแผ่นดินของพระเจ้า นี่เกี่ยวข้องกับสามสิ่ง:

  1. ถ้อยคำ
    พระกิตติคุณนั้นเป็นสารที่ทรงพลังที่สุดในโลก อาจารย์เปาโลประกาศพระกิตติคุณ: 'ทรงใช้ข้าพเจ้าทางคำสอน…’ (ข้อ 18)

  2. การงาน การประกาศพระกิตติคุณอย่างเต็มรูปแบบไม่ได้มีแค่ถ้อยคำแต่เป็นการกระทำ ‘โดยทรงใช้ข้าพเจ้าทางคำสอนและการกระทำ’ (ข้อ 18) ตัวอย่างเช่นเปาโลกระทำในฐานะของผู้ที่ยากจนดังที่เราได้เห็นที่นี่ ท่านเขียนว่า 'เรี่ยไรเงินส่งไปให้แก่ธรรมิกชนที่ยากจน…เพื่อบรรเทาความยากจนของพวกเขา’ (ข้อ 26–27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  3. การอัศจรรย์
    การประกาศพระกิตติคุณของเปาโล รวมเอาการสาธิตฤทธิ์เดชอันเหนือธรรมชาติของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ‘อิทธิฤทธิ์แห่งหมายสำคัญและการอัศจรรย์ ในฤทธิ์เดชแห่งพระวิญญาณของพระเจ้า’ (ข้อ 19)

คนจะได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่เขาเห็นมากกว่าสิ่งที่เขาได้ยิน มีคำกล่าวว่า ‘สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น’ เปาโลให้สิ่งที่สิบปากว่า (ถ้อยคำ) และสิ่งที่ตาเห็น (การกระทำและการอัศจรรย์)

การเสด็จมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันเพ็นเทคอสต์นำเอาการทรงสถิตของพระเจ้าเทลงมาอย่างใหญ่หลวง ตอนนี้พระเจ้าทรงประทับท่ามกลางประชากรของพระองค์โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงสถิตอยู่ในหัวใจของคุณ สำคัญที่สุด พระองค์ทรงสถิตในชุมชนที่รวมตัวกัน (ตัวอย่างเช่น ในมัทธิว 18:20)

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐานให้พระองค์ทรงฟื้นฟูคริสตจักรของพระองค์ในปัจจุบัน ด้วยฤทธิ์เดชอันน่าทึ่งของการทรงสถิตของพระองค์ท่ามกลางเรา ขอทรงเทพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ลงมาเหนือข้าพระองค์อีกครั้ง ขอให้ข้าพระองค์ได้เห็นชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างสุดขั้วเมื่อผู้คนเชื่อฟังพระองค์โดยสิ่งที่ข้าพระองค์พูดและกระทำอิทธิฤทธิ์แห่งหมายสำคัญและการอัศจรรย์

1 พงศาวดาร 12:23:14-17

การทรงสถิตของพระองค์เรียกร้องให้เกิดความยำเกรง

อย่ามองข้ามคุณค่าของการทรงสถิตของพระเจ้า องค์จอมเจ้านายอยู่กับคุณในตอนนี้ ตลอดเวลา โดยพระวิญญาณของพระองค์ที่ประทับอยู่ในคุณ

พระเจ้าทรงเตรียมประชากรของพระองค์สำหรับสิทธิพิเศษอันไม่ธรรมดานี้ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม หีบพันธสัญญาเป็นสัญลักษณ์แห่งการทรงสถิตของพระเจ้า เราเห็นในพระธรรมตอนนี้ถึงความสำคัญของสิ่งนี้

ดาวิดหารือกับบรรดาผู้นำ ดาวิดตรัส​กับ​ชุม​นุม​ชน​อิส​รา​เอล​ทั้ง​ปวง​ว่า "ถ้าท่านทั้งหลายเห็นดีด้วยและถ้าเป็นพระทัยของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา… ให้พวกเรานำหีบแห่งพระเจ้าของพวกเรามายังพวกเราอีก ”… ชุมนุมชนทั้งสิ้นนั้นก็ตกลงที่จะทำตาม… (พวกเขา) ไป… เพื่อจะได้นำ… หีบของพระเจ้า…หีบ​ที่​เรียก​ตาม​พระ​นาม ​เขา​ทั้ง​หลาย​ก็​บรร​ทุก​หีบ​ของ​พระ​เจ้า​ไป…ดาวิด​กับ​อิส​รา​เอล​ทั้ง​ปวง​ก็​ร่า​เริง​กัน​อยู่​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​เจ้า​ด้วย​เต็ม​กำ​ลัง​ของ​เขา​ทั้ง​หลาย ด้วย​เพลง พิณ​เขา​คู่ พิณ​ใหญ่ รำ​มะ​นา ฉาบ และ​แตร’ (13:1–8)"

หีบพันธสัญญานั้นเป็นหีบหุ้มด้วยทองซึ่งบรรจุสิ่งหนึ่งจากหลายสิ่งนั่นคือ แผ่นศิลาจารึกบัญญัติสิบประการ (ดู ฮีบรู 9:4) หีบพันธสัญญาเป็นวัตถุที่ศักดิ์สิทธิที่สุดในระบบการนมัสการแบบพระวิหาร นี่เป็นสิ่งที่ทำหน้าที่หลัก ๆ ในฐานะสัญลักษณ์แห่งการทรงสถิตอันน่าทึ่งของพระเจ้า ซึ่งเมฆแห่งพระสิริก็ปกคลุมเหนือหีบนั้น (1 พงศาวดาร 13:6, ดูร่วมกับ อพยพ 25:22, 1 ซามูเอล 4:7)

ในอีกแง่หนึ่ง การทรงสถิตของพระเจ้าก็นำเอาพระพรอันยิ่งใหญ่มาด้วย เมื่อหีบแห่งพระเจ้าอยู่กับครอบครัวของโอเบดเอโดมเป็นเวลาสามเดือน ‘พระยาห์เวห์ทรงอวยพรแก่ครัวเรือนของโอเบดเอโดมกับทั้งสิ้นซึ่งเขามีอยู่’ (1 พงศาวดาร 13:14) ในอีกแง่หนึ่ง นี่ก็เรียกร้องความยำเกรงอย่างยิ่งและสิ่งใดที่หมิ่นประมาทก็นำมาซึ่งการพิพากษา (ข้อ 9–10)

ดาวิดเคารพและยำเกรงอย่างยิ่งต่อพระเจ้าและการทรงสถิตของพระองค์ ผลก็คือ ‘พระยาห์เวห์ทรงอวยพรแก่ครัวเรือนของโอเบดเอโดมกับทั้งสิ้นซึ่งเขามีอยู่’ (ข้อ 13) ดาวิดทราบว่าตำแหน่งของตนในการเป็นผู้นำมาจากพระเจ้า (14:2) พระองค์ทรงทูลขอการทรงนำของพระเจ้าเป็นประจำว่าพระองค์ควรทำอะไร (ข้อ 10, 14) ‘พระเจ้าตรัสตอบพระองค์‘ (ข้อ 14)

ผลก็คือ ‘กิตติศัพท์ของดาวิดก็ลือไปสู่ประเทศทั้งปวง และพระยาห์เวห์ทรงให้ประชาชาติทั้งปวงครั่นคร้ามดาวิด’ (ข้อ 17) คำว่า ‘ครั่นคร้าม’ หมายถึง การเคารพอย่างยิ่ง เพราะว่าดาวิดเคารพการทรงสถิตของ พระเจ้า พระเจ้าทรงให้เกียรติท่าน และเจิมตั้งท่านไว้ให้ทุกคนเคารพดาวิด

ขอบพระคุณพระเจ้า ที่โดยพระโลหิตขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ข้าพระองค์สามารถเข้าถึงพระบัลลังก์ของพระองค์ด้วยความกล้าหาญและมั่นใจได้ ขอบพระคุณพระองค์โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงทำให้การทรงสถิตของพระองค์อยู่กับข้าพระองค์ตลอดเวลา

Pippa Adds

สดุดี 90:4–6

‘เพราะ​พัน​ปี​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระ​องค์ เป็น​เหมือน​วาน​นี้​ซึ่ง​ผ่าน​ไป​แล้ว​หรือ​เหมือน​ยาม​เดียว​ใน​กลาง​คืน พระ​องค์​ทรง​เท​การ​ล่วง​หลับ​บน​เขา​ทั้ง​หลาย พวก​เขา​ก็​เหมือน​หญ้า​ที่​งอก​ขึ้น​ใน​เวลา​เช้า ใน​เวลา​เช้า​มัน​ก็​บาน​ออก​และ​งอก​ขึ้น เมื่อ​เวลา​เย็น​ก็​ร่วง​โรย​และ​เหี่ยว​ไป’

บางครั้งฉันก็รู้สึกเช่นนั้นอยู่บ้าง!

นิคกี้รับประกอบพิธีไว้อาลัยที่สุสานพัทนีย์ เวล เมื่อหลายปีก่อน เป็นสุสานขนาดใหญ่ มีหลุมฝังศพมากมาย และสุสานแห่งนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายพัน หรืออาจจะหลายล้านของจำนวนสุสาน นี่เตือนใจฉันอีกครั้งว่า มีคนมากมายเพียงใดที่เสียชีวิตไปก่อนเรา และชีวิตที่เรากำลังดำเนินอยู่นั้นช่างแสนสั้น ทุกวันที่เราได้อยู่บนโลกนี้เป็นสิ่งสำคัญยิ่งนัก ฉันไม่อยากเสียเวลาต่อไปแม้สักวันเดียว

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

Опис за овој план

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More