Лого на YouVersion
Икона за пребарување

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลПримерок

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

219 ДЕН ОД 365

3 ท่าทีไม่ดีอันเป็นเหตุของการแบ่งแยก

ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัย ผมได้แชร์ห้องร่วมกับนิคกี้ ลี เพื่อนสนิทของผม ซึ่งกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ช่วยศิษยาภิบาลของคริสตจักรโฮลี่ ทรินิตี้ บรอมพ์ตัน เราทำอาหารเองทั้งหมด ผมทำอาหารและนิคกี้ ลีเป็นคนแบ่ง เขาเป็น*ผู้เชี่ยวชาญในการแบ่ง*อาหารออกเท่า ๆ กัน! นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ใช้*การแบ่ง*ใน*แง่ดี*มากกว่าไม่ดี การแบ่งแยกเป็นความจริงของชีวิต การแบ่งแยกไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ไม่ดี อันที่จริงอาจจำเป็นด้วยซ้ำ ตัวอย่างเช่น การจัดบุคคล*ในแผนกต่าง ๆ ในองค์กร*อาจเป็นประโยชน์และมีความสำคัญ เราเห็นการแบ่งลักษณะนี้ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมสำหรับวันนี้ จากนั้นจะมีการแบ่งแยกที่จะเกิดขึ้นในวันพิพากษา นี่เป็นการแบ่งแยกระหว่างความดีและความชั่ว การแบ่งแยกแบบนี้สามารถเห็นได้ในพระธรรมสดุดีสำหรับวันนี้ นอกจากนี้ยังมีการแบ่งแยกแบบที่สามซึ่งไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์และไม่มีความจำเป็น ความแตกแยกและการแบ่งแยกในคริสตจักรเป็นโศกนาฏกรรม การแบ่งประเภทนี้เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้ดีที่สุด การแบ่งแยกแบบนี้อัครทูตเปาโลได้กล่าวถึงในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่สำหรับวันนี้

สดุดี 92:1-15

การแบ่งแยกระหว่างคนชอบธรรมและคนอธรรม

จากในพระธรรมสดุดี โลกจะถูกแบ่งออกระหว่าง ‘คนอธรรม’ (ข้อ 7) และ ‘คนชอบธรรม’ (ข้อ 12) คนอธรรมเป็น ‘คนเขลา’ ที่ ‘ไม่เข้าใจ’ (ข้อ 6) พวกเขาเป็น ‘ศัตรู’ ของพระเจ้า (ข้อ 9) วันหนึ่งคนอธรรมไม่เพียงถูกแยกออกจากคนชอบธรรมพวกเขายังถูกทำให้กระจัดกระจาย (ข้อ 9) และจะ ‘พินาศ’ (ข้อ 9) ตรงกันข้าม คนชอบธรรมจะมีอนาคตที่มั่นคง (ข้อ 12–15)

ทั้ง ‘คนอธรรม’ (ข้อ 7) และ ‘คนชอบธรรม... จะงอกงาม’ (ข้อ 12–13) แต่ในทางที่แตกต่างกัน สำหรับ ‘คนอธรรม’ (ข้อ 7) จะผ่านไปและอยู่ชั่วขณะ พวกเขาจะถูก ‘ทำลาย’ ในไม่ช้า (ข้อ 7) พวกเขาเป็นเหมือนหญ้า แต่สำหรับ ‘คนชอบธรรม’ (ข้อ 12) คือความยั่งยืน และรุ่งเรืองชั่วนิรันดร์ เป็น ‘เหมือนต้นอินทผลัม’ หรือ ‘สนซีดาร์ในเลบานอน’ (ข้อ 12) ‘มันยังออกผลเมื่อแก่แล้ว มันมีน้ำเลี้ยงเต็มและเขียวสดอยู่’ (ข้อ 14)

ความแตกต่างระหว่างความสำเร็จของโลก นั่นคือ อำนาจ ชื่อเสียง เงินทอง เปรียบเทียบกับความสำเร็จของสาวกของพระเยซูในการดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์นั้น เปรียบเสมือนความแตกต่างระหว่างต้นหญ้าที่คงอยู่เพียงไม่กี่วันกับต้นอินทผลัมที่มีอายุยืนยาว

ข้าแต่พระเจ้า เมื่อข้าพระองค์เห็นพระพรอันยั่งยืนที่พระองค์ประทานแก่ผู้ที่ติดตามพระองค์ ข้าพระองค์ต้องการที่จะ ‘ประกาศความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้าและประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์ในกลางคืน’ (ข้อ 2)

1 โครินธ์ 3:1-23

การแบ่งแยกในคริสตจักร

จดหมายของเปาโลถึงชาวโครินธ์เหมือนแซนด์วิช ท่านเริ่มต้นด้วยการสรรเสริญและความรัก ท่านลงท้ายด้วยพระคุณและความรัก ในตอนกลาง เปาโลหยิบยกประเด็นที่ท่านต้องการชาวโครินธ์ให้จัดการ

นี่เป็นแบบอย่างที่ดีเมื่อต้องเผชิญปัญหาในระดับปัจเจกบุคคล หรือในระดับคริสตจักร คือเริ่มต้นและสิ้นสุดด้วยข้อความเชิงบวกและให้กำลังใจ แต่มีความกล้าที่จะจัดการกับปัญหา

ประเด็นหนึ่งที่เปาโลหยิบยกขึ้นมา คือ การแบ่งแยกในคริสตจักร ท่านกล่าวว่าพวกเขาอยู่ฝ่าย ‘เนื้อหนัง’ (ข้อ 1) และ ‘ไม่อยู่ฝ่ายวิญญาณ’ (ข้อ 1, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) อีกนัยหนึ่ง พวกเขาเป็นผู้อยู่ในฝ่าย ‘วิญญาณ’ ในบรรดาคริสตจักรทั้งหมดที่อาจารย์เปาโลเขียนถึง ชาวโครินธ์ ‘ไม่ได้ขาดของประทาน’ (1:7) อย่างไรก็ตาม พวกเขาอยู่ฝ่าย ‘เนื้อหนัง’ เพราะทัศนคติที่ไม่ดี ซึ่งนำไปสู่ความแตกแยก

ท่านชี้ให้เห็นทัศนคติที่ไม่ดีสามประการ สิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายสำหรับคริสเตียนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้นำคริสเตียน

  1. ความอิจฉา
    เปาโลเขียนว่า ‘เพราะเมื่อยังอิจฉากัน ...พวกท่านก็อยู่ฝ่ายเนื้อหนังและประพฤติอย่างคนทั่วไปไม่ใช่หรือ?’ (3:3) การเปรียบเทียบตัวเรากับผู้อื่นเป็นการล่อลวง และเมื่อเราได้ยินเกี่ยวกับพระพรบางอย่างที่คนอื่นได้รับ เราเริ่มคิดว่า 'สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นกับฉันเมื่อใด' แต่ดังที่จอยซ์ ไมเยอร์เขียนว่า ‘เราควรอวยพรผู้อื่นและไม่กลัวการที่พวกเขาจะแซงหน้าเรา เราต้องไม่อิจฉารูปลักษณ์ ทรัพย์สิน การศึกษา ฐานะทางสังคม สถานภาพสมรส ของประทานและความสามารถ งาน หรือสิ่งอื่นใดของคนอื่น เพราะนั่นจะเป็นอุปสรรคต่อพระพรของเราเองเท่านั้น’

  2. การโอ้อวด
    เปาโลเขียนว่า ‘เพราะฉะนั้น อย่าให้ใครยกมนุษย์ขึ้นอวด!’ (ข้อ 21) การโอ้อวดเป็นการทดลองให้เปรียบเทียบตัวเรากับผู้อื่นที่คิดว่าเราทำได้ค่อนข้างดี และอวดถึง ‘ความสำเร็จ’ ของเรา เราจำเป็นต้องเข้าใจส่วนของเราในระบบเศรษฐกิจของพระเจ้าในมุมมองที่ถูกต้อง สิ่งแรก เราเป็นเพียง ‘คนทั่วไป’ (ข้อ 4) ประการที่สองเราเป็น ‘ผู้ปรนนิบัติ’ (ข้อ 5) ประการที่สาม ‘คนที่ปลูกและคนที่รดน้ำไม่สำคัญอะไร’ (ข้อ 7) ดังนั้นจึงไม่มีเหตุให้ ‘โอ้อวด’ (ข้อ 21)

  3. การทะเลาะวิวาท เปาโลเขียนว่า ‘การทะเลาะ’ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อาจารย์เปาโลเห็นว่าชาวโครินธ์ไม่อยู่ฝ่าย ‘วิญญาณ’ เราควรหลีกเลี่ยงการเลือกข้าง ซึ่ง ‘เมื่อคนหนึ่งกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นศิษย์เปาโล” และอีกคนหนึ่งกล่าวว่า“ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ของอปอลโล”’ (ข้อ 4)

ทั้งหมดนี้เกิดจากความคิดลำพองว่าตนเองสำคัญ สิ่งเหล่านี้เป็นท่าทีที่ ‘ไม่ใช่ฝ่ายวิญญาณ’ ท่าทีเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องธรรมดาในมนุษย์คนบาป ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก และที่น่าเศร้ายังระบาดไปยังคริสตจักรด้วยเช่นกัน

เราต้องเข้าใจว่าเราทุกคนพึ่งพาพระเจ้าอย่างเต็มที่ คนหนึ่งหว่านเมล็ด อีกคนหนึ่งรดน้ำ แต่พระเจ้าทรงทำให้เติบโต (ข้อ 6) การปลูกและรดน้ำมีความสำคัญ แต่ก็ค่อนข้างง่าย พระเจ้าเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งยาก ๆ และทำให้พืช ผู้คน และคริสตจักรเติบโตได้

คุณมีหน้าที่ต้องทำ ประการแรก พระเจ้าใช้คุณเพื่อนำผู้คนมาสู่ความเชื่อ อปอลโลและเปาโลคือ ‘ผู้ปรนนิบัติซึ่งได้สอนพวกท่าน (ชาวโครินธ์) ให้เชื่อ’ (ข้อ 5) ประการที่สอง พระเจ้าจะทรงประทานบำเหน็จแก่คุณ คนปลูกและคนรดน้ำมีจุดประสงค์เดียวกัน แต่ละคนจะได้รับบำเหน็จตามผลงานของตน สิ่งที่สาม คุณเป็นผู้ที่ ‘ร่วมกันทำงานเพื่อพระเจ้า’ (ข้อ 9) พระเจ้าได้เลือกที่จะไม่ทำด้วยพระองค์เอง ทรงเลือกใช้คุณ

การที่พระเจ้าใช้ถือเป็นสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ คุณไม่เพียงแต่เป็นผู้ ‘ร่วมกันทำงาน’ เพื่อพระเจ้า (ข้อ 9) คุณยังเป็น ‘ไร่นาของพระเจ้า เป็นตึกของพระเจ้า’ (ข้อ 9) ผู้คนพยายามสร้างชีวิตของตนจากหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น เงิน การศึกษา ตำแหน่งงาน ทรัพย์สมบัติ และอื่น ๆ แต่พระเยซูทรงเป็นรากฐานที่มั่นคงแห่งเดียว (ข้อ 11)

นอกจากนี้ อาจารย์เปาโลยังเขียนต่อไปว่า ‘ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าพวกท่านเป็นวิหารของพระเจ้า และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ในพวกท่าน?’ (ข้อ 16) ดังนั้นอาจารย์เปาโลจึงเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าไม่ต้องการที่จะได้ยินใครคุยโวเกี่ยวกับตัวเองหรือใครก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพวกท่านแล้วในฐานะของประทาน… และพวกท่านได้รับสิทธิพิเศษที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ ผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า’ (ข้อ 21–23, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณที่เราเป็นผู้ร่วมงานกับพระองค์ และพระองค์เองทรงทำให้สิ่งต่าง ๆ เติบโตขึ้น ขอทรงปกป้องเราจากความจองหอง การโอ้อวด ความริษยา และการทะเลาะวิวาท โปรดปกป้องความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคริสตจักร

1 พงศาวดาร 24:1-26:19

การแบ่งหน้าที่ในการรับใช้

ในพระธรรมตอนนี้เราเห็นคำว่า ‘การแบ่ง’ ในทางบวก ‘กองเวรของพงศ์พันธุ์อาโรนมีดังนี้’ (24:1) ‘ดาวิดทรงจัดเวรตามหน้าที่ในการปรนนิบัติของเขาทั้งหลาย’ (ข้อ 3) ‘มีเหล่าหัวหน้าในหมู่บุตรเอเลอาซาร์มาก.... พวกเขาจึงแบ่งดังนี้’ (ข้อ 4) ‘เขาทั้งหลายแบ่งด้วยฉลากกลุ่มนี้และอีกกลุ่มเหมือนกัน’ (ข้อ 5) ยังแบ่ง ‘กองเวรเฝ้าประตูยาม’ (26:1,19) และแบ่ง’กองเวรเฝ้าประตูเหล่านี้ตามบรรดาหัวหน้าเก่งกล้าของพวกเขา มีหน้าที่เช่นเดียวกับพี่น้องของพวกเขา ในการปรนนิบัติในพระนิเวศของพระยาห์เวห์’ (ข้อ 12)

มีรายชื่อที่น่าสนใจ ดังนี้ บรรดาหัวหน้านักร้องเพลงสดุดี ‘อาสาฟ (สดุดี 50 และสดุดี 73–83) ‘เยดูธูน’ ( สดุดี 39,62,77) ‘เฮมาน' (สดุดี 88)

ในบรรดากองเฝ้าประตูยาม (หรือมักแปลว่า ‘คนเฝ้าประตู’) คือตระกูลโคราห์ สดุดีบทที่ 84 เป็นเพลงสดุดีจาก ‘บุตรของโคราห์’ ดังนั้นจึงน่าจะเขียนขึ้นโดยคนเฝ้าประตู สิ่งนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรเมื่อเขาเขียนว่า ‘ข้าพเจ้าจะขอเป็นคนเฝ้าประตูพระนิเวศพระเจ้าของข้าพเจ้า ดีกว่าอยู่ในเต็นท์ของความอธรรม’ (ข้อ 10)

ในพระกายของพระคริสต์ เราแบ่งบทบาทหน้าที่ แต่ละส่วนของร่างกายมีหน้าที่ต่างกัน ดังที่เปาโลเขียนไว้ว่า ‘เพราะว่า เหมือนกับร่างกายเดียวที่มีหลาย ๆ อวัยวะ และอวัยวะทั้งหมดของร่างกายนั้นแม้จะมีหลายส่วนก็ยังเป็นร่างกายเดียว… แต่พระเจ้าทรงจัดวางร่างกายเพื่อไม่ให้มีการแตกแยกกันในร่างกาย แต่ให้อวัยวะต่าง ๆ มีความห่วงใยแบบเดียวกันต่อกันและกัน’ (1 โครินธ์ 12: 12,24–25)

อัครสาวกเปาโลอธิบายถึงเรื่องดีของการแบ่งแยก (บทบาทต่าง ๆ ของอวัยวะในร่างกาย) ในขณะที่พยายามหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่ดี (ไม่ควรมีการแบ่งแยกหรือความแตกแยกในร่างกาย)

นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนในการรับใช้ใน ‘พระนิเวศของพระเจ้า’ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ไม่ว่าเราจะช่วยเหลือเรื่องที่จอดรถหรือทีมต้อนรับ มุมบริการกาแฟหรือพันธกิจด้านการอธิษฐาน ทุกคนมีความสำคัญและมีเกียรติอย่างยิ่งเพราะเรากำลังรับใช้ในพระนิเวศของพระเจ้า

ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดทรงช่วยเราตัดสินใจอย่างฉลาดในการมอบหมายบทบาทในพระกายของพระคริสต์เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วม ขอทรงโปรดช่วยเรา ซึ่งเป็นคริสตจักรของพระองค์ ให้ทำหน้าที่เป็นหน่วยที่ประกอบด้วยหลายส่วน ซึ่งแต่ละส่วนร่วมมือกับส่วนอื่น ๆ ทั้งหมดด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอันเกิดจากพระวิญญาณบริสุทธิ์

Pippa Adds

สดุดี 92:14

‘มันยังออกผลเมื่อแก่แล้ว มันมีน้ำเลี้ยงเต็มและเขียวสดอยู่’

ความเขียวสดเป็นสิ่งที่ฟังดูดี เมื่อชีวิตผ่านไปอย่างรวดเร็วและฉันกำลังเข้าสู่วัยชราอย่างรวดเร็ว ฉันได้รับกำลังใจจากข้อนี้ มีบางอย่างที่สวยงามมากเกี่ยวกับผู้สูงวัยที่อยู่ในทางของพระเจ้า คุณสามารถเห็นได้ในใบหน้าของพวกเขา ฉันสามารถนึกถึงหลาย ๆ อย่างที่ฉันชื่นชมอย่างมาก คือ ภูมิปัญญาและชีวิตที่บริสุทธิ์ของพวกเขานั้นเป็นแรงบันดาลใจ ฉันต้องการที่จะเกิดผลในวัยชราและดูสดใสและเขียวขจี

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

Опис за овој план

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More