Logo de YouVersion
Icono de búsqueda

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลMuestra

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

DÍA 338 DE 365

กุญแจ 4 ดอกในการเอาชนะความกลัว

อเล็กซ์ บุชนัน นั้นเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘ศิษยาภิบาลของเหล่าศิษยาภิบาล’ เขามีหูหนวกสนิทหนึ่งข้าง มีความสามารถในการได้ยินผู้อื่นเพียงแค่ 5% และใบหน้าของเขาข้างหนึ่งเป็นอัมพฤกษ์ หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากเส้นประสาทที่ถูกทำลายลงในระหว่างการผ่าตัดใหญ่ ผมจำได้ว่าได้ยินเขาพูดถึงความรักของพระเจ้า และกล่าวย้ำถ้อยคำนี้ว่า ‘พระเจ้าทรงรักคุณอย่าง*ไร้เงื่อนไข หมดหัวใจ* และ*เรื่อยไป*’ เมื่อเขากล่าวจบแล้วนั้นก็ได้เข้ามาหาผมและพูดว่า ‘คุณเชื่อหรือเปล่าว่าพระเจ้าทรงรับรองในความเป็นคุณ?’ ผมพูดว่า ‘จริง ๆ แล้ว ผมต่อสู้อย่างมากในเรื่องนี้ เพราะผมรู้สิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวผมเอง นั่นหมายความว่า ผมพบว่ามันยากที่จะเชื่อว่า พระเจ้าทรงรับรองในความเป็นผม’ เขาตอบกลับมาว่า ‘เราต่างก็ปล้ำสู้ในเรื่องนี้กันทั้งนั้น แต่พระเจ้าปรารถนาให้คุณรู้ว่าพระองค์ทรงรับรองในความเป็นคุณ พระองค์ปรารถนาให้คุณรู้ว่า พระองค์ทรงรักคุณอย่าง*ไร้เงื่อนไข หมดหัวใจ* และ*เรื่อยไป*’ ถ้าผมถูกถามว่า ผมจะสรุปพระคัมภีร์ทั้งเล่มจากความคิดของผมเป็นคำเพียงหนึ่งคำว่าอย่างไร ที่นอกเหนือจากคำว่า ‘พระเยซู’ ผมจะเลือกคำว่า ‘ความรัก’ จะมีสองครั้งในบทของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่วันนี้ ยอห์นเขียนไว้ว่า ‘พระเจ้าทรงเป็นความรัก’ (1 ยอห์น 4:8,16) คำว่า ‘ความรัก’ ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางในสังคมของเรา ไม่มีที่ไหนเลยในพระคัมภีร์ที่พูดว่า ‘ความรักคือพระเจ้า’ หรืออาจกล่าวได้ว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้นิยามคำว่าความรักมากกว่าที่จะกล่าวว่าความรักนิยามพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นความรัก นี่คือข้อความที่คุณจำเป็นต้องเข้าใจตัวเอง ตรึกตรองอย่างต่อเนื่อง และพูดสิ่งนี้กับโลกว่า ‘พระเจ้าทรงเป็นความรัก’ นี่คือคำตอบของโลกสำหรับวันนี้ต่อสิ่งที่เฝ้าคอยและปรารถนาอย่างที่สุด ผู้คนต่างเสาะหาความรัก หัวใจของเขาแสวงหา เมื่อคุณรู้จริง ๆ ว่าความรักของพระเจ้านั้นเพื่อคุณ ชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไป เหมือนดังที่เราได้เห็นในบทพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่สำหรับวันนี้ ความรักของพระเจ้านั้นเป็นหัวใจของกุญแจแต่ละดอกของทั้งสี่ดอก ที่จะเอาชนะความกลัวในชีวิตของคุณ ‘ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย’ (ข้อ 18)

สดุดี 138:1-8

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักของพระองค์

‘ขอบพระคุณ ด้วยทุกสิ่งที่ข้าพระองค์มีจะกล่าวว่า “ขอบพระคุณ”’ผู้เขียนพระธรรมสดุดีเขียนไว้ว่า ‘ขอบพระคุณสำหรับความรักของพระองค์ ขอบพระคุณสำหรับความสัตย์ซื่อของพระองค์’ (ข้อ 1–2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

พระเจ้านั้นทรงตอบคำอธิษฐานของเราด้วยความสัตย์ซื่อ และความรักอันเปี่ยมล้น ‘ในวันที่ข้าพระองค์ร้องทูล พระองค์ได้ทรงตอบข้าพระองค์ พระองค์ทรงให้ข้าพระองค์กล้าหาญโดยประทานกำลังแก่จิตใจของข้าพระองค์’ (ข้อ 3)

ในชีวิตนี้เราต่างก็เผชิญ ‘ความยากลำบาก’ มากมาย (ข้อ 7ข) ไม่ว่าจะเป็น ความเจ็บป่วย การต่อต้าน การล่อลวง ความเหน็ดเหนื่อย การทดลองและการถูกจู่โจม ในความรักและความสัตย์ซื่อของพระเจ้านั้นทรงปกป้องคุ้มครองเรา ‘แม้ข้าพระองค์เดินอยู่กลางความยากลำบาก พระองค์ทรงรักษาชีวิตของข้าพระองค์ไว้’ (ข้อ 7ก)

ผมคิดว่าข้อ 8 คือ หนึ่งในข้อพระคัมภีร์ที่หนุนใจมากที่สุดข้อหนึ่งจากพระคัมภีร์ทั้งเล่ม ‘พระยาห์เวห์จะทรงให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จเพื่อข้าพระองค์’ (ข้อ 8ก) ในความรัก และความสัตย์ซื่อของพระเจ้า พระองค์มีพระประสงค์สำหรับชีวิตของคุณ และพระองค์จะทำให้มันสำเร็จ

ความรักของมนุษย์นั้นสามารถจืดจางลงได้ แต่ ‘ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงเป็นนิตย์’ (ข้อ 8ข) เมื่อความรัก และความสัตย์ซื่อของพระเจ้ามาคู่กัน ดังนั้น ความรักของเราก็ควรมีให้กันและกัน ไม่ว่าจะในการแต่งงาน และในทุกความสัมพันธ์ของเรา

ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์สำหรับความสัตย์ซื่อและความรักอัศจรรย์ของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์ ขอบพระคุณที่พระองค์สัญญาที่จะทำให้พระประสงค์ของพระองค์นั้นสำเร็จเพื่อข้าพระองค์ ขอทรงช่วยข้าพระองค์ที่จะดำเนินชีวิตแห่งความรักและความสัตย์ซื่อ

1 ยอห์น 4:7-21

ดำเนินชีวิตในความรักของพระเจ้า

‘พระเจ้าทรงเป็นความรัก เมื่อเราอยู่อย่างถาวรในชีวิตแห่งความรัก เราอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าก็ทรงสถิตอยู่ในเรา’ (ข้อ 17, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

คำว่า ‘รัก’ และ ‘ทรงรัก’ นั้นปรากฏอยู่ประมาณ 27 ครั้งในบทสั้น ๆ นี้ นี่คือหัวใจของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ นี่คือหัวใจแห่งพระคัมภีร์ และนี่คือหัวใจของพระเจ้า

ความรัก คือ ยาแก้พิษของความกลัว ‘ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย’ (ข้อ 18) หรือ ‘ความรักที่สมบูรณ์นั้นผลักไสความกลัวออกไปทางประตู และขับไล่ทุกร่องรอยแห่งความหวาดกลัว’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล) ความรักคือขั้วตรงข้ามของความกลัว เปรียบเสมือน น้ำกับน้ำมัน ความรักคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่ความกลัวคือสิ่งที่ทุกคนอยากกำจัด เราเห็นกุญแจ 4 ดอกในบทนี้ที่จะเอาชนะความกลัวในชีวิตของคุณ

  1. ทำความเข้าใจความรักของพระเจ้า
    ‘ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ไม่ใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา... เพื่อเราจะมีความมั่นใจในวันพิพากษา ... ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นขับไล่ความกลัวออกไป เพราะความกลัวเกี่ยวข้องกับการลงโทษ และผู้ที่กลัวก็ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์’ (ข้อ 10,17–18)

ความกลัวที่ไม่เหมาะสมนั้นเข้ามายังโลกของเราเมื่ออาดัม และเอวาทำบาป พวกเขาซ่อนตัวเองจากพระเจ้า เมื่อพระเจ้าถามว่า ‘เจ้าอยู่ที่ไหน?’ อาดัมตอบว่า ‘ข้าพระองค์ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในสวนก็กลัว...จึงได้ซ่อนตัวเสีย’ (ปฐมกาล 3:10) อาดัมกลัวว่าพระเจ้าจะทรงลงโทษเขา

รากที่ลึกที่สุดของความกลัว คือ การถูกกล่าวโทษ นั่นก็คือ ความรู้สึกที่ว่าพระเจ้าทรงขุ่นเคืองคุณ แต่พระเจ้า ‘ทรงใช้พระบุตรของพระองค์มา เพื่อเป็นเครื่องบูชาลบบาปของเรา’ (1 ยอห์น 4:10) พระเยซูทรงรับคำกล่าวโทษของคุณไปแล้ว พระเจ้าปรารถนาให้คุณมีความมั่นใจต่อหน้าพระองค์

  1. มีประสบการณ์ความรักของพระเจ้า
    ‘เราจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์และพระองค์อยู่ในเรา เพราะพระองค์ประทานพระวิญญาณของพระองค์เองแก่เรา ... เรารู้และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา’ (ข้อ 13,16)

คุณได้เริ่มต้นใช้ชีวิตอย่างแท้จริง เมื่อคุณรู้ว่าพระเจ้ารักคุณด้วยความรักอันไร้เงื่อนไขของพระองค์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานประสบการณ์ความรักของพระเจ้าต่อเรา เมื่อพิพพายังเป็นเด็ก เมื่อใดก็ตามที่เธอตื่นกลัว พ่อของเธอจะอุ้มเธอขึ้นมา และร้องเพลงว่า ‘พ่อมาช่วยหนูแล้ว’ นี่คือ การงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์ทรงอุ้มท่านขึ้นมาด้วยอ้อมแขนของพระองค์ และยืนยันความรักของพระองค์ที่มีต่อเรา

  1. เชื่อในความรักของพระเจ้า
    ‘เรารู้ และวางใจในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา' (ข้อ 16) คำภาษากรีกที่ใช้สำหรับ ‘วางใจ’ นั้นมีความหมายเดียวกับ ความเชื่อ แม้เราจะรู้จัก และมีประสบการณ์ความรักของพระเจ้าแล้ว เรายังต้องเชื่อต่อไป

‘ความคงอยู่ของวัตถุ’ นี้เป็นศัพท์ของนักจิตวิทยาของความสามารถของเด็กที่จะเข้าใจว่าวัตถุนั้นยังคงอยู่ แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้แล้วก็ตาม

เมื่ออายุถึงประมาณ 4 เดือน ทารกไม่มีความสามารถที่จะเชื่อว่าบางสิ่งยังคงอยู่ ถ้าพวกเขาไม่สามารถมองเห็นมันได้ เพราะถ้าคุณซ่อนของเล่นไว้ พวกเขาจะคิดว่าของเล่นนั้นไม่มีอยู่แล้ว แต่แล้วหากพวกเขาจะมาถึงจุดที่เมื่อคุณซ่อนของเล่นเอาไว้ พวกเขาจะพยายามตามหามัน พวกเขาระลึกได้แล้วว่า วัตถุนั้นยังคงอยู่แม้มองไม่เห็นก็ตาม

นี่คือสัญญาณของการเป็นคริสเตียนที่เติบโต เมื่อเราเชื่อต่อไปในความรักของพระเจ้า แม้ในเวลาที่เรามองไม่เห็น หรือไม่รู้สึก แต่เรายังจำและระลึกได้ เช่นเดียวกับที่เราเชื่อในดวงอาทิตย์แม้มันไม่ได้ส่องแสง เรายังคงเชื่อในความรักของพระเจ้าต่อไป แม้ในเวลาแห่งความมืดมิดที่เราไม่รู้สึกถึงความรักของพระเจ้า

  1. ทำให้ความรักของพระเจ้านั้นสมบูรณ์ ‘ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้า ถ้าเรารักกันและกัน พระเจ้าก็สถิตอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ก็สมบูรณ์อยู่ในเรา’ (ข้อ 12) ‘ความรักที่สมบูรณ์นั้นก็ขับไล่ความกลัวออกไปเสีย’ (ข้อ 18)

ยิ่งคุณรักพระองค์มากเท่าใด และแสดงออกความจริงนี้ในการรักกันและกัน คุณจะตกเป็นเหยื่อของความกลัวน้อยลงเรื่อย ๆ จงพัฒนาวัฒนธรรมแห่งความรัก คือ เป็นทั้งผู้ให้ความรักและผู้รับความรัก นี่คือ คู่แข่งฝ่ายตรงข้ามของการนินทา ยิ่งคุณให้ความรักออกไปมากเท่าใด ความกลัวจะค่อย ๆ หายไป

ข้าแต่พระเจ้าข้า ขอบพระคุณที่พระองค์ทรงรักข้าพระองค์อย่างไร้เงื่อนไข หมดหัวใจ และจะทรงรักตลอดไป ขอบคุณที่ความรักที่สมบูรณ์นั้นขับไล่ความกลัวออกไปจากเรา

 ดาเนียล 11:2-35

ยืนหยัดในความรักของพระเจ้า

ผู้คนที่รู้จักพระเจ้าของเขา(ข้อ 32) คือประชากรแห่งความรัก ความรักนั้นไม่อ่อนแอ ประชากรผู้ที่รู้จักพระเจ้าจริง ๆ จะต่อต้านผู้นำที่ชั่วร้าย ดีทริช บอนเฮฟเฟอร์ คือ บุรุษผู้รู้จักพระเจ้าและต่อต้าน อดอลฟ ฮิตเล่อร์ อย่างเต็มที่ในขณะที่เขาอธิษฐาน ‘ขอทรงประทานความรักเช่นนั้นต่อพระเจ้าและต่อผู้คนทั้งสิ้น ความรักที่จะลบเอาความขมขื่นและความเกลียดชังออกไป’ หลายศตวรรษที่ผ่านมา ประชาชนผู้ที่รู้จักพระเจ้าของเขาได้ยืนหยัดที่จะต่อสู้กับความชั่วร้าย

อีกครั้งกับการที่คำเผยพระวจนะตอนนี้ (ข้อ 2-35) เกิดขึ้นจริงในหลายระดับ การเกิดขึ้นจริงในทันทีนั้นเกี่ยวข้องกับกษัตริย์หลายพระองค์และผู้ปกครองในช่วง 530-150 ปีก่อนคริสตกาล มีหลายคนที่ชั่วร้าย และประพฤติตนอย่างคนไม่มีพระเจ้า

แต่ก็มีการเกิดขึ้นจริงในระยะยาว ดังที่เราได้เห็นเมื่อวาน พระเยซูอ้างถึงสิ่งที่น่ารังเกียจที่เป็นเหตุให้ความพินาศ (9:27, 11:31, มัทธิว 24:15) พระองค์อาจจะกำลังกล่าวถึงความพินาศของกรุงเยรูซาเล็มในปี ค.ศ. 70 ที่เป็นการพยากรณ์ถึงเวลาสิ้นยุค

ท่ามกลางความชั่วร้ายทั้งสิ้นนี้ ‘แต่บรรดาประชาชนที่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าของตนจะยืนหยัดต่อสู้ (ความชั่วร้าย)’ (ดาเนียล 11:32ข) ดังที่พระคัมภีร์เวอร์ชั่น RSV ใช้คำว่า พวกเขาจะ ‘ยืนหยัดและลงมือ’ หรือในพระคัมภีร์เวอร์ชั่น The Message ใช้คำว่า ‘บรรดาผู้ที่ภักดีอย่างหาญกล้าต่อพระเจ้าของเขาจะยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง’ (ข้อ 32ข) และล่าวต่อไปว่า ‘บรรดาผู้ที่คิดและทำอย่างฉลาดจะสอนให้เหล่าผู้คนอย่างถูกต้องจากสิ่งผิดด้วยชีวิตอันเป็นแบบอย่าง....การทดสอบนี้จะถลุงและชำระ และทำให้บริสุทธิ์หมดจดในผู้ที่คิดอย่างฉลาด ทำอย่างฉลาด และอยู่ในความจริง’ (ข้อ 33,35, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

ในวันนี้ จงขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักของพระองค์ และดำเนินชีวิตในความรักของพระเจ้า เอาชนะความกลัวของคุณ ยืนหยัดและต่อสู้กับความชั่วร้าย

พระเจ้าข้า ขอทรงช่วยเราให้เป็นประชากรแห่งความรักผู้ที่รู้จักพระเจ้าของเขา และยืนหยัด เอาชนะความกลัว ต่อสู้กับความชั่วร้าย และลงมือทำ

Pippa Adds

1 ยอห์น 4:18

‘ในความรักนั้นไม่มีความกลัว แต่ความรักที่สมบูรณ์นั้นขับไล่ความกลัวออกไป...’

ฉันได้พบกับการปลอบประโลมใจในข้อพระคัมภีร์นี้เป็นพัน ๆ ครั้ง

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

Acerca de este Plan

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More