พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลMuestra

อย่างแรงกล้า
คุณถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับพระเจ้า พระเยซูเสด็จมาเพื่อทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ บางครั้ง ผมพบว่าผมสูญเสียการจดจ่อเพราะบางสิ่งบางอย่าง แม้กระทั่งงานรับใช้*เพื่อ*พระเจ้าก็สามารถทำให้ผมห่างจากความสัมพันธ์*กับ*พระองค์ ในบางครั้ง ผมต้องการพระเมตตา พระกรุณา และการทรงสถิตของพระเจ้าอย่างมาก เมื่อเราพบว่าตัวเองอยู่ในจุดที่หมดหวัง สิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงเราไว้ คือ การทรงสถิตของพระเจ้าสดุดี 139:17-24
ต้องการพระดำริของพระเจ้าอย่างยิ่ง
เป็นพระพรอันน่าทึ่งมากที่สามารถตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน และรู้ว่าพระเจ้าทรงอยู่กับคุณ และพระองค์อยากพูดคุยกับคุณ: ‘เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์จะยังอยู่กับพระองค์!’ (ข้อ 18, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมผมชอบอ่านพระคัมภีร์เป็นสิ่งแรกในตอนเช้า เพราะผมอยากจะรู้พระดำริของพระเจ้าอย่างยิ่ง
ดาวิดนั้นต้องการพระเจ้าอย่างยิ่ง เขาอยากรู้ความคิดของพระเจ้า: ‘พระดำริของพระองค์ล้ำค่ายิ่ง รวมกันเข้าก็มากมายนักหนา ถ้าข้าพระองค์จะนับพระดำรินั้นก็มากกว่าเม็ดทราย เมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้น ข้าพระองค์จะยังอยู่กับพระองค์’ (ข้อ 17-18)
ดาวิดยัง*ต้องการอย่างแรงกล้าที่จะไม่ทำให้พระเจ้าขุ่นเคืองพระทัยใด ๆ *
ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์ และรู้จักจิตใจของข้าพระองค์ |ขอทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์ และขอทรงทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใด ๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ |และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางนิรันดร์ (ข้อ 23-24)
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ปรารถนาเหลือเกินที่จะรู้ความคิดของพระองค์และที่จะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ข้าพระองค์อธิษฐาน ขอพระองค์ทรงนำให้ข้าพระองค์ใกล้ชิดพระองค์
ยูดา 1:1-25
ต้องการความจริงของพระเจ้าอย่างยิ่ง
เมื่อไม่นานมานี้ ผมพบว่า มีลัทธิที่ไม่ชอบมาพากล และหลอกลวงจากทางประเทศเกาหลีใต้ ชื่อว่า ชินชอนจี แอบแฝงเข้ามาในคริสตจักรของเรา และคริสตจักรอื่น ๆ ทั่วโลก ผู้สอนผิดเหล่านี้เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่ เข้าร่วม ‘กลุ่มศึกษาพระคัมภีร์’ แล้วสอนให้พวกเขาออกจากทางของพระเจ้า และสอนให้ไปหลอกลวงคนอื่นต่อไป
พระธรรมยูดานั้นต้องการให้ผู้อ่านทุกคนยึดมั่นในความจริงของพระเจ้าและที่จะไม่ถูกล่อลวงให้หลงไปตามคำสอนผิด ‘ข้าพเจ้าเห็นว่าจำเป็นจะต้องเขียนวิงวอนท่านให้ต่อสู้เพื่อหลักความเชื่อที่ได้ทรงมอบให้กับธรรมิกชนครั้งเดียวสำหรับตลอดไป’ (ข้อ 3 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ยูดาหนุนใจให้ผู้อ่านพระธรรมของเขายึดตามคำสอนที่ได้ถูกมอบให้ตั้งแต่แรกเริ่ม และที่จะ ‘ต่อสู้เพื่อหลักความเชื่อ’ (ข้อ 3) ความจริงนั้นมีความสำคัญอย่างมาก คุณได้รับความไว้วางใจแล้ว (ข้อ 3) คุณต้องต่อสู้กับบรรดาผู้สอนผิดและคำสอนผิดเพื่อความจริง ทำไมต้องทำเช่นนั้น?
ประการแรก เพราะเรารู้ว่าการพิพากษาของพระเจ้านั้นอยู่กับพวกเขา และจะต้องถูกจัดการ (ข้อ 5-10) ประการที่สอง เพราะเรารู้ว่าวิบัติแฝงมากับคำสอนผิดและผู้สอนผิดเหล่านั้น ซึ่งจะส่งผลร้ายแรง (ข้อ 11-16) ‘คนเหล่านี้ก่อให้เกิดความแตกแยกในคริสตจักร หมกมุ่นอยู่แต่กับพวกเขาเอง’ (ข้อ 19, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ยูดาให้คำจำกัดความของลักษณะของผู้สอนผิด และคำสอนผิด อย่างน้อยลัทธิสอนผิดเหล่านี้จะสำแดงอย่างน้อย 1 ลักษณะจากรายการต่อไปนี้
- พวกเขาเสแสร้ง พวกเขา ‘ได้แอบแฝงเข้ามาในหมู่ท่าน’ (ข้อ 4)
- พวกเขาปฏิเสธสิทธิอำนาจ พวกเขาต้องการที่จะแทนที่ ‘พระคุณของพระเจ้า’ ด้วย ‘ช่องทางทำความชั่วช้า’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พวกเขาปฏิเสธพระเยซูคริสต์ ‘ผู้ทรงเป็นเจ้านายและองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่องค์เดียว’ (ข้อ 4, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พวกเขาดูถูกและ ‘ลบหลู่สิ่งที่เขาเองไม่เข้าใจ’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พวกเขา ‘ปล่อยตัวทำในสิ่งที่เขาอยากทำ’ (ข้อ 10, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พวกเขาผิดศีลธรรม ‘ดื่มอย่างมึนเมาปราศจากความละอาย’ (ข้อ 12, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พวกเขาช่างบ่น ช่างติ และคอยจ้องจับผิด (ข้อ 16)
- พวกเขามัก ‘แสวงหาเพียงแค่ประโยชน์ของตน’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
- พวกเขาคุยโวโอ้อวด ‘ปากของพวกเขาคุยโวโอ้อวด และยกย่องผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ข้างหน้า’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ประชากรของพระเจ้าได้รับการหนุนน้ำใจให้ปรารถนาอย่างแรงกล้าในความจริงของพระเจ้า จุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายของจดหมายพูดถึงความสัมพันธ์ที่ติดสนิทกับพระเจ้า และวิธีใช้ชีวิตอย่างไรให้สมกับที่มีความต้องการความจริงของพระเจ้าอย่างแรงกล้า
ผมชอบการเริ่มของจดหมายฉบับนี้ของยูดา เขาเห็นตัวเองเป็น ‘ผู้รับใช้ของพระเยซูคริสต์’ (ข้อ 1) ไม่มีการทรงเรียกใด ๆ ที่สูงส่ง และมีอิสรภาพมากไปกว่าการที่ได้เห็นทุก ๆ วันเป็นโอกาสในการรับใช้พระเยซูคริสต์
จากนั้นเขาได้ให้ความมั่นใจแก่ผู้อ่านว่า พวกเขาได้ ‘รับการทรงเรียก’ และ ‘เป็นที่รัก’ โดยพระเจ้าพระบิดา ‘ได้รับการคุ้มครองรักษาไว้เพื่อพระเยซูคริสต์’ สิ่งนี้เป็นความจริงกับคริสเตียนทุกคน สิ่งที่เขาต้องการให้ผู้อ่านได้รับ คือ ‘พระเมตตา’ ‘สันติสุข’ และ ‘ความรัก’ (ข้อ 2) ถ้านี่เป็นเพียงข้อพระคัมภีร์ที่เรามีสำหรับพระคัมภีร์ทั้งเล่ม เราสามารถที่จะใคร่ครวญมันได้ตลอดชั่วชีวิตของเรา
เขาจบพระธรรมนี้ด้วยการหนุนใจว่า:
- ศึกษาความจริง: ‘จงสร้างตัวของท่านขึ้นบนความเชื่ออันบริสุทธิ์’ (ข้อ 20)
- อธิษฐาน: ‘จงอธิษฐานโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์’ (ข้อ 20) พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำทางท่านสู่ความจริง
- อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าเสมอ ‘จงรักษาตัวให้อยู่ในความรักของพระเจ้า’ (ข้อ 21)
- จงมีความเมตตากรุณา ‘จงมีใจเมตตาต่อคนบาป แต่ไม่ยอมปนเปื้อนด้วยบาป’ (ข้อ 23 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยเราให้มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะยึดถือในความจริงของพระองค์ และที่จะต่อสู้เพื่อความเชื่อ (ข้อ 3)
เศคาริยาห์ 5:1-8:23
ต้องการความยุติธรรม และพระพรของพระเจ้าอย่างยิ่ง
เศคาริยาห์ได้เตือนถึงการพิพากษาของพระเจ้า และความจำเป็นของความยุติธรรมของพระองค์ (บทที่ 5) ยังมีความหวังอันยิ่งใหญ่ตามที่ผู้เผยพระวจนะได้พยากรณ์ถึงการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ และการรื้อฟื้นการทรงสถิตของพระเจ้าในหัวใจของผู้คน
โยชูวามหาปุโรหิตทำนายถึงพระคริสต์ว่า พระองค์ทรงมีมงกุฏบนศีรษะ (6:11) และทรงมีพระนามว่า ‘พระอังกูร' พระองค์จะทรงสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าขึ้นใหม่ และจะรับเกียรติศักดิ์และจะนั่งและจะปกครองอยู่บนราชบัลลังก์ของพระองค์ และปุโรหิตผู้หนึ่งอยู่ข้างพระที่นั่งของพระองค์เอง (ข้อ 13) เช่นเดียวกับ เมลคีเซเดค เขารวมไว้ทั้งบทบาทการเป็นกษัตริย์และปุโรหิต ซึ่งสำเร็จเป็นจริงแล้วในพระเยซู องค์จอมกษัตริย์ (วิวรณ์ 17:14) และมหาปุโรหิตของเรา (ฮีบรู 4:14)
คุณเองก็เหมือนกับประชากรของพระเจ้าในตอนนั้น ที่ถูกเรียกให้สะสางความประพฤติของคุณ และแสดงความยุติธรรมต่อทุกคน ‘พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า “จงพิพากษาตามความจริง จงแสดงความกรุณาและความปรานีต่อพี่น้องของตน อย่าบีบบังคับหญิงม่าย ลูกกำพร้าพ่อ คนต่างด้าวหรือคนยากจน และอย่าคิดอุบายชั่วในใจต่อพี่น้องของตน”’ (เศคาริยาห์ 7:9-10)
มีความปรารถนาในพระทัยของพระเจ้า ซึ่งอาจสามารถเรียกได้ว่า เกือบจะเป็นความสิ้นหวังในพระทัยของพระองค์เอง “องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจอมทัพตรัสว่า "เราหวงแหนศิโยนด้วยความหวงแหนอันยิ่งใหญ่และเราหวงแหนเธอด้วยความกริ้วมาก...เราจะกลับไปยังศิโยนและอยู่ท่ามกลางเยรูซาเล็ม และเขาจะเรียกเยรูซาเล็มว่าเมืองซื่อตรง และเรียกภูเขาของพระยาห์เวห์จอมทัพว่าภูเขาบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์” (8:2-3)
พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสถึงอนาคตอันอัศจรรย์สำหรับประชากรของพระเจ้าว่า จะมีสันติภาพ ความกลมเกลียว ความมั่งมี ความสุข และความจริง ประชาชนทั้งสองกลุ่มในตอนนั้นและพวกเราในตอนนี้ พระพรบางอย่างก็เพื่อตอนนี้ และบางพระพรก็ยังมาไม่ถึง พระเจ้าตรัสว่า 'ในสมัยนี้ เราจะไม่ทำต่อประชาชนที่เหลืออยู่นี้เหมือนอย่างสมัยก่อน’ (ข้อ 11) และ ‘ในวันนี้ เราจึงตั้งใจใหม่ว่า จะทำดีต่อเยรูเซาเล็มและต่อพงศ์พันธุ์ยูดาห์’ (ข้อ 15)
คุณมีประสบการณ์ในพระพรมากมายในตอนนี้ ผ่านการติดสนิทกับพระคริสต์ แต่พระพรบางอย่าง คุณจะได้สัมผัสอย่างเต็มรูปแบบในอนาคตเท่านั้น คือ ในสวรรค์ใหม่ และโลกใหม่
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เราต้องทำงานในการนำพระพรนี้มา ‘โอ พงศ์พันธุ์ยูดาห์และพงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเคยถูกใช้เป็นคำแช่งสาปท่ามกลางประชาชาติทั้งหลายอย่างไร เราจะช่วยเจ้าและเจ้าจะได้เป็นแหล่งพระพรอย่างนั้น อย่ากลัวเลย แต่จงให้มือของเจ้าแข็งแรงเถิด’ (ข้อ 13)
ยกตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงห่วงใยทุกคนไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม เราเองก็ควรห่วงใย ทั้งคนชราและคนหนุ่มสาว ‘ชายชราและหญิงชราจะนั่งอยู่ตามลานเมืองเยรูซาเล็มอีก ต่างก็จะมีไม้เท้าอยู่ในมือเพราะอายุมากแล้ว และลานเมืองนั้นก็จะเต็มไปด้วยเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงวิ่งเล่นอยู่’ (ข้อ 4-5)
อีกครั้ง พระเจ้าทรงสนพระทัยทั้งความจริงและสันติสุข ดังนั้น เราเองจึงสมควรที่จะสนใจในสิ่งเหล่านี้เช่นกัน ‘ต่อไปนี้คือสิ่งที่พวกเจ้าต้องทำ จงพูดความจริงแก่กันและกัน จงให้การพิพากษาที่ประตูเมืองของเจ้าเที่ยงตรงและนำไปสู่สันติภาพ อย่าคิดอุบายชั่วในใจต่อกันและกัน อย่ารักคำสาบานเท็จ.. เพราะเหตุนั้นเจ้าจงรักความเที่ยงตรงและสันติภาพ’ (ข้อ 16-19)
เหนือสิ่งอื่นใด พระเจ้าทรงสนพระทัยที่จะให้มีคนจำนวนมากมายได้มีประสบการณ์แห่งพระพรจากการทรงสถิตของพระองค์ คุณจะเป็นพระพรสู่ผู้คนรอบข้างผู้ซึ่งยังไม่ได้รู้จักพระเจ้าผ่านทางพระเยซูคริสต์ และเป็นผู้ชี้นำคนมาสู่พระเจ้าผ่านทางการกระทำ และคำพูดของคุณเอง เมื่อคนอื่นได้เห็นความแตกต่างที่พระเจ้าทรงทำในชีวิตคุณ พวกเขาจะถูกนำเข้ามาใกล้พระองค์ ‘พระยาห์เวห์จอมทัพตรัสดังนี้ว่า ในสมัยนั้น 10 คนจากทุกชาติทุกภาษา จะยึดชายเสื้อคลุมของยิวคนหนึ่งไว้แล้วกล่าวว่า “ขอให้เราไปกับท่านทั้งหลายเถิด เพราะเราได้ยินว่า พระเจ้าสถิตกับพวกท่าน”’(ข้อ 23)
เมื่อใดที่คุณปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นช่องทางแห่งความรัก ความยุติธรรม และพระพรของพระเจ้า จะทำให้คนอื่น ๆ มารู้จักการทรงสถิตของพระเจ้า
ข้าแต่พระเจ้า เราปรารถนาพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด โปรดเติมเต็มคริสตจักรของพระองค์ด้วยการทรงสถิตของพระองค์ ช่วยเราให้เป็นสถานที่ซึ่งจะปรนนิบัติคนยากจนและคนขัดสน และเป็นสถานที่แห่งความจริงและสันติภาพ เพื่อที่ผู้คนจะพาเพื่อน ๆ และครอบครัวของเขาเข้ามา เพราะเขาได้ยินว่า ‘พระเจ้าทรงอยู่กับคุณ’
Pippa Adds
สดุดี 139:23-24
‘ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และรู้จักจิตใจของข้าพระองค์ |ขอทดสอบข้าพระองค์และทรงรู้จักความคิดของข้าพระองค์ และขอทรงทอดพระเนตรว่ามีทางชั่วใด ๆ ในข้าพระองค์หรือไม่ |และขอทรงนำข้าพระองค์ไปในทางนิรันดร์’
ให้พระเจ้าได้เข้ามาตรวจค้นหัวใจของเรา เพราะเรายังสามารถหลอกตัวเองได้อย่างง่ายดาย ฉันมีความกังวลมากมาย แต่พระเจ้าทรงรู้จักมันทั้งหมด ฉันต้องมอบให้พระเจ้า ปล่อยวาง และยอมให้พระองค์เข้ามานำฉัน
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)Acerca de este Plan

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Planes relacionados

La Adoración Como Un Estilo De Vida

De Camino Con Jesús

El Tesoro Del Sufrimiento

¡Hola Rival! Un Plan De Juego Bíblico Para Deportistas Cristianos.

5 Claves Para Liderar Con Madurez: Convierte tu influencia en impacto duradero

Sean Fructíferos

Un Matrimonio Que Da Fruto

inVISIBLES

Vivir Una Vida Que Importe
