Logo YouVersion
Ikona vyhledávání

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

เบื้องหลังประวัติศาสตร์เกิดอะไรขึ้นบ้าง?

ผู้คนทางตะวันตกจำนวนมากเข้าใจว่าประวัติศาสตร์นั้นไร้ซึ่งจุดหมาย: ‘ดีแต่ส่งเสียงและโกรธเกรี้ยว ไร้ความสลักสำคัญ’ (เชคสเปียร์ใส่ข้อความนี้ไว้ในผลงานวรรณกรรมเรื่องแมคเบ็ธ-Macbeth) ศาสนาของชาวตะวันออกมากมายมีแนวโน้มคำนึงถึงประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นแบบอ้อมๆ หรือเป็นแบบกำกวม ในขณะที่มาร์กซิสท์เข้าใจประวัติศาสตร์ในแง่ของการต่อสู้ทางชนชั้น ในทางตรงกันข้ามกับแง่มุมเหล่านี้ พันธสัญญาใหม่เห็นว่าประวัติศาสตร์มุ่งไปสู่จุดสำคัญที่สุด การปล้ำสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างความดีกับความชั่วร้าย ซึ่งจบลงด้วย*ชัยชนะแห่งความดีและพระเจ้า* แผ่นดินของพระเจ้าจะไม่ล่วงลับไป พระเจ้ากำลังกระทำการแห่งพระประสงค์ของพระองค์ในประวัติศาสตร์ พระเยซูเป็นศูนย์กลาง ทุกอย่างในประวัติศาสตร์มาบรรจบกันที่พระองค์ ดังที่บางคนกล่าวไว้ว่า ‘บานพับแห่งประวัติศาสตร์นั้นอยู่ที่ประตูของคอกสัตว์ที่เมืองเบธเลเฮม’ ประวัติศาสตร์ คือ ‘เรื่องราวของพระองค์’ (His story) เมื่อคุณได้ยินข่าวและอ่านหนังสือประวัติศาสตร์จะได้รายละเอียดบางส่วน แต่ถ้าคุณอ่านพระคัมภีร์ คุณจะได้ภาพใหญ่ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระธรรมวิวรณ์เผยให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลังประวัติศาสตร์ พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงอธิปไตยแห่งประวัติศาสตร์ แต่เราไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ ที่จะถูกจับไปวางตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้บนตารางหมากรุก แต่คุณมีส่วนที่ต้องทำ พระเจ้าทรงรวมคุณไว้ในแผนการของพระองค์ พระเจ้าทรงกระทำการให้วัตถุประสงค์ของพระองค์นั้นสำเร็จ ผ่านทำงานร่วมกับประชากรของพระองค์

สุภาษิต 143:1-12

ได้รับการทรงนำจากพระเจ้าแห่งประวัติศาสตร์

เราต้องการการทรงนำของพระเจ้า คุณสามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ต่าง ๆ ของประวัติศาสตร์ให้เป็นเรื่องดีได้ แต่มีความท้าทายมากมายที่ต้องเผชิญ

ดาวิดหดหู่ เพราะอยู่ใน ‘หลุมดำ’ ‘ห้องขังใต้ดิน’ ‘ข้าพระองค์ติดอยู่ในที่มืดเหมือนคนที่ตายนานแล้ว จิตวิญญาณของข้าพระองค์จึงอ่อนระอาอยู่ภายใน และใจข้าพระองค์ก็กลัวลาน’ (ข้อ 4 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) คุณจะเริ่มต้นเอาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร?

  1. ระลึกถึงสิ่งดี ๆ
    ดาวิดเลือกที่จะคิดแง่บวก 'ข้าพระองค์ระลึกถึงสมัยเก่า ข้าพระองค์ใคร่ครวญถึงพระราชกิจทั้งสิ้น ตรึกตรองถึงผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์’ (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  2. นมัสการเสมอ
    การนมัสการสามารถเป็นบ่อน้ำให้กับเราได้ในช่วงเวลายากลำบาก ดาวิดกล่าวไว้ว่า ‘ข้าพระองค์...ชูมือทั้งคู่ไปยังพระองค์ กระหายหาพระองค์อย่างแผ่นดินที่แห้งผาก’ (ข้อ 6, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  3. ร้องทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า
    เขาอธิษฐานว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้า! ขอทรงรีบตอบข้าพระองค์ ข้าพระองค์จวนฝ่อไป ขออย่าซ่อนพระพักตร์ อย่าเพิกเฉยจากข้าพระองค์เลย’ (ข้อ7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

  4. ฟังการทรงนำของพระเจ้า
    ปีแล้วปีเล่าที่ผมเขียนไว้ที่ข้าง ๆ ข้อพระคำภีร์นี้ ‘ขอทรงสอนข้าพระองค์ถึงทางที่ควรไป’ (ข้อ 8ข) คือรายการของสิ่งต่าง ๆ ที่ผมต้องการการทรงนำจากพระเจ้า มันช่างหนุนน้ำใจหากเรามองย้อนกลับไปและเห็นถึงการที่พระองค์ทรงนำผม บางครั้ง มันก็เกินกว่าสิ่งที่ผมสามารถขอหรือแม้กระทั่งจินตนาการถึงได้

“โอ้ พระเจ้าข้า ขอทรงฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์ ..จิตใจของพระองค์กระหายหาพระองค์ดุจแผ่นดินแห้งผาก ..ขอทรงสอนข้าพระองค์ถึงทางที่ควรไป..ข้าพระองค์ได้ซ่อนตัวอยู่ในพระองค์.เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ ขอทรงนำข้าพระองค์ออกมาจากความยากลำบาก”

วิวรณ์ 6:1-17

มองที่เบื้องหลังประวัติศาสตร์

ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นรอบตัวคุณ และได้อ่านเจอในประวัติศาสตร์ แต่คุณยังมีความหวังอันยิ่งใหญ่ ข่าวดีคือมีพระเยซูทรงเป็นศูนย์กลาง พระเยซูทรงเป็นพระเมษโปดกแห่งพระเจ้า ทรงแกะตราแห่งประวัติศาสตร์ (ข้อ 1) ทรงเปิดเผยถึงสิ่งที่อยู่หลังม่านของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้คุณได้อ่านและได้ยิน

  1. พระกิตติคุณถูกเทศนาไปยังบรรดาประชาชาติทั้งสิ้น
    ผู้ที่ขี่ม้าคนแรกได้รับ ‘มาลัยแห่งชัยชนะ เขาขี่ม้าออกไปอย่างผู้มีชัย ชนะทั้งซ้ายและขวา’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

นี่ฟังดูเหมือนองค์พระเยซูเอง ผู้มีชัยชนะเหนือความตาย ผู้ที่ได้รับมงกุฏแห่งจักรวาลและออกไปประกาศข่าวประเสริฐแก่บรรดาประชาชาติ

  1. สงครามและกำลังทหาร
    ผู้ขี่ม้าคนที่สอง ‘ได้รับมอบหมายให้เอาสันติภาพไปจากแผ่นดินโลก เพื่อให้คนรบราฆ่าฟันกัน และท่านผู้นี้ได้รับมอบดาบใหญ่เล่มหนึ่ง’ (ข้อ 4)

ประวัติศาสตร์นั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงและการสงคราม ดังที่ประชาชนนั้นแสวงหาความเป็นใหญ่ และควบคุมกันและกัน

  1. ความอยุติธรรมและความไม่เท่าเทียมกัน
    ผู้ขี่ม้าคนที่ 3 ‘ถือตราชู’ (ข้อ 5)

มีภาวะข้าวของขึ้นราคา (ข้อ 6) เป็นหายนะทางเศรษฐกิจ เหมือนกับที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ในขณะที่บางคนใช้ชีวิตอยู่ในความยากจนอย่างแสนสาหัส บางคนก็มีชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย (ข้อ 6) ไม่ได้สัมผัสถึงความต้องการของคนยากจนแม้แต่น้อย

  1. คำแช่งสาปแห่งความตาย ผู้ขี่ม้าคนที่ 4 ‘มีชื่อว่ามัจจุราช และแดนคนตายก็ติดตามมาด้วย’ (ข้อ 8ก)

ความตายเข้ามามีบทบาทในประวัติศาสตร์ เมื่อเราอ่านประวัติศาสตร์โลก มันคือความรุนแรงอย่างหนึ่ง (‘ทำลายได้ด้วยคมดาบ’), ความหิวโหย (‘ความอดอยาก’) และโรคภัยไข้เจ็บ (‘โรคระบาด’) เช่นเดียวกับสาเหตุอื่น ๆ ของการตาย (‘สัตว์ร้ายแห่งแผ่นดิน’) (ข้อ 8ข)

  1. คริสตจักรถูกข่มเหง
    ‘... คนทั้งหลายที่ถูกฆ่าเพราะพระวจนะของพระเจ้า และเพราะคำพยานที่เขายึดถือ’ (ข้อ 9)

การถูกข่มเหงของคริสเตียนยังคงมีมาจนถึงโลกยุคปัจจุบัน คริสเตียนเป็นล้าน ๆ คนอยู่ในความกลัวที่จะถูกจับ ถูกทำร้าย ถูกจองจำ หรือแม้กระทั่งถูกสังหารเนื่องจากความเชื่อของพวกเขาในพระเยซู

  1. จุดเริ่มต้นของจุดสิ้นสุด
    พระเยซูทำนายถึงกลียุคอย่างเดียวกันนี้ว่า ‘แต่สิ่งทั้งหมดนี้เป็นการเริ่มต้นของความทุกข์เหมือนเมื่อเริ่มคลอดลูก’ (มัทธิว 24:8) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งเหล่านี้ได้รวมไปถึงกลียุคในด้านสังคม การเมือง และภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ตราทั้ง 6 ได้ให้มุมมองทั่วไปแห่งประวัติศาสตร์ในช่วงระหว่างการเสด็จมาครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ของพระเยซู

ข้าแต่พระเจ้า ขอให้เราเป็นผู้สร้างสันติภาพ ผู้ที่จะช่วยเหลือผู้ที่หิวโหย ต่อสู้กับความอยุติธรรม ยืนหยัดร่วมกับผู้ที่ถูกต่อต้าน และเป็นผู้นำข่าวดีแห่งการรอคอยการเสด็จกลับมาของพระองค์ และจุดเริ่มต้นของสวรรค์ใหม่ และโลกใบใหม่ที่จะคงอยู่ตลอดไปนิตย์นิรันดร์

มาลาคี 1:1-2:16

มองที่ความรักของพระเจ้าในประวัติศาสตร์

‘มองที่ประวัติศาสตร์’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พระเจ้ากล่าวผ่านผู้เผยพระวจนะมาลาคี (450 ปีก่อนคริสตกาล), ชื่อของพวกเขาหมายถึง ‘ทูต’ ถ้าคุณอยากทราบว่าพระเจ้าทรงรักคุณมากเพียงใดให้ดูที่ประวัติศาสตร์ ข้อความของพระเจ้าแห่งประวัติศาสตร์ คือ ‘เรารักเจ้า' (ข้อ 2 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ‘มองให้ดี เจ้าจะเห็นว่าเราได้รักเจ้าอย่างสัตย์ซื่อเพียงใดและเจ้าจะยังต้องการมันมากขึ้นอีก' (ข้อ 5, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)

เบื้องหลังก็คือ แม้ว่าภายหลังการสร้าพระวิหารขึ้นใหม่ แต่ยังมี ‘การนมัสการที่มีตกต่ำ เหลวไหล เป็นมลทิน... การนมัสการพระเจ้าไม่ใช่ความสำคัญแรก ๆ อีกต่อไป (ข้อ 6–7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) มีความล้มเหลวที่จะให้ด้วยใจกว้างขวางและชีวิตครอบครัวที่พังทลาย

ถ้อยคำของพระธรรมเล่มนี้ คือ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่แก่ผู้ที่รวมอยู่ในกลุ่มของผู้นำของประชากรของพระเจ้า (ข้อ 6)

ปุโรหิตเป็นผู้นำของบรรดาประชากรของพระเจ้า เช่นเดียวกับ ผู้เผยพระวจนะ พวกเขาควรจะเป็นกลุ่มบุคคลที่พระเจ้าตรัสผ่านพวกเขา ‘เพราะว่าริมฝีปากของปุโรหิตควรรักษาความรู้เอาไว้ และคนทั้งหลายควรแสวงหาคำสั่งสอนจากปากของเขา เพราะว่าเขาเป็นทูตของพระยาห์เวห์จอมทัพ’ (2:7)

ความท้าทายของเราทุกคนคือ:

  1. ความมุ่งมั่นแบบเด็ดเดี่ยวในการที่จะเห็นพระนามของพระเจ้าได้รับพระเกียรติ
    ‘ใส่ใจที่จะถวายเกียรติแก่นามของเรา’ (ข้อ 2)

  2. ได้รับ ‘ชีวิตและสันติภาพ’
    พระเจ้าได้ทรงกระทำพันธสัญญาที่จะให้ ‘ชีวิตและสันติภาพ’ (ข้อ 5) นี่คือสองพระพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณจะมีโอกาสได้รับ

  3. นมัสการพระเจ้าด้วยความยำเกรงและเกรงขาม
    นี่ควรเป็นการตอบสนองของเราต่อความมีพระเมตตาและพระกรุณาอย่างยิ่งของพระเจ้าต่อเรา ‘เราได้ให้สิ่งเหล่านี้แก่เขา เพื่อเขาจะได้ยำเกรงเราและเกรงขามนามของเรา’ (ข้อ 5)

  4. สอนสิ่งที่ถูกต้อง
    ‘ในปากของเขามีคำสั่งสอนที่เป็นความจริง จะหาความผิดที่ริมฝีปากของเขาไม่ได้เลย’ (ข้อ 6ก)

  5. ดำเนินชีวิตอย่าวชอบธรรม
    ‘เขาดำเนินกับเราด้วยสันติและความเที่ยงตรง’ (ข้อ 6ข) ผู้นำคริสเตียนต้องเป็นแบบอย่างแห่งการดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์

  6. ใช้ชีวิตเป็นแบบอย่างในการช่วยเหลือผู้อื่นให้ได้พบความสัมพันธ์กับพระเจ้า
    ‘…ให้หันจากความบาปผิด’ (ข้อ 6ข)

จากนั้น มาลาคีได้หันกลับมาหาด้านความสัมพันธ์ เขาวิจารณ์พวกอิสราเอลว่า แต่งงานกับผู้ไม่เชื่อ (ข้อ 11) ความท้อใจนี้ปรากฏอยู่ในพระคำตอนอื่นด้วย(ดู 2 โครินธ์ 6:14) เราอาจจะพบความท้าทายนี้ ภาพที่มาลาคีใช้ในที่นี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมจึงไม่ใช่ความคิดที่ดี เขาอธิบายถึงผู้ไม่เชื่อว่า ‘เป็นบุตรีแห่งพระต่างด้าว’ (มาลาคี 2:11) เป็นวลีที่เน้นถึงการแข่งขันกันในแง่มุมมองทางศาสนาของพวกเขา

เราทั้งหมดล้วนมีแนวคิดเรื่องศาสนาและความเชื่อ แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า การปล่อยตัวเองให้คล้อยตามไปกับผู้ที่มีความเชื่อที่แตกต่างอาจดึงเราออกห่างจากพระเจ้าในท้ายที่สุด

พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้ลูกหลานถูกเลี้ยงดูในความมั่นคงในความสัมพันธ์แห่งชีวิตสมรส: ‘แต่ไม่มีสักคนหนึ่งที่มีสติจะทำอย่างนี้ ผู้มีสตินั้นย่อมประสงค์อะไร? ย่อมประสงค์ลูกหลานที่เชื่อฟังพระเจ้า ดังนั้นจงระวังตัวให้ดี อย่าให้ผู้ใดทรยศต่อภรรยาคนที่ได้เมื่อหนุ่มนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลตรัสว่า “เพราะว่าเราเกลียดชังการหย่าร้าง”…ฉะนั้น จงระวังตัวให้ดี อย่าเป็นคนทรยศ’ (ข้อ 15–16)

ถ้อยคำเหล่านี้อาจฟังดูเหมือนรุนแรงแต่มันเป็นสิ่งเตือนใจเราว่าพระเจ้านั้นทรงรักและให้คุณค่ากับชีวิตสมรสมากเพียงใด เพราะว่าชีวิตสมรสนั้นงดงามยิ่งนัก พระองค์จึงทรงต่อต้านทุกอย่างที่จะบ่อนทำลายมัน¹

ความไม่สัตย์ซื่อเริ่มต้นในหัวใจเรา ‘ดังนั้น จงระวังจิตวิญญาณให้ดี (ที่มันอาจจะถูกควบคุมโดยจิตใจของเราเอง) อย่าเป็นคนทรยศ (กับคู่สมรสของท่าน)’ (ข้อ 16, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)

¹ ต้องการศึกษาเพิ่มเติมในหัวข้อของการหย่าร้าง ดู การดำเนินชีวิตแบบพระเยซู บทที่ 6 ‘มองการแต่งงานและการหย่าร้างอย่างไร'

ข้าแต่พระเจ้า ขอบคุณพระเยซูที่เสด็จมาเพื่อทำให้การให้อภัยนั้นเป็นไปได้ ขอให้เรารักษาใจของเรา และในจิตวิญญาณของเราที่จะไม่ทำลายความเชื่อ

Pippa Adds

สดุดี 143:8

‘ขอทรงให้ข้าพระองค์ได้ยินถึงความรักมั่นคงของพระองค์ในเวลาเช้า เพราะข้าพระองค์วางใจในพระองค์ ขอทรงสอนข้าพระองค์ถึงทางที่ควรไป เพราะข้าพระองค์อธิษฐานต่อพระองค์’

แต่ละวันของฉันจะไปได้ดียิ่งขึ้น ถ้าฉันได้อ่านพระคัมภีร์ในตอนเช้า และได้พบกับการหนุนน้ำใจในความรักอันมั่นคงของพระเจ้า หากปราศจากการใช้เวลากับพระเจ้า ฉันรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่เสื้อคลุมออกจากบ้าน -บางสิ่งที่สำคัญขาดหายไป

References

ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)

O tomto plánu

พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบล

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!

More