พระคัมภีร์ในหนึ่งปี 2023 พร้อมด้วยคำอธิบายจาก นิคกี้และพิพพา กัมเบลUkázka

ผลงานที่ไม่เหือดหายไป
คนโดยทั่วไปจะใช้เวลาโดยประมาณ 150,000 ชั่วโมง ตลอดชั่วชีวิตในที่ทำงาน กล่าวคือ ประมาณ 40% ของชีวิตในยามตื่นของเราถูกใช้เพื่อทำงาน 'พระเจ้าทรงสนพระทัยในการงานของเราไหม? หลายคนไม่เห็นพระเจ้าว่าทรงเป็นพระเจ้า 24/7 แต่เป็นนักแสดงที่ถูกถอดออกซึ่งมีบทบาทเฉพาะการแสดงวันอาทิตย์ ซึ่งมีจำนวนผู้ชมลดลงทุกที มีมุมมองอันแพร่หลายว่า พระเจ้าและการทำงานไปด้วยกันไม่ได้ การแข่งขันกัน ความต้องการที่เฉียบขาดของโลกแห่งการทำงาน ดูเหมือนเป็นศัตรูอย่างชัดเจนของความเมตตาและความรักแบบคริสเตียน แต่พระเจ้าซึ่งทรงเป็นผู้ที่สร้างและค้ำจุนโลกยังทรงเป็นพระเจ้าแห่งสถานที่ทำงาน *‘หากความเชื่อคริสเตียนไม่เกี่ยวข้องกับที่ทำงาน ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องไหนเลย’* นี่เป็นคำพูดของหนึ่งในเพื่อนสนิทที่สุดของผม เคน คอสต้า ในหนังสือของเขาที่ชื่อ *God at Work* พระเจ้าในที่ทำงาน (ดูเพิ่มเติมที่ godatwork.org.uk) ตลอดสี่สิบปีมานี้ เคนได้ดำเนินชีวิตตามความเชื่อแถวหน้าหน้าของพันธกิจคริสเตียน ในสถานที่ทำงานที่เป็น ‘ทางโลก' ในกรุงลอนดอน และเขาเห็นการทรงเรียกหลักของเขาในฐานะคริสเตียน ไม่ว่าคุณจะได้รับการทรงเรียกให้ทำงานประเภทใดก็ตาม มันอาจจะครอบครองเวลาส่วนใหญ่ของชีวิตคุณ งานเป็นส่วนสำคัญของ ‘เศรษฐกิจ’ ของพระเจ้า นี่เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่คุณถูกสร้างขึ้นมาให้ทำมัน และจะเป็นส่วนของสิ่งที่คุณต้องทำบนฟ้าสวรรค์ งานมีคุณค่าอย่างแท้จริง พระคัมภีร์มีหลายสิ่งที่พูดเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องงานของเราสดุดี 90:11-17
ผลงานของคุณมีคุณค่ายาวนาน
อะไรที่คุณกำลังทำอยู่ในตอนนี้ที่จะยืนยาวกว่าตัวคุณ?
สดุดี 90 เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสั้นแห่งชีวิต (ข้อ 3–4, 10) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชีวิตคุณจะแสนสั้นและหายวับไปตามที่สดุดีบทนี้ว่าไว้ เป็นไปได้ว่าผลงานของคุณจะมีชีวิตยืนยาวกว่าตัวคุณเอง สิ่งที่คุณทำสามารถมีคุณค่าที่ยืนยาวได้ สดุดีบทนี้จบลงด้วยข้อความแห่งความหวัง ‘ขอความโปรดปรานขององค์เจ้านายพระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลายอยู่เหนือเหล่าข้าพระองค์ ขอทรงสถาปนาผลงานจากมือของข้าพระองค์ทั้งหลายไว้เหนือพวกข้าพระองค์ ขอทรงสถาปนาผลงานจากมือของข้าพระองค์ทั้งหลาย’ (ข้อ 17)
คุณค่าสูงสุดของผลงานของคุณคือการสะท้อนถึงความจริงที่ว่า องค์พระเจ้าเองก็ทรงเป็นผู้ที่ลงมือทำงานด้วยเช่นกัน ผู้เขียนสดุดีกล่าวว่า ‘ขอให้พระราชกิจของพระองค์ [สัญลักษณ์ของฤทธิ์เดชของพระองค์] ปรากฏแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ และให้ความสง่างามของพระองค์ปรากฏแก่ลูกหลานของพวกเขา’ (ข้อ 16 พระคัมภีร์ตอนนี้จาก Amplified Bible โดยผู้แปล)
ในหนังสือ Working Without Wilting (ผลงานที่ไม่เหือดหายไป) ของจาโก้ เวยน์ อดีตที่ปรึกษาด้านการจัดการ ซึ่งตอนนี้เป็นอธิการของคริสตจักรโฮลี่ ทรินิตี้ แคลปแฮม เขียนว่า ‘เรามักคิดว่าสิ่งต่างๆ เช่น งานของเรา เป็นเพียงสิ่งชั่วคราวและอนิจจัง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่บนโลก
‘พระคัมภีร์ให้ภาพที่แตกต่างออกไป เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา พระเจ้าไม่ได้จะทรงลบล้างโลกนี้ แต่พระองค์จะสร้างมันขึ้นใหม่ ไถ่โลกนี้ และปลดปล่อยโลกนี้จากการผูกมัดที่ทำให้เสื่อมสลายไป...ผลงานของมนุษย์จะถูกชำระให้บริสุทธิ์และรับการไถ่ เพื่อจะได้เป็นไทจากความบาปเหมือนกับที่เราจะเป็นไทจากความบาป แต่ผลงานจะเป็นส่วนหนึ่งของการทรงสร้างใหม่อย่างแน่นอน’ นี่เป็นเหตุผลว่าเป็นเรื่องถูกต้องที่จะทูลขอให้พระเจ้า ‘ทรงสถาปนาผลงานจากมือของข้าพระองค์ทั้งหลาย’ (ข้อ 17ข)
ข้าแต่พระเจ้า ขอความโปรดปรานของพระองค์อยู่เหนือข้าพระองค์ ขอทรงสถาปนาผลงานจากมือของข้าพระองค์ทั้งหลายไว้เหนือพวกข้าพระองค์ ขอให้ผลงานของข้าพระองค์ส่งผลกระทบยืนยาวในทางที่ดี
โรม 16:1-27
ถวายตัวคุณเองอย่างเต็มที่เพื่อการงานของพระเจ้า
การเป็นคริสเตียนรวมเอาการกำหนดไว้ให้ทำงาน โดยเฉพาะการงานแห่งพระกิตติคุณ จดหมายของเปาโลไปถึงชาวโรมจบลงด้วยคำอวยพรต่อรายชื่อคนจำนวนหนึ่ง ในรายการนั้นเน้นย้ำอย่างมากถึงคุณค่าในการงานของพวกเขา
ปริสคาและอาควิลลาถูกบรรยายว่าเป็น 'ผู้ร่วมงานในพระราชกิจของพระเยซูคริสต์’ ของเปาโล (ข้อ 3) มารีย์ ‘ตรากตรำเพื่อท่านทั้งหลาย’ (ข้อ 6) อูรบานัส ‘ผู้ร่วมงานกับเราในพระคริสต์’ (ข้อ 9) ตรีเฟนาและตรีโฟสาเป็นสตรี ‘ที่ตรากตรำในองค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 12) เปอร์ซีสเป็น ‘ผู้ที่ปฏิบัติงานมากมายในองค์พระผู้เป็นเจ้า’ (ข้อ 12) ทิโมธี ‘ผู้ร่วมงานกับข้าพเจ้า’ (ข้อ 21)
ในที่อื่นเปาโลเขียนว่า ‘เราไม่ได้เกียจคร้านเลยเมื่ออยู่ท่ามกลางพวกท่าน และเราไม่เคยกินอาหารของใครโดยไม่จ่ายเงิน แต่เราได้ทำงานหนักด้วยความพากเพียรทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อจะไม่เป็นภาระแก่ใครในพวกท่าน ไม่ใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ์ แต่เพื่อทำตัวเป็นแบบอย่างให้ท่านทำตาม’ (2 เธสะโลนิกา 3:7–9)
เปาโลนั้นอาจเป็นผู้รับใช้ในพระคริสต์ที่เกิดผลที่สุดที่เคยมีมา แต่ก็ไม่ได้ทำพันธกิจแบบ ‘เต็มเวลา’ ท่านเป็นช่างเย็บเต็นท์หาเงินเพื่อเลี้ยงตัวเอง
ในทำนองเดียวกัน ไม่ใช่ทุกคนที่ระบุไว้ในโรม 16 จะเกี่ยวข้องใน ‘พันธกิจคริสเตียนเต็มเวลา' เอรัสทัสมีการงานทางโลก เขาเป็น ‘หัวหน้าการคลังประจำเมือง’ (ข้อ 23) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาถือว่างานของเขาเป็นการทรงเรียกหลักและพันธกิจของเขา ในแง่นั้น เราทุกคนก็เกี่ยวข้องกับพันธกิจแบบเต็มเวลา ไม่ว่าเราจะได้รับการทรงเรียกให้ทำงานเต็มเวลาในคริสตจักรหรือในทางโลก
เป็นที่น่าสนใจที่จะสังเกตว่ามีสตรีกี่คนที่ทำงานในคริสตจักร เฟบี (ข้อ 1) ถูกบรรยายว่าเป็นมัคนายิกา ซึ่งหมายถึงผู้ดูแลคริสตจักร หรือผู้ทำการ (‘ตัวแทนหลักของคริสตจักร’, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) เธอถูกบรรยายว่าเคย ‘ได้ช่วยอุปถัมภ์คนมากมาย’รวมทั้งตัวอาจารย์เปาโลเองด้วย (ข้อ 2) คำกรีกที่ใช้ว่า ‘ช่วยอุปถัมภ์คนมากมาย’ คือคำที่ถูกใช้ในสำหรับผู้สนับสนุนทางการเมือง ผู้พิทักษ์ และผู้อุปถัมภ์ แสดงให้เห็นว่าเธอมีฐานะทางสังคม ความมั่งคั่ง และความเป็นไท เห็นได้ชัดว่าเธอมีบทบาทที่โดดเด่นมากในคริสตจักร
ปริสคาและอาควิลลา (ดูเพิ่มเติมในกิจการ 18) ได้ร่วมทำพันธกิจ ปริศคาถูกกล่าวถึงก่อน (ข้อ 3) นี่อาจเป็นเพราะเธอได้กลับใจเชื่อก่อน (และนำอาควิลลามาถึงพระคริสต์) หรือไม่ก็เธอมีบทบาทที่โดดเด่นมากกว่าในชีวิตและในการงานของคริสตจักร
สิบคนที่ถูกระบุชื่อไว้เป็นผู้หญิง รวมถึงชื่อยูนีอัส หนึ่งในคนที่เป็น ‘ผู้นำที่โดดเด่น’ (ข้อ 7, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) ยูนีอัสค่อนข้างจะเป็นชื่อผู้หญิง เธอถูกบรรยายว่าเป็นหนึ่งในคนที่ ‘มีชื่อเสียงดี ในหมู่พวกอัครทูต’ (ข้อ 7) เนื่องจากเธอไม่ใช่หนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนแน่นอน ‘พวกอัครทูต’ ในที่นี้ในความหมายเชิงกว้าง บ่งบอกถึงคนที่ถูกส่งออกไปทำพันธกิจ เปาโลรวมเอาผู้หญิงคนหนึ่งที่โดดเด่นท่ามกลางหมู่พวกอัครทูต จากทั้งหมดนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าผู้หญิงได้ครอบครองตำแหน่งที่โดดเด่นในทีมงานของเปาโล
เปาโลลงท้ายด้วยคำขอบคุณและนมัสการ ‘ขอให้ทุกคำสรรเสริญของเราเน้นที่โดยทางพระเยซู จงมีแด่พระเจ้าผู้ทรงสัพพัญญู! อาเมน!’ (ข้อ 27, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล)
ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงช่วยเราทุกคน ไม่ว่าการทรงเรียกของเราจะเป็นอะไร ให้เป็นคนที่ทำงานหนักในพระเจ้าและประกาศ ‘พระเยซูคริสต์’ (ข้อ 27)
1 พงศาวดาร 15:1-16:36
จงเลียนแบบพระเจ้าในการงานและในการหยุดพัก
การทำงานเป็นหนึ่งในวิธีที่คุณสามารถเลียนแบบพระเจ้าได้ เมื่อพระเจ้าทรงทำพระราชกิจในการสร้าง เราก็ต้องทำเช่นเดียวกัน คำสั่งให้ทำงานนั้นเกิดขึ้นก่อนการล้มลงของมนุษย์ (ดูปฐมกาล 2:15) ดังที่เคน คอสต้ากล่าวไว้บ่อยครั้งว่า ‘การทำงานอยู่ในหนังสือชี้ชวนดั้งเดิมที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้า’
ดาวิดถูกกำหนดไว้ให้ทำงาน พระองค์ ‘ทรงสร้างพระราชวังต่าง ๆ เพื่อพระองค์’ (1 พงศาวดาร 15:1) พระองค์ทรงถูกเรียกร่วมกันกับบรรดาผู้นำ และกำหนดพวกเขาให้ทำงาน (ข้อ 12)
ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างทางธรรมและทางโลก การนมัสการนั้นเป็นหัวใจของทุกสิ่งที่พวกเขาทำ ดาวิดให้คำแนะนำเรื่อง ‘งานแห่งการนมัสการ’ (ข้อ 2, พระคัมภีร์ตอนนี้จาก The Message โดยผู้แปล) พวกเขาถูกแต่งตั้ง ‘ปรนนิบัติหน้าหีบของพระยาห์เวห์ให้รำลึกพระคุณให้ขอบพระคุณและสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของ อิสราเอล’ (16:4) กษัตริย์ดาวิดร่วมในการนมัสการ ‘ทรงเต้นรำและทรงร่าเริง’ (15:29)
แล้ววันนั้นก็ได้ถูกกำหนดขึ้น (16:7) พวกเขาก็ทำสิ่งที่จอย์ซ ไมเยอร์อธิบายว่าเป็น ‘การหยุดพักเพื่อสดุดี’ ‘ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรถวายเกียรติพระเจ้าไปกว่าเมื่อเราหยุดสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ และยกมือของเราขึ้นเพื่อนมัสการพระองค์…เมื่อลองนึกถึงนักธุรกิจ ตัวอย่างเช่น อาจจะเป็นประธานบริษัทใหญ่ ๆ มันจะไม่วิเศษหรอกหรือคะ หากหลาย ๆ ครั้งต่อวัน เขาปิดประตูห้องทำงานของเขา ล็อคประตู คุกเข่าลง และพูดว่า “พระเจ้าลูกแค่อยากจะใช้เวลาสั้น ๆ ในการนมัสการพระองค์”
‘เป็นจริงเช่นเดียวกับนักศึกษา หรือบรรดา (พ่อแม่) ที่อยู่ที่บ้าน ทั้งคนวัยเกษียณ เลขานุการ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ศัลยแพทย์ผ่าตัดสมอง และตัวแทนขายก็เช่นเดียวกัน ใครก็ตามที่คุณสามารถคิดได้ เราทุกคนล้วนได้ประโยชน์อย่างใหญ่หลวงจากการ “หยุดพักเพื่อสดุดี”’
ดาวิดสดุดีและขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับบรรดากิจการที่ ‘พระองค์ทรงกระทำ’ (ข้อ 8) “‘การอัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์’ (ข้อ 9) ‘การอัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงกระทำ’ (ข้อ 12) ดาวิดนับการอัศจรรย์ของพระเจ้าอีกครั้ง และเรียกประชาชนให้ ‘นมัสการพระยาห์เวห์ในความงดงามแห่งความบริสุทธิ์’ (ข้อ 29)
พระเจ้าทรงเป็นคนทำงาน เราได้เห็นสิ่งนี้ตั้งแต่ตอนต้นของพระคัมภีร์ พระองค์ทรงทำพระราชกิจในการทรงสร้าง ‘พระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ที่ทรงทำมานั้น ในวันที่เจ็ดนั้นก็ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ที่ได้ทรงกระทำ’ (ปฐมกาล 2:2) พระองค์ไม่เพียงสร้างโลก พระองค์ยังทรงค้ำจุน และไถ่ถอนมัน ที่จริงแล้วการทำงานเป็นหนึ่งในวิธีที่คุณสามารถเลียนแบบพระเจ้าได้
ข้าแต่พระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับการงาน ขอบพระคุณที่แม้กระทั่ง ‘การตรากตรำทำงานหนัก’ ก็เป็นพระพร ขอให้การทำงานของข้าพระองค์เป็นการกระทำแห่งการนมัสการด้วยตัวมันเอง ดังที่ข้าพระองค์ถวายร่างกายของข้าพระองค์เองให้เป็น ‘เครื่องบูชาที่มีชีวิต…ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของ (ข้าพระองค์)’ (โรม 12:1–2)
Pippa Adds
1 พงศาวดาร 15:29
‘เมื่อหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์มาถึงนครดาวิดแล้ว มีคาลราชธิดาของซาอูลทรงมองดูทางช่องหน้าต่าง ทรงเห็นกษัตริย์ดาวิดทรงเต้นรำและทรงร่าเริงอยู่ พระนางก็ทรงดูหมิ่นพระองค์ในใจ’
ฉันรักการนมัสการ แต่เป็นเรื่องง่ายที่จะมีความชอบและไม่ชอบ บางครั้งฉันก็คิดว่า ‘นั่นนับเป็นการนมัสการด้วยเหรอ?’ แต่พระเจ้าทรงมองดูที่หัวใจ และฉันก็ไม่อยากเป็นเหมือนมีคาล!
References
ข้อพระคัมภีร์อ้างอิงมาจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ ฉบับ 2011 สงวนสิทธิ์โดยสมาคมพระคริสตธรรมไทย (ยกเว้นข้อที่ระบุว่าเป็นฉบับอื่น)O tomto plánu

การเข้าใจพระคัมภีร์อาจเป็นเรื่องยาก ทำไมไม่ลองอ่านหรือฟังพร้อมกับคำอธิบายทุกวัน จากนิคกี้และพิพพา กัมเบล -ผู้บุกเบิกอัลฟ่า เริ่มวันนี้เลย!
More
Podobné plány

Zkus se modlit

Svoboda

Milost ve vašem příběhu

Co je mým účelem? Nauč se milovat Boha a milovat druhé lidi

Uvědomit si, že Bůh mě miluje

Sedmidenní vánoční rozjímání

Ester: Pro chvíli, jako je tato

Zůstávejme v Ježíši: Přinášejme trvalé ovoce (Love God Greatly/Miluj Boha nesmírně)

Porazit sebevědomí a úzkost
